เมื่อถึงเวลาอาหารเย็น หมี่หลันเยว่ก็ฟื้นตัวขึ้นมากทีเดียว แค่ไม่สบตากับเฉินชิ่งเยี่ยนโดยตรง เธอก็สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้แล้ว แม้แต่ตัวเธอเองยังอดทึ่งไม่ได้ว่าเธอฟื้นตัวได้เร็วกว่าที่คิดไว้เยอะ
"หลันเยว่ เหยาเหยาบอกว่าตอนที่เธออยู่ที่บ้านก็ทำโรงงานเสื้อผ้าแล้ว จริงหรือเปล่า?"
หลังอาหารเย็น ทุกคนนั่งคุยกัน แม่เจิ้งแสดงความสนใจในตัวหมี่หลันเยว่อย่างเห็นได้ชัด หมี่หลันเยว่ก็ไม่ได้คิดจะปิดบังอะไร เพราะเธอเองก็ตั้งใจจะมาพัฒนาธุรกิจที่ปักกิ่งอยู่แล้ว สักวันทุกคนก็จะได้เห็นความสามารถของเธอ
"ใช่ค่ะ ทำโรงงานเสื้อผ้าเล็กๆ ค่ะ ขนาดไม่ใหญ่โตอะไร แค่พอเลี้ยงตัวเองได้เท่านั้นเอง"
หมี่หลันเยว่แค่อยากจะบอกให้พวกเขารู้ว่าเธอมีความสามารถในการทำโรงงาน แต่ไม่อยากให้รู้รายละเอียดมากนัก เพราะบางเื่ถ้ารู้กันน้อยคน ความกดดันก็จะน้อยลง
ยิ่งไปกว่านั้น เธอไม่ได้คิดจะพึ่งพาสกุลเจิ้งอยู่แล้ว ก็ไม่มีความจำเป็ต้องให้พวกเขารู้มากขนาดนั้น แค่ให้พวกเขาเข้าใจเบื้องต้น รู้ว่าเธอไม่ได้มีเจตนาจะหลอกลวงอะไร แค่นั้นก็พอแล้ว ตอนนี้สิ่งที่หมี่หลันเยว่คิดคือการรักษาระยะห่างกับสกุลเจิ้ง ไม่ต้องสนิทใจกันมากนัก ในจิตใต้สำนึก เธอ้าอยู่ให้ห่างจากสกุลเจิ้ง และยิ่งห่างเท่าไหร่ยิ่งดี
"อายุน้อยแค่นี้เองเหรอเนี่ย ดูไม่ออกเลย ตอนป้าอายุเท่าเธอ ยังรู้แค่เื่แต่งตัว แต่เธอกลับทำเสื้อผ้าแล้ว เก่งจริงๆ"
แม่เจิ้งจับมือหมี่หลันเยว่ พูดไม่หยุด ส่วนสายตาคู่หนึ่งก็แอบมองมาเป็ระยะ
หมี่หลันเยว่ไม่ต้องเงยหน้าก็รู้ว่าเป็ใคร แต่เธอต้องไม่แสดงอาการพิรุธออกมา ความจริงแล้วเธอก็กำลังรู้สึกผิดอยู่เล็กน้อย เธอไม่เข้าใจว่าทำไมคนคนนั้นต้องมองเธออยู่ตลอดเวลา หรือว่าเขาจะกลับชาติมาเกิดเหมือนกัน? ไม่สิ เป็ไปไม่ได้ ถ้ากลับชาติมาเกิดจริง เขาคงไม่มาปรากฏตัวอยู่ที่บ้านหลังนี้
เมื่อนึกถึงเมืองเล็กๆ ที่อยู่ห่างไกลพอๆ กับเมืองซวงเฉิง หมี่หลันเยว่ก็อดคิดถึงขึ้นมาไม่ได้ นึกว่าเื่ราวในอดีตพวกนั้นถูกผนึกไว้หมดแล้ว ที่ไหนได้ แค่ได้เจอคนคนนี้ ความทรงจำเ่าั้ก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง นี่ไม่ใช่ลางที่ดีเลย
"หลันเยว่ ได้ยินเหยาเหยาบอกว่า เธออยากจะซื้อบ้านสี่ประสานเล็กๆ สักหลัง เอาไว้พักใน่ที่มาเรียนที่ปักกิ่งใช่ไหม?"
พอได้ยินแม่เจิ้งพูดแบบนี้ หมี่หลันเยว่ก็มองไปทางเจิ้งซวี่เหยา เห็นเขากับพี่ชายทั้งหลายกำลังเล่นหมากรุกอยู่ ไม่ได้สนใจเื่ทางนี้
"อ๋อ เหยาเหยาบอกป้า ให้ช่วยดูๆ ไว้ให้ เพราะเขาก็ไม่ได้อยู่ปักกิ่งอย่างจริงจังมาห้าหกปีแล้ว ถ้าจะให้พูดถึงเื่พวกนี้ ป้าน่าจะมีประสบการณ์มากกว่า แถมยังคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมมากกว่าเขาด้วย"
พอเห็นหมี่หลันเยว่มองไปทางลูกชาย แม่เจิ้งก็พอจะเดาความคิดของหมี่หลันเยว่ออก
"เธอไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้ป้าลำบาก เหยาเหยาไม่ค่อยให้ป้าต้องมากังวลเื่อะไรแบบนี้หรอก ครั้งนี้เพราะเธอรีบร้อน เขาก็เลยมาขอให้ป้าช่วย แต่ป้ากลับชอบนะที่ลูกชายมีอะไรก็มาปรึกษาป้า แถมยังได้ช่วยเหลือพวกเธอด้วย ป้าก็ดีใจ"
หมี่หลันเยว่ยิ้มขอบคุณ
"ขอบคุณค่ะคุณป้า รบกวนคุณป้ามากเลย เื่นี้พวกหนูควรจะไปหาดูกันเอง ที่ไหนได้ สุดท้ายก็ต้องให้คุณป้ามาช่วยดูแล"
จริงๆ แล้วหมี่หลันเยว่ไม่อยากให้แม่เจิ้งช่วยเลย เธออยากจะหาบ้านเอง แบบนั้นก็จะไม่มีความเกี่ยวข้องกับสกุลเจิ้งอีกต่อไป เพราะบางเื่ยิ่งอยู่ห่างกันเท่าไหร่ยิ่งดี ไม่เห็นก็เหมือนไม่เคยเจอ แต่เมื่อกี้คำพูดของแม่เจิ้งก็ทำให้เธอรู้สึกว่าความคิดของตัวเองเป็เื่ง่ายๆ เกินไป ตราบใดที่ยังมีเจิ้งซวี่เหยาอยู่ ไม่ว่าเธอจะซื้อบ้านอยู่ที่ไหน สกุลเจิ้งก็จะรู้ที่อยู่
"เธอพูดจาถูกใจป้าจริงๆ แต่เื่นี้ก็ไม่ใช่เื่ยุ่งยากอะไร เพื่อนฝูงของป้าเยอะแยะ แค่พูดออกไป ก็ต้องมีบ้านที่เหมาะสมแน่นอน หลันเยว่ ไม่ต้องรีบร้อนนะ เื่นี้คงจะแก้ได้ในเร็ววัน"
"ป้าไม่ได้ไล่พวกเธอออกไปอยู่นะ แค่เหยาเหยาบอกว่าเธอใจร้อน ป้าก็เลยรีบช่วยหาบ้านให้ เธออย่าคิดมากนะ"
แม่เจิ้งอธิบายอย่างติดตลกเล็กน้อย เด็กสาวคนนี้ถึงแม้จะรู้ความ แต่ก็อย่าให้เธอมีความคิดอื่นเลย
"คุณป้าพูดอะไรคะ หนูไม่ใช่คนใจแคบแบบนั้นสักหน่อย คุณป้าช่วยขนาดนี้ หนูก็ขอบคุณมากแล้ว จะไปคิดอะไรไร้สาระได้ยังไง"
หลันเยว่ขยับตัวเข้าไปใกล้แม่เจิ้ง ให้ทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมากขึ้น
"คุณป้าคะ ฟังจากที่คุณป้าพูดเมื่อกี้ มีเพื่อนที่พอจะช่วยได้ใช่ไหมคะ ถ้างั้นรบกวนคุณป้าช่วยอีกสักหน่อยได้ไหมคะ?"
ไหนๆ ก็ติดหนี้บุญคุณไปแล้ว สู้ติดหนี้ทีเดียวให้เยอะๆ ไปเลยดีกว่า ไม่งั้นครั้งหน้าจะอยากเปิดปากพูด ไม่ต้องพูดถึงคนอื่น ตัวเองก็คงจะรู้สึกเกรงใจ
"ได้สิ มีอะไรก็บอกป้ามาได้เลย ถ้าป้าช่วยได้ ป้าจะไม่ปฏิเสธแน่นอน เธอเป็เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ เดินทางไกลมาเรียนหนังสือตั้งไกล ไม่มีคนในครอบครัวดูแล ป้าก็ควรจะดูแลเธอให้มากขึ้น"
แม่เจิ้งรับปากอย่างใจดี ทำให้หมี่หลันเยว่รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ในใจ คนในสกุลเจิ้งทุกคนพยายามช่วยเหลือเธออย่างเต็มที่ แล้วทำไมเธอถึงได้มีใจระแวงมากขนาดนี้ คอยกีดกันอยู่โดยไม่รู้ตัว ความคิดเช่นนี้ทำให้หมี่หลันเยว่รู้สึกละอายใจ
ด้วยความสามารถและเื้ัของสกุลเจิ้ง การที่พวกเขาไม่รังเกียจเธอก็นับว่าดีแล้ว ตัวเธอเองกลับพยายามรักษาระยะห่างกับคนในสกุลเจิ้ง หมี่หลันเยว่รู้สึกว่าตัวเองน่าขันมาก เธอมีอะไรให้คนอื่นมาใช้ประโยชน์ได้เหรอ ต่อให้มีบ้างเล็กๆ น้อยๆ ด้วยสถานะของสกุลเจิ้ง พวกเขาคงไม่ชายตามองหรอก
การระวังคนบ้างก็เป็เื่ที่ถูกต้อง แต่สำหรับสกุลเจิ้ง เธอระวังมากเกินไป เมื่อคิดได้ดังนั้น หมี่หลันเยว่ก็ดูถูกตัวเอง นี่มันเป็การเสแสร้งทำเป็สูงส่งเกินไปแล้ว ตัวเองมีความสามารถอะไรถึงได้ทำท่าทางสูงส่งแบบนี้ได้ ก็แค่มีความเมตตาที่ครูเจิ้งมีให้เท่านั้นเอง
ช่างเป็คนอกตัญญูเสียจริง หมี่หลันเยว่ใช้มือหยิกขาตัวเอง ให้ความเ็ปทำให้เธอรู้สึกตัว ต้องบอกว่าั้แ่เข้ามาในสกุลเจิ้ง หมี่หลันเยว่ก็ดูจะสติแตกไปบ้างเล็กน้อย ถูกครอบครัวใหญ่โตแบบนี้ทำให้ใ แต่พอได้เจอเฉินชิ่งเยี่ยน ความรู้สึกนี้ก็ยิ่งทวีคูณขึ้นอย่างรวดเร็ว
พอนึกดูดีๆ มันเกี่ยวอะไรกันด้วยเนี่ย ตัวเธอเองเป็นักเรียนอายุสิบกว่าขวบ คนในสกุลเจิ้งจะมีจุดประสงค์อะไรแอบแฝง แล้วตัวเธอเองมีอะไรให้คนอื่นมาหวังผลได้กันเล่า พอคิดแบบนี้ หมี่หลันเยว่ก็อดที่จะหัวเราะเยาะตัวเองไม่ได้ แบบนี้มันก็แค่ความคิดแบบชาวบ้านๆ ที่ฝังอยู่ลึกๆ ในใจนั่นแหละ ก็คือการที่รู้สึกต่ำต้อยเกินไป
เมื่อเข้าใจว่าตัวเองคิดอะไรอยู่ หมี่หลันเยว่ก็รู้สึกผ่อนคลายในทันที เธอไม่ใช่คนที่เสแสร้งหรือขี้เหนียวเป็ทุนเดิมอยู่แล้ว พอคิดเื่ต่างๆ ออก การแสดงออกของเธอก็ยิ่งสนิทสนมมากขึ้น
"คุณป้าคะ ถ้าอย่างนั้นครั้งนี้คงต้องรบกวนคุณป้าจริงๆ แล้วค่ะ หนูมีเื่อยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณป้าจริงๆ ค่ะ"
ด้วยสถานะของแม่เจิ้ง ความจริงใจของหมี่หลันเยว่ เธอสามารถมองออกได้อย่างชัดเจน เด็กสาวคนนี้้าให้เธอช่วยจริงๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าเื่นี้จะช่วยได้ง่ายหรือเปล่า ฟังจากที่ลูกชายพูด เด็กสาวคนนี้ก็ไม่ใช่คนธรรมดา
"ว่ามาเลย หลันเยว่ ตราบใดที่ป้าช่วยได้ ป้าจะพยายามอย่างเต็มที่แน่นอน"
แม่เจิ้งไม่ได้พูดอะไรตายตัว พูดเว้นที่ไว้บ้างเล็กน้อย เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องลำบาก กลเม็ดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ แม่เจิ้งใช้จนชำนาญแล้ว
ต้องรู้ว่าคนที่เธอติดต่อด้วยล้วนเป็บรรดาภรรยาผู้สูงศักดิ์ในปักกิ่ง ใครๆ ก็ฉลาด ถ้าแม่เจิ้งเป็แม่บ้านที่ซื่อๆ จริงๆ ป่านนี้คงถูกวงสังคมชั้นสูงนี้เขี่ยทิ้งไปแล้ว และไม่ว่าจะด้วยสกุลเจิ้ง หรือด้วยอิทธิพลของสกุลทางฝั่งแม่ และการศึกษาที่เธอได้รับมาั้แ่เด็ก ก็จะไม่ปล่อยให้ตัวเองถูกใครมาบงการง่ายๆ วิสัยทัศน์ของเธอกว้างไกล เด็กสาวตรงหน้าจะฉลาดแค่ไหน ก็ไม่ใช่คนระดับเดียวกันกับเธอ
"เื่มันเป็อย่างนี้ค่ะคุณป้า หนูอยากจะหาโรงงานที่ทำเลดีๆ แถวนี้หน่อยค่ะ พยายามอย่าให้เปลี่ยวมากนัก แต่ก็อย่าให้ใกล้ตัวเมืองมากเกินไป เพราะหนูรู้ว่าราคาบ้านในเมืองแพงมาก ถ้าจะซื้อโรงงาน ก็ต้องใช้เงินเยอะมาก ต่อให้เช่า ก็น่าจะแพงมากเหมือนกัน ส่วนเงินในมือของหนูไม่ได้มีมากขนาดนั้น เพราะหนูยังอยากจะหาตึกแถวในเมืองอีก"
ที่แท้ก็แค่อยากจะเช่าบ้าน แม่เจิ้งก็รู้สึกว่าตัวเองคิดมากเกินไป เด็กสาวตัวเล็กๆ จะมีเื่ใหญ่โตอะไรให้ขอความช่วยเหลือได้ จะขุดหลุมให้ตัวเองะโลงไปได้เชียวหรือ ดูเหมือนว่าการที่อยู่กับพวกพี่สาวน้องสาวที่ต้องรักษามารยาทกันนานเกินไป ทำให้ตัวเองระแวงเื่ความสัมพันธ์ระหว่างคนด้วยกันไปแล้ว
พอมองเด็กสาวที่ดูใสซื่อบริสุทธิ์ตรงหน้า แม่เจิ้งก็อดที่จะใจอ่อนไม่ได้ ยื่นมือไปบีบมือเล็กๆ ที่นุ่มนิ่มของหมี่หลันเยว่ คิดในใจว่าถ้าช่วยเธอได้ ก็จะต้องช่วยให้ได้
เด็กสาวคนนี้ไม่ใช่คนที่ได้คืบจะเอาศอก แถมดูเหมือนว่าจะเป็คนที่มีความคิดเป็ของตัวเอง ไม่ช่วยคนแบบนี้ แล้วจะให้ไปช่วยพวกคนเลวๆ พวกนั้นหรือ พอนึกถึงคนที่คอยตามติดขอความช่วยเหลือจากตัวเอง ใช้สารพัดวิธีที่ไร้ขีดจำกัด ก็ทำให้รู้สึกขุ่นเคืองใจ
"เื่นี้เธอมอบให้ป้าจัดการเลย หลันเยว่ ป้าจะทำให้เธออย่างดีที่สุด แต่จริงๆ แล้วป้าก็มีข้อเสนอแนะอยู่อย่างหนึ่ง แค่ไม่รู้ว่าความคิดของป้าจะถูกหรือเปล่า"
แม่เจิ้งลังเลเล็กน้อย เพราะเธอไม่รู้เจตนาที่แท้จริงของหมี่หลันเยว่ที่้าจะซื้อบ้านสี่ประสานเล็กๆ หลังนั้น
"คุณป้าพูดมาเลยค่ะ หนูฟังอยู่"
"คือแบบนี้ ไม่ใช่ว่าเธออยากจะซื้อบ้านสี่ประสานเหรอ ในเมื่อเธออยากจะซื้อโรงงานหรือเช่าโรงงานด้วยแล้ว สู้ตอนเลือกบ้าน เลือกหลังที่ขนาดพอๆ กัน แล้วสร้างโรงงานไว้ในบ้านไปเลย"
"แบบนี้ทั้งประหยัดเงิน แถมยังช่วยดูแลบ้านให้เธอด้วย ไม่งั้นตอนที่เธอไปเรียน ก็ต้องพักอยู่ที่มหาลัย ในบ้านไม่มีคนดูแล ก็ไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่ แบบนี้ลงทุนเพิ่มเข้าไปอีกหน่อยเดียว แต่เื่โรงงานก็แก้ได้แล้ว ไม่รู้ว่าป้าคิดแบบนี้ถูกหรือเปล่า แต่มีข้อแม้ว่าบ้านสี่ประสานของเธอต้องไม่มีประโยชน์อื่น"
ดวงตาของหมี่หลันเยว่เป็ประกายขึ้นมา
"คุณป้าคะ คุณป้าฉลาดเกินไปแล้ว หนูชอบคุณป้ามากๆ เลยค่ะ"
หมี่หลันเยว่ผู้ตื่นเต้นดีใจ โผเข้ากอดแม่เจิ้งแน่นๆ ลูบหลังแม่เจิ้งอย่างแรง การกระทำของเด็กสาวทำให้แม่เจิ้งรู้สึกเอ็นดูมาก
"แค่นี้ก็ตื่นเต้นแล้ว ป้ายังมีข่าวดีจะบอกเธออีกนะ เธอไม่ได้บอกว่าอยากจะเช่าตึกแถวในเมืองเหรอ เพื่อนป้ามีร้านค้าอยู่ในใจกลางเมือง เขาจะไปต่างประเทศ ก็เลยคิดจะขายต่อ ถ้าเธอสนใจ ป้าจะช่วยถามให้"
พลังของแม่เจิ้ง ทำให้หมี่หลันเยว่เลื่อมใสอย่างสุดซึ้ง
