ร่างของข้าหล่นลงมาใต้ผืนน้ำที่เย็นเยือกพร้อมกับความรู้สึกเ็ปตรงหัวไหล่และตอนนี้พลังของฟางชิงยวนก็ยังคงตามลงมาและะเิออกถึงในน้ำ แม้ว่าข้าจะมีวิชากายาทองคำแต่ความแข็งแกร่งของพลังของเขาก็ยังทำให้ิัของข้าถลอกจนเห็นเนื้อด้านในอยู่ดีและที่สำคัญกว่านั้นก็คงจะเป็แววตาอันดุร้ายจากสัตว์ร้ายใต้สมุทรที่กำลังจ้องมาที่ข้าอยู่ซึ่งข้าก็ต้องตกตะลึงเมื่อมีสัตว์ร้ายใต้สมุทรนับไม่ถ้วนเลยทีเดียว!
ข้าอดทนต่อความเจ็บก่อนจะเปลี่ยนมาใช้พลังภานในเพื่อหายใจใต้น้ำ และเคลื่อนพลังของวิชาลมหายใจัขั้นที่สิบออกมาซึ่งตอนนี้ข้าหวังเพียงให้ตัวเองหายใจจากตรงนี้สักที ไม่อย่างนั้นต่อให้มีพวกมันแค่สองตัวก็สามารถจัดการข้าได้แล้วล่ะ
สัตว์ร้ายใต้สมุทรกำลังส่งเสียงร้องพร้อมกับแหวกว่ายเข้ามาโจมตีด้วยฟันที่แหลมคมเมื่อมองไปยังหางของมันก็เห็นว่าไร้ซึ่งแสงจาก้า ข้าจึงปรับตาสายตาจึงเห็นว่าข้างใต้นั้นมืดดำและมีแสงจาก้าส่องลงมาเพียงรำไรเท่านั้นคิดไม่ถึงว่าฟางชิงยวนโจมตีเพียงกระบี่เดียวจะทำให้ร่างของข้าตกลงมาใต้น้ำที่มีความลึกราวๆหนึ่งพันเมตรเลยทีเดียว เมื่อเห็นแบบนั้นถ้าจะให้ข้าพยายามตะเกียกตะกายขึ้นไปก็คงจะทำได้ยากและ้ายังเต็มไปด้วยสัตว์ร้ายใต้สมุทรที่อยู่รวมกันเป็ฝูงอีกด้วยดังนั้นถ้าข้าว่ายขึ้นไปก็เท่ากับรนหาที่ตายนั่นเอง
แล้วข้างล่างล่ะ? เบื้องล่างสายน้ำที่ลึกลับแห่งนี้มันจะปลอดภัยหรือเปล่า?
แม้ว่าเกราะรบิญญาจะช่วยป้องกันแรงดันน้ำ แต่หัวใจของข้ามันยังคงเต้นรัวจากความเจ็บที่แล่นเข้ามาเมื่อนึกถึงอนาคตที่เคยวาดฝันไว้กับซูเหยียน ตั้นไถเหยา ถังเชวียหรานซ้งชียนและจ้าวห้าวว่าจะทำสำนักวรยุทธ์ด้วยกันข้าคิดว่าตัวเองจะสามารถสวมใส่ชุดของเทพศาสตราวุธที่แข็งแกร่งและมีเกียรติข้าคิดว่าตัวเองจะสามารถยืนอยู่บนจุดสูงสุดที่ผู้คนต่างก็ต้องกราบไหว้บูชา แต่ตอนนี้ล่ะ?ความฝันกับความจริงมันช่างสวนทางกันจริงๆพอต้องเผชิญกับสัตว์ร้ายใต้สมุทรที่แข็งแกร่งพวกนี้ พลังที่กดดันก็ทำให้ข้าไม่กล้าที่จะวาดฝันใดๆ
โฮก!
สัตว์ร้ายใต้สมุทรมันอ้าปากกว้างพร้อมกับกางขาทั้งหกที่เป็เหมือนคมมีดของมันออกซึ่งการโจมตีจากด้านหลังของมันครั้งนี้ ราวกับว่าอยากจะจับข้ายัดเข้าไปในปากเหมือนศิษย์ของสำนักวิหคสายฟ้าคนก่อนอย่างไรอย่างนั้น
ข้าจะอยู่รอความตายไม่ได้!
ข้าใช้พลังของั์ตาเวทย์เพื่อมองภาพใต้น้ำอันดำมืดแห่งนี้ให้ชัดขึ้นก่อนจะตวาดเสียงดังลั่นพร้อมกับพลังในส่วนลึกของจิตใจที่ถาโถมออกมานอกร่างกายอย่างดุดันและแข็งแกร่งแม้ว่าพลังจะแผ่ซ่านออกมาจากร่างกาย และรวมกลุ่มเป็รูปเป็ร่างของสัตวขนาดใหญ่ที่ข้าเพิ่งจะหลอมพลังเืจากกระดูกของฉุงฉีเข้าไปในร่างกายนั่นเองซึ่งพลังเืของมันทำให้ข้ารู้สึกได้ถึงพละกำลังในร่างกายและความเร็วที่มากขึ้นกว่าเดิมซ้ำยังทำให้ความรู้สึกแปลกๆ ขณะอยู่ใต้น้ำหายไปอีกด้วย
หรือว่าเ้าสัตว์เทพฉุงฉีจะเป็สัตว์น้ำลึกอย่างนั้นเหรอ?
ข้าสลัดความคิดนั้นออกไปจากหัว ก่อนจะะเิพลังิญญาแล้วม้วนตัวเพื่อหลบการโจมตีของสัตว์ร้ายใต้สมุทรจากนั้นจึงใช้กระบี่คมจันทราในมือฟันไปที่ปากของมันด้วยกระบวนท่าของเพลงกระบี่วายุสังหารอย่างรวดเร็ว!
ฉึบ!
พลังของกระบี่วายุสังหารขั้นที่หกถูกปล่อยออกมา ซึ่งเต็มไปด้วยพลังลมของกระบี่ที่ยาวกว่าหกเมตรเมื่อมันพุ่งเข้าไปกระทบที่หน้าของสัตว์ร้ายใต้สมุทร มันก็ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บและทรมานทว่าเป็เพียงาแเล็กๆ ที่ไม่ได้มีผลอะไร
ข้าถือโอกาสขณะที่ตัวเองกำลังเป็ต่อเพื่อพุ่งเข้าไปจับครีบของมัน และใช้กระบี่คมจันทราแทงลงไปอย่างบ้าระห่ำจนิัของมันเปิดออกและเผยให้เห็นเนื้อด้านในเืที่น้ำทะเลลึกของมันไหลออกมาไม่หยุด ซึ่งบางส่วนก็ถูกพลังลายสักเทพราชันย์ัของข้าหลอมพลังของสัตว์โบราณขนาดใหญ่ตัวนี้เข้าสู่ร่างกายไม่น้อยเหมือนกัน
โฮกกก!
ด้านหลังมีสัตว์ร้ายใต้สมุทรอีกสามตัวพุ่งเข้ามาด้วยขาที่เหมือนกับคีมเหล็กแล้วสะบัดส่ายไปทั่วจนเกิดพลังที่รุนแรงอย่างน่าหวาดกลัว
ตูม!
เมื่อข้าหลบไม่ทันจึงทำได้เพียงใช้ไหล่ซ้ายเป็ตัวรับแรงกระแทกจนลอยปลิวขึ้นมากระทั่งความรู้สึกที่เจ็บลึกอย่างสุดขั้วหัวใจก็แล่นเข้ามาทั่วร่างเมื่อมองต่ำลงไปก็เห็นว่าเ้าสัตว์ร้ายใต้สมุทรที่ถูกข้าแทงไปเมื่อครู่กำลังถูกเพื่อนชนิดเดียวกันกว่าเจ็ดตัวรุมทึ้งอยู่ราวกับว่าเ้าสัตว์ร้ายใต้สมุทรพวกนี้จะหิวมานานอย่างไรอย่างนั้นถึงได้เข้าไปกัดกินเพื่อนร่วมสายน้ำของตัวเองจนไม่เหลือชิ้นดีแบบนี้ช่างเป็เผ่าพันธุ์ที่โหดร้ายเหลือเกิน!
และแรงกระทบเมื่อครู่ยังทำให้ข้าลอยขึ้นมาถึงท้องน้ำซึ่งด้านข้างเป็ผนังดินเมื่อมองขึ้นไปก็เห็นว่าฝูงสัตว์ร้ายใต้สมุทรมันพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว แม**งเอ๊ย!เยอะขนาดนี้ถ้าถูกตามทันจะต้องตายสถานเดียวแน่ๆ
ขณะที่ข้าเหยียบอยู่ตรงผนังดินพลางขมวดคิ้วเข้ม ก่อนจะล้วงเอากระบี่ธุมเพลิงในแหวนกระดูกจักรภพออกมาจากนั้นจึงขุดรูที่ผนังดินเพื่อยัดตัวเองเข้าไปทันที และเมื่อมองกลับไปก็เห็นฝูงสัตว์ร้ายใต้สมุทรพวกนั้นกำลังพยายามขุดดินตามเข้ามาเหมือนกัน
ถึงข้าอยู่ในน้ำลึกก็ยังสามารถใช้พลังภายในหายใจได้อย่างสบายๆ ทว่ากลับรู้สึกผิดหวังและฝืนยิ้มให้กับความโง่ของตัวเองเพราะสัตว์ร้ายใต้สมุทรพวกนี้ก็เหมือนครึ่งปูครึ่งปลาที่อาศัยอยู่ในน้ำลึกและผนังดินพวกนี้อยู่แล้วแต่ข้ากลับพยายามใช้วิธีขุดดินหนี ข้าช่างไร้เดียงสาจริงๆ
แต่ข้ามีทางเลือกอื่นไหมล่ะ?
ในเมื่อไม่มีก็ต้องขุดต่อไปด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิมแล้วล่ะ!
เพราะข้าใช้พลังของวิชาลมหายใจัขั้นที่สิบที่มันสามารถสกัดพลังในร่างกายได้ดังนั้นขอเพียงข้าขุดลงไปยังส่วนลึก เ้าพวกสัตว์ร้ายใต้สมุทรที่คิดจะตามตัวข้าด้วยการััพลังเป็เครื่องนำทางก็จะยากแล้วล่ะเพราะเหตุที่ทำให้วิชาลมหายใจัสามารถขึ้นแท่นมาเป็วรยุทธ์ขั้นสุดยอดได้ เพราะหนึ่งคือมีพลังรุนแรงดุจพลังของโลกโบราณและสองคือทำให้คนสามารถพัฒนาพลังภายในได้อย่างแข็งแกร่งและรวดเร็ว ซึ่งข้อดีข้อนี้แหละที่กำลังช่วยชีวิตข้าอยู่
ข้าใช้กระบี่ทั้งสองเล่มขุดรูที่มีขนาดพอให้ข้าว่ายลอดเข้าไปได้ก็พอ เพราะจะทำให้สัตว์ร้ายใต้สมุทรทำงานมากขึ้นกว่าเดิมแต่เมื่อใช้พลังตาทิพย์มองกลับไปก็พบว่ามีสัตว์ร้ายใต้สมุทรเพียงสองตัวที่ขุดรูมาทางข้าเท่านั้นส่วนที่เหลือก็เป็พวกโง่ที่ขุดไปทางอื่นกันหมด
ไม่รู้ว่าข้าขุดมานานเท่าไรแล้ว แต่ขุดไปขุดมาข้าก็เริ่มรู้สึกว่าความชื้นมีไม่มากพอเสียแล้วอีกทั้งด้านหน้ายังขุดเจอพวกหินและแร่ใต้ดินอีกต่างหาก ซึ่งน้ำที่ทะลักตามเข้ามาและทำให้ข้าเปียกไปทั้งตัวก็ทำให้ยิ่งลงลึกก็ยิ่งรู้สึกหนาวแม้แต่น้ำในแม่น้ำสายนี้ยังเริ่มจับตัวเป็น้ำแข็งและทำให้ข้ารู้สึกไม่สบายตัวเป็ที่สุด
โฮก!
อยู่ๆ ก็มีเสียงคำรามดังมาจากด้านหลังพร้อมกับดินโคลนที่แยกตัวออก และปรากฏใบหน้าอันดุร้ายของสัตว์ร้ายใต้สมุทรอยู่ตรงหน้าไม่ไกลและนั่นก็ทำให้รู้ว่าสัตว์ร้ายใต้สมุทรตัวที่อยู่ใกล้ข้าที่สุดมันตามมาทันแล้ว เมื่อมันอ้าปากกว้างและแลบลิ้นที่มีพิษร้ายแรงพุ่งเข้าใส่จากนั้นดินโคลนก็เกิดเสียงดัง ฉึบ ฉึบ ฉึบ!
“พระเ้าช่วย!...”
ข้ารู้สึกหวั่นใจอย่างอดไม่ได้ เพราะการโจมตีครั้งนี้ทำให้ข้ารู้ได้ทันทีว่าพลังของมันมีไม่น้อยไปกว่าสัตว์ที่อยู่ในบึงอย่างคางคกเหวั์ตัวนั้นเลย
ข้ายิ้มเจื่อนก่อนจะรีบขุดให้ลึกลงไปอีกสิบเมตร ทว่าสัตว์ร้ายใต้สมุทรตัวนั้นก็ยังตามเข้ามาติดๆพลางแลบลิ้นอันทรงพลังปัดป่ายไปมา แต่มันก็ตะปบลงมาที่เกราะรบิญญาของข้าหลายทีอยู่เหมือนกันโชคดีที่ข้าฝึกฝนวิชาลมหายใจัจนแข็งแกร่ง เกราะรบของข้าจึงแข็งแกร่งจามไปด้วยไม่อย่างนั้นจะต้องแย่แน่ๆ
“เ้ารนหาที่ตายเองนะ!”
ข้าว่าแล้วก็เก็บกระบี่ทั้งสองเล่มไว้เหมือนเดิมและประกบมือเข้าด้วยกันก่อนจะแยกออก เผยให้เห็นคันศรอัคนีอันร้ายกาจซึ่งเปล่งแสงสีทองออกมาอย่างเจิดจรัสและปกคลุมไปทั่วผืนน้ำพลังิญญาค่อยๆ ไหลออกมาจากฝ่ามือจนกลายเป็ลูกธนู เมื่อปล่อยมือจากสายธนูแล้วก็มีลำแสงพุ่งขึ้นไปนับหมื่นลี้และด้วยพลังที่รุนแรงของมันจึงทำให้ผืนน้ำถึงกับสั่นะเืโดยครั้งนี้ข้าไม่จำเป็ต้องเล็งเป้าเพราะปากทางเข้าด้านนอกต่างก็เป็เป้าหมายของข้าทั้งนั้นซึ่งมีเ้าพวกสัตว์ร้ายใต้สมุทรที่ไม่อยากตายดีออกันอยู่ตรงปากทางเข้าและข้าก็จะทำให้มันได้ตายสมใจ!
หวึ่ง!
พลังสีเืที่แข็งแกร่งเปล่งประกายออกมาปกคลุมลูกธนูที่พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว...ศรสนั่นฟ้า!
ข้าใช้เวลาฝึกฝนศรสนั่นฟ้าไม่นานแต่ก็ถือว่าบรรลุขั้นต้นและเข้าสู่ขั้นกลางเรียบร้อยแล้วและที่สำคัญคือพลังของคันศรอัคนีก็จะพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับขั้น แม้ว่าข้าจะฝึกฝนได้ไม่นานแต่พลังของมันก็มีมากกว่าศรจันทราตกถึงสองเท่า!
เมื่อข้ายิงออกไปศรสนั่นฟ้าที่ปกคลุมด้วยพลังที่หมุนเป็เกลียวก็พุ่งใส่ปากกว้างๆของสัตว์ร้ายใต้สมุทรจนเสียงดังสนั่นไปทั่วผืนน้ำ และทำให้ลิ้นหลายๆแฉกของมันขาดสะบั้นเป็ชิ้นๆ จากนั้นผืนน้ำตรงปากทางเข้าและรอบตัวข้าก็เต็มไปด้วยเืสีแดงสดลอยคละคลุ้งโดยไม่มีสีอื่นเจือปนเลยแม้แต่น้อย
หลังจากที่พลังะเิขึ้นหลายครั้งก็กลับเข้าสู่สภาวะอันเงียบสงัดอีกครั้ง
ทว่าเมื่อใช้พลังตาทิพย์มองก็ยังััได้ถึงพลังไสยศาสตร์ที่ยังไม่หายไปอยู่ดีและหนังม้วนเดิมก็กลับมาฉายอีกครั้ง เมื่อเ้าสัตว์ร้ายใต้สมุทรที่าเ็สาหัสอีกตัวมันเจาะเข้ามาด้วยแววตาที่เคียดแค้นแม้ว่าปากของมันจะฉีกขาดแต่ก็ไม่เป็อุปสรรค์ต่อการขุดของมันแต่อย่างใด
“โกรธแค้นข้าขนาดนั้นเลยเหรอ?”
ข้าขมวดคิ้วเข้มก่อนจะพูด “สหาย พวกเราไม่เคยมีความแค้นเคืองใดๆ กันมาก่อน ทำไมเ้าจะต้องตามฆ่าข้าอย่างไม่ลดราวาศอกขนาดนี้ด้วยห่ะ?”
สัตว์ร้ายใต้สมุทรร้องคำรามออกมาอีกครั้ง ก่อนที่ลิ้นซึ่งเต็มไปด้วยพิษร้ายของมันจะพุ่งเข้ามา
ฉับ!
เวลาของกระบี่คมจันทราที่ถูกเรียกออกมาและฟันลงไปเกิดขึ้นเพียงชั่ววินาที จากนั้นลิ้นที่เต็มไปด้วยพิษร้ายของมันก็ถูกฟันจนขาดจนเืสีน้ำทะเลลึกไหลออกมาทั่วสารทิศ
ตูม ตูม ตูม!
มันพยายามใช้หัวพุ่งเข้าชนอย่างดุดันเหมือนพยายามจะฆ่าข้าจนเป็บ้า
“ข้าจะส่งเ้ากลับบ้านเกิดเอง!”
ข้ากัดฟันพูดพลางประกบมือเข้าด้วยกันอีกครั้ง ลูกที่สอง ศรสนั่นฟ้า!ถึงแม้พลังของข้าจะหมดไป ข้าก็ต้องจัดการเ้าสารเลวตัวนี้ให้ได้!
ตูม! ตูม! ตูม!
ลูกธนูดอกที่สองของศรสนั่นฟ้าพุ่งเข้าหาร่างของมันอีกครั้ง กระทั่งร่างอันมหึมาของมันถูกยิงจนร่างแยกออกครึ่งหนึ่งหัวของมันเหลืออยู่เพียงครึ่งเดียว ส่วนหางก็ถูกพลังของศรสนั่นฟ้าฉีกทึ้งจนเหลือเพียงครึ่งเดียวเหมือนกันเมื่อร่างของมันถูกฉีกแบบนั้น เืสีน้ำทะเลลึกก็ไหลนองไปทั่วบริเวณ
…
หลังจากที่ยิงศรสนั่นฟ้าไปถึงสองครั้ง พลังิญญาในตัวข้าก็หมดไปกว่าเจ็ดส่วนแต่เมื่อว่ายกลับขึ้นไปดูก็พบว่าพลังที่รุนแรงได้ทำให้หัวของสัตว์ร้ายใต้สมุทรตัวนี้แหลกละเอียดแม้แต่จินตานระดับเจ็ดในหัวของมันก็แตกไปด้วย ช่างน่าเสียดายจริงๆ ถ้ายังอยู่ในสภาพดีคงจะดีไม่น้อย!
ทว่าถึงแม้จะสูญเสียของดีอย่างจินตานระดับเจ็ดไปข้าก็เหมือนจะเจอสิ่งที่ดีกว่าเพราะพลังไสยศาสตร์ที่แผ่ซ่านออกจากร่างอันไร้ิญญาของมันนั้นรุนแรงจนข้าต้องว่ายเข้าไปดูก่อนจะพบว่ามีเกราะรบิญญาอันหนึ่งกำลังเปล่งแสงสีน้ำทะเลลึกเป็ประกายออกมา...
นึกไม่ถึงว่าในร่างของมันจะมีเกราะรบิญญาระดับดาวอยู่ด้วย เ้าตัวนี้ช่างมีราคาสูงจนคาดไม่ถึงเชียวล่ะ!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้