อาหารบนโต๊ะอาหาร ถูกฉินหลางกวาดเรียบราวกับพายุหมุนแล้ว! เขาก็เหมือนกาฝากขนาดใหญ่ ทุกที่ที่ตะเกียบของเขาผ่าน ไม่เหลือกับข้าวเลยแม้แต่ชิ้นเดียว!
เวลานี้ถึงแม้ฮานเซียนกับโซ่งเหว่ยจะไม่อิ่มก็ไม่ได้แล้ว เพราะกับข้าวบนโต๊ะอาหารถูกฉินหลางกินไปหมดแล้ว!
“ในเมื่อทุกคนกินอิ่มกันหมดแล้ว งั้นเช็กบิลกันเถอะ เดี๋ยวค่อยไปนั่งเล่นที่อื่นกันต่อ?” โซ่งเหว่ยตัดสินใจว่าจะรีบเช็กบิลจะได้ไม่ต้องคอยระแวงอีก เ้าฉินหลางกินเยอะมากจริงๆ และที่สำคัญแต่ละอย่างที่กินราคาเหยียบหมื่นทั้งนั้นเลย นั่นทำให้โซ่งเหว่ยเริ่มอยากฆ่าฉินหลางแล้วด้วยซ้ำ ดังนั้นโซ่งเหว่ยจึงตั้งใจว่า เดี๋ยวเช็กบิลเสร็จแล้วเื่แรกที่เขาจะทำก็คือกันฉินหลางออกไป!
เห็นเถารั่วเซียงกับกับฮานเซียนพยักหน้าแล้ว โซ่งเหว่ยจึงบอกพนักงานบริการที่อยู่ข้างๆ ให้เช็กบิลเลย
ผ่านไปครู่หนึ่ง พนักงานบริการก็กลับมา แต่กลับไม่ได้ยื่นบิลให้โซ่งเหว่ย แถมยังเอาอาหารมาเสิร์ฟเพิ่ม พนักงานบริการเอารังนกชั้นดีมาเสิร์ฟให้ทุกคนอีกคนละหนึ่งชาม
“นี่—น้องสาว! นี่เธอทำจะอะไร! ฉันบอกให้เช็กบิลไม่ใช่เหรอ เธอเอาพวกนี้มาเสิร์ฟอีกทำไม โกงลูกค้าเหรอ! เดี๋ยวฉันจะร้องเรียนเธอ! ร้องเรียนภัตตาคารของพวกเธอ!”
เดิมทีโซ่งเหว่ยก็จวนจะกระอักเือยู่แล้ว ตอนนี้เห็นว่าพนักงานบริการเอารังนกชั้นดีมาเสิร์ฟอีก จึงเหมือนมีคนเอาเกลือมาทาบนแผลของเขา ดังนั้นโซ่งเหว่ยจึงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ เดือดใส่น้องพนักงานบริการ
“ขอโทษค่ะคุณผู้ชาย คุณเข้าใจผิดแล้ว!” น้องพนักงานบริการสาวรีบอธิบาย “รังนกนี่เ้านายสั่งให้เอามาโดยเฉพาะค่ะ เพื่อมอบให้แขกผู้มีเกียรติของเรา”
ได้ยินคำว่า ‘แขกผู้มีเกียรติ’ อารมณ์โมโหของโซ่งเหว่ยก็หายไปทันที เขารู้สึกว่าตัวเองเป็คนมีหน้ามีตามาก เพราะเขารู้ว่าเ้าของภัตตาคารห้องโถงชั้นหนึ่งชื่อหยีเฉิงิ เป็พี่ใหญ่ของธุรกิจร้านอาหารในเมืองเซี่ยหยาง และมีชื่อเสียงมากในวงการธุรกิจร้านอาหารมณฑลผิงชวน มีทรัพย์สินหลายพันล้าน ไม่ใช่คนที่โซ่งเหว่ยจะเทียบชั้นได้แน่นอน สำหรับคนอย่างหยีเฉิงิ โซ่งเหว่ยอยากทำความรู้จักด้วยตั้งนานแล้ว แต่กลับไม่เคยมีโอกาสเลย ดังนั้นโซ่งเหว่ยจึงคิดไม่ถึงว่า เถ้าแก่หยีจะเริ่มสนใจเขาแล้ว และที่สำคัญยังเห็นเขาเป็ ‘แขกผู้มีเกียรติ’ แล้วยังให้คนเอารังนกชั้นดีมาให้อีก นั่นเท่ากับให้เกียรติโซ่งเหว่ยเต็มที่แล้ว!
“อีกอย่าง อาหารของพวกคุณ ก็มีคนจ่ายไปเรียบร้อยแล้วค่ะ” พนักงานบริการพูดขึ้นอีก นั่นทำให้โซ่งเหว่ยรู้สึกว่าความสุขของเขามาเร็วจริงๆ ดีใจจนอึ้งเล็กน้อย
“โอ้โห—ที่รักคะ คุณนี่มีหน้ามีตาจังเลยนะคะ! นอกจากจะมีคนมาแย่งจ่ายแล้ว เ้าของภัตตาคารยังให้คนเอารังนกชั้นดีมาให้อีก ฉันนี่ช่างสายตาดีจริงๆ เลย ถ้าไม่อย่างนั้นจะชอบคุณได้ยังไงล่ะคะ เธอว่าจริงไหม เซียงเซียง?” ฮานเซียงเข้าไปเกาะไหล่โซ่งเหว่ยอย่างยั่วยวน เธอดูได้ใจจนปิดไม่อยู่แล้ว
ทว่าในเวลานี้เอง คำพูดถัดไปของน้องพนักงานสาวกลับทำให้โซ่งเหว่ยกับฮานเซียนตกจากฟ้าลงไปในนรก
“คุณฉินคะ เ้านายบอกฝากมาบอกว่า ยินดีต้อนรับคุณกับเพื่อนๆ ของคุณมาบ่อยๆ นะคะ! คุณเป็แขกผู้มีเกียรติระดับสูงของพวกเรา ถ้าหากพวกเราขาดตกบกพร่องตรงไหน ได้โปรดอย่าถือสานะคะ!”
แน่นอนว่าประโยคนี้พนักงานบริการหันไปพูดกับฉินหลาง
ฮานเซียนกับโซ่งเหว่ยตะลึงงัน! กลายเป็หิน! งงงง!
นี่เป็การตบหน้าของพวกเขาชัดๆ และยังเป็ ‘ตบบ้องหู’ อย่างแรง ราวกับยอดฝีมือจากนอกโลก นอกจากจะมาอย่างรวดเร็วและรุนแรงแล้ว ยังมาในเวลาที่ฮานเซียนกับโซ่งเหว่ยไม่ทันตั้งตัว ไม่มีโอกาสจะหลบเลี่ยงได้เลย!
เดิมทีทั้งคู่กำลังได้ใจราวกับกำลังล่องลอยอยู่กลางอากาศ!
อย่างน้อย 2 นาที กว่าทั้งคู่จะกลับมามีสติอีกครั้ง เพื่อให้หน้าแตกน้อยลง ฮานเซียนจึงพูดขึ้นว่า “ฉันคิดว่าคนที่ช่วยจ่ายแทนโซ่งเหว่ยให้เอามาเสิร์ฟด้วยซะอีก”
“ฮึๆ…ฉันก็เข้าใจอย่างนั้นเหมือนกัน” โซ่งเหว่ยพยักหน้าเออออตาม
โซ่งเหว่ยเพิ่งพูดจบ ก็เหมือนชายหัวล้านคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องพิเศษ โซ่งเหว่ยมองเห็นชายหัวล้าน ก็รีบยืนขึ้นพร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เถ้าแก่หม่านี่เอง—เถ้าแก่หม่าช่างเป็คนใจป้ำจริงๆ ให้เกียรติน้องเต็มที่มาก! ขอบคุณที่ช่วยจ่ายนะครับ”
โซ่งเหว่ยรู้ว่าชายหัวล้านก็คือหม่าหงเลี่ยง เพราะเขาทำธุรกิจกับหม่าหงเลี่ยงบ่อยครั้ง แต่ที่โซ่งเหว่ยสนใจจริงๆ คือเส้นสายในวงการนักเลงในเมืองเซี่ยหยางของหม่าหงเลี่ยง ดังนั้นโซ่งเหว่ยจึงให้เกียรติหม่าหงเลี่ยงเป็พิเศษ เพราะยังมีหลายๆ อย่างที่โซ่งเหว่ยยังต้องให้หม่าหงเลี่ยงช่วยอยู่
สำหรับความให้เกียรติของโซ่งเหว่ย หม่าหงเลี่ยงกลับพยักหน้ารับเท่านั้น จากนั้นไปยืนอยู่ข้างๆ ฉินหลางอย่างระมัดระวัง พูดอย่างนอบน้อมว่า “พี่ฉิน เมื่อกี้เห็นพี่กินข้าวอยู่ ผมเลยไม่กล้าเข้ามากวน—เื่ครั้งก่อน หวังว่าพี่จะไม่ถือโทษโกรธเคืองผมนะครับ”
โซ่งเหว่ยอึ้งอีกครั้ง และครั้งนี้อึ้งมากด้วย เราไม่เข้าใจว่าเด็กมัธยมที่เอาแต่กินตรงหน้าเขาเป็ใครมาจากไหนกันแน่ ถึงทำให้นักธุรกิจที่มีพื้นหลังในวงการนักเลงอย่างหม่าหงเลี่ยงนอบน้อมถ่อมตน และให้เกียรติเขามากขนาดนี้! ไม่น่าล่ะ เ้าของภัตตาคารห้องโถงชั้นหนึ่งถึงให้คนเอารังนกชั้นดีมาเสิร์ฟเป็ของว่างหลังอาหาร!
ฮานเซียนก็อึ้งเช่นกัน เขาก็คิดเหมือนโซ่งเหว่ย คิดว่าฉินหลางเป็แค่เด็กที่เอาแต่กินเหมือนกัน เป็คนที่เถารั่วเซียงพามากินข้าวฟรีเท่านั้น แต่คิดไม่ถึงว่าเด็กมัธยมคนนี้จะมีพื้นหลังแบบนี้ หยีเฉิงิเป็ถึงเ้าของภัตตาคารห้องโถงชั้นหนึ่ง ฮานเซียนรู้ว่าเขาเป็ใคร เพราะชื่อของคนมีเงินเขาจะจำได้ค่อนข้างแม่น ถ้าได้ยินผ่านหูก็จะไม่ลืมเลย โดยเฉพาะคนที่มีทรัพย์สินมากกว่าพันล้าน นอกจากนี้ ฮานเซียนก็รู้ว่าหม่าหงเลี่ยงเป็ใครด้วยเช่นกัน เพราะเธอมักจะได้ยินโซ่งเหว่ยพูดถึงชายหัวล้านคนนี้ว่าเก่งกาจแค่ไหนอยู่เป็ประจำ ว่าในเมืองเซี่ยหยางเขามี ‘เส้นสาย’ เยอะขนาดไหน แต่ว่าทั้งสองคนนี้ กลับนอบน้อมมาก และให้เกียรติฉินหลางมากขนาดนี้ แล้วเด็กหนุ่มตรงหน้าเป็ใครมาจากไหนกันแน่? เป็ลูกมหาเศรษฐีเหรอ? หรือเป็ทายาทมหาอำนาจ?
ฮานเซียนเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อฉินหลางอย่างรวดเร็ว แต่เธอคิดไม่ถึงว่าต่อจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าใมากกว่า
หม่าหงเลี่ยงเพิ่งพูดจบ ก็เห็นชายวัยกลางคนอีกคนเดินเข้ามาในห้องอาหาร เขาพูดกับฉินหลางด้วยรอยยิ้มว่า “คุณฉินก็มาทานข้าวที่นี่เหมือนกันเหรอครับ บังเอิญจริงๆ เลย—พนักงานบริการ ค่าอาหารโต๊ะนี้คิดรวมกับโต๊ะของฉันก็แล้วกัน”
“ผู้อำนวยการสำนักงานเลขาธิการรัฐมนตรีเฉิน” หม่าหงเลี่ยงกับโซ่งเหว่ยพูดขึ้นพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย
ทั้งคู่ล้วนทำธุรกิจอยู่ในเมืองเซี่ยหยาง จะไม่รู้จักเฉินจิ้นหยงผู้อำนวยการสำนักงานเลขาธิการรัฐมนตรีได้ยังไง ต้องรู้ว่าเขาเป็คนนายกเทศมนตรีโดยตรง ถ้าผูกมิตรกับเขาได้ ไม่แน่อาจจะมีโอกาสรู้จักกับนายกเทศมนตรี อยู่ในเมืองเซี่ยหยางคนแบบนี้ค่อนข้างจะมีอิทธิพล ออกมากินข้าวเขาก็ไม่ต้องจ่ายเองอยู่แล้ว แต่คนอย่างเฉินจิ้นหยง กลับจะมาจ่ายให้เ้าเด็กนี่ งั้นเ้าหมอนี่เป็คนระดับไหนกันแน่นะ
หม่าหงเลี่ยงจ่ายให้ฉินหลาง เพราะครั้งก่อนที่เขามีเื่ผิดใจกับฉินหลางแล้ว เขาระแวงจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ เขาถามหลายๆ สาย ถึงได้รู้ว่าความจริงแล้วฉินหลางเป็ลูกพี่ใหญ่ของฮานซานฉางกับกระทิง เพราะมีฉินหลางช่วยวางแผนให้ ฮานซานฉางกับกระทิงถึงได้เป็พี่ใหญ่ในเมืองเซี่ยหยาง ดังนั้นหลังจากที่มีปัญหากับฉินหลางแล้ว หม่าหงเลี่ยงต้องอยู่กับความหวาดระแวงมาตลอด เขาอยากจะหนีไปจากเมืองเซี่ยหยาง แต่ก็เสียดายพื้นฐานในเมืองเซี่ยหยางที่เขาสร้างมาด้วยความยากลำบาก คืนนี้ฟ้าประทานโอกาสให้เขาได้ทำคุณไถ่โทษ และมีโอกาสได้ขอโทษฉินหลาง
ทว่าหม่าหงเลี่ยงคิดไม่ถึงว่าคนอย่างเฉินจิ้นหยงจะเสนอตัวจ่ายค่าอาหารให้ฉินหลาง เขาพูดในใจว่าเ้าหมอนี่เก่งกาจเกินไปแล้ว มีเส้นสายทั้งสายขาวสายดำเลย! แต่สำหรับหม่าหงเลี่ยงแล้วนี่ถือเป็โอกาสที่หาได้ยาก เขาจึงรีบพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ผู้อำนวยการเฉินครับ ค่าอาหารของคุณฉินผมจ่ายเรียบร้อยแล้วครับ ถ้าผอ.เฉินให้เกียรติ ค่าอาหารโต๊ะคุณผมขออนุญาตจ่ายด้วยนะครับ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้