เมื่อก้าวเข้าไปภายในห้อง เหยียนอู๋อวี้เหลือบมองป้าโฉ่วที่อยู่อีกด้านหนึ่ง
“วันนี้ลี่เจาอี๋เข้ามาอยู่ในตำหนัก ข้าสั่งให้เ้าดูแลนางให้ดี แล้วเพราะเหตุใดจึงเกิดความผิดพลาดเช่นนี้ได้?”
“บ่าวตรวจสอบอาหารในตำหนักแล้วเ้าค่ะ ไม่ผิดปกติเลยเ้าค่ะ!” ป้าโฉ่วคุกเข่าลงบนพื้น คำพูดของนางเต็มไปด้วยความร้อนใจ
ซ่งอี้เฉินยืนอยู่ด้านข้างยกยิ้มมุมปากมองด้วยสายตาเ็า เขาจับมือของเหยียนอู๋อวี้พลางเอ่ยกระซิบว่า “อวี้เอ๋อร์ เจิ้นเชื่อใจเ้าก็เพียงพอแล้ว”
ซ่งอี้เฉินนอนไม่หลับทั้งคืน ขณะเตรียมจะลุกขึ้นไปว่าราชการในวันถัดมา ข่าวที่ลี่เจาอี๋แท้งพลันแพร่สะพัดไปทั่ววังหลวงแล้ว
ด้านนอกตำหนักเฟิ่งชัยดูเยือกเย็น แตกต่างจากภาพมีชีวิตชีวาของเมื่อวานอย่างสิ้นเชิง
เหยียนอู๋อวี้รู้ว่าไม่ว่าจะอะไรจะเกิดขึ้น วันนี้นางจะต้องไปพบลี่เจาอี๋ให้ได้ ไม่เช่นนั้นการทาบทามตระกูลเซียวก่อนหน้านี้ทั้งหมดคงจะเสียเปล่า
เมื่อเดินออกจากห้องโถงใหญ่ กลิ่นคาวเืรุนแรงทำให้นางต้องหรี่ตาลง
เต๋อเฟยกลับมาถึงวังหลวงจึงรีบตรวจสอบเื่นี้ทันที ทว่าไทเฮาที่เป็ห่วงลี่เจาอี๋ใน่กลางวันนั้นกลับไม่ถามไถ่เื่ราวเลยแม้แต่น้อย
แม่ลูกคู่นี้มีนิสัยเหมือนกันจริงๆ! เหยียนอู๋อวี้แอบคิดในใจด้วยสีหน้าเศร้าหมองเล็กน้อย
เมื่อนางเดินเข้าไปในเรือนด้านข้างคล้ายนางกำนัลและขันทีในวังทุกคนจะถูกเรียกตัวไปสอบสวน เหลือเพียงลี่เจาอี๋เท่านั้นที่นอนอยู่คนเดียวบนเตียงโดยไม่มีผู้ใดคอยรับใช้
“หม่อมฉันคำนับลี่เจาอี๋” เหยียนอู๋อวี้โน้มตัวกล่าวทักทาย และมองคนที่นอนอยู่บนเตียง
สีหน้าของลี่เจาอี๋ซีดขาว แม้จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ทว่าขณะที่นางเห็นเหยียนอู๋อวี้กลับไร้ซึ่งร่องรอยของความเกลียดชังในแววตา
“เหยียนอู๋อวี้ เ้าส่งข่าวเื่อันใดให้ตระกูลข้าหรือ พวกเขาจึงบอกให้ข้าลดฐานะมาอยู่กับเ้า”
เซียวซิ่งเสวี่ยไม่ใช่คนโง่ อุปนิสัยนางเฉลียวฉลาด นางรู้ดีว่าผู้ที่ทำให้นางแท้งนั้นไม่ใช่ผู้ที่อยู่เบื้องหน้านางอย่างแน่นอน และมีโอกาสสูงที่นางจะถูกใส่ร้าย
ทว่าความเกลียดชังที่กัดกินอยู่ในใจนี้มิอาจปกปิดไว้ได้ นางเป็ถึงเจาอี๋แต่กลับแต่งตั้งเป่าหลินเป็นายหญิงผู้มีอำนาจในตำหนัก มิหนำซ้ำเมื่อวานยังเห็นได้ชัดว่านางตั้งครรภ์ ทว่ากลับเป็เหยียนอู๋อวี้ที่ได้รับความโปรดปราน!
ซ้ำนางยังต้องประสบกับเื่ทนทุกข์ทรมานจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวานนี้อีกด้วย
“หม่อมฉันรู้สึกว่าพี่หญิงมิใช่ผู้าุโที่เป็อันตราย ดังนั้นหม่อมฉันจึงส่งจดหมายไปที่ตระกูลของพี่หญิงเพื่อแสดงความตั้งใจที่จะช่วยเหลือพี่หญิง”
“เฮอะ----” เซียวซิ่งเสวี่ยยิ้มเยาะเพราะนางไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะช่วยเหลือนางได้จริงๆ
ั้แ่วินาทีที่นางเข้ามาไปในวังหลวง นางโชคร้ายมาตลอดทาง
ั้แ่การถูกลงโทษคุกเข่าจนถูกใส่ร้าย และตอนนี้เื่การแท้ง......นางหลับตากัดฟันกรอด
“เมื่อวานหม่อมฉันไปที่ตำหนักของพี่หญิง สิ่งที่เรียกว่าห้องลับเก็บหลักฐานนั้นมีฝุ่นหนาเตอะ สภาพเหมือนไม่มีคนใช้งานเลยใน่เวลาที่ผ่านมา”
แม้ว่าคนตรงหน้าจะเกลียดชังนาง ทว่านางต้องสืบหาผู้ที่วางยาพิษที่อยู่เื้ัเื่นี้ออกมาให้ได้
นางเองก็อยากจะรู้เช่นกันว่าซ่งอี้เฉินจะทำอย่างไรเมื่อมีหลักฐานได้ข้อสรุป
“ข้าไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีช่องลับอยู่ที่นั่น......หากข้าพบั้แ่แรก บางที......”
“เ้าคิดว่าเป็ฝีมือผู้ใด?” แม้ว่านางจะรู้คำตอบอยู่ในใจ ทว่านางก็ยังอยากฟังคำตอบจากปากของเซียวซิ่งเสวี่ยเอง
ความจริงได้พิสูจน์ว่านางประเมินค่าสตรีที่อยู่ตรงหน้านางสูงเกินไป
“ยามที่ไทเฮาเข้าวังในปีนั้น พระองค์ก็อาศัยอยู่ในตำหนักของข้าเช่นกัน ข้าเดาว่าไทเฮาต้องทรงทราบอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเื่นี้แน่! หรือว่า......บุคคลที่อยู่เื้ัเื่พวกนี้ก็คือ......ไทเฮา?” คำพูดของเซียวซิ่งเสวี่ยไม่แน่ใจมากนัก ทว่าขณะที่เอ่ยสองคำสุดท้าย แววตาของนางพลันหลุบต่ำลงพลางเอ่ยพึมพำกับตนเองว่า “ข้าไม่เคยเป็ปฏิปักษ์กับองค์ไทเฮาเลย เหตุใดนางจึงไม่ชอบข้าถึงเพียงนี้!”
หากเป็เวลาปกติ เหยียนอู๋อวี้คงสะบัดแขนเสื้อแล้วเดินออกไปนานแล้ว ทว่าเมื่อนางขบคิดอย่างรอบคอบก็ดูจะสมเหตุสมผลอยู่บ้าง ไทเฮากับเซียวซิ่งเสวี่ยคล้ายจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกันอยู่บ้าง
กอปรกับเื่ที่ฮวารั่วซีได้รับพิษ จุดง่ายๆ พวกนี้สามารถทำให้ทุกคนรู้สึกว่านางก็เป็เหยื่อเช่นกัน
แผนการเหล่านี้แยบยลมากขึ้นเรื่อยๆ! เหยียนอู๋อวี้แอบคิดในใจ
สถานการณ์ในเวลานี้ยากที่จะรับประกันว่าจะไม่มีผู้ใดลงมือกับเซียวซิ่งเสวี่ย หากนางไม่ได้ตั้งครรภ์กับฝ่าา นางคงจะถูกกำจัดด้วยยาพิษไปนานแล้ว ดังนั้นจึงต้องจัดการนางก่อนเพื่อไม่ให้หลงเหลือหลักฐาน!
เหยียนอู๋อวี้รู้อยู่แก่ใจว่าผู้ที่อยู่เื้ัจะไม่มีวันปล่อยแพะรับบาปที่ดีเช่นนี้ไปได้
ทว่าเซียวซิ่งเสวี่ยเป็หมากในมือของเธอ และเซียวซิ่งเสวี่ยก็คือหนทางที่จะควบคุมตระกูลเซียวเช่นกัน
“เ้าต้องดูแลลี่เจาอี๋ให้ดีจนกว่านางกำนัลข้างกายนางจะกลับมา” เหยียนอู๋อวี้เรียกซูอิ่งเข้ามากำชับเป็อย่างดี
เซียวซิ่งเสวี่ยหันไปมองสตรีเบื้องหน้า นางแอบคิดในใจหรือว่าสตรีนางนี้้าจับตาดูนาง?
เหยียนอู๋อวี้เห็นสีหน้านางผิดปกติ ทว่านางไม่้าอธิบายให้มากความจึงหันหลังเดินออกจากตำหนักไป
ครานี้ถึงเวลาที่จะต้องไปตำหนักเต๋อเฟยแล้ว
เมื่อคืนวานเจตนาของซ่งอี้เฉินที่จะปกป้องนางนั้นชัดเจนมากจนเกินไป ตามอุปนิสัยของเต๋อเฟย นางจะต้องมาหาอย่างแน่นอน
แทนที่จะให้เต๋อเฟยเป็ผู้รุกก่อน มิสู้นางไปหาเองจะดีกว่า
เมื่อเต๋อเฟยเห็นเหยียนอู๋อวี้มาเข้าเฝ้า ลักษณะท่าทางจึงเ็าลงเล็กน้อย ทำเพียงสั่งให้นางไปยืนด้านข้างก่อน
จากตำหนักอีหลวนไปยังเรือนด้านข้างใช้เวลาเพียงครึ่งกาน้ำชาเดือดเท่านั้น ไม่ทิ้งโอกาสที่ใครจะลงมือเลย
ทว่าเมื่อหมอหลวงเสียชีวิต ทุกอย่างดูเหมือนจะขาดตอนในทันที และทุกอย่างไร้ซึ่งหลักฐานยืนยัน
“เหตุการณ์เมื่อวาน ข้ากลับมาตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วพบว่าอาหารทั้งหมดไม่ได้ผ่านมือเขา” คำพูดของเต๋อเฟยเป็เพียงการบอกกล่าวเื่นี้กับนาง และเื่ที่เกิดขึ้นวนกลับไปที่ตัวนาง
ทว่าเหยียนอู๋อวี้รู้ดีว่าสิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้มีจุดที่ผิดปกติ
หมอหลวงอาจจะทรยศนางได้ ทว่าป้าโฉ่วไม่มีทางทำ ในเมื่อป้าโฉ่วไม่พบสิ่งผิดปกติในตอนนั้น ดังนั้นก็หมายความว่าอาหารจานนี้ไม่ได้อยู่บนโต๊ะในตอนนั้นอยู่แล้ว
เหยียนอู๋อวี้ตอบอย่างใจเย็น “เมื่อวานยามที่หม่อมฉันเลือกอาหารให้ลี่เจาอี๋ หม่อมฉันไม่เห็นอาหารจานนี้เลยเพคะ”
ไม่เห็นมันหรือ? เต๋อเฟยเงยหน้าขึ้นมองสตรีเบื้องหน้า นางกล้าบอกว่าไม่เห็นอาหารจานนั้น?
หากไม่เห็นอาหารจานนั้น แล้วอาหารจานนั้นส่งออกไปได้อย่างไร?
“มีสตรีตั้งครรภ์ในตำหนักเฟิ่งชัย เื่อาหารของเสวยก็ควรระมัดระวังให้มาก ห้องเครื่องของฝ่าาจะไม่ส่งอาหารประเภทนี้ไปยังตำหนักเฟิ่งชัยง่ายๆ อย่างแน่นอนเพคะ” เหยียนอู๋อวี้แสดงความคิดเห็น
หรือว่านางจะจัดอาหารผิด แค่เพียงไปที่ห้องเครื่องของวังหลวง คำตอบย่อมชัดเจน
หากมีสตรีตั้งครรภ์ที่ตำหนักเฟิ่งชัย ทางห้องเครื่องจะต้องมีบันทึกเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดอย่างแน่นอน เมื่อคืนทุกคนมุ่งความสนใจไปที่การตายของหมอหลวง จนไม่มีผู้ใดกล่าวถึงเื่นี้!
บางทีบันทึกที่ห้องเครื่องอาจเป็สิ่งที่สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนางได้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้