“ขั้นแรกกำเนิดหกชั้นฟ้าระดับต้น ก็เป็ผู้เยาว์ที่ไม่เลวคนหนึ่ง แต่เทียบกับ...” ซือคงอวี่ว่าแล้วก็กวาดสายตามองไปทางเนี่ยอวิ๋นเหอแวบหนึ่งแล้วเอ่ยเรียบๆ “อย่างไรก็ยังด้อยกว่านิดหน่อย...”
“สายตาของมู่หรงกลับมีเอกลักษณ์” หล่างซั่วยิ้ม เพียงแต่ในน้ำเสียงกลับไม่มีความจริงใจเท่าใดนัก สถานศึกษาทั้งห้าดูเหมือนกลมเกลียว ทว่าความจริงกลับแบ่งเขาแบ่งเรา เพื่อความสมานฉันท์ ทุกปีแต่ละสถานศึกษาจะมีการประลองห้าสถานศึกษาเพื่อจัดลำดับชื่อเสียง
นอกจากสถานศึกษาเซิ่งเต้าสามารถครองอันดับหนึ่งได้ทุกครั้งแล้ว สถานศึกษาอีกสี่แห่งก็่ชิงกันตลอด ถึงเป็สถานศึกษาชางหวงที่รั้งอันดับสาม แต่หลายปีมานี้ก็ตกต่ำลงเล็กน้อย หากปีนี้ยังไม่มีศิษย์ที่มีพร์ยอดเยี่ยมอีก เกรงว่าการจัดลำดับของสถานศึกษาทั้งห้าในปีนี้จะร่วงจากอันดับสาม
นี่มิใช่เื่ดีต่อสถานศึกษาชางหวง
มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ไม่มีคำตอบใดๆ ให้คนทั้งสี่ แค่มองเซียวเฉินต่อสู้ เฝ้ามองการสัประยุทธ์ แววตาก็สั่นไหวนิดๆ
เนื่องจากนางรับรู้ถึงกลิ่นอายหงสาเทวะบนร่างของเซียวเฉิน
นี่จึงเป็สาเหตุที่นางเลือกเซียวเฉิน
เวลาหนึ่งวันผ่านไป ยังเหลือหนุ่มสาวผู้มีพร์อีกห้าสิบคนบนเวทีต่อสู้ ในบรรดานั้นเซียวเฉินและเนี่ยอวิ๋นเหอก็อยู่ที่นั่นด้วย คนทั้งสองมองตากัน มีประกายแห่งการ่ชิงวาบขึ้นรางๆ
จากนั้นคนทั้งสองก็ย่างขึ้นเวทีต่อสู้เดียวกันภายใต้การจับจ้องของทุกคน
สายตาของทุกคนต่างจ้องมองไปที่นั่น
“เนี่ยเฉิน คิดไม่ถึงว่าเ้าจะทำให้ข้าประหลาดใจอีกครั้ง ถึงกับมีชีวิตรอดมาได้และยังย่างเข้าขั้นแรกกำเนิด หลายปีมานี้ข้าประเมินเ้าต่ำเกินไปจริงๆ” เนี่ยอวิ๋นเหอมองเซียวเฉิน มีเพียงสองคนเท่านั้นที่ได้ยินเสียง
เซียวเฉินมองเขา ดวงตาเปี่ยมเจตนาสังหาร
เขาลืมไม่ลงว่าตอนนั้นเนี่ยอวิ๋นเหอหยามเกียรติตนเองและท่านแม่เช่นไร เขาต้องทวงบัญชีแค้นรายนี้ให้ได้
ใช้โลหิตของเนี่ยอวิ๋นเหอมาล้างอาย
“เนี่ยอวิ๋นเหอ จำได้หรือไม่ว่าตอนข้าไปจากตระกูลเนี่ยเคยพูดไว้ว่าอย่างไร ข้าบอกว่าวันหน้าต้องฆ่าเ้าให้ได้” สายตาของเซียวเฉินราบเรียบ แต่กลับเหมือนกระบี่คมที่เผยประกายทิ่มแทงเนี่ยอวิ๋นเหออย่างแรง
เนี่ยอวิ๋นเหอรับรู้ได้ถึงเจตนาสังหารของเซียวเฉิน ทว่าเขากลับยิ้มแย้ม
“สังหารข้าหรือ? บังเอิญเสียจริง วันนี้ข้าก็จะฆ่าเ้า”
บทสนทนาของคนทั้งสองไม่มีผู้ใดได้ยิน แต่เมื่อเห็นคนทั้งสองเผชิญหน้ากัน ผู้คุมสอบห้าคนบนเวทีก็คิดไม่ถึง
“เจอกับเนี่ยอวิ๋นเหอ ท่าทางเซียวเฉินคนนั้นจะถูกคัดออก น่าเสียดาย” ฉินเหยาจุปาก ทว่าดวงตากลับมีรอยยิ้ม
ส่วนซือคงอวี่กับพวกหลวนโย่วทางด้านข้างก็สบตากัน จากนั้นเอ่ยยิ้มๆ “เป็การประลองที่น่าเฝ้ารอ ดูสิว่าระหว่างคนที่สถานศึกษาเซิ่งเต้าหมายตาหรือคนที่สถานศึกษาชางหวงหมายตาไว้ ผู้ใดจะแข็งแกร่งกว่ากัน”
ที่ด้านล่างเวที ดวงตาของคนตระกูลเนี่ยก็ทอแววอำมหิต
เผชิญหน้ากับเนี่ยอวิ๋นเหอ เนี่ยเฉินไม่มีทางรอด
ครั้งนี้ เขายังไม่ตายได้หรือ?
“ลงมือเถอะ วันนี้จะทวงคืนที่เ้าทุบตีข้า จากนั้นคือคนทั้งตระกูลเนี่ย” ระหว่างที่เอ่ยวาจา ด้านหลังของเซียวเฉินมีเปลวเพลิงร้อนระอุ เปลวไฟพวยพุ่งดุจทะเลเพลิง หงสาอาบเพลิงคืนชีพออกมาจากในทะเลอัคคี กู่ร้องยาวนานขึ้นฟ้า อานุภาพกดดันปกคลุมฟ้าดิน
ตูม!
ในเมื่อเซียวเฉินลงมือแล้ว เนี่ยอวิ๋นเหอย่อมไม่หวั่นไหว
เห็นเขาใช้หนึ่งฝ่ามือ ไม่ใช่ประทับฝ่ามือ ทว่ามีพลังเสวียนบางส่วนกลายเป็กระบี่คมเข่นฆ่าไป แสงกระบี่เย็นเยียบ เจตนาสังหารไร้ขีดจำกัด ก่อให้เกิดลมแรงพัดดังซ่าๆ
“หมื่นกระบี่หวนคืนถิ่น”
เซียวเฉินสืบเท้าออก สองมือทำมุทรา [1]
ครู่ต่อมา หงสาวิหคเทวะก็ทะยานไป ด้านหลังพกพาตราา อานุภาพไม่สามัญ อัคคีลุกโหม อุณหภูมิกลางอากาศพุ่งพรวด
ตูม!
เคล็ดวิชาสองชนิดปะทะกัน ะเิเสียงดังสนั่น
คนทั้งสองต่างล่าถอยออกมาหลายก้าว ประมือกันครั้งแรก คิดไม่ถึงว่าจะสูสี ไม่เพียงซือคงอวี่และมู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ แม้กระทั่งคนตระกูลเนี่ยก็ตกตะลึงเช่นกัน
ในความเห็นของพวกเขา แม้เซียวเฉินจะร้ายกาจ แต่อย่างไรก็ยังด้อยกว่าเนี่ยอวิ๋นเหออยู่หนึ่งขั้น คิดไม่ถึงว่าจะสูสีเสมอกันกับเนี่ยอวิ๋นเหอได้ พร์เช่นนี้ ทำให้มุมปากของมู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์โค้งขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ดูท่า นางไม่ได้มองคนผิดจริงๆ
สำหรับซือคงอวี่ทางด้านข้างก็มีสีหน้าแปรเปลี่ยนเล็กน้อย ดวงตาทอแววเคร่งเครียดอย่างลึกล้ำ
“เ้าลูกเดรัจฉานนี่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ั้แ่เมื่อใด?” คนตระกูลเนี่ยต่างตกตะลึง แม้กระทั่งเนี่ยเทียนไห่ก็สะท้านะเืกับฉากเมื่อครู่ ต้องรู้ก่อนว่า ในสายตาเขา เซียวเฉินเป็เพียงเศษสวะที่ฝึกปรือไม่ได้ แต่ในตอนนี้ เขาเห็นเซียวเฉินต่อสู้เสมอกับบุตรชายที่ตนเองภาคภูมิใจมาตลอด จะไม่ทำให้เนี่ยเทียนไห่ะเืใจได้อย่างไร!
“เนี่ยเฉิน ตอนนี้ข้าเริ่มสงสัยแล้วว่าเ้าจงใจซ่อนเร้นหรือได้พบโชควาสนาบางอย่าง คิดไม่ถึงว่าจะแข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้ ข้ายิ่งมองเ้าไม่ออกมากขึ้นทุกที” สายตาของเนี่ยอวิ๋นเหอคมกริบ เอ่ยวาจาเรียบๆ
แต่สิ่งที่ตอบเขากลับเป็กำปั้นของเซียวเฉิน
“รอเ้าตายแล้วข้าจะบอกกับศพเ้า” หมัดของเซียวเฉินมีเพลิงลุกท่วม ปลดปล่อยพลังเสวียน สายตาของเนี่ยอวิ๋นเหอเคร่งเครียด ความสามารถของเซียวเฉินในปัจจุบันทำให้เขารู้สึกกดดัน ดังนั้น เขาจะทิ้งเภทภัยนี้ไว้ไม่ได้
“เ้ายังไม่มีความสามารถจะสังหารข้า”
เนี่ยอวิ๋นเหอตวาดเสียงเกรี้ยว แสงเสวียนในมือกลายเป็สีทองมลังเมลือง ด้านหลังมีราชสีห์สีทองตัวหนึ่งคำรามด้วยโทสะ อานุภาพแกร่งกร้าว เห็นภาพนี้แล้ว สายตาของเซียวเฉินก็ยิ่งลึกล้ำ
เขารู้จักเคล็ดวิชานี้
เคล็ดวิชาขั้นดินระดับต้นที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลเนี่ย ัคลั่งราชสีห์นิล!
คิดถึงตรงนี้ เซียวเฉินอดยิ้มไม่ได้ ตนเองมีฐานะเป็บุตรชายคนโตในภรรยาเอก แม้ว่าั้แ่เล็กไม่เคยได้รับความรักและการปกป้องเลยสักนิดก็ช่างเถิด ถึงกับยังถูกไล่ออกจากตระกูลมาแล้ว ส่วนคนในตระกูลกลับเห็นเนี่ยอวิ๋นเหอเป็สิ่งของล้ำค่าและมอบทรัพยากรในการฝึกปรือให้เขาทั้งหมด แม้แต่เคล็ดวิชาที่ดีที่สุดก็ยังถ่ายทอดให้เขาด้วย
แต่ เซียวเฉินจะใส่ใจหรือ?
อย่าว่าแต่เคล็ดวิชาขั้นดินเลย ต่อให้เป็เคล็ดวิชาขั้นฟ้าแล้วอย่างไร?
ในสายตาเขาล้วนไม่มีค่าให้เอ่ยถึง
แสงเสวียนในมือกลายเป็ตราสีทองเข่นฆ่าไป พริบตาก็ปกคลุมเนี่ยอวิ๋นเหอไว้ภายใน
“ประทับแท่นทองหงสา!”
อานุภาพแกร่งกร้าวแผ่ขยาย มีแสงเสวียนอย่างต่อเนื่องบนร่างคนทั้งสอง ยิ่งต่อยตียิ่งแข็งแกร่ง จนกระทั่งผู้สมัครคนอื่นๆ ได้รับคัดเลือกจนหมดแล้ว คนทั้งสองก็ยังตัดสินแพ้ชนะไม่ได้ดังเดิม
ตูม!
ลมแรงพัดอู้ เสียงดังสนั่นไม่ขาดสาย
เนี่ยอวิ๋นเหอยิ่งต่อสู้ยิ่งแตกตื่น เนี่ยเฉินแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร?
ตนเองระดับสูงกว่าเขาหนึ่งขั้นกลับไม่อาจสะกดเขา ทำได้เพียงสู้เสมอ ต้องรู้ก่อนว่า ตนเองใช้กระทั่งเคล็ดวิชาขั้นดินไม้ตายสูงสุดของตระกูลแล้ว หากเขารู้ว่าเซียวเฉินเคล็ดวิชาขั้นศักดิ์สิทธิ์เกรงว่าคงใจนยอมแพ้ทันทีไปนานแล้ว เพียงแต่ตอนนี้เซียวเฉินยังเปล่งอานุภาพทั้งหมดของคัมภีร์หงสาานิรวาณไม่ได้ ใช้ได้เพียงนิรวาณขั้นหนึ่ง ไม่เช่นนั้น อย่าว่าแต่สังหารเนี่ยอวิ๋นเหอเลย เกรงว่าฆ่าล้างเมืองอวิ๋นไห่ก็เป็เื่ง่ายเพียงพลิกฝ่ามือเท่านั้น ทุกคนต่างมองการประลองของเซียวเฉินและเนี่ยอวิ๋นเหอ
ดวงตาฉายแววร้อนแรง ความสามารถของเนี่ยอวิ๋นเหอนั้น ผู้มีพร์แห่งเมืองอวิ๋นไห่ต่างรู้แค่ว่า รุ่นเยาว์ที่สามารถต่อกรกับเขามีอยู่นับนิ้วได้ แต่ในตอนนี้กลับสูสีกับเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อพวกเขารู้สึกได้ว่าเซียวเฉินระดับต่ำกว่าเนี่ยอวิ๋นเหอหนึ่งขั้น ก็ยิ่งประหลาดใจมากขึ้น
“เนี่ยเฉินถึงกับแข็งแกร่งขนาดนี้!”
“หรือก่อนหน้านี้ทั้งหมดเป็เพียงการเสแสร้ง ก็เพื่อวันนี้หรือ?”
“ได้ยินว่าตระกูลเนี่ยไล่เนี่ยเฉินออกจากตระกูลแล้ว ดูท่า วันนี้ตระกูลเนี่ยคงสำนึกเสียใจสุดขีด ฮ่าฮ่า”
“คาดว่าตอนนี้ตระกูลเนี่ยคงได้แต่อดทนกล้ำกลืน”
คำพูดของทุกคนประหนึ่งฝ่ามือที่ตบหน้าคนตระกูลเนี่ยอย่างแรง ทำให้คนตระกูลเนี่ยหน้าชา อดแค้นเซียวเฉินลึกล้ำกว่าเดิมไม่ได้
ตูม!
หลังเสียงตูมดังสนั่นหนึ่งครั้ง คนทั้งสองก็ถอยกรูดในเวลาเดียวกัน ร่างกายของแต่ละคนมีาแ อย่างไรเซียวเฉินก็ต่ำกว่าเนี่ยอวิ๋นเหอหนึ่งขั้น ทว่าเซียวเฉินมีคัมภีร์หงสาานิรวาณอยู่ อีกทั้งร่างกายยังผ่านนิรวาณขั้นหนึ่งแล้ว จึงทนทานกว่าเนี่ยอวิ๋นเหอลิบลับ ดังนั้น การต่อสู้ครั้งนี้ เขากลับเป็ฝ่ายได้เปรียบเล็กน้อย
“เนี่ยอวิ๋นเหอ เรียกข้าว่าเศษสวะมาสิบกว่าปี บัดนี้ยังสู้กระทั่งข้าไม่ได้ เ้าไยมิใช่ยิ่งกว่าเศษสวะอีกหรือ ผู้เหยียดหยามคนอื่น ผู้อื่นก็มักเหยียดหยามเขา สิ่งที่เ้ากำนัลแก่ข้า วันนี้ข้าจะคืนให้เ้าทั้งหมด!”
เซียวเฉินเอ่ยยิ้มๆ เพียงแต่ดวงตาเขายังลึกล้ำดังเดิม ลึกจนไม่เห็นก้นบึ้งเสมือนบึงน้ำลึกที่จะกลืนกินเนี่ยอวิ๋นเหอไว้ในนั้น
“เนี่ยเฉิน อย่านึกว่าเ้ามีความสามารถเล็กน้อยก็เหิมเกริมได้นะ วันนี้ข้าจะฆ่าเ้าเสียที่นี่” ร่างของเนี่ยอวิ๋นเหอะเิพลังเสวียนแกร่งกร้าวในพริบตา เทียบได้กับขั้นแรกกำเนิดเจ็ดชั้นฟ้ารางๆ ทว่าเซียวเฉินกลับไม่เกรงกลัว ะเิพลังทั้งหมดออกมาเช่นกัน มีเคล็ดวิชาขั้นศักดิ์สิทธิ์ เทียบกับเนี่ยอวิ๋นเหอแล้วก็แค่อ่อนด้อยกว่าเล็กน้อย
คนทั้งสองเผชิญหน้ากัน ไม่ตายไม่เลิกรา
“ก็ดูสิว่าใครจะฆ่าใคร”
คนทั้งสองลงมือ ลมแรงกวาดม้วนเป็ระลอก เศษหินดินทรายปลิวว่อน มีเสียงดังสนั่นไม่ขาดสาย เคล็ดวิชาของคนทั้งสองปะทะกันโดยไม่ออมรั้งยั้งมือ
การโจมตีนี้ มีแรงสะท้อนกลับอย่างมหาศาลจนคนทั้งสองต่างกระอักโลหิตสดแล้วล่าถอยออกมา
ราวกับคนทั้งสองทำอะไรกันไม่ได้
“พอแล้ว ไม่ต้องประลองอีก” ในเวลานี้เอง ซือคงอวี่ยืนขึ้น มองเซียวเฉินและเนี่ยอวิ๋นเหอบนเวทีด้วยรอยยิ้มสง่างาม
“พวกเ้าสูสีกัน เป็อัจฉริยะอันโดดเด่น พวกเราห้าคนหารือกันรอบหนึ่ง ตัดสินใจให้พวกเ้าสองคนได้รับเลือกทั้งคู่”
ว่าแล้วก็มองเนี่ยอวิ๋นเหอ “เนี่ยอวิ๋นเหอ เ้ายินดีเข้าสถานศึกษาเซิ่งเต้าหรือไม่?”
---
[1] มุทรา คือ ท่าทางแสดงสัญลักษณ์ เน้นที่ท่าของมือและนิ้ว มุทราแต่ละท่าจะแฝงนัยความหมายทางจิติญญาแตกต่างกันไป
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้