การหายใจอยู่บนธารน้ำแข็งที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลกว่าสองพันเมตรนั้นคือความรู้สึกแบบไหนในชีวิตของผู้คนส่วนมาก คงอาจจะไม่สามารถรับรู้ได้
อากาศเบาบาง การหายใจติดขัด เป่าลมใส่มือสักรอบเพียงชั่วพริบตาก็สามารถเห็นเศษน้ำแข็งบางๆ บนมือได้แล้ว
แม้ว่าจะมีร่องรอยของหน้าร้อนอยู่ แต่ว่าที่ขั้วโลกเหนือฤดูกาลนั้นไม่ได้แบ่งกันอย่างชัดเจนอย่างน้อยบนเขาก็ทำให้รู้สึกเย็นจมูกจนไม่อาจััได้ถึงหน้าร้อนแม้แต่นิดเดียว
แหล่งน้ำไหลเบาๆ ดังขึ้นมาที่ข้างหู หลินลั่วหรานขยับเท้าออกก่อนจะคิดอย่างเข้าข้างตัวเองเต็มที่อย่างน้อยในหน้าร้อนก็ทำให้น้ำแข็งกลายเป็น้ำและนี่ก็เป็สิ่งที่ต่างกันของหน้าหนาวและหน้าร้อนของขั้วโลกเหนือ
ในหน้าร้อนบนน้ำแข็งนั้นสามารถเกิดสิ่งมีชีวิตขึ้นมาได้ดังนั้นฝูงแกะและฝูงกวางจึงสามารถใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ได้ แต่ว่าที่บนเขาน้ำแข็งนี้มันคือโลกที่เต็มไปด้วยสีขาวทั้งใบ แม้แต่ร่องรอยของสัตว์สักตัวก็ยังไม่มี
ในตอนนี้เมื่อได้ยินเสียงน้ำขึ้นมา หลินลั่วหรานก็เลยเดินไปตามเสียงนั้น
ในหน้าร้อนทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น น้ำแข็งหิมะละลายลง น้ำจากหิมะเล็กๆก็รวมกันกลายเป็แม่น้ำ สิ่งที่หลินลั่วหรานพบเจอก็คือแม่น้ำสายหนึ่ง
แม่น้ำเล็กใสแจ๋วจนเห็นถึงด้านล่างใต้แม่น้ำเต็มไปด้วยหินกรวดที่ถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนเกลายเป็ก้อนกลมราบรื่นนอนนิ่งอยู่เมื่อแสงอาทิตย์ฉายลงมายังผิวน้ำ คลื่นแสงใสสะอาด ทำให้พวกก้อนกรวดกลมเ่าั้ดูน่ารักสดใสขึ้นมา
หลินลั่วหรานเดินไปตามแม่น้ำ บนผืนดินถูกปกคลุมไปด้วยมอสนุ่มมันเป็อาหารที่กวางขั้วโลกชอบกินที่สุดแล้ว เมื่อเหยียบลงไปก็ให้ความรู้สึกนุ่มชวนให้สบาย
ยิ่งเดินไป ใจของเธอก็ยิ่งสงบลง แม่น้ำเล็กที่ไหลผ่านอยู่บนเขาน้ำแข็งถ้าหากว่าเธอมีกล้องถ่ายรูปอยู่ในมือตอนนี้ เธอก็คงจะต้องถ่ายภาพเก็บเอาไว้
ในตอนที่หลินลั่วหรานถอนหายใจออกมานั้นสายตาก็เหลือบไปเห็นแสงสีเงินที่ประกายขึ้นมาจากกลางแม่น้ำเพียงชั่วอึดใจก็พุ่งผ่านเท้าของเธอไปอย่างรวดเร็ว
เอ๋ ในน้ำที่เย็นขนาดนี้ มีปลาอยู่ด้วยเหรอ?
ด้วยสายตาของหลินลั่วหราน สามารถที่จะเห็นร่างกายของมันผ่านไปเพียงพริบตาหน้าตาเป็อย่างไรก็ยังมองเห็นได้ไม่ชัด รวดเร็วมากจริงๆ!
หลินลั่วหรานเริ่มจะสนใจขึ้นมา จึงรีบวิ่งตามไปทันที
ปลาตัวน้อยะโอยู่ที่กลางแม่น้ำ พุ่งไปมาราวกับสายฟ้าความเร็วของหลินลั่วหรานพุ่งขึ้นถึงขีดสุดแต่ก็สามารถเห็นไปเพียงเงาร่างของมันที่ะโขึ้นมาในบางครั้งเท่านั้นหลินลั่วหรานตามเสียจนแทบจะกระอักเื และเข้าลึกลงไปในเขาเรื่อยๆก่อนจะถูกความอบอุ่นที่ต่างออกไปทำเอาใจนหยุดฝีเท้าลง
เธอเองก็จำไม่ได้ว่าเดินมานานเท่าไรดูเหมือนว่าจะข้ามเขาน้ำแข็งลูกนั้นมาแล้วจนมาถึงยอดเขาที่เตี้ยกว่าเล็กน้อยอีกลูก นี่เป็ส่วนหุบเขาของูเาน้ำแข็ง สายน้ำของแม่น้ำแข็งไหลไปรวมกันที่สายน้ำกลางป่า โดยไร้เส้นทางอื่นปลาประหลาดนั่น ก็น่าจะซ่อนตัวอยู่ในนั้นใช่ไหม?
หลินลั่วหรานรู้สึกว่าที่นี่หนาวมากแต่ก็ไม่ได้ถอดใจ ตามทฤษฎีแล้วสถานที่ที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากๆ มักจะมีอุณหภูมิที่ต่ำกว่าพื้นที่ต่ำๆแต่ว่าบนเขาสูงนี้ หิมะกลับละลายหมดแล้วแต่ทำไมบนพื้นผิวแม่น้ำกลับยังคงประดับไปด้วยชั้นน้ำแข็ง?
ในตอนแรกหลินลั่วหรานคิดว่าเพราะที่นี่ระบายอากาศได้ไม่ดีนักด้วยอากาศเย็น จึงทำให้เป็แบบนั้น แต่เมื่อเธอเข้าไปใกล้กับแม่น้ำแล้วก็ได้พบว่าความจริงแล้ว อากาศเย็นๆ นั้น ถูกส่งมาจากกลางแม่น้ำแห่งนี้ในส่วนอื่นของหุบเขา กลับไม่ได้หนาวเย็นมากนัก
นี่มันน่าประหลาดจริงๆ หลินลั่วหรานลังเลสงสัยอยู่ข้างแม่น้ำ
แม่น้ำนี้ก็มีจุดที่แปลกออกไป ตรงไหนกันนะที่ต่างไปจากปกติ?
ชั้นน้ำแข็งหนา เมื่อหลินลั่วหรานขึ้นมายืนก็ยังปลอดภัยอยู่เธอเดินเข้าไปในแม่น้ำลึกขึ้น ก่อนจะพบว่าใจกลางของแม่น้ำเย็นมีไอควันลอยขึ้นมาร่างที่ยาวราวกับตะเกียบะโขึ้นสูงเหนือน้ำขึ้นมากว่าสามฟุต นั่นคือปลาประหลาดที่มีความเร็วสูงตัวนั้น!
หลินลั่วหรานดีใจขึ้นมาจนเผลอลืมเื่ควันที่ลอยขึ้นมาจากใจกลางแม่น้ำไปชั่วขณะ แล้วะโพุ่งตัวตามไปเมื่อลอยอยู่กลางอากาศเธอก็สังเกตเห็นว่าใจกลางของแม่น้ำนั้นไม่ได้เป็น้ำแข็งแต่กลับมีไอร้อนๆ ถูกส่งออกมา เมื่อปลายเท้าของหลินลั่วหรานััลงที่ชั้นน้ำแข็งก็ได้ยินเสียงดัง “แกรก” ขึ้นมาอย่างชัดเจนที่แท้น้ำแข็งในบริเวณใจกลางแม่น้ำนี้ก็บอบบางกว่าบริเวณอื่น! ไอร้อนที่พุ่งขึ้นมานั้น ความจริงแล้วอุณหภูมิของน้ำบริเวณใจกลางนั้นร้อนอย่างนั้นเหรอ?
เธอเหยียบลงบนชั้นน้ำแข็งที่แตกอย่างไม่ทันได้ระวัง ความจริงแล้วเมื่อเทียบกับความสามารถของเธอก็ไม่ได้เป็อะไร เพียงเด้งตัวขึ้นมา ก็สามารถะโออกมาได้แล้ว แต่ในตอนนั้นเองปลาประหลาดสีเงินตัวนั้นก็ะโขึ้นมาเหนือผิวน้ำอีกครั้งก่อนจะกัดลงที่นิ้วของหลินลั่วหรานโดยไม่มีเหตุผล ฟันของมันแหลมคมจนเกิดเป็รอยรูเล็กๆ สองรูบนนิ้ว
หลินลั่วหรานโมโหมาก ก่อนที่เธอจะรู้สึกชาไปทั่วทั้งร่างในชั่วพริบตา
ในตอนนั้นเธอะโขึ้นมาจากน้ำแข็งที่แตกออก แต่อยู่ๆกลับชาไปทั่วทั้งตัว ทำให้เธอหมดแรงลง ตัวของเธอจึงตกลงไปในแม่น้ำ
ปลาประหลาดสีเงินที่เข้ามากัดเธอ หายไปอย่างไร้ร่องรอยหลินลั่วหรานจมลงในน้ำไม่รู้ว่าตัวเองควรจะรู้สึกอย่างไรก่อนหน้านี้เธอเพิ่งจะพูดไปว่าการแช่น้ำร้อนที่ขั้วโลกเหนือนั้นเป็เื่ที่หาพบได้ยากแต่ว่าน้ำในแม่น้ำแห่งนี้ ก็ร้อนไม่ใช่หรือไง?
แน่นอน ว่าถ้าไม่ใช่เพราะตอนนี้ตัวของเธอชาไปทั้งตัว จนไม่อาจจะขยับเคลื่อนไหวได้มันก็คงจะเป็เื่ที่น่าสนุกทีเดียว
หลินลั่วหรานรู้สึกว่าตัวเองตัวอ่อนไปหมดเธอพยายามบังคับสร้างเกราะน้ำขึ้นมา ก่อนที่ตัวของเธอจะจมลงสู่ส่วนลึกของแม่น้ำ
ไม่รู้ว่านั่นเป็ตัวประหลาดอะไร เพียงการกัดเพียงครั้งเดียว ก็ทำให้นักปราชญ์แข็งแกร่งอย่างหลินลั่วหรานชาไปทั่วทั้งร่างหลังจากสร้างเกราะน้ำปกป้องตัวเองเสร็จ แม้แต่จะร่ายเวทเธอก็ยังไม่สามารถจะทำได้และจมลงไปในส่วนลึกราวกับก้อนหิน
เธอด่าปลาประหลาดอยู่ในใจหลายครั้ง หลินลั่วหรานพยายามที่จะลืมตาขึ้นลืมตาขึ้นมองตัวเองที่หนักอึ้ง และจมลงเรื่อยๆแม้จะมีเกราะน้ำกันอยู่แต่ก็รับรู้ได้ว่า ยิ่งลึกลงไปเท่าไรอุณหภูมิก็ยิ่งสูงมากขึ้นเท่านั้น น้ำอุ่นๆ ในตอนแรกก็ค่อยๆ กลายเป็น้ำร้อนเดือด
ความรู้สึกอยากจะนอนเข้าครอบคลุมหลินลั่วหรานรู้สึกว่าเปลือกตาของตัวเองหนักอึ้ง จนไม่อาจจะยกมันขึ้นมาได้อีกและหลับตาลงโดยไม่ทันได้รู้ตัว ความคิดที่ดีที่สุดนั้นมีความตื่นตาตื่นใจซ่อนอยู่ ในน้ำที่ร้อนขึ้นเรื่อยๆ นี้ส่วนท้ายแล้วตัวเธอจะเป็เหมือนกับซุปปลาที่ทำตอนที่เพิ่งมาถึงฝั่งหรือเปล่านะ?
หลินลั่วหรานฝันเห็นภาพของตัวเอง ที่นอนอาบแดดอยู่บนเก้าอี้หินในขณะที่หลับตาพริ้มเตรียมจะนอน เสี่ยวลั่วตงก็วิ่งเข้าไปในอ้อมกอดของเธอพร้อมด้วยรอยยิ้ม เมื่อตัวของเธอสั่นไหวขึ้น ความง่วงที่มีก็หายไปจนหมด!
แต่ในความจริงนั้น หลินลั่วหรานที่กำลังหลับใหลถูกความฝันทำเอาสะดุ้งตื่นขึ้นมา ก่อนจะพบว่าตัวเองยังคงนอนอยู่ในเกราะน้ำไม่ได้มีเสี่ยวตงอยู่ในอ้อมกอด แต่กลับเป็ปลาน่าเกลียดที่กัดเธอกำลังชนเกราะน้ำเล่นอยู่ภายนอก
แม้ว่าร่างกายของมันจะเล็กนิดเดียว แต่กลับกัดคนได้อย่างรุนแรงแต่แรงที่ใช้พุ่งชนเกราะน้ำนี้ ก็มากมายมากเช่นกันหลินลั่วหรานรู้สึกว่าแขนขาของเธอมีแรงขึ้นมาแล้วจึงทำหน้าตาบูดบึ้งใส่มันจากในเกราะน้ำ จนทำเอาประหลาดที่มีครีบหลังสีเงินร่างกายโปร่งใส ดวงตากลมโตนั้น ใว่ายหนีไป
ก่อนที่จะพิจารณาไปยังบริเวณรอบๆ เธอจะต้องอยู่ที่ก้นแม่น้ำไม่ผิดแน่เพราะว่าเมื่อเงยหน้าขึ้นมอง ก็ยังสามารถเห็นคลื่นแสงที่อยู่บนผิวน้ำได้อยู่ดูเหมือนว่าตอนนี้ฟ้าจะมืดลงแล้ว แต่ท้องของเธอกลับไม่ได้รู้สึกหิวขึ้นมาคาดว่าเธอจะหลับไปไม่ได้นานนัก
ปลาประหลาดสีเงินว่ายน้ำหนีไปอย่างไร้ร่องรอย ด้วยความเร็วของมันทำให้หลินลั่วหรานยังไม่ทันจะได้แก้แค้นอะไร เมื่อพูดแล้วเธอก็ยังประหลาดใจอยู่ในตอนนี้พลังในกายเป็ปกติแล้ว เธอจึงได้แต่ปลอบตัวเองว่าไม่ได้ลำบากไปกว่านี้ก็ดีแล้ว
เมื่อได้พบปลาประหลาดที่สามารถเคลื่อนไหวใต้น้ำร้อนเดือดได้กลับไปก็คงจะได้เล่าให้พ่อฟัง การปีนเขาน้ำแข็งขึ้นมาในครั้งนี้ก็ไม่ได้เสียเปล่าแล้ว
หลินลั่วหรานมองในแง่ดี ก่อนที่จะเตรียมว่ายขึ้นไปจากก้นแม่น้ำร้อนแห่งนี้ค่ำคืนของขั้วโลกเหนือนั้น เมื่อคิดจะมาก็มา ทั่วทั้งแม่น้ำไร้ซึ่งแสงไฟ ดังนั้นอย่าได้พูดถึงที่ก้นแม่น้ำเลย
ในความมืดมิดนั้น หลินลั่วหรานกลับพบว่าด้านล่างของเกราะน้ำมีแสงสีฟ้าเปล่งประกายขึ้นมา
หลินลั่วหรานตั้งใจมองไปชัดๆ ที่แท้มันก็คือหญ้าต้นน้อยๆที่พลิ้วไหวไปตามน้ำ มันมีใบเล็กแหลมอยู่เพียงห้าใบเท่านั้น ในแม่น้ำร้อนเดือดแบบนี้ก็ถือว่าเติบโตมาได้ดีอยู่ใช่ไหม?
เธอััลงที่ใบประกายแสงสีฟ้าของมันผ่านเกราะน้ำแต่กลับเกือบจะโดนความหนาวเย็นแช่แข็งนิ้วมือ!
นี่มันอยู่ในน้ำร้อนชัดๆ แต่ทำไมมันถึงเย็นเฉียบได้ขนาดนี้ล่ะ?
หลินลั่วหรานอ้ำอึ้ง ก่อนจะใช้สายตาเฉียบคมของเธอเข้าไปสำรวจแล้วก็ต้องยกมือขึ้นมาปิดปาก พร้อมทั้งหยิกขาของตัวเองแรงๆ เจ็บจะตายอยู่แล้ว นี่ไม่ใช่ความฝันนี่!
พลังที่บริสุทธิ์ขนาดนี้ในพื้นที่ลึกลับของหลินลั่วหรานนั้นเต็มไปด้วยสมุนไพรวิเศษมากมายแต่ว่าก็ไม่เคยเห็นสมุนไพรแบบนี้มาก่อนเลย...