ตึกๆๆๆๆๆ
“นายจะพาฉันวิ่งไปถึงไหนเนี่ย!!” ฉันโวยด้วยความเหนื่อยพลางสะบัดข้อมือที่ตาบ้านั้นจับให้หลุดออก
“จนกว่าจะพ้นไอ้คนพวกนั้น” เขาไม่ได้หันหน้ามาแต่เขาะโตอบฉัน
“แล้วทำไมเราไม่หยุดสู้กับพวกมันเลยเล่า จะวิ่งให้เหนื่อยทำไม!!” ฉันก็โวยใส่เขาไปอีกเพราะที่ที่เราสองคนไม่สิ อีตาบ้านี่พาฉันวิ่งมามันห่างไกลจากบ้านของชาวเมืองมามากแล้วน่ะ และสองข้างทางก็เป็ป่ารกล้างด้วย บรรยากาศก็มืดวังเวงพิกลๆ
“พูดยังกับตัวเองต่อสู้เป็อย่างงั้นแหละ!”
“ฉันโค่นนายล้มภายในห้านาทีได้ล่ะกัน!”
พรึบ ตุ๊บ
“โอ้ย!” ฉันร้องออกมาด้วยความเจ็บเมื่อใบหน้าของฉันกระเเทกเข้ากับแผ่นหลังของอีตาบ้านี่เข้าอย่างจัง
“คุณพูดจริงเหรอ?” เขาเอ่ยถามฉันด้วยใบหน้าที่ไม่ค่อยเชื่อในคำพูดของฉันสักเท่าไหร่
“ที่นายหยุดวิ่งก็เพราะสนใจเื่นี้น่ะเหรอ?” ฉันยกมือขึ้นมาลูบหน้าผากตัวเองด้วยความเจ็บ อีตาบ้านี่นึกจะหยุดก็หยุด ทั้งที่ฉันะโแหกปากให้เขาหยุดมาตั้งนาน รู้งี้พูดั้แ่นายบ้านี่ออกตัววิ่งก็ดี
“ก็ใช่ ผมคิดว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ แบบคุณรูปร่างเปราะบางไม่น่าจะล้มผู้ชายอย่างผมได้”
“แล้วไอ้ผู้ชายอย่างคุณเนี่ย มันขั้นเทพขนาดไหนกัน?” ฉันยกแขนขึ้นมากอดอกพลางใช้สายตามองรูปร่างที่สุดแสนจะเพอร์เฟคของเขาอย่างพินิจพิจราณา
“ผมฝึกเรียนต่อสู้มาั้แ่ห้าขวบ”
“อ๋อเหรอ น่าจะเก่งและชำนาญน่าดู” ฉันมองเขาไปด้วยสายเฉยๆๆ เขาก็มองหน้าฉันอย่างงุนงง
“แล้วคุณล่ะ?”
“การต่อสู้ไม่จำเป็ว่าเราจะต้องชอบหรือรักมันอยู่ที่ว่าเราต้องทำมันเพื่อใครต่างหากล่ะ”
“ผมไม่เข้าใจ”
“ก็คุณไม่เคยมีภาระหน้าที่อันใหญ่หลวงในการรับผิดชอบใคร”
“คุณรู้ได้ยังไงว่าผมไม่มีภาระหน้าที่อันใหญ่หลวงในการรับผิดชอบ คนในครอบครัวผมพ่อผมแม่ผมน้องผม ผมก็ต้องปกป้องพวกเขาด้วยชีวิตของผม” เขาพูดบอกฉันด้วยสีหน้าจริงจัง
“ใช่นั้นภาระของคุณมันคือความเต็มใจแต่ของฉันมันไม่ใช่เพราะฉะนั้นภาระกำลังมันต่างกัน”
“คุณพูดอะไรเนี่ย ยิ่งพูดยิ่งงง!”
“ไปเถอะ!” เขาบอกฉันเสร็จเขาก็จะทำท่ายื่นมือจะมาจับมือฉัน แต่ฉันไวกว่าถอยหนีเขา
พรึบ
“โอ้ย!” ฉันร้องออกมาด้วยความเจ็บเมื่อแผ่นหลังของฉันไปกระแทกเข้ากับของแข่งที่อยู่ด้านหลังฉัน
“ใครส่งพวกแกมา?” นายบ้านั้นมองมาที่ฉันและเอ่ยถามฉันด้วยแววตาและนำ้เสียงที่เหี้ยมเกรียมโหดดุดัน อะไรของเขา
“ไม่ใช่เื่ของแกอย่าเสือก!!” เสียงเหี้ยมออกโหดๆ ะโอยู่ด้านหลังฉัน และฉันก็แสบแก้วหูมาก!
“เห้ยพูดแบบนี้มึงวอนแหละ!!” นายนั้นพูดเหมือนโกรธเป็ฟืนเป็ไฟ นี่อย่าบอกน่ะว่า
หมับ
“นี่แกมาจับฉันทำไม?!” ฉันหันไปเอ่ยถามมือดำๆ ใหญ่ของคนที่ฉันชนเมื่อกี้นี้ด้วยความไม่พอใจและขยะแขยงกลิ่นตัวแรงมากไม่เห็นหอมเหมือนกับอีตาบ้าที่ยืนทำหน้าโหดๆ อยู่ตรงหน้าฉัน
“อุ๊ย! เล่นของแหลมซะด้วย” ฉันเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงตื่นเต้นที่รู้สึกเย็นๆ ที่ต้นคอด้านหน้าของฉันตรงคอหอยอ่ะ เพราะไอ้คนตัวเหม็นมันมาโอบตัวฉันไว้และใช้มีดจ่อคอฉัน
“เห้ย! อย่าทำอะไรยัยนี่น่ะเว้ย!” ตาบ้านั้นร้องเอ่ยห้ามไอ้คนที่มันเอามีดจ่อฉัน สายตาของเขาเต็มไปด้วยความใเขายกมือขึ้นมาห้ามไม่ให้ไอ้นี่ทำอะไรฉัน
“แก้าอะไรจากฉัน?” ฉันเอ่ยถามมันไปอย่างไม่เกรงกลัว ฉันน่ะไม่ได้จะตายเพราะโดนมีดบาดคอหรอกน่ะแต่จะตายเพราะกลิ่นตัวเหม็นๆ ของมันนี่แหละ!
“ไม่ใช่เื่ที่แกจะต้องรู้ แกมีหน้าที่ไปเจอนายฉันแค่นั้นพอ” มันตอบฉันมาฉันนี่แทบจะเป็ลม กลิ่นตัวแรงไม่พอกลิ่นปากแรงมากกว่ากลิ่นตัวอีก
“คุณฉันกำลังจะตายแล้ว” ฉันเหลือบตาไปมองอีตาหน้าหล่อรอยสักเต็มต้นคอและหน้าอกด้วยสายตาเศร้าๆ เขาก็มองมาที่ฉันแววตาของเขาสื่อถึงความห่วงใย
“มันยังไม่ได้เอามีดกรีดคอคุณเลยน่ะ คุณจะตายแล้วเหรอ?” เขาเอ่ยถามฉันพลางขมวดคิ้วจนจะผูกกันเป็ปม
“มันใช่เวลามากวนไหม ฉันจะตายเพราะกลิ่นตัวกับกลิ่นปากมันเนี่ย เหม็นชิบอ๊าย!!” ฉันเอ่ยเสร็จพร้อมกับย่นจมูกและทำท่าพะอืดพะอมจะอ้วกเต็มทน
“อ้าวเหรอ เห้ยมึงก็บอกมาว่า้ายัยตัวคุณหนูนี่ไปทำอะไร?” เขาเอ่ยถามไอ้กล้ามโตบึกบึนที่โอบร่างฉันไว้ด้วยสายตาจริงจัง
“กูบอกว่ามันไม่ใช่เื่ของมึง!” มันตอบนายนั้นไป
“คุณไม่ต้อถามมันมากแล้ว ฉันเหม็นจนจะไม่อยากหายใจอยู่แล้วเนี่ย!!” ฉันะโแหกปากบอกหมอนั้นไป
เฉือก
“โอ้ย!” ฉันร้องออกมาด้วยความเจ็บ เมื่อรู้สึกได้ถึงความเจ็บแปลบที่แล่นลงไปลนลำคอของฉันและความเย็นของปลายมีดที่คมกริบ
“เห้ย! มึงฆ่ามันไม่ได้น่ะเว้ย เดี๋ยวมึงก็โดนนายฆ่าตายหรอก!!” เสียงเพื่อนของมันอีกคนเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงใ
“เห้ยคุณ!!” ตานั้นเอ่ยเรียกฉันพลางทำสีหน้าใ ฉันก็มองเขาพลางเบะปากเหมือนจะร้องไห้
“เจ็บเหรอ?” เขาเอ่ยถามฉัน
“เปล่า” ฉันก็ตอบเขาไป เขาก็ยิ่งขมวดคิ้วงุนงงขึ้นไปอีก
“แล้วร้องทำไม?”
“กลัวเสียโฉม” ฉันบอกเขาไปตามความจริง เขาก็ทำสีหน้าเบื่อโลกใส่ฉันพลางผ่อนลมหายใจอย่างแรงออกมา
“เอาตัวมันไป!!” เสียงสั่งการของเพื่อนมันเอ่ยขึ้น ทำให้ไอ้ร่างั์ที่คงอยู่ในความใที่ทำฉันาเ็ได้สติ
พรึบ
ฉันเอื้อมมือมาตวัดจับมือที่ไอ้ดำมันถือจ่อมีดไว้ที่คอฉันและออกแรงหักมือมันให้ปล่อยจากฉันและฉันก็ใช้ร่างกายเบนตัวออกมาทำให้ฉันหลุดจากการจับกุมของมันได้
“แกคิดว่าทำฉันเสียโฉมแล้วฉันจะปล่อยพวกแกไปง่ายๆ อย่างงั้นเหรอ?” ฉันเอ่ยถามขึ้นด้วยนำ้เสียงเดือดจัด พวกมันสิบกว่าคนทำสีหน้าใและทุกคนก็หยิบปืนพกออกมาจากที่เก็บจ่อมาที่ฉัน
“เห้ยคุณ!” นายนั้นเอ่ยเรียกฉันด้วยนำ้เสียงใ
“คุณคอยดูไว้ล่ะกัน อย่าพลาดกระพริบตาเลย” ฉันหันหน้าไปมองอีตาบ้านั้นพลางเอ่ยบอกเขาให้จับต่ดูฉันไว้ให้ดีๆ เขาก็ทำสีหน้าใ ฉันจึงส่งจูบให้เขาทำสายตาเซ็กซี่และหันกลับมาให้ความสนใจกับชายชุดดำที่อยู่เบื้องหน้าฉันต่อ
“เห้ยๆ อย่ายิงน่ะเว้ย ไม่งั้นนายเอาพวกเราตายหมดแน่”
“นายพวกแกเป็ใคร?” ฉันเอ่ยถามพวกมันไปด้วยความสงสัยฉันเพิ่งจะมาอยู่ที่นี้เองน่ะ ยังไม่รู้จักใครสักคนแม้กระทั่งไอ้คนที่พาฉันวิ่งหนีฉันยังไม่รู้จักชื่อเขาเลย
“เป็ใครก็ได้ที่แกไม่จำเป็ต้องรู้!” หนึ่งมนชายชุดดำร่างบึกบึนและกลิ่นตัวเหม็นแรงเอ่ยบอกฉันมา ฉันก็พยักหน้าเข้าใจ
“แสดงว่าพวกแกจะไม่บอกฉันใช่ไหม?”
“ใช่!” พวกมันพร้อมใจกันผสานเสียงเป็เสียงเดียวกัน ฉันจึงกรีดรอยยิ้มเยือกเย็นขึ้นมาสายตาของฉันจับจ้องไปที่ด้านหน้าของขอบกางเกงของไอ้ร่างบึกบึนที่ขอบกางเกงของมันมีปืนพกสั้นสองกระบอก
“มองอะไรว่ะ!” มันเอ่ยถามฉันมาพลางยื่นมือไปปิดเป้ากางเกงของมันอย่างไว
“เปล่าหนิ ฉันพร้อมแล้วเข้ามาจับฉันสิ” ฉันบอกมันไปพร้อมกับยื่นแขนทั้งสองข้างของตัวเองไปข้างหน้าเพื่อให้มันมาจับฉันไป
“คุณจะบ้าป่ะเนี่ย ทำอะไร!!” อีตาบ้านั้นหลังจากที่เงียบอยู่นานก็เอ่ยะโถามฉันมาด้วยนำ้เสียงตื่นตะหนก แต่ฉันไม่ได้สนเขากลับเดินมุ่งตรงไปยังกลุ่มชายชุดดำนั้น
พรึบ แกร๊ก แกร๊ก
ฉันมุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างไวและไม่รอช้ายื่นมือทั้งสองข้างไปหยิบปืนพกที่ขอบกางเกงของไอ้ร่างบึกบึนนั้นและจ่อปืนเล็งยิงไปที่กลุ่มชายชุดดำพร้อมกับกราดยิงปืนทั้งสองกระบอกไปพร้อมๆ กันโดยที่ฝ่ายมันยังไม่ทันได้ตั้งตัว
ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
พรึบ ตุ๊บ
“เอือกกกก”
“เห้ย!!!” เสียงร้องด้วยความใคนที่ยืนอยู่ด้านหลังฉันร้องอุทานขึ้นหลังจากที่ฉันกราดยิงร่างของชายบึกลึนนับสิบคนนอนล้มตายกันเกลื่อนพื้น
“จิตใจโหดเกิ๊น!” เขาเอ่ยขึ้นพลางถอยหลังหนีฉัน ฉันก็กระตุกรอยยิ้ม
พรึบ
“นี่สำหรับที่แกทำให้คอของฉันเสียโฉม!!” ฉันโยนกระบอกปืนพกทั้งสองกระบอกลงไปบนร่างของไอ้คนตัวเหม็นนั้นพลางเอ่ยบอกมันไปด้วยนำ้เสียงโกรธแค้น
“นี่คุณ!” เสียงเรียกและแรงสะกิดแขนฉัน ทำให้ฉันหันไปมองเขา เขาที่มีสีหน้าตื่นใและสะดุ้งเล็กน้อยหลังจากที่เราสองคนสบสายตาเข้ากัน
“อะไร?”
“ทำไมคุณเก่งจัง?”
“ฉันเคยยิงแต่ปืนของปลอมไม่คิดว่าของจริงไกมันจะแข็งขนาดนี้” ฉันบอกเขาไปพลางค่อยๆ เดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนฟุตบาทข้างทางอย่างคนหมดแรง
“เป็อะไรอ่ะคุณ?” เขารีบเดินเข้ามาหาฉันพลางเอ่ยถามฉันด้วยความใ
“ฉันกำลังจะเป็ลม” ฉันบอกเขาไปด้วยนำ้เสียงและสายตาที่อิดโรย
“เห้ย! เมื่อกี้เห็นยังเก่งอยู่เลยนะ!!”
“แต่ฉันเจ็บแผลมากเกินไป” ฉันบอกเขาไปตามความจริง
“เจ็บแผล?” เขามองฉันด้วยสายตาแปลกใจและสงสัยเขามองสำรวจร่างกายฉันเพื่อหาาแที่ฉันบอก
“ผมไม่เห็นาแของคุณตรงอื่นนอกจากที่คอ” เขาบอกฉันมาพลางทรุดตัวลงนั่งยองๆ ตรงหน้าฉัน
“ฉันรู้สึกเจ็บที่ตรงนี้” ฉันเอ่ยบอกเขาไปพลางใช้มืออีกข้างจับชายเสื้อสูทของเขาให้พ้นออกไปจากไหล่ข้างขวาของฉัน
“เื!” ทันทีที่ชายเสื้อสูทหลุดออกจากไหล่ออกฉันก็ปรากฏรอยเืสดมากมายไหลออกมาจากหัวไหล่ฉัน
“คุณโดนยิงที่ไหล่?” เขายื่นมือไปจับแขนฉันเพื่อดูาแ
“คงเป็ตอนที่ฉันเล่นท่าเยอะไปหน่อย จนลืมระวังตัวพวกมันยิงสวนกลับมา” ฉันบอกเขาไปและหันหน้าหนีาแตัวเอง
“เอ้า!”
“ฉันเจ็บฮืฮๆๆๆๆ” ฉันปล่อยโฮนำ้ตาไหลออกมา เกิดมาไม่เคยโดนยิงเลย เจ็บอะไรขนาดนี้
“เห้ย! คุณ”
“ฮืฮๆๆๆ”
“ทำไมผู้หญิงมันอ่อนแอขนาดนี้ว่ะเนี่ย!!” เขาบ่นอุบด้วยความหงุดหงิดและเขาก็ลุกขึ้นถอดเสื้อเชิ้ตตัวสีชาวของตัวเองออกมาจนเผยให้เห็นแผงอกสุดเซ็กซี่ขาวยิ่งกว่าสีเผือกอีกน่ะเนี่ย ทั้งขาวทั้งเนียน
“เช็ดน้ำลายด้วย”
“ซู๊ด อีตาบ้า!!” ฉันซูดน้ำลายกลับเข้าไปในปากพลางร้องด่าเขาและนั่งร้องไห้ต่อเพราะเขาใช้เสื้อของเขาอีกออกเป็เส้นยาวๆ เพื่อเอามารัดาแฉัน
พรึบ
“ขึ้นหลังผม ผมจะพาไปหาหมอ!” เขาบอกฉันหลังจากที่เขามานั่งยองๆ ลงตรงหน้าฉันแล้วหันหลังเปลือยเปล่าโชว์ฉัน
“มันจะดีเหรอ?”
“มาหวงเนื้อหวงตัวอะไรตอนนี้กันคุณ!!” เขาโวยใส่ฉันเสียงดัง ฉันจึงสะดุ้งและะโขี่หลังเขาอย่างไว
พรึบ
“เกาะไว้ดีๆ ระวังตก!” เขาบอกฉัน ฉันก็เอื้อมมือไปคว้าคอเขาและเอนใบหน้าซบลงไปบนไหล่กว้างของเขา กลิ่นกายหอมๆ ลอยปะทะเข้าจมูกฉัน หอมจัง
“ผู้ชายอะไรตัวห๊อมหอม^_^” ฉันเอ่ยขึ้นพร้อมกับอมยิ้มเอาใบหน้าซุกลงไปกับซอกคอหอมๆ ของอีตานี่ หอมจริงๆ น่ะ มันบรรยายเป็กลิ่นเฉพาะไม่ได้แต่มันหมอมากจริงๆ
“โรคจิตว่ะคุณ!!” เขาเอ่ยขึ้นแต่ก็ไม่ได้โกรธอะไรฉัน
“แล้วทีคุณล่ะ จับก้นฉันและบีบอีก!” ฉันก็โวยใส่เขาไป ก็มันจริงหนิ อีตาบ้านี่ให้ฉันขี่หลังเขาและส่วนมือก็จับก้นฉัน
“ผมช่วยพยุงไม่ให้คุณตกหรอกน่ะ!!” เขาเถียงฉัน แต่ฉันี้เีฟังหลับตาลงเพราะฉันจะได้ไม่เจ็บถ้าฉันหลับ
“อย่าพูดมาก ฉันจะนอน!” ฉันบอกเขาไปและเขาก็พึมพำอะไรๆ ไม่รู้เบาๆ เขาพาฉัน
เดินไปตามทางที่เขาพาฉันวิ่งมา ฉันว่ากว่าเขาจะพาฉันไปถึงโรงพยาบาลมีหวังเืฉันออกหมดตัวแน่!
