คืนนี้นอนหลับสบาย ฝันดีมาก
ในฝัน สวี่ฮุ่ยฝันว่าลู่ฉี่เสียนจูงมือเธอเดินเล่นในป่าท้อ่ฤดูใบไม้ผลิ
ท่ามกลางกลีบดอกไม้ที่โปรยปราย ลู่ฉี่เสียนก้มหน้าลงมาจะจุมพิตเธอ
เธอหลับตาลงด้วยความเขินอาย…
ทันใดนั้นเอง นาฬิกาปลุกเก่า ๆ บนหัวเตียงก็ดังขึ้น ทำลายความฝันอันแสนหวาน
สวี่ฮุ่ยลุกจากเตียงอย่างไม่สบอารมณ์
เมื่อหวีผม เปลี่ยนเป็ชุดสวยอีกชุดที่คุณย่าลู่ให้เสร็จแล้วก็เดินออกจากห้อง
เห็นสวี่เยว่นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารด้วยท่าทางอ่อนแรงและแก้มแดงก่ำ มีพ่อและพี่ชายถามไถ่อาการเธอด้วยความเป็ห่วง
สวี่ฮุ่ยสังเกตอยู่ครู่หนึ่ง สวี่เยว่น่าจะเป็ไข้
พันผ้าพันแผลหนา ๆ บนหัวแบบนั้น ทั้งยังไม่ยอมเปลี่ยน จะอักเสบก็ไม่แปลก พออักเสบย่อมเป็ไข้ได้ง่ายอยู่แล้ว
สวี่ฮุ่ยไปล้างหน้าแปรงฟันในครัว แล้วถือถังที่ใส่ปลาไหลออกจากบ้าน ส่วนปลาช่อนสองตัวนั้นเธอเลี้ยงไว้ในถังอีกใบ
สวี่รั่วเฉินเรียกเธอด้วยใบหน้าบึ้งตึง “เธออ่านหนังสือแพทย์ทุกวันไม่ใช่เหรอ มาดูหน่อยสิว่าเยว่เยว่เป็อะไร?”
สวี่ฮุ่ยพูดอย่างเ็า “ทำไมฉันต้องไปสนใจคนที่อยากกัดฉันเหมือนหมาบ้าตลอดเวลาด้วย?” พูดจบก็เดินออกไป
แม้สองพ่อลูกสกุลสวี่จะโกรธแทบตาย แต่ก็ทำอะไรเธอไม่ได้
สวี่เยว่ดึงแขนสวี่รั่วเฉิน พูดเสียงแ่เบาว่า “พี่ชาย ต่อไปอย่าไปขอร้องพี่สาวเพื่อฉันอีกนะคะ เดี๋ยวพี่สาวจะเกลียดพี่ไปด้วย”
สวี่รั่วเฉินพูดกับเธออย่างอ่อนโยน “พี่ไม่กลัว พี่จะพาเธอไปหาหมอ”
สองพ่อลูกพาสวี่เยว่ไปโรงพยาบาลประจำอำเภอ
หมอเห็นแล้วก็โมโหจนหน้าดำ “ก่อนหน้านี้พวกคุณไปหาหมอที่ไหน? ใครให้พันผ้าพันแผลหนาขนาดนี้?”
“อากาศร้อนจัด แผลไม่ได้รับอากาศถ่ายเท จะไม่อักเสบได้ยังไง!”
พวกสวี่ต้าซานไม่กล้าพูดอะไร
เมื่อวานสองพ่อลูกพาสวี่เยว่ไปทำแผลที่สถานีอนามัยประจำตำบล เป็สวี่เยว่ที่ยืนยันจะพันผ้าพันแผลหนา ๆ บนหัว บอกว่ากลัวแผลติดเชื้อ
ไม่ว่าหมอที่สถานีอนามัยจะอธิบายว่าเธอแค่แผลถลอก ไม่ต้องพันผ้าพันแผลยังไง เธอก็ไม่ฟัง
สุดท้ายหมอที่สถานีอนามัยประจำตำบลจำใจทำตามที่เธอขอ ตอนนี้กลับโดนหมอที่โรงพยาบาลอำเภอดูถูก
หมอแกะผ้าพันแผลให้สวี่เยว่ด้วยใบหน้าบึ้งตึง
ตอนที่แกะชั้นสุดท้ายออก เนื่องจากแผลอักเสบมีหนอง แผลเลยติดกับผ้าพันแผล แม้หมอจะมือเบามากแค่ไหน แต่สวี่เยว่ก็ยังเจ็บจนหน้าเบ้
การทำความสะอาดแผลที่เริ่มเน่าเปื่อยและอักเสบทำให้เธอเ็ปทรมานเกินจะรับไหว
หลังจากทำความสะอาดแผลเสร็จ หมอก็ทายาและพันผ้าพันแผลให้สวี่เยว่
คราวนี้แผลใหญ่และลึกขึ้น ต้องผ้าพันแผลพันบนหัวหลายรอบสมใจอยากสวี่เยว่
หมอส่ายหน้าอย่างเสียดาย “จริง ๆ แล้วแผลไม่หนัก คงไม่ทิ้งรอยแผลเป็ หรือต่อให้มีรอยแผลเป็ก็เป็แค่รอยเล็ก ๆ ไม่ส่งผลต่อใบหน้า”
“ตอนนี้แผลเน่าขนาดนี้ ยังไงก็ต้องเหลือรอยแผลเป็ขนาดใหญ่ ต่อให้ตัดผมหน้าม้าก็ปิดไม่มิด”
สวี่เยว่ได้ยินแล้วเสียใจที่ไม่คิดให้ดีก่อน
ตอนนั้นเธอยืนกรานให้หมอที่สถานีอนามัยประจำตำบลพันผ้าพันแผลหนา ๆ เพราะอยากให้เพื่อนบ้านคิดว่าเธอเจ็บหนักกว่าสวี่ฮุ่ย จะได้สงสารเธอ
และเบี่ยงเบนความสนใจจากเื่ที่เธอและกู่ซิ่วบังคับให้สวี่ฮุ่ยชนกำแพง
ไม่นึกเลยว่าทุกอย่างจะบานปลายแบบนี้
สวี่ต้าซานเห็นสวี่เยว่เสียใจจนตาแดงก่ำ ก็นึกถึงวิตามินอีที่สวี่ฮุ่ยขอเมื่อวานขึ้นมา
ถามหมอว่าวิตามินอีมีสรรพคุณอะไร
หมอเขียนใบสั่งยาไปพลางพูดไปว่า “มีสรรพคุณในการลดรอยแผลเป็ แต่แผลลูกสาวคุณเน่าขนาดนั้นแล้ว กินวิตามินอีไปคงไม่ได้ผลเท่าไหร่”
แต่หมอก็ยังสั่งวิตามินอีให้สวี่เยว่สองขวด ลองกินดูหน่อยก็ไม่เสียหาย