ดวงตาของหานโม่นิ่งค้าง ไหล่บางกระตุกอย่างห้ามไม่อยู่ ส่วนหูกำลังฟังหานเสี่ยวมู่พูดอย่างตื่นเต้น
โตวโตวเข้าใจความคิดของหานโม่ทันที มันโผขึ้นจากไหล่ของหานโม่แล้วบินไปรอบๆ เรือนของฮูหยินรอง แล้วสื่อสารกับหานโม่ผ่านทางความคิดไปด้วย
“เมื่อกี้ข้าเห็นเงาดำ!”
หานโม่ก็ตอบกลับว่า "ข้าก็เห็นเช่นเดียวกัน เ้าลองไปสืบดู"
โตวโตวมุ่งหน้าไปยังเรือนของเว่ยซื่อทันที
มันบินไปด้วยความเร็วที่ไม่มากนัก อาศัยความมืดในยามราตรีทำให้สามารถหายตัวไปได้อย่างไร้ร่องรอย โดยที่ไม่ดึงดูดความสนใจของหานเสี่ยวมู่เลย
หานโม่เดินผ่านเรือนของฮูหยินรองไป หลังจากส่งหานเสี่ยวมู่จนถึงเรือนของจินซื่อเรียบร้อยแล้ว นางจึงเดินจากไปอย่างเงียบเชียบ
ทันทีที่หานเสี่ยวมู่เข้าไปในเรือนของจินซื่อแล้ว ภายในเรือนที่แต่เดิมมีเพียงแสงของโคมไฟสว่างไสวก็เริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นมา
ด้านในมีเสียงร้องถามว่า "เ้าตัวยุ่ง เ้าไปไหนมา" ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่หยุด
หานโม่ได้ยินเพียงแ่เบาเท่านั้นแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ นางเคลื่อนตัวไปอยู่ที่มุมๆ หนึ่ง ทำตัวราวกับค้างคาวที่ใช้ชีวิตในตอนกลางคืน จากนั้นจึงมาปรากฏตัวอยู่ที่เรือนของฮูหยินรองเว่ยซื่อโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็นเลย
ในขณะเดียวกัน โตวโตวก็ได้เข้ามาอยู่บนกิ่งไม้ข้างเรือนฮูหยินรองเว่ยซื่ออย่างเงียบๆ โดยไร้สุ้มเสียง
โตวโตวสามารถมองเห็นความเคลื่อนไหวภายในเรือนผ่านทางหน้าต่างได้อย่างง่ายดาย
ส่วนหานโม่เองก็ซ่อนตัวอยู่ไม่ไกลจากเรือนของฮูหยินรองเว่ยซื่อนัก ทันใดนั้นเสียงของโตวโตวก็ดังแหลมขึ้นมาผ่านจิตสำนึก “บัดซบ นายท่านนี่มันแย่มาก!”
"ท่านจินตนาการไม่ได้แน่ว่าข้ากำลังเห็นอะไร!"
"จริงๆ นะ ! นี่มันเกินกว่าท่านจะจินตนาการได้อย่างแน่นอน!"
ั้แ่สื่อสารผ่านทางความคิดเสียงของโตวโตวก็แสดงถึงความประหลาดใจไปถึงสามครั้งติดแล้ว ราวกับว่ามันกำลังเห็นภาพการล่มสลายของทวีปอย่างไรอย่างนั้น
แม้ว่าจะไม่ใช่เสียงที่ได้ยินได้ด้วยหู แต่หานโม่ก็เผลอใช้มือลูบไปที่ใบหูเบาๆ "เ้าพูดดีๆ ได้หรือไม่?"
แต่โตวโตวคล้ายว่าจะไม่มีสติแล้ว มันพูดพรรณนาถึงสิ่งที่ตัวเองเห็นให้แก่หานโม่ฟังอย่างรวดเร็วราวกับเครื่องส่งสัญญาณ
"ท่านลองเดาดูสิว่าเพราะเหตุใดในห้องของเว่ยซื่อถึงมีชายผู้หนึ่งเข้ามาหาในยามวิกาลเช่นนี้กัน ข้าคิดว่าชายผู้นี้คงจะเป็เงาดำเมื่อครู่เหมือนเขาจะมีวรยุทธ์สูงมาก หลังจากที่เขาเข้ามาแล้วเว่ยซื่อก็รีบวิ่งเข้าไปกอดทันที คนผู้นั้นก็โอบเอวของเว่ยซื่อไว้ด้วย ตอนนี้ทั้งสองคนประกบปากกันแล้ว! "
"อา นายท่าน มือของชายผู้นั้นวางอยู่บนก้นของเว่ยซื่อแล้ว!"
“ให้ตายเถอะ น่ารังเกียจจริง เว่ยซื่อกำลังถอดเสื้อผ้าของชายผู้นั้น!”
"อ้า! มือของชายผู้นั้นกระชากเสื้อผ้าของเว่ยซื่อออกมาแล้ว! ว้าว ขาวสว่างไปหมดเลย!"
เมื่อหานโม่ได้ฟังมุมปากก็กระตุกขึ้นมาทันที "รีบหลับตาลงเร็วเข้า นี่คือสิ่งที่เ้าควรดูงั้นหรือ? รีบกลับมาซะ!"
เห็นได้ชัดว่าการที่เว่ยซื่อสวมหมวกเขียวให้หานเฉินต้งเช่นนี้ต้องเป็เื่ใหญ่แน่ พอโตวโตวบรรยายอะไรแบบนี้ให้ฟังแล้ว ไม่เพียงแต่หานโม่สามารถเห็นภาพตามเท่านั้น แต่ก็ยังตลกอย่างสุดที่จะพรรณนาได้อีกด้วย
แม้ว่าหานโม่จะตลกโตวโตว แต่มุมปากกลับกระตุกขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
โตวโตวเองก็ไม่ได้คิดที่จะอยู่ชื่นชมภาพของชายหญิงคู่นี้อีกต่อไป ดังนั้นหลังจากมันมองดูชายผู้นี้อย่างละเอียดรอบคอบและจดจำลักษณะเด่นต่างๆ ของเขาได้แล้ว ก็กางปีกบินกลับไปหาหานโม่ทันที
หานโม่ไม่ได้ถามรายละเอียดต่างๆ จากโตวโตวในทันที แต่พาโตวโตวกลับไปที่เรือนเหอเซียงก่อน
ค่ำคืนนี้คล้ายกับว่าจะผ่านไปอย่างสงบสุข แต่ด้วยไม่รู้ว่าเป็เพราะเหตุใด ก่อนที่จะเข้านอนหานโม่กลับรู้สึกว่าพายุฝนกำลังจะมา [1]
เห็นได้จากเื่ที่เว่ยซื่อกำลังสวมหมวกเขียวให้แก่หานเฉินต้ง อันที่จริงภายในตระกูลหานก็เน่าเฟะไปหมดแล้ว คำว่าตระกูลชนชั้นสูง ที่จริงก็มีเพียงเท่านี้เอง
เช้าวันรุ่งขึ้น
ในขณะที่หานโม่กำลังอาบน้ำ โตวโตวก็ยังคงพูดถึงสิ่งที่มันเห็นเมื่อคืนนี้ด้วยความตื่นเต้น
"ว้าว นายท่าน ท่านพ่อของท่านถูกสวมหมวกเขียวเสียแล้ว ท่านจะทำอย่างไรหรือ?" โตวโตวนั้นรู้จักใบหน้าของหานเฉินต้ง ดังนั้นแล้วชายที่มันเห็นเมื่อคืนนี้ ไม่มีทางจะเป็หานเฉินต้งได้อย่างแน่นอน
หานโม่ชำเลืองมองไปยังโตวโตวโดยไม่พูดอะไร
“เ้าเป็อะไรหรือ? ตื่นเต้นมากหรือไม่ที่ได้เห็นภาพอะไรเช่นนั้น? เ้าไม่ใช่สัตว์เทพหรอกหรือ เหตุใดถึงชอบนินทาอะไรแบบนี้กัน?”
โตวโตวส่งเสียงหัวเราะแห้งๆ และย่ำเท้าเล็กๆ ของมันไปมาบนไหล่ของหานโม่ "นายท่านขอรับ สัตว์เทพก็เบื่อเป็เหมือนกันนะขอรับ ท่านดูเ้าพวกขี้ขลาดตระกูลหานพวกนี้สิ ความสามารถของตัวเองก็ไม่ได้ดีเด่อะไร แค่ถือว่าพอมีอยู่บ้าง ส่วนหานเฉินต้งผู้นั้นก็เป็คนหยิ่งผยองคงไม่คิดว่าจะถูกภรรยารองของตัวเองสวมหมวกเขียวให้เช่นนี้"
หานโม่ไม่อาจขัดขวางการนินทาของโตวโตวได้ นางจึงเมินเฉยเสีย หลังจากอาบน้ำเรียบร้อยแล้วนางจึงบอกให้เสี่ยวเยว่ไปทานมื้อเช้า ส่วนตัวนางจะออกไปข้างนอกเพียงคนเดียว
หานโม่เชื่อในสัญชาตญาณของตัวเองเสมอ ความรู้สึกที่ว่าพายุฝนกำลังจะมาอย่างเช่นเมื่อคืนเป็เหมือนคำเตือนจาก์ว่าบางสิ่งบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า
ตอนที่อยู่ในตระกูลหานนั้นหานโม่ไม่ได้ออกไปด้านนอกเรือนเหอเซียงมากนัก ในอนาคตยังมีเื่ราวมากมายที่ไม่อาจรู้ล่วงหน้าได้ ดังนั้นหานโม่จึงวางแผนที่จะออกไปสำรวจด้วยตัวเอง เพื่อดูว่าจะสามารถหาข่าวอะไรมาได้บ้างหรือไม่
นางเดินเลาะผ่านเรือนของฮูหยินสามจางซื่อไป จากนั้นจึงเดินผ่านประตูเข้ามายังสวนดอกไม้เล็กๆ ของเรือนฮูหยินรองเว่ยซื่อ
ในขณะที่กำลังเดินตรงเข้ามาตามทางเล็กๆ ของสวนดอกไม้แห่งนี้ หานโม่ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนดังออกมาจากด้านใน
เสียงนั้นคล้ายจะเป็เสียงผู้หญิง ฟังจากน้ำเสียงแล้วราวกับว่านางกำลังพบเจอเื่ราวอะไรบางอย่างที่น่าหวาดกลัว ท่ามกลางเสียงกรีดร้องที่แหบพร่าสลับกับเสียงกระอักเืซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ไม่รู้ว่านางะโมานานแค่ไหนแล้ว แต่เสียงนั้นแหบแห้งเสียจนแทบจะไม่เหลือเสียงอีกแล้ว
ด้วยเหตุนี้เองเสียงร้องของนางจึงดูน่าขนลุก
"รีบเดินๆ" บ่าวรับใช้หญิงสองสามคนเดินมาด้วยท่าทางรีบร้อน ดูเหมือนว่ามาจากฝั่งของเรือนฮูหยินรองเว่ยซื่อ
บ่าวรับใช้สองสามคนนี้กึ่งเดินกึ่งวิ่งมาตลอดทาง เมื่อพวกนางเห็นหานโม่ยืนอยู่ที่ปลายทางเดินก็ผงะไปครู่หนึ่งแล้วรีบทำความเคารพทันที "คุณหนูเจ็ด"
หานโม่พยักหน้า นางเหลือบมองใบหน้าของบ่าวรับใช้พลางขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วเอ่ยถามว่า "เกิดเื่อะไรขึ้นงั้นหรือ?"
บ่าวรับใช้ต่างมองหน้ากันไปมา โดยไม่ยอมพูดอะไร
หานโม่ส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างเ็า "เ้านายเอ่ยถาม พวกเ้ากล้าไม่ตอบหรือ?"
ในที่สุดบ่าวรับใช้เ่าั้ก็ดูเหมือนจะมีความหวาดกลัวขึ้นมาบ้าง พวกเขาตอบเสียงเบาด้วยความระมัดระวังว่า "เมื่อเช้านี้ที่เรือนของฮูหยินรองเกิดเื่ลักขโมยขึ้น บ่าวรับใช้หญิงผู้หนึ่ง้าจะขโมยของของฮูหยินรองเ้าค่ะ แต่นางถูกฮูหยินรองจับได้เสียก่อนและตอนนี้บ่าวรับใช้คนนั้นก็ถูกคนของฮูหยินรองทุบตีอยู่ในสวนเ้าค่ะ พวกบ่าวเองเพิ่งเดินผ่านที่นั่นมาเห็นว่าบ่าวคนนั้นมีเืไหลนองเต็มพื้น ช่างลงโทษได้เหี้ยมโหดยิ่งนัก......"
บ่าวรับใช้เ่าั้พูดไปพลางตัวสั่นสะท้านไปด้วยความหวาดกลัว เพราะยังจำภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ได้อย่างชัดเจน
หานโม่ส่งเสียง "อืม" ออกมานิ่งๆ พลางโบกมือให้พวกนางไปได้
บ่าวรับใช้หญิงพวกนั้นต่างรีบร้อนวิ่งหนีไป
หานโม่ยืนมองไปยังเรือนของเว่ยซื่อที่อยู่ไกลๆ
เมื่อคืนนี้ก็เพิ่งลักลอบคบชู้ มาวันนี้ก็ยังจับหัวขโมยได้อีกหรือ?
ตระกูลหานปฏิบัติต่อคนรับใช้อย่างดีเสมอมา แล้วบ่าวรับใช้ผู้นั้นจำเป็จะต้องรนหาที่ตายด้วยการลักขโมยของเ้านายอย่างงั้นหรือ?
หานโม่รู้สึกว่าเื่นี้ต้องมีเงื่อนงำอะไรบางอย่างแอบแฝงอยู่อย่างแน่นอน เมื่อครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งนางก็เดินตรงไปด้านในสวนทันที
