ตลอดการเทรนของทั้งวัน ลั่วเสี่ยวซีทำทุกอย่างอย่างไร้ิญญา
เธอทำตามที่เทรนเนอร์สั่งได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง และเต็มที่ด้วยใบหน้าเธอเรียบเฉยไร้อารมณ์
“เฮ้อ” เทรนเนอร์ถึงกับถอนหายใจ เธอชอบลั่วเสี่ยวซีคนเดิมมากกว่า ถึงจะพยายามเต็มที่เหมือนทุกครั้ง แต่ลั่วเสี่ยวซีคนเดิมหน้าตามีหลายอารมณ์ บางครั้งก็ชอบแอบหนีไปอู้ ไม่ก็แกล้งแหย่เธอบ้างเมื่อมีโอกาส
หลังออกกำลังกายมาสองชั่วโมงคลาสเรียนอบรมก็เริ่มต้นขึ้น เนื้อหาของคาบนี้เกี่ยวกับวิธีการควบคุมความตื่นเต้นและกังวลเมื่อเริ่มเข้าวงการ การรับมือกับพวกนักข่าวเป็ต้น ทั้งหมดนี้ไม่มีอะไรเข้าหูลั่วเสี่ยวซีสักอย่าง คลาสเรียนจบแล้วเธอก็ยังคงนั่งนิ่งอย่างใจลอยอยู่บนเก้าอี้ พลางมองจ้องโต๊ะตรงหน้าอย่างเหม่อลอย
แคนดี้เดินเข้ามาหา “เสี่ยวซี ได้เวลากินข้าวแล้ว”
ลั่วเสี่ยวซีหันไปมองแคนดี้หน้านิ่งก่อนตอบรับ เธอเดินตามแคนดี้ไปที่ห้องอาหารเหมือนหุ่นยนต์
ปกติเวลาเหนื่อยๆ หลังเทรนเสร็จ ลั่วเสี่ยวซีมักจะตื่นเต้นดีใจทุกครั้งเมื่อถึงเวลาอาหารกลางวัน แต่วันนี้แม้จะมีเนื้อไก่รมควันกลิ่นหอมยวนใจ สลัดผลไม้และนมเปรี้ยววางอยู่ตรงหน้า เธอก็ไม่ขยับสักนิด ดวงตาคู่งามดูว่างเปล่า
“เสี่ยวซี ไม่กินไม่ได้นะ” แคนดี้หยิบส้อมใส่มือเธอ “สุขภาพสำคัญที่สุด”
คำพูดนี้ทำให้ลั่วเสี่ยวซีได้สติ
นั่นสิ สุขภาพสำคัญที่สุด เธอต้องดูแลตัวเองดีๆ นี่เป็สิ่งที่เธอรับปากซูอี้เฉิงเอาไว้
คำแรก คำที่สอง...
อาหารบนจานถูกลั่วเสี่ยวซีจัดการไปทีละอย่าง ต่อให้ไม่รู้รสแต่เธอก็กลืนมันลงไป เธอต้องดูแลตัวเอง
เมื่อการเทรน่บ่ายจบลง แคนดี้ก็ถามลั่วเสี่ยวซีว่า
“อยากกลับบ้านเลย หรืออยากอยู่ที่นี่ต่อ?”
ลั่วเสี่ยวซีมองพระอาทิตย์ที่เริ่มคล้อยต่ำ
“หนูอยากกลับแล้ว”
เธอไม่รู้เหมือนกันว่ากลับไปแล้วจะทำอะไร เธอแค่อยากอยู่คนเดียวเงียบๆ
“โอเค” แคนดี้ส่งลั่วเสี่ยวซีลงไปที่ชั้นล่าง ก่อนจะส่งข้อความหาเสิ่นเยว่ชวน
วันนี้ลู่เป๋าเหยียนต้องทำโอที แตู่เี่อันเลิกงานก่อนนานแล้ว ถ้าเป็เมื่อก่อนเธอคงไปหาเขาที่บริษัท แต่วันนี้คนที่เธออยากไปหาคือลั่วเสี่ยวซี
เธออยากอยู่ข้างๆ เวลาที่ลั่วเสี่ยวซี้าเธอมากที่สุด
เมื่อรู้มาจากเสิ่นเยว่ชวนว่าลั่วเสี่ยวซีกลับไปที่อพาร์ตเมนต์แล้ว ูเี่อันจึงบอกที่อยู่กับอาเฉียนให้ไปส่งเธอ
เธอกับลั่วเสี่ยวซีมีกุญแจห้องของกันและกัน เธอเปิดประตูเข้าห้องไปได้ทันทีโดยไม่ต้องกดออด สิ่งที่ลอยมาแตะจมูกเป็อย่างแรกหลังเดินเข้าห้องมาคือกลิ่นเหล้า
“เสี่ยวซี!”
ูเี่อันรีบวิ่งไปที่ห้องรับแขก จึงเห็นลั่วเสี่ยวซีกำลังนั่งอยู่บนพรมหน้าโซฟา เธอไม่ได้มอมตัวเองจนเมา แค่ถือเหล้าสองขวดเอาไว้
ูเี่อันค่อยวางใจได้บ้าง เธอกลัวลั่วเสี่ยวซีจะใช้เหล้าบรรเทาความเ็ปที่สุด
ูเี่อันเดินตรงเข้าไปหยิบขวดเหล้า และแก้วออกมาจากมือของลั่วเสี่ยวซี
“กินข้าวหรือยัง? ฉันทำอะไรให้กินเอาไหม?”
“เธอวางใจเถอะ” เสียงของลั่วเสี่ยวซียังคงแหบพร่า “ฉันไม่ดื่มเหล้าหรอก เจี่ยนอัน ต่อไปนี้ฉันจะไม่ดื่มเหล้าอีกแล้ว”
เมื่อก่อนทุกครั้งที่โดนซูอี้เฉิงปฏิเสธ ลั่วเสี่ยวซีมักจะใช้แอลกอฮอล์มาช่วยทำให้ลืม เธอคิดมาโดยตลอดว่าวิธีนี้เป็วิธีที่เท่และทำให้เธอรู้สึกดี แม้พ่อจะเตือนเธอว่าอย่าดื่มเหล้า เพราะเหล้ามีแต่จะทำให้เราทำอะไรผิดพลาดก็ตาม
ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่าพ่อไม่ได้หลอกเธอ นี่คงเป็ผลของการที่เธอไม่เชื่อฟังเขา
“เสี่ยวซี” ูเี่อันนั่งลงข้างๆ ลั่วเสี่ยวซี “ตอนนี้ยังไม่สาย เข้มแข็งเข้าไว้ กลับไปเป็เธอคนเดิม เื่นี้มันจะผ่านไป รอให้ทุกคนลืมทุกอย่าง พี่ฉันคงกลับมาหาเธอเอง”
“ฉันไม่มีหน้าไปเหยียบที่เฉิงอันอีกแล้ว” ลั่วเสี่ยวซียิ้มเยาะตัวเอง “พ่อเคยบอกฉันว่า นิสัยแบบฉันสักวันคงได้หาเื่ใส่ตัวแน่ๆ เื่ที่เกิดขึ้นพิสูจน์ว่าคำพูดของพ่อฉันไม่ได้ผิดไปเลย”
น้ำตาเริ่มซึมออกมาจากหางตาของลั่วเสี่ยวซี เธอปาดมันทิ้งก่อนจะลุกขึ้น และหยิบเหล้าทุกขวดในบ้านเทลงท่อระบายน้ำไปจนหมด
คนเราต้องรอให้เกิดเื่อะไรเสียก่อนถึงจะได้สติ สามารถแยกแยะดีเลวได้อย่างถูกต้อง
ูเี่อันเปิดตู้เย็นของลั่วเสี่ยวซี นอกจากเครื่องดื่มพวกนมเปรี้ยวแล้ว ยังมีอาหารแช่แข็งกับผักกาดหอมที่เกือบจะเหี่ยวอยู่อีกอย่าง
เธอต้มเกี้ยวหุนทุนในน้ำเดือด ก่อนจะวางผักกาดหอมลงไปในชาม เมื่อน้ำซุปร้อนๆ ถูกเทลงไป ผักกาดหอมก็ดูเขียวน่าทาน พร้อมกับกลิ่นน้ำซุปที่หอมโชยออกมา เธอเทแตงกวาผัดซอสที่เหลือจากเมื่อเช้าใส่ในจาน ก่อนจะยกอาหารทั้งหมดไปให้ลั่วเสี่ยวซี
ลั่วเสี่ยวซีรู้สึกหัวใจหนักอึ้ง เธอไม่มีความอยากอาหารสักนิด แต่ถึงอย่างนั้นก็ยอมนั่งลงกินอาหารตรงหน้า
อย่าทำเื่โง่ๆ ดูแลตัวเองให้ดี เธอรับปากเขาไว้
หลังกินอาหารเสร็จ ูเี่อันก็คั้นน้ำผลไม้สดๆ สองแก้ว และไปนั่งคุยกับลั่วเสี่ยวซีที่ระเบียง
ั้แ่เธอแต่งงาน น้อยครั้งที่จะมีโอกาสมานั่งคุยกับเพื่อนแบบนี้ โดยเฉพาะหลังจากที่ลั่วเสี่ยวซีตัดสินใจจะเป็นางแบบ ยิ่งแทบไม่มีโอกาสเข้าไปใหญ่
“เสี่ยวซี ฉันไม่อยากให้เธอเป็แบบนี้ไปเรื่อยๆ” ูเี่อันพูดตรงๆ
“ไม่หรอก ฉันแค่้าเวลาเพื่อเผชิญหน้ากับความจริง” ลั่วเสี่ยวซีดื่มน้ำผลไม้ “ฉันเองก็รู้ว่าจะปล่อยให้เป็แบบนี้ต่อไปไม่ได้ อาชีพของฉันเพิ่งเริ่มต้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันก็ต้องเข้มแข็ง เพียงแต่...เจี่ยนอัน พวกเธอให้เวลาฉันทำใจสักหน่อยเถอะนะ”
“ได้สิ” ูเี่อันกุมมือลั่วเสี่ยวซีเอาไว้ “เสี่ยวซี ฉันกำลังรอลั่วเสี่ยวซีคนที่ดียิ่งกว่าเดิมกลับมานะ”
ลั่วเสี่ยวซียิ้มก่อนจะใช้น้ำผลไม้แทนเหล้า เธอชนแก้วกับูเี่อันก่อนจะจิบเล็กน้อย “เธอต้องกลับหรือยัง”
“ฉันอยากอยู่เป็เพื่อนเธอที่นี่” ูเี่อันตอบ
“ขอบใจนะเจี่ยนอัน” ลั่วเสี่ยวซีกอดูเี่อันพลางเอ่ย “แต่ฉันไม่เป็ไรแล้วจริงๆ ฉันไม่ทำเื่บ้าๆ แบบเมื่อวานแล้วล่ะ เธอกลับไปเถอะ กลับไปอยู่เป็เพื่อนลู่เป๋าเหยียนบ้าง”
พูดจบยังไม่ทันไร ลู่เป๋าเหยียนก็โทรมาหาูเี่อัน เขาถามเธอว่าวันนี้เธอจะกลับบ้านหรือเปล่า
ูเี่อันมองลั่วเสี่ยวซีอย่างลังเล ลั่วเสี่ยวซีจึงแย่งมือถือเธอมา
“มารับเจี่ยนอันกลับได้เลย ฉันอยู่คนเดียวได้”
พูดจบลั่วเสี่ยวซีก็วางสาย เธอหันไปยิ้มใหู้เี่อัน
“เธอคงอยู่เป็เพื่อนฉันทุกวันแบบนี้ไม่ได้หรอกจริงไหม ทำแบบนั้นลู่เป๋าเหยียนคงเกลียดฉันตาย ฉันต้องทำตัวให้ชิน เดี๋ยวก็ดีขึ้นแล้วล่ะ”
คำสุดท้ายนั้น ลั่วเสี่ยวซีพูดปลอบใจตัวเอง
ูเี่อันมองลั่วเสี่ยวซีอย่างพิจารณา เธอรู้สึกว่าเพื่อนคนนี้ดูแปลกไป แต่ก็เหมือนจะไม่ใช่
ไม่นานหลังจากนั้น มือถือของูเี่อันก็ดังขึ้น ลู่เป๋าเหยียนมาถึงแล้ว
“ไปเถอะ” ลั่วเสี่ยวซีผลักูเี่อันให้เดินออกจากบ้าน “ไม่ต้องเป็ห่วงฉัน ถ้ามีอะไรฉันจะโทรหาเธอทันทีเลย”
ูเี่อันกอดลั่วเสี่ยวซีก่อนจะลงไปที่ชั้นล่าง เมื่อเดินออกจากประตูหน้า เธอก็เห็นรถของลู่เป๋าเหยียนจอดอยู่ อาเฉียนลงจากรถมาช่วยเปิดประตูให้เธอเข้าไปนั่ง
“ลั่วเสี่ยวซีเป็ยังไงบ้าง” ลู่เป๋าเหยียนถาม
“ก็โอเค ไม่เหมือนเมื่อวานแล้วล่ะ” ูเี่อันตอบ “อีกสักสองวันเธอก็คงกลับมาเป็ปกติ”
“ฉันให้ผู้จัดการของเธอเลื่อนตารางงานออกไปแล้ว ไม่ต้องเป็ห่วงนะ”
“งานอะไร?” ูเี่อันถามอย่างใคร่รู้ เสี่ยวซีเพิ่งเข้าวงการไม่นาน ยังไม่ได้เป็ที่รู้จักก็มีงานเข้ามาแล้วเหรอ?
“ผลตอบรับจากการถ่ายแบบให้นิตยสาร ZuiShiShang ดีมาก” ลู่เป๋าเหยียนอธิบาย “มีนิตยสารอีกสองฉบับเชิญให้เธอไปถ่ายแบบหน้าปก แคนดี้กำลังดันให้เธอได้ลงแข่งประกวดนางแบบของสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งได้ ยิ่งเธอฟื้นตัวเร็ว ก็ยิ่งดังเร็ว”
ูเี่อันคิดอยู่สักพัก ก่อนจะพิมพ์ข้อความตามสิ่งที่ลู่เป๋าเหยียนบอกส่งไปให้ลั่วเสี่ยวซีทาง Wechat
เธอรู้จักนิสัยของเพื่อนคนนี้ดี ถ้ามีอะไรมากระตุ้นสักหน่อย คงกลับมาฮึดเหมือนเดิม
ลู่เป๋าเหยียนมองมือถือของูเี่อันอยู่สักพัก ก่อนจะยื่นมือถือของตัวเองส่งให้เธอ
ูเี่อันทำหน้างง “มีอะไรเหรอ?”
ลู่เป๋าเหยียนชี้ไปที่สัญลักษณ์ Wechat บนหน้าจอมือถือของูเี่อัน
“ช่วยฉันลงโปรแกรมอันนี้ที”
“นายอยากจะ...ลง Wechat?” ูเี่อันช็อก “ลู่เป๋าเหยียน นายเอาจริงใช่ไหม?”
เธอนึกว่าชีวิตนี้ลู่เป๋าเหยียนจะไม่ใช้โปรแกรมแชทพวกนี้ซะแล้ว
ลู่เป๋าเหยียนเลิกคิ้วก่อนเอ่ย “เธอเองก็ใช้ ฉันจะใช้บ้างไม่ได้เหรอ”
ูเี่อันพยักหน้างึกงัก “ได้สิ ได้อยู่แล้ว...”
หลายปีที่ผ่านมาเขาไม่คิดจะใช้โปรแกรมพวกนี้ แล้วทำไมจู่ๆ ถึงอยากใช้ขึ้นมาซะล่ะ?
แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ูเี่อันก็จัดการลงโปรแกรมให้เขาเรียบร้อย เธอสมัครไอดีด้วยเบอร์โทรของเขา ก่อนจะยื่นมือถือคืนให้
ลู่เป๋าเหยียนหยิบมือถือของูเี่อันไปด้วยพร้อมกัน ก่อนจะสแกน QR Code ของเธอ ทั้งสองคนจึงเป็เพื่อนกันเรียบร้อย
ที่น่าแปลกใจไปกว่านั้นคือ ลู่เป๋าเหยียนทำหน้าเหมือนกำลัง...พอใจ?
ลู่เป๋าเหยียนจ้องรายชื่อเพื่อนที่มีเพียงชื่อของูเี่อันอย่างสนใจ ก่อนจะจิ้มเข้าไปใน Moments ของเธอ
“อย่าดูนะ!” ูเี่อันไม่เพิ่มใครเป็เพื่อนง่ายๆ รายชื่อผู้ติดต่อของเธอจึงมีแต่เพื่อนสนิทเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เธอจึงโพสต์อะไรได้อย่างตามใจ ถึงจะโพสต์แค่ประมาณเดือนละครั้ง แต่ทุกโพสต์นั้น...เนื้อหาเยอะมาก
ลู่เป๋าเหยียนเลื่อนลงไปเรื่อยๆ จนเจอโพสต์สมัยที่เธอยังเรียนอยู่ที่อเมริกา เขาเลิกคิ้วเล็กน้อย
“เธอเคยไปเล่นพนันที่ลาสเวกัส? หืม เล่นได้ด้วยเหรอเนี่ย”
“ไปกับเสี่ยวซีน่ะ” ูเี่อันนึกถึงตอนไปอเมริกาใหม่ๆ เธอไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น เธอกำเงินหลายร้อยดอลลาร์เดินเข้าบ่อนที่ลาสเวกัส ก่อนจะลงเงินไปแค่เล็กน้อย ทว่ากลับชนะได้เงินพอจะกินอาหารมื้อใหญ่ได้เลย
นั่นเป็ครั้งแรกที่เธอได้เงินมาอย่างง่ายดาย เพราะความตื่นเต้นจึงแชร์โพสต์นี้ลงไป แต่หลังจากนั้นเธอกับลั่วเสี่ยวซีก็ไม่ได้เล่นอีก
ที่ชนะในครั้งแรกอาจจะเป็เพราะโชคช่วย เื่แบบนี้คงไม่เกิดขึ้นเป็ครั้งที่สอง พวกเธอรู้ดี
“ไว้คราวหน้าฉันจะพาเธอไป” ลู่เป๋าเหยียนเอ่ย “ถ้าแพ้ก็นับเป็ส่วนของฉัน”
“ที่จริงฉันเล่นไพ่ได้ไม่เลวหรอกนะ” ูเี่อันเอียงคอเล็กน้อยพลางมองลู่เป๋าเหยียน “บางทีฉันอาจจะชนะก็ได้”
ลู่เป๋าเหยียนยิ้ม “ถ้าชนะก็นับเป็ของเธอ”
ูเี่อันเริ่มรู้สึกว่าลู่เป๋าเหยียนรับปากว่าจะพาเธอไปหลายที่แล้วเหมือนกัน ทั้งโรงบ่มไวน์ที่ฝรั่งเศส ทั้งลาสเวกัส...ถึงแม้่ไม่กี่เดือนที่ผ่านมาจะไม่มีใครเอ่ยถึงเื่หย่าเลยก็ตาม แต่เธอยังคงจำได้ไม่ลืมว่า การแต่งงานครั้งนี้มีอายุแค่สองปีเท่านั้น
ลู่เป๋าเหยียนงานยุ่งขนาดนี้ เวลาสั้นๆ แค่สองปี เขาจะทำได้อย่างที่รับปากไว้หรือเปล่านะ?
หรือว่า...เขาไม่เคยคิดถึงเื่ที่การแต่งงานของเรามีเวลาแค่สองปี?
คนที่ประหลาดใจปนสงสัยกับเื่นี้ ก็คือกลุ่มคนที่มีเบอร์ส่วนตัวของลู่เป๋าเหยียน อาทิเช่น เสิ่นเยว่ชวน
เสิ่นเยว่ชวนกำลังดื่มอยู่กับกลุ่มเพื่อนที่ผับ เมื่อเปิด Wechat ออกมาก็พบการแจ้งเตือนเพื่อนที่อาจรู้จัก นั่นก็คือลู่เป๋าเหยียน เขาใจนมือถือแทบร่วงพลางสงสัยว่าระบบผิดพลาดหรือเปล่า
ว่าแล้วจึงให้เพื่อนๆ ช่วยกันดู แต่ละคนก็ใจนแทบเขวี้ยงมือถือทิ้ง
เมื่อก่อนพวกเขาพูดให้ตายลู่เป๋าเหยียนก็ไม่มีทีท่าจะสนใจลงแอปพลิเคชันพวกนี้ แต่ตอนนี้เขากลับยอมเล่นแล้วเนี่ยนะ...
เสิ่นเยว่ชวนรวบรวมความกล้าลองกดเพิ่มเพื่อนไป ไม่นึกว่าเลยว่าจะได้รับการตอบรับอย่างรวดเร็ว เขายิ่งข้องใจเข้าไปใหญ่เลยส่งข้อความไปถาม
“นายทำมือถือหายหรือเปล่า”
ข้อความที่ตอบกลับมาเป็ข้อความเสียง ซึ่งเป็เสียงของูเี่อัน
“มือถือเขาไม่ได้หาย ฉันช่วยลงให้เขาเอง”
เสิ่นเยว่ชวนพยักหน้าอย่างเข้าใจในทันที
เพื่อนคนอื่นเองก็พยักหน้าตาม พวกเขาก็เข้าใจทุกอย่างแล้วเช่นกัน
