“หญ้าหลงหยางจริงๆ ด้วย...” เสี่ยวเมิ่งจับสมุนไพรอย่างระมัดระวัง นิ้วขาวคล้ายมีแสงเรืองออกมา มองแล้วสุกใสแวววาว
หลังจากบรรจุสมุนไพรลงในแหวนมิติ เสี่ยวเมิ่งถือโอกาสนำวัตถุแร่ผลึกออกมา แล้วโบกมือเรียกหยวนจุน “ข้าเคยให้สัญญากับท่านปู่ ว่าจะไม่ให้ผู้ใดรู้ว่าข้าเป็นักสร้าง แต่วันนี้ข้าเห็นความสามารถที่พอใช้ได้ของเ้า ข้าจึงยอมผิดสัญญาสักครั้ง!”
“เพียงครั้งนี้ หากเ้ามีพร์ในการเป็นักสร้างจริงๆ เช่นนั้นข้าก็ไม่มีสิ่งใดจะต้องพูด แต่ถ้าเ้าไม่มีพร์ในการเป็นักสร้าง เ้าจะต้องยอมแพ้ แล้วตั้งใจบ่มเพาะพลังยุทธ์ต่อไป”
เสี่ยวเมิ่งยกริมฝีปากมีเสน่ห์ขึ้น แววตาเต็มไปด้วยความมั่นใจ ภายในใจนางรู้ชัดว่านักยุทธ์ธรรมดาที่ไม่ได้รับการฝึกฝน เป็ไปไม่ได้ที่จะเข้าใจได้ด้วยการมอง ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเข้าใจกระบวนการสร้างได้อย่างแน่นอน
ซึ่งจุดประสงค์ในการทำเช่นนี้ของนางก็ชัดเจนเช่นกัน คือ ้าให้หยวนจุนเลิกล้มความตั้งใจที่จะเป็นักสร้าง
เพราะท้ายที่สุด การบ่มเพาะพลังนั้นต้องเน้นไปที่การรวบรวมสมาธิ ไม่ว่อกแว่ก หากเขายังฝักใฝ่เกี่ยวกับการสร้างเช่นนี้ คงส่งผลต่อการพัฒนาบ่มเพาะพลังยุทธ์
“ฮู่”
และการควบคุมวัตถุแร่ผลึกมิใช่ปราณ แต่เป็พลังจิต
หยวนจุนแสดงท่าทีตื่นตาตื่นใจ มองวัตถุแร่ผลึกประหนึ่งกำลังได้รับคำแนะนำพิเศษ
เปลวไฟสีดำรางๆ ออกมาจากมือของเสี่ยวเมิ่ง เพียงครู่เดียว วัตถุแร่ผลึกก็เปลี่ยนเป็เหล็กหลอมเหลว
“เปลวไฟสีดำนี้มีความร้อนสูง! สามารถหลอมละลายวัตถุแร่ผลึกได้ในทันที!?” หยวนจุนเอ่ยขึ้น ภายในใจรู้สึกเหมือนมีถังประมาณเจ็ดแปดใบห้อยแกว่งไปมาอยู่
เขามั่นใจมากว่าเปลวไฟนั้นไม่ธรรมดาอย่างที่คิดแน่นอน! แม้แต่ในบันทึกตำราดวงดาวโบราณ ยังไม่ปรากฏดวงดาวธาตุไฟเช่นนี้!
แม้เป็ปราณธาตุดาวที่ไม่เคยมีผู้ใดค้นพบ แต่ก็ไม่น่าจะมีความร้อนสูงและมีพลังทำลายล้างได้มากเช่นนี้ นำไปเทียบกับแกนหลักของดาวจูเชวี่ยก็ยังเทียบไม่ติด
เสี่ยวเมิ่งไม่เพียงบ่มเพาะถึงขั้นหนึ่ง แต่ยังเป็นักสร้างอีกด้วย! อย่างที่รู้ว่าการประสานกับปราณธาตุดาวเป็เอกลักษณ์เฉพาะของนักยุทธ์
หยวนจุนกลืนน้ำลายเฮือก ภายในห้องรู้สึกได้ถึงคลื่นพลังจิตที่แผ่ออกจากร่างกายนาง เหมือนดั่งขว้างก้อนหินลงในแม่น้ำ แล้วเกิดแรงคลื่นกระเพื่อมนับไม่ถ้วน
“แข็ง!”
ผมยาวสลวยของเสี่ยวเมิ่งปลิวไปตามแรงพลังของวัตถุในมือและเสียงอันดังของนาง จากนั้นก็มีแสงระยิบระยับส่องผ่านนิ้วเรียวยาว
ขณะที่หยวนจุนมองแหวนมิติสีเงินสำหรับบุรุษที่กำลังส่องสว่างในอากาศด้วยความสงสัย นางก็มองหยวนจุนด้วยใบหน้าที่ยิ้มอย่างพอใจ
“รับไป ข้าให้เ้าแล้ว” เสี่ยวเมิ่งโยนแหวนนั่นให้หยวนจุนอย่างไม่ใส่ใจแล้วกล่าวว่า “แม้วัตถุที่ใช้สร้างจะไม่ได้มีราคาสูง แต่เมื่อหลอมกลายเป็แหวนมิติแล้ว มูลค่าจะเพิ่มขึ้นหลายสิบเท่า”
หยวนจุนจับแหวนมิตินั้นอย่างทะนุถนอม เขายิ้มเจื่อนเล็กน้อย หากนักสร้างทั่วไป้าสร้างสิ่งของเครื่องมือ จำเป็ต้องใช้เวลาพอสมควร
แม้เสี่ยวเมิ่งจะได้รับความช่วยเหลือจากเปลวไฟประหลาดนั่น แต่ก็ไม่น่าสร้างแหวนได้สำเร็จรวดเร็วเช่นนี้
นักสร้างแบ่งเป็ 6 ระดับอย่างชัดเจน คือ นักสร้างธรรมดา นักสร้างระดับปรมาจารย์ นักสร้างระดับจ้าว นักสร้างระดับาา นักสร้างระดับมหาปราชญ์ และนักสร้างระดับจักรพรรดิ แต่ละระดับจะแบ่งเป็ 2 ขั้น คือ ขั้นทั่วไป และขั้นยอด ซึ่งเหมือนกับระดับวงแหวนเล็กใหญ่ของนักยุทธ์
เมื่อนึกถึงทักษะการสร้างที่รวดเร็วและสำเร็จได้เพียงครั้งเดียวของนาง เห็นได้ชัดว่าเหนือชั้นกว่านักสร้างธรรมดาขั้นทั่วไป อย่างน้อยต้องเป็นักสร้างขั้นสูง
“อะไรหรือ เ้าเข้าใจแล้ว?” เสี่ยวเมิ่งขยับขนตางอน ใจร้อนอยากรู้ว่าหยวนจุนจะตอบเช่นไร
หลังจากถอนหายใจ หยวนจุนก็พยักหน้าเบาๆ
เสี่ยวเมิ่งเห็นหยวนจุนนิ่งเงียบ คำตอบของหยวนจุนกับสิ่งที่นางคิดไว้ในใจแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง นางขมวดคิ้วและกล่าวว่า “เมื่อเป็เช่นนั้น เ้าก็ลองดู”
หลังจากได้รับวัตถุแร่ผลึก หยวนจุนไม่รีรอที่จะรวมพลังจิตในกาย แม้ไม่ได้รับการชี้แนะจากเสี่ยวเมิ่งอย่างเต็มที่ แต่การควบคุมวัตถุแร่ผลึกนี้ก็ไม่ได้ยากจนเกินไป
“ฮู่”
อักษรลับเก้าตะวันวนรอบกาย ปราณดาราภายในเคลื่อนรวมตามมือของหยวนจุนอย่างไม่ลดละ ก่อนแปรเปลี่ยนเป็เปลวไฟอี้เสอขนาดย่อม หลอมวัตถุสร้างด้วยความร้อนสูง
เมื่อเทียบกับเปลวไฟสีดำที่ไม่รู้จักของเสี่ยวเมิ่งแล้ว ดาวอี้เสอของหยวนจุนที่บันทึกอยู่ในตำราดวงดาวโบราณยังห่างชั้นอยู่มาก
ผ่านไปหนึ่งก้านธูป เขาเพิ่งเปลี่ยนวัตถุแร่ผลึกให้รวมกันเป็เหล็กหลอมได้สำเร็จ ก่อนใช้พลังจิตบีบให้มีรูปร่างเป็วัตถุอย่างที่เขา้า
“แข็ง!”
หยวนจุนเปล่งเสียงออกมาด้วยความโล่งใจ แตกต่างจากเสี่ยวเมิ่งที่เห็นแล้วรู้สึกแปลกใจ เหล็กหลอมกลายเป็แหวนมิติคล้ายสร้อยคอ รูปทรงดูดี ยากที่จะบอกว่าเป็วัตถุที่สร้างครั้งแรกจากมือของนักสร้าง
ด้วยความประหลาดใจ เสี่ยวเมิ่งอดไม่ได้ที่จะอุทานกับตนเอง เป็ไปได้ไหมว่าหยวนจุนเป็อัจฉริยะในอัจฉริยะ มีพร์ตามคุณสมบัติของนักสร้าง?
สิ่งที่เสี่ยวเมิ่งคิดในใจ หยวนจุนย่อมรู้ดี เหตุผลที่เขาสามารถควบคุมวัตถุได้ด้วยการมองเพียงครั้งเดียว เหตุเพราะชาติที่แล้วเขามีความเข้าใจวิธีการควบคุมพลังจิตอยู่บ้าง
“แม่นาง นี่เป็วัตถุชิ้นแรกที่ข้าสร้างได้ พอใช้ได้หรือไม่?”
รอยยิ้มหวานของหยวนจุนทำให้เสี่ยวเมิ่งตกตะลึง นางจึงตอบอย่างตะกุกตะกักไปว่า “ก็...ก็พอใช้ได้!”
หยวนจุนค่อยๆ คลายมือและหย่อนสร้อยสีเงินนั้นเหนือฝ่ามือของเสี่ยวเมิ่ง พร้อมเอ่ยเสียงแ่ว่า “ผู้อื่นให้ของมาก็ต้องรู้จักตอบแทน สร้อยนี้ถือเป็ของตอบแทนแล้วกัน”
เมื่อมองดูสร้อยคอสีเงินที่ส่องประกายเส้นนั้น แก้มของเสี่ยวเมิ่งก็เปลี่ยนเป็สีแดงทันที นางคว้าสร้อยคอที่อยู่ด้านหน้า ไม่กล้าสบตาหยวนจุน แล้วรีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
“ผู้ใดอยากได้สร้อยคอไม่สมประกอบของเ้ากัน หึ ข้าจะโยนมันทิ้ง!”
เมื่อเห็นเสี่ยวเมิ่งที่พึมพำไม่หยุดเดินออกไปไกลแล้ว หยวนจุนส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็ตกอยู่ในความเงียบ
เปลวไฟที่เสี่ยวเมิ่งแสดงให้เห็นตอนกำลังหลอมวัตถุ ทำให้เขารู้สึกใและไม่สบายใจเป็อย่างมาก แม้เพียงชั่วครู่ หยวนจุนก็ค้นพบสิ่งที่ซ่อนอยู่ในนั้นได้
ยามที่เปลวไฟสีดำปรากฏ ปราณดาราทั้งหมดก็หายไปทันที หากตอนนั้นเขารวบรวมปราณดาราภายในอยู่ ต้องถูกเปลวเพลิงสีดำดูดไปอย่างแน่นอน
“ภายในสามารถเก็บเปลวไฟที่มีความร้อนสูงเช่นนี้ได้ เสี่ยวเมิ่งคงไม่ธรรมดาแน่” หยวนจุนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาหรี่ตาและพึมพำขณะมองประตูและหน้าต่างที่ปิดของบ้านไม้ด้านหน้า
“จิตใจของสตรี ยากแท้หยั่งถึง หากใช้รูปลักษณ์ภายนอกตัดสินว่านางเป็สตรีเช่นไร คงทำให้ข้าเสียเปรียบเป็อย่างมาก! ดูแล้วข้าคงต้องเฝ้าสังเกตนางให้มากกว่าเดิม!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้