เนกไทที่เธอผูกอยู่นั้นเป็เนกไทที่เธอซื้อให้ลู่เป๋าเหยียน
จะว่าไปเขาเอามันออกมาใช้บ่อยเหมือนกันนะ
หลังลู่เป๋าเหยียนสั่งงานเสร็จเขาก็วางสายและพบว่าูเี่อันกำลังทำหน้าเหมือนคิดอะไรอยู่พลางจ้องเนกไทของตนมือของเธอชะงักค้างไม่ขยับไปไหน เขาเลยดีดหน้าผากเธอเบาๆ
“ผูกเนกไทยังเหม่อได้อีกเหรอ”
ูเี่อันคลึงหน้าผากตัวเองก่อนถาม
“ลู่เป๋าเหยียนนายชอบเนกไทเส้นนี้มากเลยเหรอ่นี้เห็นนายผูกบ่อยจัง”
“มันวางอยู่นอกสุดฉันหยิบง่ายก็เลยเอาออกมาใช้บ่อยๆ” เขาตอบก่อนจะทำหน้าเหมือนเพิ่งคิดอะไรออก “เนกไทเส้นนี้ที่เธอให้ฉัน?”
ูเี่อันนึกว่าที่เขาผูกมันบ่อยๆเพราะเธอเป็คนให้ เพราะมันมีความหมายต่อเขาเสียอีก
แต่เท่าที่ได้ยินเหมือนเขาจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเธอเป็คนให้นั่นสินะ เขามีเนกไทตั้งเยอะตั้งแยะ จะจำได้อย่างไรว่าใครให้เส้นไหนมาบ้าง
ถึงอย่างนั้นเธอก็อดเคืองไม่ได้ว่าแล้วจึงดึงเนกไทอย่างแรงจนมันรัดคอของเขาเมื่อเห็นสีหน้าเขาเริ่มไม่ดีก็ปล่อยมือออกแล้วเดินไปกินข้าว
ลู่เป๋าเหยียนเดินไปนั่งตรงข้ามเธอด้วยสีหน้าไม่พอใจเท่าไร
“ูเี่อันเธอวางแผนจะฆ่าฉันหรือไง”
ูเี่อันมองเนกไทที่ถูกผูกแน่นเกินไปจนเบี้ยวไปอีกทางก่อนตอบ
“เปล่านะฉันไม่คิดจะเป็หม้ายั้แ่ยังสาวหรอก ก็แค่พลั้งมือ”
เฮ้อ โลกนี้ช่างไม่ยุติธรรม...เนกไทเบี้ยวขนาดนี้แต่ทำไมเขายังดูหล่อเหมือนเดิมเลยล่ะ
คิดแล้วูเี่อันก็ยิ้มมุมปากพลางทำหน้าตาใสซื่อ
“ที่รักโกรธงั้นเหรอคะ”
“...”
ลู่เป๋าเหยียนหรี่ตามองหน้าเธอไม่พูดไม่จาจนเธออันชักกลัวว่าเขาจะโกรธแล้วจริงๆ ผอ.เครือลู่ผู้ยิ่งใหญ่อย่างลู่เป๋าเหยียนคงไม่เคยมีใครมาทำกับเขาแบบนี้สินะ
“เฮ้อ!”
ูเี่อันลุกขึ้นก่อนจะเดินไปจัดเนกไทของเขาให้เข้าที่
“อ่ะ พอใจหรือยัง”
ลู่เป๋าเหยียนยังคงทำหน้าบึ้งูเี่อันี้เีเอาใจเขาแล้วจึงเตรียมหันหลังกลับ ทว่าจู่ๆ เธอก็โดนรั้งเอวเอาไว้จะล้มลงไปนั่งบนตักของเขา
“...”ูเี่อันอ้าปากค้างพลางจ้องหน้าลู่เป๋าเหยียนดวงตาคู่งามเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ
ลู่เป๋าเหยียนจ้องมองคนตรงหน้าไม่ว่าจะเื่งานหรือเื่ธุรกิจ สิ่งเ่าั้ค่อยๆ เลือนหายไปจากสมองของเขาวินาทีนี้ในสายตาเขามีเพียงูเี่อัน สมองของเขาโดนภาพของเธอเข้าครอบงำจนหมดความปรารถนาบางอย่างเริ่มก่อตัวขึ้นเขาก้มหน้าลงไปประทับจุมพิตบนริมฝีปากของเธออย่างเผลอไผล
ในชั่วพริบตาหัวใจของูเี่อันก็เต้นแรงจนแทบะเิ เธอใจนขยับไปไหนไม่ได้
แววตาของเขาเหมือนจะสูบิญญาเธอเข้าไปอย่างไรอย่างนั้นเมื่อเขาจูบเธอ เธอก็จูบตอบไปโดยอัตโนมัติ รู้ตัวอีกทีมือของเธอก็โอบรอบท้ายทอยเขาจนเธอใในการกระทำของตัวเอง
ูเี่อันกำลังจะเอามือออกแต่เหมือนลู่เป๋าเหยียนจะรู้ใจเธอ เขารัดเอวเธอไว้แน่นกว่าเดิม
“อื้อ”เธอร้องประท้วงก่อนจะโอบท้ายทอยของเขาแน่นยิ่งขึ้น
ลู่เป๋าเหยียนยิ้มมุมปากเล็กน้อยพลางจูบเธออย่างลึกซึ้งกว่าเมื่อครู่
เสื้อเชิ้ตตัวบางที่ขวางกั้นคนทั้งสองทำใหู้เี่อันััได้ถึงอุณหภูมิร่างกายของลู่เป๋าเหยียนที่เพิ่มสูงขึ้นส่วนเธอเองก็เริ่มหายใจไม่ทันจนหอบหายใจ
“ลู่เป๋าเหยียน...”เธอเรียกเขาเสียงแ่
ขณะที่ใกล้จะหายใจไม่ไหวลู่เป๋าเหยียนก็คืนอิสระให้กับเรียวปากคู่นั้นและจุมพิตเบาๆ ลงไปอีกสองทีก่อนจะปล่อยมือ สายตาที่มองเธอดูลึกซึ้งสื่อความหมาย
ูเี่อันหน้าร้อนจนแทบไหม้เธอไม่กล้าสบตาลู่เป๋าเหยียนตรงๆ จึงเริ่มดิ้นขลุกขลักอยู่บนตักของเขาแต่ลู่เป๋าเหยียนยังคงรั้งเธอไว้พลางกระซิบที่ข้างหู
“ฉันรู้ว่าเธอเป็คนให้”
รู้? เขารู้อย่างนั้นเหรอ?
หมายความว่าเมื่อกี้เธอเดาถูกที่เขาใช้เนกไทเส้นนี้ประจำก็เพราะเธอเป็คนให้ใช่ไหม?
งั้นที่เขาทำท่าทางไม่พอใจก็แค่เล่นละคร? เขากะจะเอาเปรียบเธอนี่นา!
ูเี่อันผลักลู่เป๋าเหยียนให้ออกห่างก่อนจะลุกขึ้น
“ลู่เป๋าเหยียนคนหลอกลวง! คนขี้โกง!”
คนขี้โกงที่ได้ดั่งใจหวังกำลังอารมณ์ดีถึงจะโดนต่อว่าแต่เขาก็ยังยิ้มบางพลางมองตรงมาจนเธอเริ่มทำหน้าไม่ถูกเลยทำได้แต่ก้มหน้าก้มตากินอาหาร
ไปๆ มาๆ กว่าจะกินข้าวเสร็จก็ปาไปเที่ยงสี่สิบนาทีูเี่อันกลัวว่าจะไปทำงานสายจึงออกปากเร่งลู่เป๋าเหยียน
ลู่เป๋าเหยียนเปลี่ยนรองเท้าอย่างพิถีพิถันพลางเอ่ย
“จากที่นี่ไปที่สถานีตำรวจใช้เวลาแค่ห้านาทีไม่ต้องรีบขนาดนั้น”
“เชิญนายไม่รีบไปคนเดียวเถอะ”ูเี่อันผลักไหล่เขาเบาๆ “นายโดดงานก็ไม่มีใครมาหักเงินเดือน ไม่มีใครมาว่าแต่ฉันไม่เหมือนกันนะ ฉันมีหัวหน้าตั้งหลายคน นายเร็วๆ หน่อยสิ!”
กว่าจะลงมาที่รถก็เที่ยงสี่สิบห้านาทีแล้วแต่เนื่องจากที่นี่อยู่ใกล้กับสถานีตำรวจจริงๆ อย่างที่เขาบอก แถมรถก็ไม่ติดเธอจึงสบายใจขึ้นหน่อย ูเี่อันกดเลือกเพลงที่เธอชอบขึ้นมาฟัง
ลู่เป๋าเหยียนไม่ชอบฟังเพลงขณะขับรถเมื่อก่อนบนรถเขาจึงไม่มี CD สักแผ่นแต่ั้แู่เี่อันนั่งรถเขากลับบ้านหลังเลิกงานทุกวันบนรถก็เต็มไปด้วย CD เพลงหลากหลายประเภท ลู่เป๋าเหยียนเองก็ไม่ได้ว่าอะไรบางครั้งเขายังถกเถียงกับเธอด้วยซ้ำว่าเพลงของนักร้องคนไหนเพราะกว่ากัน
เขาไม่ชอบเพลงทีู่เี่อันกำลังเปิดอยู่ตอนนี้จึงขมวดคิ้วทำสีหน้าเหมือนจะสั่งให้เธอเปลี่ยน แต่เธอกลับยิ้มก่อนจะบอกว่า
“ที่จริงฉันร้องเพลงนี้เพราะมากเลยนะ”
ลู่เป๋าเหยียนเลิกคิ้วสายตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย
“ไม่เชื่อเหรอ?” ูเี่อันเชิดหน้า“ไว้คราวหน้าฉันจะร้องให้ฟัง!”
“เธอมั่นใจว่าจะไม่ทำให้ฉันใ?”
“...” ถ้าลู่เป๋าเหยียนไม่ได้กำลังขับรถอยู่ล่ะก็ูเี่อันคงเข้าไปต่อยเขาสักสองหมัด
ตลอดทางบรรยากาศในรถจึงเต็มไปด้วยความผ่อนคลายเมื่อถึงจุดหมายูเี่อันก็รู้สึกว่าเธอกับลู่เป๋าเหยียนในตอนนี้แตกต่างจากสามีภรรยาทั่วไปตรงไหนกันนะ?
นอกเหนือจากเส้นกั้นสุดท้ายที่ยังไม่ได้ก้าวข้ามนอกเหนือจากการที่พวกเธอตกลงกันไว้ั้แ่ก่อนจดทะเบียนสมรสว่าจะหย่าในอีกสองปีเื่อื่นๆ เธอกับเขาก็เหมือนคู่สามีภรรยากันจริงๆ ทุกอย่างเพียงแต่เธอไม่รู้ว่าเขากับเธอจะสามารถใช้ชีวิตดั่งสามีภรรยาที่แท้จริงได้ตลอดไปหรือเปล่า
อีกด้านลู่เป๋าเหยียนก็มาถึงบริษัทแล้ว เมื่อเขาเดินออกจากลิฟต์ก็ััได้ถึงสายตาแปลกๆ จากทางด้านหลังเขาจึงเผยรอยยิ้มหายากออกมา
“ฉันเพิ่งเคยโดดงานครั้งแรกในรอบเจ็ดแปดปีนายต้องทำขนาดนี้เลย?”
“มู่ซือเจวี๋ยมาตอนนี้อยู่ที่ออฟฟิศนาย”
เพราะสถานะที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนมู่ซือเจวี๋ยจึงไม่เคยมาที่เครือลู่ แต่วันนี้เขากลับมาที่นี่ไหนจะสีหน้าของเสิ่นเยว่ชวนในตอนนี้อีก...
รอยยิ้มบนใบหน้าของลู่เป๋าเหยียนเลือนหายไปเขาเดินเข้าห้องทำงานไปพร้อมกับเสิ่นเยว่ชวน เมื่อมู่ซือเจวี๋ยเห็นพวกเขาเดินเข้ามาจึงเอ่ยปาก
“นั่งสิฉันมีอะไรจะคุยกับพวกนาย”
มู่ซือเจวี๋ยมองหน้าลู่เป๋าเหยียนแววตาของเขาดูซับซ้อนกว่าทุกที
ลู่เป๋าเหยียนรู้สึกได้ว่าคงไม่ใช่เื่เล่นๆเขาเอนพิงโซฟาพลางนั่งไขว่ห้าง
“ไม่ต้องอ้อมค้อม”
“ที่จริงฉันได้ข่าวมาั้แ่เมื่อหนึ่งเดือนก่อนแต่เพิ่งมามั่นใจว่าข่าวไม่ผิดแน่...เขากลับมาที่เมือง A แล้ว”
‘เขา’ ที่ว่าคือใครทั้งสามคนรู้ดี
หลายปีที่ผ่านมามู่ซือเจวี๋ยอยู่ในที่มืดลู่เป๋าเหยียนอยู่ในที่แจ้งโดยมีเสิ่นเยว่ชวนคอยช่วยเหลือ พวกเขาพยายามขยายฐานอำนาจให้ทั่วทุกพื้นที่ก็เพื่อจัดการกับเขาคนนั้น
ลู่เป๋าเหยียนรู้อยู่แก่ใจตลอดว่าสักวันเขาคนนั้นคงกลับมากลับมาทวงคืนทุกอย่างที่ควรเป็ของตระกูลคัง กลับมาทวงอำนาจที่เคยมีแต่ไม่นึกเลยว่าเขาจะกลับมาเร็วขนาดนี้
“ทำไงดี?” คนที่ยิ้มแย้มอยู่ตลอดไม่ว่าจะเจอเื่อะไรก็ตามอย่างเสิ่นเยว่ชวนถึงกับขมวดคิ้วพลางถามเสียงเครียด
“พวกเราเตรียมตัวมาหลายปีก็เพราะรู้ดีว่าวันนี้คงมาถึงพวกเราเองก็รอเวลานี้อยู่ไม่ใช่หรือไง”สายตาของลู่เป๋าเหยียนเริ่มดำมืดส่อแววอันตราย “เขากลับมาเร็วเท่าไร เราก็ยิ่งจัดการได้เร็วเท่านั้น”
เสิ่นเยว่ชวนประสานมือของตัวเองเข้าด้วยกัน
“คนตระกูลคังกลับมาฉันไม่กลัวาครั้งนี้ฉันรอมานานแล้ว แต่ที่ฉันถามคือ เจี่ยนอันล่ะจะทำยังไง?”
มู่ซือเจวี๋ยมองหน้าลู่เป๋าเหยียนทันทีที่สิ้นคำ
ส่วนลู่เป๋าเหยียนนั้นเงียบไป
เขาหลุบตาลงราวกับเจอคำถามที่ยากสาหัสความสับสนและขัดแย้งฉายชัดในแววตา เขาหลับตาลงก่อนเอ่ย
“ฉันไม่รู้”
เสิ่นเยว่ชวนเพิ่งเคยได้ยินคำนี้ออกจากปากลู่เป๋าเหยียน
ลู่เป๋าเหยียนที่เก่งรอบด้านเด็ดขาดทุกการกระทำ มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและไม่เคยแพ้ใครในสายตาของผู้คนเขาไม่ต่างอะไรจากเทพเ้า
เขาไม่เคยพูดคำว่าไม่รู้แต่วันนี้เสิ่นเยว่ชวนเชื่อหมดใจว่าเขาหมายความอย่างที่พูดจริงๆ
“อย่างแย่ที่สุดก่อนจะแต่งงานกันฉันเคยบอกกับเธอไว้แล้ว” ลู่เป๋าเหยียนเงยหน้าขึ้นก่อนแววตาแปรเปลี่ยนก่อนตัดสินใจ “อย่างแรกที่ต้องทำคือ กำจัดซูหงเยวี่ยน”
เสิ่นเยว่ชวนเข้าใจทันทีลู่เป๋าเหยียนคิดถึงอนาคตของูเี่อัน ไม่ว่าอย่างไรเขาก็้าให้เธอสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสงบสุขในภายภาคหน้า
“คงเพราะฉันไม่ค่อยรู้เื่เื่รักๆใคร่ๆ เลยไม่ค่อยเข้าใจวิธีการของนาย” มู่ซือเจวี๋ยถามลู่เป๋าเหยียน“ทำไมนายตั้งปิดบังเธอทุกเื่แบบนี้นายเคยคิดบ้างหรือเปล่าว่าเธอเองก็อาจจะอยากรู้เื่นี้เหมือนกัน”
“เธอไม่มีทางอยากรู้และฉันจะไม่มีทางปล่อยให้เธอรู้” ลู่เป๋าเหยียนตอบ“ชีวิตกว่ายี่สิบปีที่ผ่านมาของเธอบริสุทธิ์และเรียบง่ายฉันไม่อยากพาเธอเข้ามาในความมืด อีกอย่าง...เธอเองก็มีคนที่ชอบอยู่แล้ว”
ใช่แล้วเื่ทีู่เี่อันมีคนที่ชอบอยู่แล้วไม่เคยหายไปจากใจของลู่เป๋าเหยียน
“จริงด้วย”เสิ่นเยว่ชวนพูดอย่างอดไม่ได้ “ถ้านายไม่พูดฉันคงลืมไปแล้วลั่วเสี่ยวซีบอกเองกับปากว่าเจี่ยนอันมีคนที่ชอบมานานหลายปีแล้วแต่ครึ่งปีที่ผ่านมา เวลาฉันเห็นเธออยู่กับนาย ทำไมถึงลืมเื่นี้ไปเลยก็ไม่รู้”
มู่ซือเจวี๋ยหัวเราะขึ้นมาก่อนจะพูดแทงใจดำ
“ฉันว่าเพราะทั้งคู่ใจตรงกันไงล่ะ”
“ใช่เลย!”เสิ่นเยว่ชวนชูนิ้วให้มู่ซือเจวี๋ยอย่างเห็นด้วยก่อนจะมองหน้าลู่เป๋าเหยียนพลางยิ้ม
“หรือว่าพอแต่งงานกับนายเจี่ยนอันก็ถูกนายขโมยหัวใจไปแล้วแต่นายไม่รู้ตัว?”
“พวกนายหุบปากซะ”ลู่เป๋าเหยียนกวาดสายตาเย็นเยียบไปทางพวกเขา“ถ้าพวกนายเผลอพูดอะไรออกไปให้เจี่ยนอันได้ยินล่ะก็ชีวิตนี้อย่าหวังว่าจะได้กลับมาเมือง A อีก”
เสิ่นเยว่ชวนกลัวคำขู่ของลู่เป๋าเหยียนซะที่ไหนเขายังยิ้มก่อนพูดแหย่
“ดูนายสินายเคยพาฉันไปที่เขมร กล้าเข้าไปในพื้นที่ที่อันตรายที่สุดของประเทศเพื่อคุยธุรกิจแต่ทีเื่นี้กลับกลัวเมียรู้ว่านาย...โอ๊ย! ”
เสิ่นเยว่ชวนยังพูดไม่ทันจบเขาก็ถูกลู่เป๋าเหยียนเตะเข้าให้อย่างจัง
