บทที่ 30 สมรู้ร่วมคิด
“ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!”
ลูกศรเหล็กเนื้อดีทั้งเก้าดอกพุ่งทะลุอากาศและยิงออกไปด้วยความเร็วเท่ากับงูไฟฟ้าตัวเล็กๆ
ในหมู่พวกเขา ลูกศรสามลูกของมู่หรงเหิงถูกห่อหุ้มด้วยอนุภาคน้ำแข็งที่แข็งตัว ปล่อยกระแสลมเย็นออกมา
แน่นอนว่าเขาใช้วิชายุทธ์ของเขา
“ฟิ้ว——”
ลูกศรทั้งเก้าก่อตัวเป็ฝนลูกศร พุ่งออกไปอย่างรวดเร็วและยิงไปที่ร่างของสัตว์แห่งลม
“กับแค่ลูกศรไม่กี่ดอก หยุดข้าไม่ได้หรอก!”
ฉู่อวิ๋นควบคุมสมดุลของสัตว์แห่งลมด้วยมือเดียว มือขวากุมกระบี่เศวตรรุ้งแน่นและฟาดฟันไปในอากาศ!
"ชิ้ง!"
คลื่นกระบี่แสงดาวสีม่วงพร่างพรายโปรยปรายไปทั่วพื้นที่ ราวกับเกิดน้ำท่วมท้องฟ้า!
คลื่นกระบี่รูปจันทร์เสี้ยว งดงามและทรงพลัง ทะลุผ่านความว่างเปล่าอย่างรวดเร็ว และชนเข้ากับลูกศรทั้งเก้าดอก
"ตึง!"
ทันทีที่ฝนลูกศรกระทบกับคลื่นกระบี่แสงดาว มันก็กลายเป็เศษตะไบเหล็กชิ้นเล็กชิ้นน้อยกระจายเกลื่อนท้องฟ้า
ฉู่อวิ๋นใช้เพียงกระบวนท่าเดียวทำลายศรทั้งเก้าดอก!
“ทำไมถึงเป็เช่นนี้! ด้วยพลังระดับสี่ของขอบเขตควบแน่นพลังปราณ เป็ไปไม่ได้ที่เขาจะทำลายลูกศรน้ำแข็งของข้าได้ด้วยกระบวนท่าเดียว!” มู่หรงเหิงรู้สึกหวาดกลัว พลางมองไปที่ฉู่อวิ๋นผู้สง่างามที่ขี่สัตว์แห่งลมอยู่ตรงหน้า
ภาพจำที่มู่หรงเหิงมีต่อฉู่อวิ๋นยังคงเป็เช่นเดือนที่แล้ว ในเวลานั้นฉู่อวิ๋นอยู่ที่ระดับสี่ของขอบเขตควบแน่นพลังปราณ
เขาไม่เคยคิดเลยว่าฉู่อวิ๋นจะเปิดเส้นลมปราณอัศจรรย์ทั้งแปดเส้นได้ภายในเดือนเดียว!
“เร็วเข้า... ยิงธนูเร็วเข้า!” มู่หรงเหิงะโใส่ผู้คุ้มกันอีกครั้ง
ผู้คุ้มกันทั้งสองที่อยู่ข้างๆ ก็ค่อนข้างประหลาดใจ พวกเขาเป็นักรบระดับห้าของขอบเขตควบแน่นพลังปราณที่เข้ามาพร้อมกับมู่หรงเหิง เดิมที พวกเขารับผิดชอบเพียงความปลอดภัยของมู่หรงเหิงและช่วยเขารวบรวมแต้มศิลาหยกเท่านั้น
แต่ไม่ได้คิดหวังว่าตอนนี้จะได้พบกับฉู่อวิ๋นที่หนังเหนียวเช่นนี้
เขาไม่ใช่นักรบิญญาพิการหรอกหรือ? ทำไมเขาถึงทำลายลูกศรพลังปราณเก้าลูกด้วยปราณกระบี่เพียงครั้งเดียวล่ะ?
ทุกอย่างเกิดขึ้นกะทันหันจนไม่น่าเชื่อ
“นี่! เ้าสองคนยืนเซ่ออยู่ทำไม? รีบยิงเร็วเข้า!” มู่หรงเหิงสั่งอีกครั้ง
ทันใดนั้น ผู้คุ้มกันทั้งสองก็ได้สติ ง้างคันธนูและยิงออกไป
"ฟิ้ว!"
ลูกศรอีกเก้าดอกยิงขึ้นไปในอากาศ ครั้งนี้ความเร็วและแรงส่งของลูกศรนั้นเหนือกว่าครั้งก่อนมาก
พวกเขาทั้งสามพยายามอย่างยิ่งเพื่อต่อต้านฉู่อวิ๋น
หากผู้ฝึกดาบเข้าใกล้ผู้ฝึกธนูได้ล่ะก็ ผลที่ตามมาก็ไม่ใช่เื่ยากเกินจะคิด
“ฟิ้ว——”
ขณะที่สัตว์แห่งลมพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง ฉู่อวิ๋นก็เข้ามาใกล้ทั้งสามมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเห็นลูกศรอีกเก้าดอกยิงมาจากระยะไกล ฉู่อวิ๋นก็เตะท้องของสัตว์ปีศาจเพื่อให้มันวิ่งเร็วขึ้น
“ทำลายมันซะ!”
"ควั่บควั่บ!"
ในความว่างเปล่า ปราณกระบี่แสงดาวรูปจันทร์เสี้ยวสองคลื่นปรากฏขึ้นอีกครั้ง หนึ่งในนั้นโจมตีด้านหน้าและทำลายลูกศรพลังปราณเก้าดอกในทันที ในขณะที่อีกลูกหนึ่งพุ่งเข้ามาใกล้และโจมตีโต้กลับทั้งสามคนในระยะไกล
“อ๊ะ! นายน้อย! ก้มหัวลงขอรับ!” ผู้คุ้มกันทั้งสองตอบสนองก่อน และย่อตัวลงอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งดึงมู่หรงเหิงให้หมอบลง
แต่มู่หรงเหิงมัวแต่ตกตะลึง ปฏิกิริยาของเขาช้าเกินไป
"ควั่บ--"
คลื่นกระบี่แสงดาวหายไปเมื่อถึงตำแหน่งของมู่หรงเหิง แต่ทว่าพลังปราณฮุ่นหยวนที่อยู่ในคลื่นกระบี่ก็ทำให้ธนูคันยาวของเขาหล่นลงกับพื้น
“ข้าจะดูว่าเ้าจะยิงข้าได้อย่างไรอีก!”
ฉู่อวิ๋นขี่สัตว์แห่งลมคล้ายบินไปในอากาศ มันะโราวกับอัศวินศักดิ์สิทธิ์ที่ลงมาจากท้องฟ้าด้วยรูปลักษณ์ที่กล้าหาญ และมาถึงตำแหน่งของมู่หรงเหิงและคนอื่นๆ ในทันที
“มาพยายามแก้แค้นกันนะ เ้าตัวน้อย”
"ฮี่!"
ดวงตาของสัตว์แห่งลมเป็ประกายสีแดง มันยกตัวขึ้นไปในอากาศ เตะกีบหน้าสองข้างออกอย่างรวดเร็วและก้าวไปบนหน้าอกของผู้คุ้มกันทั้งสองอย่างมั่นคง
"แกร่ก!"
กระดูกหน้าอกของผู้คุ้มกันทั้งสองถูกเหยียบจนหัก ใบหน้าของพวกเขาซีดเผือดด้วยความเ็ปทันที เ็ปจนทำได้เพียงคลานกลิ้งไปบนพื้น
"เชอะ!"
ฉู่อวิ๋นะโลงมาจากหลังของสัตว์แห่งลม เขาตีลังกากลับหลังและร่อนลงบนพื้นอย่างมั่นคงแล้วเหวี่ยงกระบี่หยกขาวออกไป ชี้ไปที่มู่หรงเหิงที่ไร้การป้องกันอยู่บนพื้น
สัตว์แห่งลมดูเหมือนจะเข้าใจความตั้งใจของฉู่อวิ๋น มันยืนอยู่เฉยๆ มองดูเขาเล่นงานพวกนั้น
“ข้าไม่ได้มีความแค้นต่อเ้ามากนัก แต่เ้ากลับคอยต่อต้านข้าครั้งแล้วครั้งเล่า กับอีแค่ดอกปี้หลิงดอกเดียว เ้ากลับจำมาจนถึงตอนนี้” ฉู่อวิ๋นกดกระบี่ลงบนคอของมู่หรงเหิงด้วยสีหน้าไม่แยแส "เ้าชอบเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ถึงเพียงนี้ ปล่อยเ้าไว้แล้วจะมีประโยชน์อันใด?”
ด้วยท่าทางที่เ็า ฉู่อวิ๋นควบคุมกระบี่เศวตรรุ้งให้เคลื่อนไหวเล็กน้อย บาดิับริเวณคอของมู่หรงเหิง ให้เืไหลอย่างช้าๆ
“อย่า... อย่าฆ่าข้า! ได้โปรด!" มู่หรงเหิงกลัวแล้ว ั้แ่เขายังเป็เด็ก ชีวิตของเขาไม่เคยถูกคุกคามมาก่อน ไม่คิดว่าฉู่อวิ๋นตรงหน้าจะตั้งใจฆ่าเขาจริงๆ !
ในเมืองไป๋หยาง มู่หรงเหิงเป็บุตรชายของเ้าเมือง ใครจะรังแกเขาได้?
แต่ตอนนี้ ฉู่อวิ๋นกลับกล้าที่จะเอาปลายกระบี่จ่อที่คอของเขา
มู่หรงเหิงในตอนนี้ใจนน้ำตาไหลและพูดเสียงสั่นเทา "พี่ใหญ่อวิ๋น! ข้าผิดเอง! เป็ข้าที่ชั่วช้า! ท่าน...ปล่อยข้าไป แล้วข้าจะขอให้ท่านพ่อมอบเหรียญทองให้ท่าน ท่านอยากได้เท่าไหร่? หนึ่งแสน? หนึ่งล้าน?”
มู่หรงเหิงที่เคยเย่อหยิ่ง ตอนนี้เต็มไปด้วยความสมเพช คุกเข่าขอความเมตตา
ดวงตาของฉู่อวิ๋นยังคงเ็า แต่เขาเริ่มคิดในใจ
“มู่หรงเหิงไร้ยางอายผู้นี้ต่อไปย่อมกลายเป็ภัยต่อใต้หล้า แต่เขาเป็พี่ชายของมู่หรงซิน ถ้าข้าฆ่าเขาแบบนี้ เกรงว่าจะละอายใจต่อนาง”
ก่อนหน้านี้ หากไม่ได้มู่หรงซินนำทาง ฉู่อวิ๋นก็คงไม่พบทะเลแห่งโอสถ และเขาก็จะไม่พบผลหยวนหยางและวัตถุดิบยาพวกนั้น
มีแค้นต้องชำระคือหลักการของฉู่อวิ๋น บุญคุณต้องตอบแทนก็เช่นเดียวกัน
ยิ่งไปกว่านั้น หากฉู่อวิ๋นฆ่ามู่หรงเหิงจริงๆ เ้าเมืองมู่หรงจะต้องสอบสวนเขาอย่างแน่นอน
หลังจากใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง ฉู่อวิ๋นก็คิดถึงวิธีจัดการกับมู่หรงเหิง
ขั้นแรก เขาพบถุงศิลาหยกของมู่หรงเหิง
“เ้าตัวดี! ประสิทธิภาพของคนสามคนสูงกว่าคนเดียวจริงๆ ด้วย เ้าถึงกับมีแต้มศิลาหยกรวมสองร้อยแต้มเชียว!” ฉู่อวิ๋นหัวเราะไม่หยุด มือของเขาคว้าถุงแต้มศิลาหยกไปอย่างไม่เกรงใจ
เมื่อเห็นว่าแต้มศิลาที่รวบรวมมาถูกเอาไป มู่หรงเหิงอยากจะร้องไห้ กล้าโกรธแต่ไม่กล้าพูด
ตอนนี้เขาอยู่ตกอยู่ในมือของผู้อื่น ทำได้แค่ประนีประนอมกับฉู่อวิ๋นเท่านั้น
“ฮะฮะ...พี่ใหญ่อวิ๋น ท่านเอาแต้มศิลาไปได้แล้ว งั้นปล่อยข้าไปเถอะนะ! ข้า...ข้าสัญญา! ต่อไปจะไม่ไปรบกวนท่านอีกแล้ว” มู่หรงเหิงเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ
“เ้าฝันไปเถอะ”
ฉู่อวิ๋นเผยรอยยิ้มแปลกๆ ออกมา และเดินไปหาผู้คุ้มกันทั้งสองทันที ตบพวกเขาสองครั้งให้หมดสติ จากนั้นก็เดินกลับมาที่มู่หรงเหิงอีกครั้ง เอาปลายกระบี่จ่อที่คอเขาแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม "เ้า ถอดเสื้อผ้าออก"
“เอ่อ...พี่ใหญ่อวิ๋น! ท่าน...ท่านจะทำอะไรหรือ?” มู่หรงเหิงสั่นไปทั้งตัว แววตาตื่นตระหนกสุดขีด ฉู่อวิ๋นผู้นี้ชอบแบบนี้หรือ?
“ข้าบอกให้ถอดก็ถอดเสีย อย่าพูดไร้สาระให้มาก” ฉู่อวิ๋นมองมู่หรงเหิงด้วยความสนใจและยังคงยืนกราน
เมื่อได้ยิน มู่หรงเหิงก็ได้แต่กัดฟันและถอดเสื้อผ้าออกอย่างไม่เต็มใจ
ไม่นาน เขาก็เปลือยเปล่าและนั่งยองๆ อยู่ตรงนั้น โดยมีน้ำตาไหลอาบแก้ม
มู่หรงเหิงไม่รู้ว่าฉู่อวิ๋นจะทำให้เขาอับอายได้อย่างไร จึงได้แต่คาดการณ์สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในใจ
ฉู่อวิ๋นเก็บเสื้อผ้าของเขาทันที รื้อค้นข้างใน และดึงแผนที่ออกมา
"หือ? นี่คือ..."
ฉู่อวิ๋นเปิดออกดูและเห็นว่ามันแสดงให้เห็นภูมิประเทศของูเา การกระจายตัวของสัตว์ปีศาจ และจุดที่มีการเฝ้าระวังอย่างชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้น ลึกเข้าไปในูเา มีจุดสีแดงขนาดใหญ่ทำเครื่องหมายไว้อยู่
“เ้าโกงจริงๆ ด้วย ด้วยแผนที่นี้ไม่แปลกใจเลยที่เ้าจะได้ถึงสองร้อยแต้มเร็วเสียขนาดนั้น” ฉู่อวิ๋นตบหน้ามู่หรงเหิงด้วยกระบี่แล้วถามว่า “บอกข้ามา จุดสีแดงนี้คืออะไร?”
จู่ๆ สีหน้าของมู่หรงเหิงก็เปลี่ยนไป เขาก้มหน้าลงและไม่พูดอะไร ดวงตาของเขาสั่นไหว
ฉู่อวิ๋นย่อมสังเกตเห็นว่ามู่หรงเหิงผิดปกติ เขาจ่อกระบี่ไปที่คอของมู่หรงเหิงอีกครั้ง และถามเสียงดังขึ้น "เ้าจะบอกหรือไม่? ถ้าไม่บอก กระบี่ของข้าก็จะขยับและเ้าต้องตายแน่”
มู่หรงเหิงพูดอย่างเร่งรีบ "ข้า... ข้าไม่รู้! ตอนที่ได้มาก็เป็แบบนี้อยู่แล้ว!”
“จริงหรือ?” ฉู่อวิ๋นมองมู่หรงเหิงอย่างเ็า “ข้าจะให้โอกาสเ้าอีกครั้ง ข้าจะนับถึงสาม ถ้าเ้ายังไม่บอก ก็อย่าโทษที่ข้าโเี้”
ฉู่อวิ๋นไม่ได้โง่ มู่หรงเหิงเป็เ้าของแผนที่นี้แน่นอน เขาจะไม่รู้ความหมายของเครื่องหมายทั้งหมดหรือ?
"หนึ่ง..." ฉู่อวิ๋นเริ่มนับถอยหลัง
ตอนนี้ มู่หรงเหิงเหงื่อกาฬไหลอาบ เขาไม่มั่นใจว่าฉู่อวิ๋นจะกล้าฆ่าเขาจริงๆ หรือไม่ แต่ต่อให้ฉู่อวิ๋นรู้ความหมายของจุดสีแดงนั่น เขาก็อาจโดนฆ่าตายอยู่ดี
"สอง… "
เลือกยากจริงๆ
"สาม!"
ใบหน้าของฉู่อวิ๋นเปลี่ยนเป็เ็า แล้วยกกระบี่ขึ้นโจมตี!
“ข้าบอกแล้ว! ข้าบอกแล้ว!” มู่หรงเหิงะโ
เมื่อได้ยิน ฉู่อวิ๋นก็ค่อยๆ ลดกระบี่เศวตรรุ้งลง และพูดด้วยรอยยิ้มอย่างภาคภูมิใจว่า "หึ บอกั้แ่แรกก็สิ้นเื่ "
ในความเป็จริง ฉู่อวิ๋นก็เดิมพันเช่นกัน เพราะเห็นแก่มู่หรงซิน เขาไม่ฆ่ามู่หรงเหิงแน่นอน
แต่สำหรับาจิตวิทยาระหว่างทั้งคู่ ในที่สุดฉู่อวิ๋นก็เป็ฝ่ายชนะ
ต่อมามู่หรงเหิงก็เปิดเผยทุกอย่างเกี่ยวกับแผนการสมรู้ร่วมคิดของหลินหล่างและฉู่เจี้ยนเหริน เพื่อซุ่มโจมตีและสังหารฉู่อวิ๋นที่อยู่ลึกเข้าไปในูเา
จุดสีแดงนั้นเป็เส้นทางเดียวที่พาไปสู่เขตลึกของูเาเพื่อล่าสัตว์ปีศาจที่ได้คะแนนสูง ภายใต้การประสานงานของมู่หรงเหิงบังเอิญพอดีที่จะไม่มีผู้คุมอยู่ที่นั่น
หลินหล่างและฉู่เจี้ยนเหรินคิดว่าฉู่อวิ๋นจะกระตือรือร้นเอาชนะในรอบแรกแล้วเข้าไปที่นั่นอย่างแน่นอน ดังนั้นพวกเขาจึงซุ่มโจมตีที่นั่น
ในเวลาเดียวกัน มู่หรงเหิงก็มอบแผนที่ขี้โกงแบบเดียวกันให้พวกเขาเป็รางวัลสำหรับการสังหารฉู่อวิ๋น
ตราบใดที่พวกเขาเฝ้าเส้นทางสายหลัก แม้ว่าจะเสียเวลาในการพยายามฆ่าฉู่อวิ๋น แต่ก็สามารถเข้าไปในส่วนลึกของูเาเพื่อล่าสัตว์แต้มสูงตามแผนที่ได้เสมอ
พวกเขาไม่เพียงแต่ผูกขาดทรัพยากรสัตว์ปีศาจเท่านั้น แต่ยังสามารถโจมตีและฆ่าฉู่อวิ๋นได้ด้วย ช่างเป็การฆ่านกสองตัวด้วยหินก้อนเดียว
“หลินหล่าง! ฉู่เจี้ยนเหริน! เลวทรามนัก!” เมื่อได้ยินคำอธิบายของมู่หรงเหิง ดวงตาของฉู่อวิ๋นก็ลุกเป็ไฟ เขากำกระบี่เศวตรรุ้งไว้ในมือแน่น ทำให้เกิดพลังปราณสีม่วงจำนวนนับไม่ถ้วนเปล่งออกมาจากคมกระบี่ที่เล่นแสง
แม้ว่าฉู่อวิ๋นจะรู้มานานแล้วว่าทั้งหลินหล่างและฉู่เจี้ยนเหรินมีเจตนาฆ่าเขา
แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าทั้งคู่จะร่วมมือกันและเตรียมที่จะซุ่มสังหารเขาในการประลองเซี่ยหยาง วิธีการนี้ร้ายกาจและต่ำทรามเหลือเกิน!
ถ้าหากฉู่อวิ๋นยังอยู่ที่ระดับสี่ของขอบเขตควบแน่นพลังปราณและไม่ได้พบกับมู่หรงเหิงในวันนี้ เข้าก็อาจจะโดนซุ่มโจมตีจริงๆ !
“ในเมื่อพวกเ้าอยากให้ข้าตาย เช่นนั้นข้าก็ขอดูว่าพวกเ้ามีความสามารถอะไร!” ฉู่อวิ๋นพูดด้วยความโกรธ เขาเหวี่ยงกระบี่เศวตรรุ้งหนึ่งที ปราณกระบี่ก็พุ่งออกมาฟาดฟันไปที่พื้น
"ควั่บ!"
ทันใดนั้น รอยกระบี่ยาวแปดหมี่ก็ปรากฏขึ้นบนพื้น ทำเอาผู้คนตกตะลึงมาก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้