ไอลี่รู้สึกว่าคำพูดของพ่อค้าจางดูไร้สาระสิ้นดี!
หลี่อันผิงเลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะพูดออกมา “พ่อค้าจาง ก็เห็นๆ กันอยู่ว่ามันเป็หินเปล่าชัดๆ ขาวไปทั้งก้อน มีตรงไหนที่เป็สีเขียวกัน”
เป่าเจียเองก็ไม่คิดว่าหินก้อนนี้จะพนันได้เช่นกันทั่วทั้งบริเวณมีเพียงเ้าของก้อนหินก้อนนี้อย่างหลินลั่วหรานและเ้าของเก่าอย่างพ่อค้าจางเท่านั้นที่มั่นใจว่าหินก้อนนี้มีหยกอยู่จริง!
จากมุมมองและความรู้โดยทั่วไปทำให้สายตาของทุกคนพุ่งตรงไปยังก้อนหินที่มีขนาดใหญ่กว่าเมื่อเห็นว่าทุกคนไม่เชื่อในคำพูดของเขาพ่อค้าจางจึงจัดการปัดฝุ่นออกจากส่วนที่เล็กกว่าก่อนที่มันจะทำให้ลูกตาของทุกคนแทบจะหลุดออกมา
“เจอ...หยกแล้ว?” คุณนายซุยเอ่ย ออกมาด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อมากนัก
“หยกสีแอปเปิล เกือบจะอยู่ในระดับโปร่งแสงเลย” พ่อค้าจางพยักหน้า พร้อมกับพิจารณาออกมาคร่าวๆ
มือของเขาสั่นไหวเล็กน้อยเนื่องจากความแม่นยำจากการตัด และความรู้เสียดาย หินพังๆก้อนนี้ถูกวางทิ้งไว้ในที่แห่งนี้มาไม่ต่ำกว่าห้าปี พระเ้า ของดีขนาดนี้แต่กลับถูกวางตากแดดตากลมมากว่าห้าปีโดยที่ตัวเองไม่ได้คิดจะผ่ามันออกเลยได้อย่างไร?
พ่อค้าจางรดน้ำลงบนก้อนแร่ก้อนเล็กก่อนจะปรากฏสีเขียวงดงามออกมา
หยกก้อนนี้แม้รูปร่างจะประหลาดไปหน่อยแต่ก็เป็หยกทั้งก้อนและมีเส้นผ่าศูนย์กลางกว่าสิบห้าเิเ...แถมหินก้อนนี้ถูกฝนถูกลมกัดเซาะอยู่ที่นี่มานานหากมีใครจับมาขัดถูดูสักหน่อย หยกที่อยู่ใกล้เปลือกนอกขนาดนี้แค่ขัดก็ต้องเห็นได้แน่!
เป่าเจียยิ้มออกมาด้วยความสุขใจ “ลั่วหรานเก็บได้ของดีมาแล้วล่ะ!”
ไอลี่ยังคงไม่ตายใจ เธอยิ้มเหยียด ก่อนจะพูดต่อ “ตัดตรงแค่ครั้งเดียวอีกส่วนก็ตัดทิ้งไปแล้ว จะมาดีใจตอนนี้เหมือนจะยังเร็วไปนะ”
เสี่ยซุยมองไปยังหยกก้อนนั้นระดับความโปร่งใสดูดีใช้ได้ ถ้าหนาสักนิด ตรงกลางจะต้องตัดเป็กำไลออกมาได้แน่
“ล้านนึง คุณหลินจะขายให้ไหม?” เสี่ยซุยพูดออกมาอย่างอารมณ์ดี
ทำธุรกิจก็แบบนี้ ต้องเสี่ยงถึงจะได้รับผลหากตัดออกมาแล้วเป็เพียงแผ่นบางๆเสี่ยซุยก็แค่เพียงต้องยอมรับว่าตัวเองซวยเองเท่านั้น
เงินทุนห้าร้อย เพียงลงมีดไปแค่ครั้งเดียวคุณค่ากลับเพิ่มขึ้นกว่าสองพันเท่า!
เป่าเจียรู้ถึงความเสี่ยงของการพนันหยกดีแค่การตัดครั้งเดียวก็ทำให้รวยหรือจนขึ้นมาได้คำพูดนี้ต่างถูกส่งต่อกันมาในแวดวงนี้และเธอก็รู้สถานการณ์ปัจจุบันของหลินลั่วหรานดีจึงคิดว่าหนึ่งล้านเธอก็คงจะยอมขายแล้ว
เมื่อเห็นสายตาที่ถูกส่งมาของเป่าเจีย หลินลั่วหรานจึงส่งสายตาบอกให้เป่าเจียวางใจกลับไป
“พ่อค้าจางคุณช่วยเอาก้อนแร่ออกมาทั้งก้อนให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ?” หยกก้อนนี้ไม่ได้มีเพียงเท่าที่เห็นหลินลั่วหรานตัดสินใจจะตัดออกมาทั้งหมดก่อนแล้วจึงค่อยขาย
“งั้นคงจะตัดต่อไม่ได้แล้วคงต้องขัดแค่อย่างเดียว” พ่อค้าจางไม่ได้ให้คนอื่นมารับมือต่อแต่ยังคงลงมือทำให้ด้วยตัวเอง การที่มาทำงานด้านนี้ก็ต้องมีความหลงใหลเหล่าก้อนแร่ฝั่งอยู่ในกระดูกอยู่แล้วมันไม่ใช่เื่ที่คนภายนอกจะเข้าใจได้เพราะแบบนั้นการที่นายใหญ่จะมาลงมือทำแร่เองก็เป็เื่ที่เห็นได้บ่อยๆ
หลินลั่วหรานหันไปยิ้มอย่างนอบน้อมให้กับเสี่ยซุย “ถ้าตัดออกมาแล้วพ่อค้าซุยยังอยากได้อยู่ ฉันจะขายให้คุณก่อนแน่ค่ะ”
เสี่ยซุยปัดมือแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้ใส่ใจอะไร แม้ว่าหากตัดออกมาหมดแล้วราคาอาจจะสูงขึ้นอีกมากแต่นั่นก็ทำให้ความเสี่ยงหายไปด้วยเช่นกัน ของดีใครต่างก็อยากได้ทั้งนั้น
การขัดแร่เป็งานละเอียดอ่อนจึงใช้เวลามากกว่าการตัดอยู่มาก
แต่ผู้คนที่อยู่ที่นี่ต่างทำงานด้านนี้กันทั้งนั้นผู้คนส่วนมากต่างใช้เวลาหลายวันในการศึกษาด้านนี้เพราะแบบนี้ระยะเวลาแค่นี้ถือเป็เื่ที่รอได้อยู่แล้ว
เมื่อพ่อค้าจางขัดแร่เสี่ยซุยและคุณนายซุยก็หันมาคุยกับพวกหลินลั่วหรานพวกคนอื่นก็ต่างพูดคุยแสดงความเห็นของตัวเองซึ่งส่วนมากก็เป็เื่ของก้อนหยกสีม่วงสวยงามราคาสูงเสียดฟ้ากว่าร้อยล้านที่เหมืองแร่พม่า
หลิ่วเจิงเองก็พูดขึ้น “ปีนี้เหมืองแร่พม่านักลงทุนมากมายกลุ่มคนจากเวินโจวหรือพ่อค้าจากชานตงต่างพากันเหมาเครื่องบินไปจนเหมืองแร่ร้อนระอุทำเอาพวกเราที่ทำงานด้านอัญมณีทั้งอยากหัวเราะทั้งอยากร้องไห้เลย”
หลินลั่วหรานไม่เข้าใจเื่พวกนี้เลยแม้แต่น้อยจึงได้แต่ยิ้มพร้อมกับรับฟังต่อไป
เป่าเจียยังพอต่อได้อยู่บ้างเมื่อคุณนายซุยเห็นว่าพวกเธอไม่รู้เื่พวกนี้นักจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปที่การดูแลผิวแทน
“น้องสาวพอจะบอกได้ไหมว่าดูแลผิวยังไง?” คุณซุยเป็คนผิวคล้ำแถมยังต้องทำงานอยู่ในโรงงานแร่ ราวกับผู้ชาย เธอจึงรู้สึกอิจฉาผิวสวยฉ่ำน้ำของหลินลั่วหรานเป็อย่างมาก
เมื่อได้ยินคำถามหลินลั่วหรานก็ต้องเหงื่อตกจะให้บอกว่ากินผลไม้แปลกๆ เข้าไป แล้วก็เปลี่ยนเป็แบบนี้เลยก็คงไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?
ไอลี่กับหลี่อันผิงที่ยืนอยู่นอกวงไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่สนใจความสวยความงามที่จริงเธอเองก็อยากรู้ว่าหลินลั่วหรานไปทำอะไรมา นี่เพิ่งผ่านไปแค่ไม่กี่วันทำไมผิวพรรณทั่วทั้งร่างของเธอถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้?
ในใจของหลี่อันผิงได้แต่คิดถึงเื่ที่พ่อค้าให้ราคาหินของหลินลั่วหรานกว่าหนึ่งล้านหากก่อนหน้านี้มีเงินหนึ่งล้าน ก็สามารถซื้อห้องในเมือง R ได้แล้วถ้าตอนนั้นหลินลั่วหรานสวยเหมือนอย่างตอนนี้ เราจะตัดใจเลิกกับเธอได้ไหมนะ?
ในระหว่างที่ไอลี่และหลี่อันผิงต่างตกอยู่ในความคิดของตัวเองเป่าเจียก็พูดช่วยแก้สถานการณ์ขึ้นมา
“คุณนายซุย ลั่วหรานน่ะบอกกับฉันว่า ให้ทานผักมากๆ นอนหลับผักผ่อนให้เพียงพอ สภาพจิตใจดีแค่นั้นผิวพรรณก็ดีขึ้นมาได้แล้วล่ะ!”
คุณนายซุยถลึงตาออกมาเล็กน้อย “เรียกอะไรคุณนายฉันไม่ชอบฟังคำพูดสุภาพแบบนี้หรอกนะ เรียกพี่สาวก็พอแล้ว!...ที่รักกลับบ้านไปเราก็ไปหาซื้อผักจากชาวสวนโดยตรงกันบ้างนะ ถ้ามียาล่ะก็จะได้เห็นดีกันแน่!”
คุณนาย ไม่สิพี่สาวหวังไม่เพียงแต่กำหนดชื่อเรียกให้ แต่มอบงานใหญ่ให้กับเสี่ยซุยอีกด้วยเมื่อได้ยินคำสั่งของภรรยา เสี่ยซุยจึงทำได้เพียงพยักหน้าเข้าใจจนทำให้หลินลั่วหรานกับเป่าเจียต้องหัวเราะออกมา
เวลาเดินผ่านไปอย่างรวดเร็วในระหว่างที่ผู้คนพากันพูดคุยแลกเปลี่ยนเสียงหัวเราะ
“นี่มันของดีเลยหินที่คุณหลินเลือกมาก้อนนี้ ไม่รู้จะพูดอะไรเลย!”
เ้าของคำพูด้าคือบุคคลที่เอาแต่ก้มหน้าตั้งใจขัดแร่อย่างพ่อค้าจางในระหว่างที่ผู้คนกำลังพักผ่อน พ่อค้าจางก็จัดการนำก้อนหยกออกได้ทั้งก้อนแล้ว
เมื่อได้ยินว่าจัดการขัดออกมาแล้วก็ยังคงเป็ของดี ทุกคนจึงพากันหันไปมอง คนที่วิ่งไปหน้าสุดไม่ใช่หลินลั่วหรานหรือเป่าเจียแต่กลับเป็ไอลี่และหลี่อันผิง ทั้งสองคนต่างก็ไม่ยอมกัน
สิ่งที่ปรากฏอยู่หน้าผู้คนคือแร่หยกรูปร่างกลมด้านล่างและ้าเล็กๆด้านล่างมีขนาดกว่าสิบสามถึงสิบสี่เิเ และมีความหนาราวๆ เจ็ดถึงแปดเิเ
มันมีขนาดกว่าหนึ่งในสามของก้อนหินเดิมเลยทีเดียว! ดูเหมือนว่าเพียงปอกเปลือกออก ด้านในล้วนแต่เป็หยกทั้งนั้น
หลังจากถูกล้างจนสะอาดก้อนหยกก็ถูกวางเอาไว้บนถาดเปล่งแสงเป็ประกายเรียกสายตาคนให้จับจ้องอยู่ภายใต้แสงอาทิตย์
แม้จะเป็หยกสีแอปเปิ้ลแต่ก็มีความโปร่งใสในระดับสูง ไม่มีรอยแตก ด้านในก็ไม่มีริ้วรอยที่เห็นได้ชัดเห็นได้ชัดว่าเป็ของดีอย่างแน่นอน!
ผู้คนต่างพากันนึกถึงการนำหยกไปใช้กันในใจส่วนเล็กๆ ้าไม่ใช่ปลายแหลมของทรงกรวย แต่เป็เหมือนกับส่วนโค้งของวงกลมวงใหญ่นี่มันใช้ทำกำไลได้กี่อันกัน? ส่วนที่เหลือก็ยังสามารถเอามาทำเป็รูปทรงไข่ได้อีกแล้วยังมีเครื่องประดับแบบอื่นอีกนะ
“สี่ล้าน!” คนที่เริ่มเอ่ยราคาคือพ่อค้าสำเนียงกว่างโจวและไม่รู้ว่าเหตุใดเขาจึงเข้ามาหาของถึงเมือง R
พี่สาวหวังยืนเท้าเอว ก่อนจะพูดถากถางออกมา “ตั้งใจจะรังแกสาวน้อยที่ไม่รู้เื่อย่างนั้นเหรอ? แค่สี่ล้าน ยังกล้าพูดเปิดออกมาได้นะ ฉันให้ห้าล้าน!”
พ่อค้าชาวกว่างโจวที่โดนหักหน้าหันไปหาพี่สาวหวังที่เพียงเปิดปากของก็เพิ่มราคาขึ้นมากว่าหนึ่งล้านแล้วพูดออกมาด้วยภาษาจีนกลางที่ติดสำเนียงกว่างโจวว่า “เมี่ยวเอ๋อน้าทำธุรกิจแท้ๆ ทำไมถึงเป็แบบนี้กันนะ?”
ชายจากกว่างโจวเรียกชื่อของพี่สาวหวังออกมาโดยไม่ทันระวังเมื่อเห็นเสี่ยซุยยืนหักนิ้วอยู่ข้างๆ จึงได้แต่หลบออกไปนี่มันไม่เป็การรังแกคนเหรอเนี่ย!
ดูเหมือนว่าหลิ่วเจิงเองก็สนใจหยกก้อนนี้อยู่เช่นกันเมื่อเห็นว่าพ่อค้าชาวกว่างโจวไม่สู้ราคาแล้ว ก็ให้ราคาห้าล้านห้าออกมาบ้าง
หากพูดว่าไม่ตื่นเต้นคงเป็การหลอกลวงคนอื่นเงินกว่าห้าล้านห้า นอกจากถูกรางวัลแล้ว โอกาสคงมีไม่มากนักหลินลั่วหรานเองจึงได้แต่ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ
เป่าเจียได้แต่บ่นพึมพำกับตัวเองในเวลานี้เธอได้ลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าหลินลั่วหรานยังช่วยเลือกเอาไว้ให้ตัวเองด้วยอีกสองก้อน ในใจของเธอมัวแต่ดีใจแทนเพื่อนรักพร้อมทั้งรู้สึกว่าเวลาของความสุขของหลินลั่วหราน ในที่สุดมันก็มาถึงเสียที
หากพูดถึงหลี่อันผิงแล้ว ทุกๆครั้งที่ราคาเพิ่มสูงขึ้น ก็เหมือนกับเป็มีดกรีดลงไปที่ตัวของเขาหลังจากที่มาอยู่กับไอลี่ มันก็เป็เพียงความสวยงามในฉากหน้าเท่านั้นแม้ไอลี่จะเอาเสื้อผ้าแบรนด์เนมมาให้อยู่บ่อยๆแต่เขาเองก็ต้องให้ของขวัญตอบแทนกลับไปเช่นกัน เวลาครึ่งเดือนสั้นๆนอกจากเสื้อผ้ากองโตที่ได้มากับบัตรเครดิตที่รูดจนติดลิมิตแล้วไม่กี่ใบตอนนี้ก็เป็เพียง “ของด้อยคุณภาพ” เท่านั้น!
เงินหลายล้านนั่น...หากเขายังไม่เลิกกับหลินลั่วหรานนั่นต่างก็เป็เงินของเขาทั้งนั้น หลี่อันผิงคิดขึ้นมาแบบนั้นก่อนจะรู้สึกเ็ปหัวใจจนชาไปหมด