หน้าของหลิวจือโม่แดงเล็กน้อย เขารีบเอามือออกมา กระแอมเบาๆ ด้วยความเขินอาย "นมแพะต้องต้มนานแค่ไหน?" ตอนแรกเขาไม่คิดอะไร แต่โดนหลี่ชิงเฟิงเอ่ยแซวแบบนี้แล้วรู้สึกทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย
เมื่อเห็นว่าหูของเขาแดง หลี่ชิงหลิงก็ก้มหน้าลงหัวเราะเบาๆ ทำไมเขาถึงขี้อายขนาดนี้นะ?
เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของเด็กสาว ใบหน้าของหลิวจือโม่ก็กลับมาร้อนอีกครั้ง เขาถลึงตาเอ่ยข้อแก้ตัว และรีบออกจากครัวไป
ทำเขากลัวจนหนีไปอีกแล้ว หลี่ชิงหลิงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ ยกกะละมังเทน้ำออก หมุนตัวไปยกฝาหม้อขึ้น
กลิ่นหอมของน้ำนมโชยมากระทบใบหน้า นางสูดกลิ่นลึกๆ นางไม่ได้ดื่มนมแพะมานานจึงคิดถึงมาก
นางคิดถึงพ่อแม่ยุคใหม่ของนางเล็กน้อย ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็อย่างไรบ้าง
หลี่ชิงหลิงสูดจมูก กะพริบตาไล่น้ำตา
นางใช้ชีวิตดีๆ ต่อไปที่นี่จะเป็การตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ได้ดีที่สุด
เด็กสาวตบหน้าอกเพื่อควบคุมอารมณ์ วางฝาหม้อไว้ข้างๆ หยิบทัพพีขนาดใหญ่ขึ้นมา คนนมแพะเบาๆ ตักใส่ชามเล็กน้อยแล้วชิมดู
หลังจากต้มใบชาแล้ว นมแพะก็ไม่มีกลิ่นคาวอีก มีแต่กลิ่นหอมของใบชาและนมแพะ รสชาติดีมาก
นางดับไฟ ล้างชามอีกสองสามใบ เติมชามแต่ละใบให้เต็ม ยกขึ้นมาหนึ่งชาม ปล่อยชามอื่นๆ ให้เย็นในครัว
"นมแพะพร้อมแล้ว" หลี่ชิงหลิงเดินเข้ามาในห้องพร้อมชาม วางบนโต๊ะ และพูดกับพวกหลิวจือโม่ "ร้อนนะ เดี๋ยวค่อยกิน!" นางรับหลี่ชิงหนิงจากเขา เห็นจมูกแดงของน้องและก้มหัวหอมแก้ม เ้าตัวเล็กหิวแย่แล้ว
หลี่ชิงหลิงนั่งกอดน้องสาวบนเก้าอี้ ป้อนน้องด้วยช้อน
น้องสาวหิวมากและกินเร็วมาก ขอแค่นางช้าหน่อยก็จะส่งเสียงฮึดฮัด
"ท่านพี่ กลิ่นหอมมาก!" หลี่ชิงเฟิงดมกลิ่น แต่เขาไม่กล้ากิน เพราะเขายังเขียนตัวอักษรตัวใหญ่ไม่เสร็จ!
ส่วนหลิวจือโหรวยังเด็ก เห็นน้องสาวกินอย่างมีความสุขจึงพึมพำอยากกินด้วย
"หอม หอม กิน กิน..."
หลี่ชิงหลิงยิ้ม เงยหน้าขึ้นมองหลิวจือโม่ ให้เขาไปเอานมแพะจากห้องครัวมาให้เด็กๆ พร้อมให้ลูกเสือกินด้วย
เสือน้อยกินโจ๊กมาสองสามวันแล้ว โชคดีที่มันไม่จู้จี้จุกจิกเื่อาหาร ไม่งั้นคงอดตาย
ดวงตาสามคู่มองมาที่เขาอย่างมีความหวัง หลิวจือโม่ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ หันหลังไปห้องครัวเอานมแพะออกมา
เขาไม่ได้กิน แต่อุ้มหลิวจือโหรวและป้อนน้องก่อน
หลังจากหลิวจือโหรวได้กินนมแพะก็ตบมืออย่างมีความสุข "อร่อย... อร่อยจัง..." หลังกินเสร็จก็อ้าปากรอหลิวจือโม่ป้อน
หลังจากที่หลี่ชิงเฟิงได้กิน ดวงตาของเขาก็เป็ประกายด้วยความประหลาดใจ เขารีบยกชามขึ้นดื่มจนหมด
"อร่อยมาก!" หลี่ชิงเฟิงวางชามเลียปาก คิดแล้วเชียวว่าฝีมือพี่ต้องอร่อย "ท่านพี่ ทีหลังกินอีกได้ไหม?" เขาอยากจะกินอีกครั้ง มันอร่อยจริงๆ
หลี่ชิงหลิงป้อนน้องเสร็จ อุ้มตบให้เรอเบาๆ เมื่อมีนมแพะ น้องจะไม่ต้องอดแล้ว
“ได้ กินได้ทุกวันเลย” นางเหลือบมองน้องที่หลับไปแทบจะทันทีแล้วหัวเราะ หมูน้อยแท้ๆ กินแล้วนอน นอนแล้วกิน
หลังจากได้ยินว่าเขาสามารถกินได้ทุกวัน หลี่ชิงเฟิงก็พอใจและรีบทำความสะอาดชามบนโต๊ะ อยากจะเอาเข้าห้องครัว
หลิวจือโม่เอื้อมมือไปห้าม "ข้าเก็บเอง เ้าไปเขียนให้เสร็จ ถ้าวันนี้ไม่เสร็จ ไม่มีข้าวกิน”
หลี่ชิงเฟิงคร่ำครวญ วางชามลง ไปนั่งเขียนหนังสืออีกครั้งอย่างเชื่อฟัง
หลิวจือเยี่ยนเห็นแล้วยิ้ม แต่ก่อนเขาโดนคนเดียว เดี๋ยวนี้มีคนโดนเป็เพื่อน ไม่เหงาแล้ว
หลิวจือโม่ชำเลืองมองเด็กสองคนที่กำลังเขียนหนังสืออย่างจริงจัง รอยยิ้มฉายในดวงตา เงยหน้าขึ้นก็เห็นหลี่ชิงหลิงออกมาจากห้องครัว "หลับหรือยัง"
"หลับแล้ว!" หลี่ชิงหลิงพยักหน้า ั้แ่น้องเกิดมา นอกจากร้องตอนหิวแล้วก็แทบไม่มีปัญหาเื่อื่น
อาจเป็เพราะรู้ว่าแม่จากไปแล้วจึงเชื่อฟัง
นางแอบถอนหายใจเล็ก จากนั้นหันหน้าไปบอกหลี่ชิงเฟิงว่าถ้าน้องหิว ให้อุ่นนมแพะในครัวให้กิน นางจะไปซักผ้าที่แม่น้ำ ถ้ามีอะไรให้ไปหาที่แม่น้ำ
หลี่ชิงเฟิงพยักหน้าหนักๆ บอกจะดูแลน้องสาวอย่างดี สบายใจได้
“พี่ดูแลที่บ้านไปก่อน รอข้ากลับมาแล้วไปที่ไร่ด้วยกัน” หลี่ชิงหลิงพูดกับหลิวจือโม่อีกครั้ง
พวกเขาได้หารือกันแล้วว่าจะรวมที่ดินของทั้งสองตระกูลเข้าด้วยกัน พวกเขาจะแต่งงานกันอยู่แล้วจึงไม่จำเป็ต้องแบ่งแยกกัน
หลิวจือโม่ตอบรับ เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เขามักจะรู้สึกว่านางเหมือนผู้ใหญ่ คอยเป็ห่วงเขาอยู่เรื่อย
ความรู้สึกนี้ไม่ค่อยดีนัก เขาอายุมากกว่านาง เขาหวังจะดูแลนางมากกว่า ไม่ใช่กลับกันแบบนี้
หลังจากที่หลี่ชิงหลิงอธิบายเสร็จ นางก็เดินไปที่แม่น้ำพร้อมเสื้อผ้าในอ่างขนาดใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็ผ้าอ้อมของน้องสาว
ระหว่างทาง นางได้พบกับชาวบ้านกลุ่มหนึ่งที่เตรียมออกไปล่าสัตว์ในูเาลึก
"เสี่ยวหลิง ก่อนหน้านี้ลืมถามเลย ูเาซงไกลขนาดไหน ต้องเดินนานเท่าไร?” ป้าคนหนึ่งถามด้วยรอยยิ้ม ดูมีความสุขราวกับไปถึงก็จะสามารถหาอาหารได้มากมาย
หลี่ชิงหลิงหยุดฝีเท้า มองป้าด้วยรอยยิ้ม จากนั้นมองคนอื่นๆ ที่มองนางอยู่เช่นกัน "ค่อนข้างไกลอยู่เ้าค่ะ ใช้เวลาประมาณสี่ชั่วยาม ถ้าเร็วหน่อย สามชั่วยามก็น่าจะถึงแล้ว” นางคิดว่าอย่างน้อยคนในหมู่บ้านจะรอจนถึงพรุ่งนี้เสียอีก “ลุงๆ ป้าๆ ทุกคน ต่อให้จะมองว่าข้าขี้บ่น แต่ก็ต้องขอเตือนอีกครั้งนะว่าอย่าเข้าูเาลึก ต้องจำให้ดี”
นางไม่อยากเห็นคนในหมู่บ้านต้องเสี่ยงชีวิตเพื่ออาหารเพียงเล็กน้อย
เมื่อเห็นใบหน้าที่จริงจังของเด็กสาว ชาวบ้านทุกคนพยักหน้าและบอกหลี่ชิงหลิงว่าพวกเขาจะไม่เข้าไปในูเาลึก จะไปหาของกินแค่รอบนอกแล้วกลับมา
เมื่อเห็นว่าพวกเขาฟังเข้าหู หลี่ชิงหลิงก็พยักหน้าและเดินไปแม่น้ำต่อ
แต่ป้าที่ยังไม่ยอมแพ้ เดินตามไปและถามนางว่ามีทางที่ใกล้กว่านี้ไหม
ใช้เวลาสี่ชั่วยามก็จะนานเกินไป ถ้ามีทางใกล้กว่านี้หน่อยก็คงจะดี
“ไม่มี ก่อนหน้านี้ข้าไปทางนี้มาตลอด ไม่รู้ทางลัดอะไรเลย” หลี่ชิงหลิงส่ายหัว ถ้านางรู้ทางลัด นางก็คงไม่ต้องไปไกลขนาดนั้น
"งั้นก็ได้!" ป้าถอนหายใจเสียดายเล็กน้อย แม้แต่หลี่ชิงหลิงก็ยังไม่รู้ทางลัด คนอื่นๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง "เสี่ยวหลิง ูเาซงมีอาหารเยอะจริงหรือ? พวกไก่ป่า กระต่ายป่าเยอะไหม?” เมื่อนึกถึงไก่และกระต่ายป้า ป้าก็กลืนน้ำลาย นางลืมไปเลยว่าไม่ได้กินเนื้อมานานแค่ไหนแล้ว ครอบครัวนางยากจน ทั้งปีไม่เคยได้เห็นแม้แต่เศษเนื้อ ถ้าไม่ใช่เพราะอย่างนี้ก็คงไม่ถ่อไปถึงูเาซง
หลี่ชิงหลิงยังคงเดินไปข้างหน้าโดยไม่หันมอง ป้าถามก็ตอบอย่างตรงไปตรงมา "ใช้ได้อยู่เ้าค่ะ มีไก่ กระต่ายป่า ผักป่าก็เยอะ ดีกว่าูเาของเรามาก "ูเาในหมู่บ้านพวกเขาไม่มีของกินเลยจริงๆ หากมี ทุกคนก็ไม่ต้องไปไกลถึงูเาซง
ได้ยินดังนั้น ป้าก็กลืนน้ำลายเร็วกว่าเดิม ตื่นเต้นราวกับจับไก่และกระต่ายป่ากลับมาได้เยอะแยะ
เมื่อเห็นจากหางตาว่านางตื่นเต้นเพียงใด หลี่ชิงหลิงจึงต้องเทน้ำเย็นให้ "ไก่กับกระต่ายจับค่อนข้างยาก ร่วมมือกับสองคนจะจับได้เร็วกว่า”
เมื่อป้าได้ยินก็พยักหน้าซ้ำๆ อย่างไรเสีย นางกับสามีก็มากันทั้งคู่ ช่วยกันจับก็ไม่เสียหายอะไร
"เสี่ยวหลิงไปูเาซงมากี่ครั้งแล้วหรือ" ป้าเริ่มคุยสัพเพเหระ แพะนั่นราคาไม่ถูก ต้องเป็เงินที่ได้มาจากการล่าสัตว์ในูเาซงแน่
แม้แต่หลี่ชิงหลิงที่ยังเด็กสามารถหาเงินได้มากมาย นางกับสามีที่โตขนาดนี้ต้องได้มากกว่าแน่
ทันทีที่นึกถึงเื่นี้ หัวใจของนางก็ร้อนรุ่ม อยากจะไปหาูเาซงและแสดงทักษะทันที
แต่นางลืมไปว่าหลี่ชิงหลิงล่าสัตว์เป็ แต่นางและสามีล่าไม่เป็
หลี่ชิงหลิงเห็นสีหน้าของป้าก็รู้แล้วว่า้าถามอะไร นางหัวเราะเยาะในใจ และพูดเสียงเรียบ "เคยไปสองครั้ง หลังแน่ใจว่ามีของกินจริงๆ ถึงจะมาบอกทุกคน”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ป้าก็หัวเราะ "นั่นสินะ ต้องขอบคุณเสี่ยวหลิงสำหรับความเมตตา" ปากพูดเช่นนี้ แต่ในใจไม่ได้คิดเช่นนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเื่นี้ถูกแพร่กระจายในหมู่บ้าน หลี่ชิงหลิงจะยอมบอกหรือ?
ถ้านางจริงใจขนาดนั้น นางน่าจะบอกพวกเขาั้แ่ตอนรู้สิ
"ข้าถึงแล้ว ลุงๆ ป้าๆ เดินทางระวังนะเ้าคะ” หลี่ชิงหลิงยิ้มและเดินตรงไปที่แม่น้ำโดยไม่รอคำตอบจากพวกเขา
โดยปกติแล้ว เวลานี้จะมีผู้หญิงจำนวนมากออกมาซักผ้าริมแม่น้ำ แต่วันนี้ไม่มีใครเลย สงสัยไปูเาซงกันหมดสินะ!
หลี่ชิงหลิงถอนหายใจเล็กน้อย หวังว่าพวกเขาจะกลับมาอย่างปลอดภัย
