บทที่ 190 ต่อต้าน!
ท้องนภาเป็สีฟ้าสดใส ลมหนาวโชยพัดมาจางๆ
เมื่อมองขึ้นไป เห็นร่างสามร่างกะพริบปริบอยู่ใต้ท้องฟ้าสีคราม ต่อสู้กันหลายร้อยรอบ ส่งเสียงกึกก้อง
เป็หลิงจื้อที่เผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งขั้นพื้นพิภพอีกสองคน พวกเขากำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด เสียงของท้องฟ้าแปรปรวน คลื่นอากาศพลุ่งพล่าน
“ไปให้พ้นทางข้า! ทำเช่นนี้กับเด็กหนุ่มรุ่นเยาว์หรือ? ยังมีศักดิ์ศรีอยู่หรือไม่?!” ใบหน้าเหี่ยวย่นของหลิงจื้อเคร่งขรึม เขาคำรามขึ้นไปบนท้องฟ้า เมื่อยกมือขึ้น ลำแสงสีเงินสองลำก็พุ่งออกมา
นี่คือพลังบริสุทธิ์แห่งธรรมชาติ ควบคุมโดยิญญา มีพลังมหาศาล!
เหยียนโจวและอวี่เหวินจือต่างก็ประหลาดใจ ชายชราคนนี้ทรงพลังมาก แม้ว่าพวกเขาจะร่วมมือกัน แต่ก็แทบหยุดเขาไม่ได้เลย
“ผีเฒ่า พวกข้าแนะนำให้เ้าอย่ามายุ่ง! เมื่อครู่เป็ลูกหลานท่านต่างหากที่สร้างปัญหา เขาจำต้องได้รับบทเรียนบ้าง!”
เหยียนโจวะโเสียงดัง แต่ยังคงเคลื่อนไหวต่อ เขารวบรวมแสงหมัดเขี้ยวัเพื่อปิดกั้นแสงฟ้าร้องอันน่าตกตะลึง ก่อนจะถูกกระแทกไปไกล
ทันใดนั้น เขาก็เหยียบพื้นอีกครั้ง และกระทีบพื้นดัง “ปัง” เพื่อกลับขึ้นไปในอากาศและต่อสู้ต่อ
“ลูกหลานข้าสร้างปัญหาหรือ? อ่า ข้าทนมองพวกเ้าไม่ไหวแล้ว! ต่อให้วันนี้ข้าต้องเสี่ยงชีวิต ข้าก็จะให้พวกเ้าได้ชดใช้!”
“วับ!”
หลิงจื้อคำราม และเกราะโปร่งแสงก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ราวกับลูกบอลลูกใหญ่ ทำให้เกิดลมแรง เขารีบพุ่งไปข้างหน้าทันที ทำให้ผู้แข็งแกร่งอีกสองคนขมวดคิ้วและรีบสกัดกั้นไว้
“ตูม--!”
บนท้องฟ้ามีเสียงการปะทะกันดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ทุกคนก็ประหลาดใจและรู้สึกว่าเื่นี้เริ่มควบคุมไม่ได้
“สู้สิ สู้ต่อไป” ฉู่เจียงสงบและผ่อนคลาย มองดูการต่อสู้อย่างสบายๆ
ในขณะนี้ ทูตจากเชื้อสายหลักของตระกูลฉู่คนนี้มีความสุขและสบายใจมาก เพราะเขาไม่จำเป็ต้องใช้พลังขององครักษ์เทวัญ และไม่จำเป็ต้องลุยน้ำโคลนนี้
“เ้าหนุ่มจากตระกูลฝึกฝนฝนิญญามีศักยภาพไม่จำกัดและยังมีิญญาศักดิ์สิทธิ์จริง น่าเสียดายที่เขาประมาทเกินไป จะตายเอาง่ายๆ ในทางกลับกัน ตระกูลเสวี่ยมีเพื่อนฝูงและพันธมิตรมากมาย แต่งงานกับตระกูลของพวกเขา ก็เป็สิ่งที่ดีเช่นกัน” ฉู่เจียงพูดกับตัวเอง
แม้ว่าบุคคลนี้จะเป็เพียงคนบ้าที่คอยหลบเลี่ยงความรับผิดชอบ แต่ตอนนี้เขาฝักฝ่ายอยู่ในใจ
ในเวลานี้ นอกเหนือจากการชมการต่อสู้บนท้องฟ้าแล้ว ผู้ชมทั้งหมดยังจ้องมองที่ด้านหน้าของศาลเ้าอีกด้วย พวกเขาเห็น “ซิวหลัวหน้าผี” ถูกปรามลงกับพื้นจนไม่สามารถยืนขึ้นได้
“ฉู่เจิ้นหนาน...ข้าจะฆ่าเ้า!”
หัวใจของฉู่อวิ๋นเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย เขาต้านทานแรงกดดันของเสวี่ยจิงหงจนเืไหลออกจากมุมปาก และร่างกายของเขาเต็มไปด้วยรณทระนง เขากัดฟันอย่างทรมาน
เมื่อเห็นฉู่ซินเหยาที่อยู่ตรงหน้ากำลังเ็ป ใบหน้าอาบน้ำตาสองสาย ลำคอถูกพันกันด้วยด้ายพลังปราณ พูดอะไรไม่ได้ เขาก็โกรธมาก! คิดจะตัดฉู่เจิ้นหนานและคนอื่นๆ เป็ชิ้นๆ ในทันที!
“อวิ๋น... เอ๋อร์...” ฉู่ซินเหยากรีดร้องในใจ ไม่อาจขยับร่างกายได้ นางทำได้เพียงมองฉู่อวิ๋นด้วยดวงตาคู่งามผ่านผ้าโปร่ง สิ้นหวังอย่างหาที่เปรียบมิได้
เมื่อนางเห็นเืของฉู่อวิ๋นไหลลงบนพื้น น้ำตาแห่งความเ็ปก็ไหลเอ่อลงมาอาบแก้มอันบอบบางของนางทีละข้างอย่างห้ามไม่อยู่ นางโศกเศร้ายิ่งนัก
พวกเขาสบตากัน ต่างมองหน้ากันด้วยความตื่นเต้น หัวใจของพวกเขาเต้นขึ้นๆ ลงๆ ไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้
ระยะห่างระหว่างทั้งคู่นั้นใกล้กันมาก แต่ก็ยังห่างไกลกันเหลือเกิน
ขณะที่ฉู่ซินเหยาเอาแต่ร้องไห้จนผ้าโปร่งชุ่ม นั่นดึงดูดความสนใจของทุกคนได้อย่างรวดเร็ว
“หืม ผ้าโปร่งที่คลุมหน้าเ้าสาวอยู่ดูเหมือนจะเปียกนะ น้ำตาหรือ?”
“นางร้องไห้หรือ? น้ำตาไหลหรือ? เกิดอะไรขึ้น?”
หลายคนเริ่มพูดถึงเื่นี้ คนงามควรยินดีไม่ใช่หรือที่สมปรารถนา ได้แต่งงานกับคนที่ตนรัก? ทำไมนางถึงร้องไห้เล่า?
แถมยังร้องไห้เสียใจหนักมาก
ทันใดนั้น ทั่วทั้งสถานที่ก็เต็มไปด้วยเสียงถกเถียงจนกลบแม้แต่เสียงการต่อสู้บนท้องฟ้าไปจนหมด
เมื่อเห็นว่าเหตุการณ์นั้นวุ่นวายขึ้นมา ฉู่เจิ้นหนานก็แสร้งทำเป็มีความสุขทันทีและพูดเสียงดัง “ฮ่าๆ ซินเหยาคงรู้สึกตื้นตันที่จะได้แต่งกับคนที่นางรัก คงมีความสุขจนร้องไห้”
“อีกอย่าง พอสาวน้อยซินเหยาเห็นเสวี่ยหานเฟยได้รับาเ็ก็เสียใจขึ้นมา ทำให้ทุกคนหัวเราะเยาะแล้ว น่าอับอายจริงๆ ฮ่าๆๆ!”
“ใช่หรือไม่?” หลังจากพูดจบ จิ้งจอกเฒ่าก็ยิ้มอย่างมีความสุข และไม่ลืมที่จะถามฉู่ซินเหยาที่อยู่ข้างๆ เขา
“วั่บ!”
สาวใช้ขยับนิ้วเข้าหากันทำให้เกิดเสียง “กริ๊ก” บังคับให้ฉู่ซินเหยาพยักหน้า ทำให้น้ำตาของนางไหลอาบแก้มอย่างรวดเร็ว หยดร่วงลงพื้นจนเกิดเสียง “ติ๋ง” หลายครั้ง
คนงามหลั่งน้ำตาและถูกบังคับให้พยักหน้า
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ทุกคนก็ยิ้ม แสดงสีหน้าโล่งใจ และถอนหายใจว่าที่แท้เป็เช่นนี้
“ย๊าก!”
ทันใดนั้น เขากัดริมฝีปากและคำรามจนสุดปอด จากนั้นกำหมัดอย่างแรงด้วยรังสีทำลายล้าง
ด้วยเสียง “ปัง” รณทระนงก็ะเิออก กระจายไปไกลหลายร้อยหมี่ สูงเท่าท้องฟ้าและเต็มไปด้วยเปลวไฟ
ฉู่อวิ๋นระดมพลังทั้งหมดและทะลวงขีดจำกัดของตัวเอง! เขาทะลุผ่านแรงกดดันของเสวี่ยจิงหงและได้รับอิสรภาพกลับคืนมา ซึ่งทำให้เ้าเมืองชุยเสวี่ยประหลาดใจ!
“ชิ้ง—”
แสงกระบี่คมปลาบปรากฏเปลวไฟวูบวาบ ฉู่อวิ๋นกลายเป็ภาพเงาที่หายวับไปและรีบไปหาฉู่ซินเหยา อยากจะพานางออกไป!
ในชั่วพริบตา ทั้งสองอยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น ใกล้เพียงเอื้อมมือ!
“พี่ซินเหยา!”
เวลาหยุดนิ่ง ทั้งสองเผชิญหน้ากันกลางอากาศ อยากจะกอดกันมากเหลือเกิน
สองสายตาสอดประสาน ถ่ายทอดวาจานับหมื่นคำ
“เ้าเด็กดื้อรั้น ไสหัวไป!”
แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงะโอันแหลมคมดังขึ้น นั่นคือเสียงของฉู่เจิ้นหนาน
มองเห็นเขาโบกฝ่ามือใหญ่พร้อมกับแสงฟ้าร้องสีม่วง และเสียง “ปัง” ที่ทรงพลังก็พุ่งมากระแทกฉู่อวิ๋นให้ไกลออกไปทันที แทบจะผลักเขาลงจากเวที
“แค่ก...แข็งแกร่งมาก! เป็ไปได้อย่างไร?” ฉู่อวิ๋นกระอักเื แรงฝ่ามือของฉู่เจิ้นหนานทำให้ซี่โครงของเขาหักไปหลายซี่
ต้องรู้ว่าตอนนี้ฉู่อวิ๋นอยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งที่สุดของรณทระนง แม้ว่าจะมีนักรบระดับเก้าขั้นมหาสมุทรมาประมือ แต่เขาก็ไม่ถึงขั้นได้รับาเ็
“จิ้งจอกเฒ่านี้ไม่ใช่นักรบขั้นมหาสมุทรอีกแล้ว!”
ในไม่ช้า ดวงตาของฉู่อวิ๋นก็ฉายแสงเ็า และได้ข้อสรุปดังกล่าวออกมา
ทันใดนั้น เปลวไฟก็เบาลง และรณทระนงก็หายไป
เมื่อสักครู่นี้ ฉู่อวิ๋นใช้พลังปราณทั้งหมดของเขาไปในคราวเดียว เปิดใช้รณทระนงเพื่อให้หลุดพ้นจากแรงกดดันของเสวี่ยจิงหง พลังปราณของเขาจึงหมดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำได้เพียงรีบกินยาฟื้นชีพจรเม็ดที่สองเท่านั้น
“เ้าเด็กคนนี้กำลังหาเื่ตาย! สถานการณ์แบบนี้ เขากล้าต่อกรกับผู้แข็งแกร่งอีก!”
“ด้วยศักยภาพของเขา ย่อมดึงดูดใจหญิงงามมากมาย เพื่อหญิงที่ไม่รักตน คุ้มหรือ?”
“เฮ้อ ภรรยาหาใหม่ได้ แต่ชีวิตมีเพียงชีวิตเดียวเท่านั้น”
เมื่อเห็นเช่นนั้น ทุกคนก็ใมาก ต่างไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมเด็กหน้าผีคนนี้ถึงดื้อรั้นขนาดนี้
คนงามก็บอกแล้วว่าตนชอบเสวี่ยหานเฟย เขาจะดื้อรั้นพัวพันสร้างปัญหาไปไย?
ในความเป็จริง ไม่มีใครเข้าใจความคิดที่แท้จริงของฉู่ซินเหยาเลย พวกเขาทั้งหมดถูกฉู่เจิ้นหนานหลอก
“ฮ่าๆ!” ในเวลานี้ เสวี่ยหานเฟยขึ้นเวทีด้วยรอยยิ้ม เดินเข้าไปใกล้ฉู่อวิ๋นและแสดงท่าทีสงสาร
เขาเผยรอยยิ้มน่ากลัวและพูดเบาๆ “หึๆ ดูสภาพเ้าตอนนี้สิ ช่างน่าสังเวชเหลือเกิน ยังคิดจะแย่งผู้หญิงของข้าไปอีกหรือ? เ้าคิดว่าตัวเองเป็ใครกัน?”
“เป็บรรพบุรุษเ้า!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉู่อวิ๋นก็โกรธจัด รวบรวมพลังปราณทันทีและยกกระบี่ขึ้น!
แต่ในยามนี้ เสวี่ยจิงหงสูดจมูกอย่างเ็า ปล่อยแรงกดดันอีกครั้ง ทำให้เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ทำได้เพียงขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน และรู้สึกโกรธมาก
“ให้ตายเถอะ!” ในเวลานี้ ฉู่อวิ๋นทำได้เพียงจับด้ามกระบี่ไว้แน่น รู้สึกโกรธอย่างยิ่ง ความอาฆาตพุ่งสูงอย่างฉุดไม่อยู่
เห็นเช่นนั้น เสวี่ยหานเฟยก็หัวเราะต่อ สีหน้าของเขาเย่อหยิ่งอย่างยิ่ง แววตาดูน่ากลัว
จากนั้นเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “ไม่มีความสุขหรือ? น่าเสียดายที่เ้าตีข้าไม่ได้...”
ฉู่อวิ๋นะโด้วยความโกรธ พลังและเืของเขาเดือดพล่าน ดวงตาพยัคฆ์เปล่งประกายด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ ราวกับสัตว์ปีศาจโบราณ
“ตูม!”
เปลวไฟถูกยิงขึ้นไปบนท้องฟ้า คล้ายกับัตัวยาวที่ทะยานขึ้นไปบนเวหา ฉู่อวิ๋นะเิพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในชีวิตของเขา หลุดพ้นจากแรงกดดันของเสวี่ยจิงหงอีกครั้ง กระบี่ในมือฉายแสงอย่างดุเดือด!
“อะไรนะ? เด็กคนนี้หลุดพ้นอีกแล้ว?” เสวี่ยจิงหงตกตะลึง รอบแรงกดดันของเขาแข็งแกร่งขึ้นเป็สองเท่าจากเมื่อกี้ แต่ไม่คิดว่าฉู่อวิ๋นจะใช้แรงโกรธทะลวงออกมาได้อีกครั้ง
ทุกคนต่างอึ้ง ศักยภาพของชายหนุ่มคนนี้น่าทึ่งเพียงใด? ด้วยระดับพลังยุทธ์ขั้นมหาสมุทรของเขา สามารถหลบหนีแรงกดดันของผู้แข็งแกร่งขั้นพื้นพิภพระดับกลางได้ถึงสองครั้ง?
“ไปตายซะ!”
ในเวลานี้ ฉู่อวิ๋นแสนดุร้าย ยกกระบี่ขึ้นฟันในแนวนอน ตั้งใจจะฆ่าเสวี่ยหานเฟยที่อยู่ไม่ไกล อีกฝ่ายใมากจนขาสั่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“ควับ!”
แต่ฉู่เจิ้นหนานก็รีบไปขวางอีกครั้ง ใน่เวลาฉุกละหุก เขาใช้ฝ่ามือสายฟ้า ทำให้ฉู่อวิ๋นได้รับาเ็สาหัสและกระเด็นไปข้างหลัง เืกระอักออกมาคำโต
“เหอะ เป็แค่เด็กอมมือคนหนึ่ง คิดแย่งตัวเ้าสาว และยัง้าฆ่าลูกเขยขี่ั[1]ของตระกูลฉู่ เ้าเห็นข้าเป็อากาศไปแล้วใช่ไหม?” ฉู่เจิ้นหนานพูดอย่างโกรธๆ ก้มลงมองฉู่อวิ๋นที่ล้มลงที่พื้น เขากัดฟัน
“ขอบคุณท่านที่ช่วยชีวิตข้าไว้” เสวี่ยหานเฟยยังคงใ แต่ก็ไม่ลืมขอบคุณฉู่เจิ้นหนาน
“ไม่ต้องขอบคุณ” ฉู่เจิ้นหนานโบกมือ ครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มแล้วพูดว่า “ยังเรียกข้าว่าท่านอีกหรือ? ผู้แซ่ฉุ่เองก็นับว่าเป็พ่อของซินเหยาครึ่งหนึ่ง เหตุใดยังไม่เรียกพ่อตาอีก?”
“อา... ฮะๆ ท่านพ่อตา!”
“ถูกต้อง” ฉู่เจิ้นหนานพยักหน้าแล้วสั่ง “ไปดูซินเหยาเถอะ ยกเ้านี่ให้ข้า ไม่รบกวนเวลาทำพิธีของตระกูลเสวี่ยแล้ว”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เสวี่ยหานเฟยก็ยิ้ม เหลือบมองฉู่อวิ๋นที่โกรธแค้น จากนั้นเดินตรงไปที่ประตูศาลเ้า
เขาเข้าใกล้ฉู่ซินเหยามากขึ้นเรื่อยๆ ทีละก้าว
เมื่อเห็นเช่นนี้ ฉู่ซินเหยาก็หลั่งน้ำตา กัดริมฝีปากสีแดงแน่น
นางไม่อาจต้านทาน การหลบหนียิ่งไม่ต้องพูดถึง
“อย่าคิดจะเข้าใกล้นาง!”
ทันใดนั้น ฉู่อวิ๋นก็ะโและรีบวิ่งไปหาฉู่เจิ้นหนาน กระบี่ของฉู่อวิ๋นวาววับราวกับว่า้าจะต่อสู้กับเขา!
“โง่เขลา!”
ฉู่เจิ้นหนานะโสุดเสียง ฝ่ามือของเขาบานสะพรั่งไปด้วยแสงฟ้าร้องสีม่วง สายฟ้าวาบวับขึ้นมาเพื่อไล่ฉู่อวิ๋น
แต่ตอนนี้เอง ฉู่อวิ๋นก็หันกลับมา ส่งเสียงบูรพาฝ่าตีประจิม[2] ยกมือขึ้น และโยนกระบี่ไปยังตำแหน่งอื่น ทำให้ทุกคนตกตะลึง นี่เป็สิ่งที่ใครก็คาดไม่ถึง!
“ควับ!”
ในพริบตาเดียว มองเห็นกระบี่หลี่หั่วพุ่งผ่านไป ส่งเสียงเสียดอากาศ ก่อให้เกิดคลื่นไฟ พุ่งไปทางเสวี่ยหานเฟย
การโจมตีครั้งนี้กะทันหันจนไม่มีใครจินตนาการได้!
แม้ว่าเสวี่ยจิงหงจะรับมือได้ทันเวลา ใช้กำลังมหาศาลเพื่อทำลายกระบี่หลี่หั่วให้แหลก แต่หนามไฟอันหนึ่งยังคงหลุดแห แทงไปที่ขาของเสวี่ยหานเฟย ทำให้เขาล้มลงทันที
“ขาข้า! เจ็บ!” เสวี่ยหานเฟยล้มลงกับพื้น มือทั้งสองข้างจับน่องแน่น ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเ็ป กลิ้งไปมาบนพื้น
“หานเฟย!” เสวี่ยจิงหงใและรีบไปดูเสวี่ยหานเฟยทันที ก่อนจะพบว่าเอ็นร้อยหวายของบุตรชายถูกหนามไฟเผาละลายจนหมด อนาคตอาจกลายเป็คนพิการได้
“ฮึ่ม!” เ้าเมืองชุยเสวี่ยโกรธมากและะโ “ฉู่เจิ้นหนาน! เหตุใดยังไม่รีบฆ่าเ้าตัวบัดซบนี่อีก!?”
“ไม่ต้องกังวล ข้าฆ่าแน่” ดวงตาของฉู่เจิ้นหนานเปล่งประกายด้วยแสงเย็น ปรากฏเสียงฟ้าร้องบนฝ่ามือ และพุ่งเข้าโจมตีฉู่อวิ๋นอย่างรวดเร็ว!
“อยากฆ่าข้าหรือ?! มันไม่ง่ายขนาดนั้น!”
ด้วยความสิ้นหวัง ฉู่อวิ๋นมีแรงใจแสนน่าเกรงขาม ระดมพลังปราณสุดท้ายและใช้ฝ่ามือัพเนจรกระบวนท่าที่สาม เก้าัเขย่านภา เสียงคำรามดังก้องในอากาศ สนั่นลั่นไปทั่วทั้งผู้ชม!
“ตูม---”
น่าเสียดายที่ฉู่เจิ้นหนานอย่างไรก็เป็นักรบในขั้นพื้นพิภพ กระบวนท่าของฉู่อวิ๋นล้มเหลว และเขาก็ถูกกระแทกออกไปแทน เขากระอักเื ณ ที่นั้น ได้รับาเ็อีกครั้ง
“แสงฝ่ามือัคำราม?”
แต่ในยามนี้ แม้จะเ็ป แต่เสวี่ยหานเฟยก็จำฝ่ามือัพเนจรได้
“คนคนนี้ไม่ใช่ซิวหลัวหน้าผีตัวจริง!” เขาะโเสียงดัง ทำให้ทุกคนในกลุ่มผู้ชมตกตะลึง
----------
[1] หมายถึง ลูกเขยที่มีทั้งความสามารถและรูปโฉมงดงาม
[2] ทำทีจะบุกโจมตีด้านหนึ่ง แต่กลับบุกโจมตีอีกด้านหนี่ง