หุบเขาไร้โศก
กู่ไห่เดินออกจากถ้ำสระิญญา แต่ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น ว่ามีคนหลายคนปรากฏตัวขึ้นในหุบเขา
เมื่อปิดทางเข้าถ้ำด้วยต้นไม้ที่ไหม้เกรียมแล้ว พวกเขาก็เดินไปทางฝูงชนที่อยู่อีกฟากหนึ่งของหลุมศพขนาดใหญ่
"พลังที่แผ่ออกมาจากเมฆดำนี้ น่ากลัวนัก ทำให้รู้สึกเหมือนมีกระบี่แขวนอยู่เหนือศีรษะเช่นนั้น!" เกาเซียนจือมองท้องฟ้า ด้วยสีหน้าย่ำแย่
"นี่คือค่ายกล? ทั้งหุบเขาถูกปกคลุมไปด้วยค่ายกล? นี่มันค่ายกลอันใด?" เฉินเทียนซานเอ่ยถาม หน้าถอดสี
กู่ไห่มองท้องฟ้าซึ่งปกคลุมด้วยเมฆดำ ไม่ต่างจากผืนฟ้ายามค่ำคืน อันแต่งแต้มด้วยดวงดาว ซึ่งกำลังทอแสงลงมายังพื้นดินที่อยู่ไกลออกไป
ท่ามกลางลำแสงเ่าั้ รัศมีสองเส้นซึ่งส่องสว่างที่สุด พุ่งลงตรงใจกลางพื้นที่ ซึ่งมีเวทีขนาดใหญ่ รายล้อมไปด้วยผู้ฝึกตนกว่าสองพันคน ใบหน้าทุกคนดูหวาดหวั่น ขณะมองดูเวทีนั้น
ใต้เวทีมีศพหลายร้อยศพ ซากศพทั้งหมดถูกผ่าเป็สองส่วน จากตรงกลางหว่างคิ้วลากยาวลงมาด้านล่าง อวัยวะภายในกระจัดกระจาย เืไหลนอง น่าสยดสยองมาก
เมื่อมองซากศพเ่าั้ เหล่าผู้ฝึกตนกว่าสองพันคน ต่างพากันสั่นสะท้านด้วยความพรั่นพรึง ผู้ฝึกตนหญิงบางคนถึงกับสะอื้นไห้ไม่หยุด ความกลัวแผ่ซ่านไปทั่วหัวใจผู้คน
กู่ไห่สังเกตเห็นซ่งฉิงซู ที่อยู่ท่ามกลางฝูงชน
ในเวลานี้ ั์ตาอีกฝ่ายปรากฏแววตื่นตระหนกและสับสน ขณะจ้องเวทีขนาดใหญ่เขม็ง
บนเวทีนั้น วางกระดานหมากล้อม หมากแต่ละเม็ดบนกระดานสว่างไสวไปด้วยแสงแห่งดวงดาว ที่ส่องต้องเม็ดหมาก แต่รัศมีที่สว่างที่สุดสองเส้นนั้น กลับสาดแสงลงบนร่างผู้เดินหมากทั้งสอง
เหนือกองซากศพ ผู้เล่นสองคนกำลังเดินหมากอยู่บนเวที ขณะที่ผู้คนกว่าสองพันคน กำลังรุมล้อม และจ้องกระดานหมากอย่างกังวล
"พวกเขากำลังทำสิ่งใดกัน?" เสี่ยวโหรวมองดูฉากเบื้องหน้าด้วยความสับสน
“คนที่กำลังเดินหมาก คือหัวหน้าสังกัดปฐีแห่งหออี้ผิน เิไท่มิใช่หรือ?” เฉินเทียนซานกล่าว สายตาแสดงถึงความใ
“เิไท่?” กู่ไห่มองไปตามทิศทางที่อีกฝ่ายชี้
จึงเห็นชายร่างใหญ่มีหนวดเครา ที่อยู่ด้านหนึ่งของกระดาน กำลังวางหมากขาว
กู่ไห่หรี่ตาลง ยังจำคำเตือนของไต้ซือหลิวเหนียน ก่อนจากกันได้
ผู้ถือครองหมากดำคือชายชุดขาวผู้หนึ่ง ซึ่งบัดนี้ กำลังจ้องกระดานหมากล้อมด้วยสายตาตื่นตระหนก
"ไม่นะ! ไม่!… เมื่อครู่นี้เห็นได้ชัด ว่าข้าเป็ฝ่ายชนะ ข้าเป็ฝ่ายชนะชัดๆ!" ชายชุดขาวะโอย่างหวาดกลัว
เิไท่สูดหายใจเข้า ก่อนกล่าว "ผลลัพธ์ออกมาแล้ว ต้องขออภัยด้วย... หากเ้าจะโทษ ก็โทษที่เวลาไม่พอเถอะ!"
ก๊อก!
เิไท่วางหมากขาวลงบนกระดาน
ปัง!
หมากดำจำนวนมากที่ถูกล้อมบนกระดาน โดนนำออกไปทันที
ฟิ้ว!
หลังจากหมากดำทั้งหมดหายไป ผลของเกมถูกตัดสินในพริบตา
“หมากขาวชนะ!” ทันใดนั้น เสียงประกาศก็ดังมาจากหมู่เมฆสีดำ
"ท่านหัวหน้าสังกัดเิชนะแล้ว?" หลายคนโพล่งออกมาด้วยความใ
“ไม่!... เิไท่ เ้าโกงข้า เ้าโกงข้า ข้าจะฆ่าเ้า!" ชายชุดขาวถลึงตา ชักดาบ และแทงไปที่เิไท่
ปัง!
เิไท่ชกไปที่ปลายดาบ ผลักดาบยาวกลับไปทันที
ชายชุดขาวแสดงสีหน้าดุดัน คิดจะแทงซ้ำ แต่จู่ๆ ก็มีเสียงกระบี่ดังก้องจากกลุ่มเมฆดำ
ชิ้ง!
เสียงเหมือนกระบี่ถูกชักออกจากฝัก จากนั้นกระบี่ขนาดใหญ่ยาวร้อยจั้งก็พุ่งตรงไปยังชายชุดขาว
เสียงกระบี่ชี่ตัดผ่านอากาศ เสียดแทงจนกู่ไห่เจ็บร้าวแก้วหู กระบี่ั์พุ่งเข้าหาชายชุดขาว ด้วยพลังอันไร้เทียมทาน รวดเร็วยิ่ง
ชายชุดขาวไม่มีเวลาจะไปต่อสู้กับเิไท่อีก สิ่งที่ทำได้ก็คือยกดาบขึ้นมา เพื่อกันกระบี่ชี่ ขณะเดียวกัน ใบหน้าของเขาทั้งตื่นตระหนกและบิดเบี้ยวไม่น่าดู
“ไม่!” เสียงร้องอย่างสิ้นหวังดังก้อง ขณะที่ชายชุดขาวฟันดาบขึ้นไปบนท้องฟ้า
ตูม!
เดิมดาบยาวก็ไม่อาจสู้พลังแห่งกระบี่ยาวร้อยจั้งได้อยู่แล้ว ชั่วพริบตา มันก็ะเิทันที ชายชุดขาวได้แต่ร้องเสียงโหยหวน ขณะที่ถูกผ่าออกเป็สองส่วน อวัยวะภายในและเืสาดกระจายทุกทิศทาง ก่อนตกลงไปใต้เวทีสี่เหลี่ยม
"อ๊าก!" เสียงกรีดร้องด้วยความหวาดผวา ดังขึ้นอีกครั้ง
"นี่มันอะไรกัน?" เฉินเทียนซานและคนอื่นๆ หนังศีรษะชาวาบ
ผู้ใดพ่ายแพ้ จะถูกผ่าเป็สองซีก ด้วยกระบี่ชี่ขนาดใหญ่?
กู่ไห่ เกาเซียนจือและเสี่ยวโหรว ต่างมีสีหน้าย่ำแย่ทันที
เสียงกรีดร้องด้วยความหวั่นผวา ดังจากทุกทิศทาง แต่กลับไม่มีใครกล้าหนี
เม็ดหมากบนกระดานถูกจัดเรียงใหม่ ก่อนที่กลหมากจะปรากฏอีกครั้ง
"มาอีกแล้วหรือ? กลหมากกระบี่์ ที่เดิมพันด้วยชีวิต?"
"การถูกเลือกขึ้นไป ไม่ต่างจากกำหนดให้ตาย หากไม่วางหมากภายในสามสิบอึดใจ ตาย! แพ้ ก็ตาย! แล้วเช่นนี้จะทำอย่างไร?”
“ข้าไม่อยากตาย!”
เหล่าคนจิตอ่อนโดยรอบ ต่างพากันขวัญผวา
เมื่อได้ยินคำกล่าวที่น่าตระหนกจากฝูงชน สีหน้าของกู่ไห่ก็เปลี่ยนไป เงยหน้ามองท้องฟ้า... นี่คือค่ายกล?
“ท่านหัวหน้าสังกัด?” เหล่าศิษย์หออี้ผินร้องเรียกอย่างร้อนใจ
เิไท่สูดหายใจเข้าลึก กล่าวว่า "ไม่เป็ไร ตามกฎของมิติแห่งนี้ ศิษย์อี้เทียนเก๋อ ไม่ได้รับอนุญาตให้โจมตีผู้คนจากภายนอก แต่พวกเขากลับละเมิดกฎ ศิษย์อี้เทียนเก๋อที่เหลือต้องรายงานผู้าุโใหญ่แน่ ขอเพียงเรายื้อเวลา รอจนกว่าจะมีคนมาลงโทษพวกเขาก็พอ"
"แต่..." ศิษย์หออี้ผินเอ่ยอย่างลังเล
"กลหมากกระบี่์เดิมพันชีวิต? ข้าก็อยากเห็นเหมือนกัน ว่ากลหมากที่สร้างขึ้นโดยปรมาจารย์หมากอันดับหนึ่งในใต้หล้า อย่างผู้าุโกวนฉี แท้จริงแล้ว ร้ายกาจเพียงใด!" เิไท่พูดเสียงเย็น
ชิ้ง!
ทันใดนั้น กระบี่ยาวหนึ่งร้อยจั้งก็ปรากฏกลางหมู่เมฆ และชี้ตรงไปที่เิไท่ เมื่อรู้สึกได้ถึงรังสีสังหารที่พุ่งเข้าใส่ เิไท่ก็เปลี่ยนสีหน้า รีบวางหมากขาวในมือทันที
ก๊อก!
หมากขาวถูกวางบนกระดาน
"ดูเหมือนว่า หากไม่วางเม็ดหมากภายในสามสิบอึดใจ กระบี่์ก็จะพุ่งลงมา!" ซ่งฉิงซูกล่าว หน้าเปลี่ยนสี
กู่ไห่จ้องกระดานหมากเขม็ง หรี่ตาลง กล่าวว่า "กลหมากกระบี่์เดิมพันชีวิตหรือ?"
ก๊อก!
พลัน เม็ดหมากสีดำที่ดูเหมือนจะถูกดึงขึ้นมา ด้วยแสงแห่งดวงดาว ก็ตกลงบนกระดานหมากล้อม
ทุกคนล้วนจับจ้องเิไท่ เขาหยิบเม็ดหมากสีขาวขึ้นมาเม็ดหนึ่ง พลางมองกระดานเขม็ง จิตใจจดจ่ออย่างสมบูรณ์ กระบี่์แขวนเหนือศีรษะ ราวกับรอเวลาที่จะพุ่งลงมาเบื้องล่าง
หยาดเหงื่อเย็นๆ ผุดพรายบนหน้าผากเิไท่ ดูเหมือนเขาจะกำหนดจุดวางหมากเอาไว้แล้ว แค่ยื้อเวลา จนกระทั่งเกือบครบสามสิบอึดใจ จึงค่อยวาง
ก๊อก!
หมากขาวถูกวางบนกระดาน
ก๊อก!
หมากดำถูกวางตามไปทันที
และรูปหมากก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป
"นี่เป็การประลองหมากกับผู้าุโกวนฉีหรือ?" เฉินเทียนซานมีสีหน้าประหลาดใจ
กู่ไห่มองกระดาน และดูรูปหมากอย่างเงียบๆ
แต่คนอื่นๆ กลับจ้องเิไท่ด้วยความคาดหวัง หลังจากวางหมากไปแล้วสิบแปดเม็ด ใบหน้าชายมีเคราก็ปรากฏแววยินดี
ก๊อก!
หมากขาวเม็ดหนึ่งถูกวางลงไป ชั่วพริบตา หมากสีดำก็ถูกล้อมไว้
"อะไรกัน? หมากดำถูกล้อม?" ผู้ฝึกตนจำนวนนับไม่ถ้วนในหุบเขา โพล่งออกมาอย่างประหลาดใจ
“หมากดำของผู้าุโกวนฉีถูกล้อม? เป็ไปได้อย่างไร?”
"ยอดเยี่ยม! ยอดเยี่ยมยิ่งนัก… หมากดำถูกล้อมเช่นนี้ หรือว่าจะเอาชนะได้?"
"หัวหน้าสังกัดเิจะชนะหรือไม่? ชนะแน่! นี่ก็เป็เพียงกลหมาก ที่ผู้าุโกวนฉีสร้างขึ้นมาโดยมิได้ตั้งใจเท่านั้น อีกทั้งตัวท่านก็สิ้นไปแล้ว
นี่เป็เพียงรูปหมากที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเท่านั้น มิใช่ท่านผู้าุโมาเล่นเองเสียหน่อย หัวหน้าสังกัดเิย่อมชนะอยู่แล้ว เยี่ยมมาก!”
ทุกคนราวกับได้เห็นแสงแห่งรุ่งอรุณ ต่างดีใจจนเนื้อเต้น เมื่อพบความหวังอันริบหรี่ พากันกำหมัดแน่น
ตามคาด เสียงคำรามดังกึกก้องจากเมฆดำบนท้องฟ้า ก่อนที่หมากดำที่ถูกล้อม จะบินมาหาเิไท่คล้ายยอมจำนน
กระบี่์ที่อยู่เบื้องบน พุ่งตรงไปทางเิไท่
"ท่าจะไม่ดีแล้ว!" สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป
โฮก!
ทันใดนั้น เสียงัคำรามดังจากร่างเิไท่ พลังชี่ของเขาเปลี่ยนเป็ัสีน้ำตาลยาวสิบจั้ง หมุนวนรอบร่าง และเผชิญหน้ากับกระบี่์
ครั้งนี้ กระบี่์มิได้พุ่งเข้าทำร้ายเขา แต่กลับถูกัชี่โจมตีและกลืนกิน
โฮก!
ัชี่สิบจั้งกลืนกินกระบี่์ร้อยจั้งเข้าไป และค่อยๆ เติบโตขึ้นทีละนิด
“ดูดกลืนพลังกระบี่เพื่อเสริมพลังตนเอง เช่นนั้นหรือ?” สีหน้าทุกคนเปลี่ยนไปเล็กน้อย
"ยอดมาก! หัวหน้าสังกัดเิใกล้ชนะแล้ว... เขากำลังจะชนะ!" หลายคนส่งเสียงะโให้กำลังใจ
ใบหน้าของเิไท่ ปรากฏแววตื่นเต้นยินดี
ก๊อก! แก๊ก! ก๊อก!
สองฝ่ายยังคงวางหมากต่อไป เิไท่สามารถกินหมากดำได้ ทุกสองถึงสามครั้งที่วางหมาก จำนวนหมากบนกระดานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
โฮกๆๆ!
ัชี่ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ใน่เวลาสั้นๆ มันกลืนกินกระบี่์ไปถึงสิบสามเล่มแล้ว บัดนี้ ัชี่มีความยาวห้าสิบจั้งแล้ว มันส่งเสียงคำรามขึ้นฟ้า ดั่งกำลังต่อสู้กับค่ายกลั์เหนือศีรษะ
ใน่เวลาสั้นๆ เิไท่สามารถกินหมากดำได้ครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับใกล้จะเป็ฝ่ายกุมชัยชนะแล้ว
"หัวหน้าเิ จงเจริญนับหมื่นปี!"
"หัวหน้าเิ กำลังจะชนะแล้ว!"
"เขากำลังจะชนะๆ... ในที่สุดเราก็รอดแล้ว!"
กลุ่มผู้ฝึกตนต่างโห่ร้องด้วยความยินดี ในที่สุด สถานการณ์ก็ดีขึ้น พวกเขากำลังจะชนะแล้ว
รอดแล้ว... เรารอดแล้วใช่หรือไม่? ทุกคนต่างหลั่งน้ำตาด้วยความซาบซึ้ง ขณะมองเิไท่ ศิษย์หออี้ผินต่างตื่นเต้นยินดี
ณ ที่ซึ่งห่างจากฝูงชนไปไม่ไกลนัก กู่ไห่กลับหรี่ตา และพึมพำ "ผิดแล้ว เิไท่เดินพลาดมาั้แ่ต้นแล้ว!"
"อะไรนะ?" เฉินเทียนซานมองอีกฝ่ายด้วยความงุนงง
กู่ไห่ส่ายหน้า มิได้อธิบายแต่อย่างใด
ตามคาด ขณะที่เิไท่กินหมากดำเม็ดที่สิบห้า สีหน้าก็เปลี่ยนเป็ซีดเผือด
"หัวหน้าสังกัดเิ รีบวางหมากเร็วเข้า!" ทุกคนร้องบอกอย่างกังวล
ด้วยชัยชนะหลายครั้งติดต่อกัน ัชี่ของเิไท่ จึงกลืนกินกระบี่์ไปแล้วสิบห้าเล่ม บัดนี้ มันเติบโตขึ้นจนมีความยาวถึงหกสิบจั้งแล้ว พลังอันน่าครั่นคร้าม ถูกปลดปล่อยออกมาเมื่อมันคำราม
แต่เิไท่กลับเหงื่อแตกพลั่ก หมากขาวในมือ ดูเหมือนจะไม่อาจวางได้
“ได้อย่างไร? มันเป็ไปได้อย่างไร?” เิไท่มองกระดานหมากด้วยความหวาดกลัว
“หัวหน้าสังกัดเิ เร็วเข้า!” ทุกคนต่างะโเร่ง
"หุบปาก!" เิไท่ตวาดกลับไปด้วยความโมโห ทำให้ฝูงชนที่กำลังตื่นเต้นยินดีชะงักงัน ต่างมองเขาด้วยความงุนงง
ชิ้ง!
เมื่อเวลาสามสิบอึดใจใกล้หมดลง กระบี่์พลันปรากฏเหนือศีรษะเิไท่ ถึงเวลาแล้ว เขาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากรีบวางหมาก
ก๊อก!
หลังหมากขาวถูกวางลงบนกระดาน หมากดำก็วางตามไปทันที
“สังหารั?” สีหน้าของเกาเซียนจือ เปลี่ยนไปพลัน
"เอ๊ะ! สิ่งใดคือสังหารั? ใช่การสังหารัชี่นั่นหรือไม่?" เสี่ยวโหรวถามด้วยความงุนงง
"ไม่! สังหารัเป็ศัพท์เฉพาะของหมากล้อม หมายความว่าพื้นที่ขนาดใหญ่ ซึ่งหมากขาวของเิไท่ครองอยู่ กำลังจะถูกคู่ต่อสู้ปิดล้อมสังหารแล้ว!" เกาเซียนจืออธิบาย
รูปหมากของหมากดำที่วางลงไปนั้น เป็ไปตามคาด
ฟิ้วๆๆ
หมากขาวจำนวนมากถูกนำออกจากกระดาน เนื่องจากถูกหมากดำล้อมกิน พริบตา สายลมเปลี่ยนทิศ เิไท่ที่เพิ่งจะกินหมากดำไปสิบห้าเม็ด จนดูเหมือนใกล้จะชนะแล้ว มาบัดนี้ทุกอย่างกลับตาลปัตร
เิไท่เดินสิบห้าตา กินหมากดำได้ตาละหนึ่งเม็ด
ทว่าผู้าุโกวนฉี กลับกินหมากขาวสามสิบแปดเม็ดในคราเดียว
ผลลัพธ์ได้ถูกตัดสินแล้ว
หลังจากกินหมากไปสามสิบแปดเม็ด หมากดำก็ชนะขาดลอย บัดนี้ คล้ายหมากขาวจะหมดหนทางแล้ว พริบตาก็พ่ายแพ้ย่อยยับ ถูกทิ้งห่างร้อยลี้
"ไม่!"
"เป็ไปได้อย่างไร? เมื่อครู่หัวหน้าเิยังกินหมากฝ่ายตรงข้ามอยู่เลย!"
"เหตุใดถึงเป็เช่นนี้... เป็เช่นนี้ได้อย่างไร?"
ผู้ฝึกตนจำนวนนับไม่ถ้วน ต่างนิ่งงันเป็ไก่ไม้[1] ขณะมองกระดานหมากด้วยความหวาดหวั่น
ใบหน้าเิไท่ก็หวั่นผวาไม่ต่างกัน เมื่อครู่ ตนถูกเดินหมากสังหารั เช่นนั้นหรือ?
"ฮ่าๆๆๆ... หมากดำชนะ!" เสียงหัวเราะของคุณชายเก้าดังมาจากกลางเมฆดำ
เสียงหัวร่อนั้น เต็มไปด้วยแววดูถูก ราวกับกำลังเหยียดหยามเิไท่
ตูม!
ฉับพลันนั้น กระบี่์สามสิบแปดเล่ม ก็ปรากฏกลางกลุ่มเมฆ
ทันทีที่กระบี่กลุ่มใหญ่ปรากฏ รังสีสังหารอันเข้มข้นก็แผ่กำจายไปทั่ว อากาศก็ดูเหมือนจะถูกรังสีสังหารแช่แข็ง
กระบี่สามสิบแปดเล่มที่เปี่ยมไปด้วยพลัง คล้ายกำลังจะพุ่งเข้าจัดการกับเิไท่ในไม่ช้า
"ไม่! ไอ้สารเลว ข้าคือหัวหน้าสังกัดแห่งหออี้ผิน เ้ากล้าหรือ!" เิไท่ะโด้วยความหวาดผวา
ตูม!
กระบี่สามสิบแปดเล่มพุ่งลงมา แล้วหายนะก็มุ่งไปยังเิไท่
โฮก!
ัชี่ของเิไท่ ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า พร้อมส่งเสียงคำราม ัยาวหกสิบจั้ง ปราดเข้าหากลุ่มกระบี่์ด้วยท่าทีดุดัน
ตูม!
เสียงปะทะดังกึกก้อง เกิดแสงสว่างจ้า จนไม่มีผู้ใดสามารถลืมตาได้ พลังนั้นรุนแรง และทำให้เกิดลมพายุ พัดทุกคนลอยไปในพริบตา
ปัง!
ที่จุดปะทะ เกิดเสียงดังขึ้นไม่หยุด
โฮก!
เสียงคำรามอันโศกเศร้าของัดังขึ้น กู่ไห่เห็นัสีน้ำตาลโผล่ออกจากกลางหายนะนั้น
ตูม!
หลังจากเสียงะเิครั้งสุดท้ายดังขึ้น ทุกอย่างก็เงียบสงัด ผู้ฝึกตนกว่าสองพันคนตะเกียกตะกายลุกขึ้น และมองไปยังกลุ่มควันที่ลอยคละคลุ้งด้วยความกลัว
กระดานหมากยังคงวางที่เดิม หลังจากถูกโจมตีโดยกระบี่์สามสิบแปดเล่ม… เิไท่ยังไม่ตาย!
แต่บัดนี้ เืเนื้อกลับแยกไม่ออก ร่างกายของเขา ราวกับถูกหลายพันกระบี่ตัดเฉือน กำลังนอนอยู่กลางหลุมั์
นอกจากนี้ ในหลุมยังมีโล่สีน้ำตาลอันหนึ่ง แต่โล่นั้น บัดนี้กลับถูกปกคลุมด้วยรอยแตกคล้ายใยแมงมุม
“หัวหน้าสังกัดเิยังมีชีวิตอยู่?”
"นั่นคือโล่ดินศักดิ์สิทธิ์แห่งหออี้ผิน? การป้องกันของมัน ถือว่าแข็งแกร่งที่สุด ในบรรดาอาวุธวิเศษขั้นหยวนอิง!"
"โล่ดินศักดิ์สิทธิ์ปกป้องหัวหน้าสังกัดเิเอาไว้? แต่โล่นั้นแตกแล้ว? คงใช้การไม่ได้อีก?"
ใบหน้าของทุกคนปรากฏแววหวาดกลัว
“ท่านหัวหน้าสังกัด!” เหล่าศิษย์หออี้ผินรีบเข้าไปดูเิไท่ พลางป้อนยาเม็ดหนึ่งให้อย่างรวดเร็ว
“ฟู่!” เิไท่กระอักเืออกมา
เขามองเมฆดำ้าอย่างเกรงกลัว ขณะที่ร่างกายกระตุกเกร็ง ราวกับว่า หากโดนโจมตีอีกแม้เพียงเล็กน้อย ก็อาจตายทันที
เมฆดำกำลังปั่นป่วน "หึ! หัวหน้าสังกัดปฐีแห่งหออี้ผิน แล้วอย่างไร? ครานี้เ้ายังโชคดี เพราะมีโล่ดินศักดิ์สิทธิ์ช่วยไว้ แต่หมากยังไม่จบกระดาน รอก่อนเถอะ... อีกไม่นานก็จะถึงตาเ้าอีกครั้ง ข้าก็อยากเห็นนัก ว่าเ้ามีโล่อยู่กี่อัน!"
ร่างเิไท่สั่นสะท้าน
“ท่านหัวหน้า ตอนนี้เราควรทำอย่างไรดีขอรับ?” ศิษย์หออี้ผินเอ่ย ด้วยความกังวล
ทุกคนมองดูเิไท่ เขาเป็คนเดียวที่รอดชีวิตมาได้ แม้จะาเ็สาหัสก็เถอะ
"ยื้อ... ยื้อเวลาไว้... อี้เทียนเก๋อ ไม่... ไม่มีทาง... เพิกเฉยต่อเื่นี้แน่!" เิไท่พูดอย่างติดๆ ขัดๆ
กล่าวจบ ก็ดูเหมือนจะไม่อาจขยับเขยื้อนได้อีก เพียงเดินกะโผลกกะเผลก หลังจากกินยาเข้าไป
ศิษย์หออี้ผินรีบเข้าไปช่วยเิไท่
ทุกคนต่างมีสีหน้าสิ้นหวัง เมื่อมองเหนือศีรษะตน ยิ่งมีผู้สังเวยชีวิตไปมากเท่าใด การโจมตีของค่ายกล ก็ยิ่งดูน่ากลัวมากขึ้น!
แล้วผู้ใดเล่า จะเป็รายต่อไป?
"ไม่เป็ไร ท่านหัวหน้าบอกให้ถ่วงเวลาเอาไว้ ย่อมได้ผลแน่!" ซ่งฉิงซูะโจากด้านข้าง
ทุกคนต่างพยักหน้า แต่แววตาสิ้นหวังมิได้จางหาย รอการช่วยเหลือจากผู้าุโใหญ่แห่งอี้เทียนเก๋อ? จะเป็ไปได้หรือ?
...
ดินแดนแรกสาบสูญ ทางเข้าห้องโถงใหญ่
ประตูขนาดั์เปิดออก แต่ห้องโถงกลับมืดและเงียบสนิท ไม่มีผู้ใดสามารถมองเห็นด้านใน ชายชุดดำคุกเข่าอยู่นอกห้อง
“ผู้าุโใหญ่ คุณชายเก้าใช้ค่ายกลกระบี่์ ปิดล้อมคนนอกกว่าสองพันคนเอาไว้ ในหุบเขาไร้โศกขอรับ ผู้าุโท่านอื่นพิจารณาเื่นี้แล้ว ทว่ามีความคิดเห็นต่างกันออกไป ผู้าุโใหญ่โปรดตัดสินด้วยขอรับ!” ชายชุดดำกล่าวรายงาน ท่าทางนบนอบ
ภายในโถงใหญ่ที่ทั้งมืดและเงียบสงบนั้น ไม่นาน ก็มีเสียงแ่เบาดังขึ้น
"เื่ของเสี่ยวจิ่ว ข้ารู้แล้ว อี้เทียนเก๋อเรา มิอาจเข้าไปยุ่งกับกิจของคนภายนอก แต่ครานี้พวกเขาล้ำเส้นเกินไป!" เสียงนั้นกล่าวขึ้น
“ผู้าุโใหญ่ เราต้องหยุดคุณชายเก้าหรือไม่ขอรับ?” ชายชุดดำถาม
"ไม่จำเป็ รอจนเื่ที่หุบเขาไร้โศกจบลง ค่อยบอกให้เสี่ยวจิ่วรามือ อีกทั้ง นี่ยังเป็การสั่งสอนคนนอกเ่าั้ด้วย ว่าแม้ท่านประมุขจะจากไปแล้ว แต่อี้เทียนเก๋อเรา ครั้งหนึ่งก็เคยเป็สำนักอันดับต้นๆ ผู้ใดก็ตามที่มาที่นี่ ต้องเกรงใจ!” เสียงแ่เบานั้นกล่าวออกมา
"ขอรับ ผู้น้อยเข้าใจแล้ว!"
...
ภายในหุบเขาไร้โศก
"ไม่ๆๆ... ไม่ใช่ข้าๆ!"
เมื่อลำแสงส่องลงมาปกคลุมชายชุดเทา เขาก็ทรุดตัวลงตรงนั้นด้วยความหวาดผวา
ชายผู้นั้นกำลังพรั่นพรึง มิได้ขึ้นไปบนเวทีวางกระดานหมาก กลับคุกเข่า ร้องขอความเมตตาไปทางเมฆดำ ด้วยความหวั่นกลัว ขอให้เลือกคนอื่นไปเล่นแทน
ตูม!
กระบี่พุ่งลงมาทันที ชายชุดเทาไม่มีเวลาแม้แต่จะส่งเสียง ก็ถูกผ่าออกเป็สองซีก เืเนื้อกระจายเกลื่อนพื้น
ทันใดนั้น ภายในหุบเขา เสียงร้องอย่างตื่นตระหนกก็ดังขึ้นอีกหน ความสิ้นหวังอันไร้ที่สิ้นสุด เข้าปกคลุมหัวใจทุกคน
"สิ้นหวังใช่หรือไม่? ข้าชอบฟังเสียงร้องอย่างอับจนหนทางเหล่านี้ยิ่งนัก... ฮ่าๆๆ! คนต่อไป" เสียงหัวเราะสยดสยอง ดังจากหมู่เมฆสีดำ
วิ้ง!
พลัน ลำแสงอีกสายก็พุ่งลงมาปกคลุมร่างคนผู้หนึ่งไว้
“ซ่งฉิงซู?” เฉินเทียนซานที่อยู่ใกล้ๆ โพล่งออกมาด้วยความใ
แสงนั้นส่องมาที่เขา... ซ่งฉิงซูถูกเลือกให้ตายเป็คนต่อไปหรือ?
"ไม่! หัวหน้าสังกัดเิ ได้โปรดช่วยด้วย… ช่วยด้วย! เหตุใดถึงเป็ข้า? ข้ายังไม่อยากตาย!" ซ่งฉิงซูตะเบ็งเสียง
"ยื้อเวลาไว้! เล่นเหมือนที่ข้าเคยเล่น รอให้คนของอี้เทียนเก๋อมาจัดการ!" เิไท่พูดด้วยความยากลำบาก ปรับลมหายใจ ก่อนทำสมาธิอีกครั้ง
“ถ่วงเวลา?” ซ่งฉิงซูก้าวขึ้นเวทีช้าๆ พร้อมสีหน้าที่ดูไม่ได้
เมื่อเขาขึ้นไปบนเวที ทุกคนต่างก้มหน้า เหมือนกลัวว่าจะเผลอไปสบตาอีกฝ่าย
ซ่งฉิงซูยืนบนเวที มองไปโดยรอบ พร้อมใบหน้าที่ดูน่าเกลียดยิ่ง ไม่ว่าจะหันไปที่ใด ผู้คนมากมายต่างหลบสายตา
“ข้าต้องเลือกคู่ต่อสู้ภายในสามสิบอึดใจ จะเลือกผู้ใดดี?” ซ่งฉิงซูกล่าวอย่างกังวล พลางจ้องเิไท่โดยไม่ได้ตั้งใจ
คิดว่าบางทีอีกฝ่ายคงไม่อาจลงแข่งได้อีก หากเลือกเขา รับรองว่าเิไท่ต้องแพ้แน่ ตนเองก็จะสามารถซื้อเวลาได้อีกหน่อย แต่จะยื้อได้นานแค่ไหน? ยิ่งไปกว่านั้น...
ซ่งฉิงซูเก็บความคิดนี้ลงไป ก่อนจะสอดส่ายสายตาไปทางฝูงชน แล้วสีหน้าก็เปลี่ยนไป เมื่อมองเห็นกู่ไห่และพวก
“กู่ไห่!” ฉับพลันนั้น ดวงตาซ่งฉิงซูก็เบิกกว้างด้วยความโกรธ
“เอ๊ะ!” กู่ไห่ที่อยู่ด้านล่าง ขมวดคิ้วเล็กน้อย
ผู้ฝึกตนรอบๆ ตัวกู่ไห่ ถอยห่างไปทีละคน พริบตา กู่ไห่และพวกก็ถูกทิ้งให้โดดเดี่ยว ท่ามกลางฝูงชน
"ข้าเลือกเขา... ข้าเลือกกู่ไห่!"
วิ้ง!
ลำแสงจากเมฆดำส่องต้องร่างกู่ไห่ กลายเป็ผู้ที่ถูกเลือกทันที
"เ้าหนุ่ม… รีบไปบนเวที มิฉะนั้น กระบี่์จะพุ่งลงมาผ่าร่างเ้าเป็สองซีก!" มีคนร้องเตือนด้วยความหวังดี
"ซ่งฉิงซู บังอาจนัก! เ้า้าให้ท่านหัวหน้าตายใช่หรือไม่?" สีหน้าเฉินเทียนซาน เปลี่ยนไปทันควัน
ซ่งฉิงซูมีสีหน้าดุร้าย ขณะตอบกลับ “ผู้ใดถูกเลือกล้วนต้องตาย มาดูกัน ว่าข้าหรือเขาจะตายก่อน!
หึ! กู่ไห่… เ้ายอมรับชะตากรรมเสียเถอะ แม้ทักษะเดินหมากของข้า จะเทียบท่านหัวหน้าสังกัดเิมิได้ แต่กับเ้า ที่ไม่ได้เล่นกับผู้ใดเลย ใน่สามสิบปีมานี้ ข้าย่อมเหนือกว่าแน่... เ้าจงตายไปเสีย! ข้าอยากให้เ้าตายนัก!"
รอยยิ้มเ็าปรากฏบนใบหน้ากู่ไห่ “ซ่งฉิงซู ข้าให้โอกาสเ้าไปแล้วสามครั้ง... และนี่ถือเป็ครั้งที่สี่!”
กู่ไห่ค่อยๆ ย่างเท้าขึ้นไปบนเวที
"เ้าคิดว่าคนที่ไม่ได้เล่นหมากกับผู้ใดเลย ใน่สามสิบปีอย่างเ้า จะสามารถเอาชนะข้าได้ เช่นนั้นหรือ?" ซ่งฉิงซูตอบเสียงเย็น
...
นอกดินแดนแรกสาบสูญ บนเรือเหาะไป๋อวิ๋น
หลงหว่านชิงและไต้ซือหลิวเหนียน กำลังเดินหมากกันอยู่
"ไม่ถูก! ไต้ซือ… กู่ไห่กล่าวว่า เขาไม่ได้เดินหมากกับผู้ใดมาสามสิบปีแล้ว มิใช่เป็การพูดเพื่อตัดบทข้า ใช่หรือไม่? เหตุใดกลยุทธ์ของเขาถึงได้แข็งแกร่งขนาดนั้น?" หลงหว่านชิงขมวดคิ้ว พลางถาม
ไต้ซือหลิวเหนียนตอบ พร้อมส่ายหน้า "เขามิได้เจตนาตัดบทท่าน เพียงแต่ไม่้าจะชนะท่านเท่านั้น!"
“เช่นนั้นเขาก็โกหก ใช่หรือไม่?” หญิงสาวย่นหัวคิ้ว ก่อนถามกลับ
“หามิได้! เพียงแต่ท่านไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูดทั้งหมด ก็เท่านั้น!” ไต้ซือหลิวกล่าว พร้อมส่ายหน้า และยกยิ้ม
“โอ้?”
"เขามิได้เดินหมากกับผู้ใดมาสามสิบปี หาใช่ มิได้จับหมากมาสามสิบปีเสียหน่อย!" ผู้ทรงศีลกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“นั่นไม่เหมือนกันหรอกหรือ?” หลงหว่านชิงถามอย่างงุนงง
“ไม่เหมือนกัน!” ไต้ซือหลิวเหนียนกล่าว พลางส่ายหน้า
------------------------------------
[1] นิ่งงันเป็ไก่ไม้ เป็สำนวน หมายถึง ชะงักค้างด้วยความตกตะลึงหรือตื่นตระหนก จนแข็งทื่อราวกับไม้ที่แกะสลักเป็รูปไก่
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้