ซ่-อ-น-รั-ก
ใต้เงาจันทร์
นวนิยายสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น
ผู้เขียน
กาสะลองทองคำ
ไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือ
หรือคัดลอกเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือ
เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเ้าของหนังสือเท่านั้น
นิยายเื่นี้เป็เพียงเื่ที่สมมติขึ้น
ไม่เกี่ยวข้องกับเื่จริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคล
และสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเื่ ไม่มีเจตนา
อ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ
……….
นิยายเื่นี้… ไม่มีแก่นสารสารัตถะอะไรนักหนา
ทั้งเื่ขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์
ดำเนินเื่ด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรง
ท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง
*เราเตือนท่านแล้ว*
ตอนที่ 1
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ที่บ้านเดี่ยวชั้นเดียวหลังใหญ่ ปลูกสร้างครึ่งไม้ครึ่งอิฐ ทาสีขาว ตั้งอยู่ท่ามกลางไร่สับปะรดสุดกว้างขวางในอำเภอปราณบุรีของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
“ดา… อีกนานไหมจ๊ะที่รัก กว่าสระน้ำจะเสร็จ”
‘จอห์น’ ชายชราวัยเจ็ดสิบปี รูปร่างผอมบาง ผิวขาวซีด เบ้าตาลึก จมูกโด่งเป็สันเพราะมีเชื้อสายสวีเดน กำลังนอนทอดกายอยู่บนเตียงใกล้กับหน้าต่าง เอ่ยถาม ‘มุกดา’ ผู้เป็ภรรยา เขาเรียกชื่อของหล่อนสั้นๆ ว่า ‘ดา’ จนติดปาก
“อีกสัปดาห์น่าจะเสร็จค่ะที่รัก… ”
มุกดาตอบสามี…
หล่อนคือสาวใหญ่วัยสามสิบห้าปีผู้มีใบหน้าสะสวยสะดุดตา อีกทั้งหุ่นทรงก็มีเสน่ห์เย้ายวนใจ ทำเอาผู้ชายที่ได้เห็นถึงกับต้องเผลอมองเหลียวหลังคอเคล็ดไปตามกัน เป็โชคดีของจอห์นที่ได้หล่อนมาเป็ภรรยา
“ไม่ต้องห่วงว่าจะสร้างไม่เสร็จนะคะที่รักจ๋า… เรายังมีเวลาอีกเดือนกว่าก่อนจะกลับสวีเดน… ”
มุกดาเป็คนพูดจาไพเราะ…
น้ำเสียงหวานไม่ต่างจากใบหน้า หล่อนตอบสามีขณะทอดสายตามองไปยังสระว่ายน้ำข้างบ้านที่ตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง
ที่ผ่านๆมา…
มุกดาใช้ชีวิตอยู่สวีเดนมาตลอด เพิ่งตัดสินใจเดินทางกลับมาเมืองไทยพร้อมกับลุงจอห์นผู้เป็สามี
หลังจากทั้งสองวางแผนเอาไว้ว่า่สามเดือนนี้จะกลับมาใช้ชีวิตอยู่เมืองไทยเพื่อหนีจากความโหดร้ายของสภาพอากาศหนาวจัดและพายุหิมะ กำลังปกคลุมไปทั่วทั้งเมืองจนกลายเป็สีขาว ส่งผลให้ใช้ชีวิตลำบาก
ก่อนจะเดินทางกลับมา…
มุกดาตัดสินใจซื้อบ้านเดี่ยวเอาไว้หนึ่งหลังที่อำเภอปราณบุรี หลังจากวางแผนกับสามีชราเอาไว้ว่าบั้นปลายจะกลับมาใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไทย
ที่ตัดสินใจเช่นนี้ก็เพราะว่าตอนนี้ลุงจอห์นก็อายุเจ็ดสิบปีแล้ว ต่างจากมุกดาในวัยสามสิบห้าปีที่ยังแลดูสาวและสวยไม่สร่าง
“คุณเข้าไปนอนพักผ่อนเถอะจ้ะที่รัก… ”
มุกดากล่าวกับสามีที่เพิ่งกินมื้อเที่ยงไปเมื่อครู่ก่อนหน้า และทุกครั้งภายหลังจากกินข้าวกลางวันเสร็จ จอห์นก็มักจะง่วงและต้องงีบหลับในตอนบ่าย ทำแบบนี้จนติดเป็นิสัยเรื่อยมา ซึ่งก็เป็ธรรมดาของคนสูงอายุ
ลุงจอห์นได้ยินที่ภรรยาบอก…
ก็ลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปเข้าห้องนอน ระหว่างวันก็เปิดแอร์ฉ่ำเย็นสบาย เพราะยังไม่ชินกับความร้อนแรงของอากาศในเมืองไทยซึ่งแตกต่างจากสวีเดนราวฟ้ากับเหว
ภายหลังจากลุงจอห์นเข้าไปนอนแล้ว…
มุกดาก้าวเดินมาที่หน้าต่างของห้องรับแขก เอามือแหวกม่านลูกไม้สีขาวบริสุทธิ์ ตาจ้องมองไปยังกลุ่มคนงานงานบางส่วนที่พากันออกมาจากเต็นท์ผ้าใบตั้งเป็แคมป์พักแรมในระหว่างมาก่อสร้างสระน้ำ คนงานนอนค้างที่นี่มาห้าคืนแล้ว
หลังจากมือเรียวของคุณนายแหวกม่านลูกไม้จ้องมองออกไป พลันสายตาสะดุดเข้ากับชายผู้มีรูปร่างสูงใหญ่กำยำสะดุดตา ผิวสีน้ำตาลคร้ามแดดยิ่งทำให้เขาดูคมคร้ามหล่อเหลาจนไม่อาจละสายตา
เขาคนนี้คือ ‘ลุงเข้ม’ ชายวัยห้าสิบปี มีตำแหน่งเป็หัวหน้าคนงานก่อสร้างสระว่ายน้ำโปรเจคนี้
ลุงเข้มคนนี้หน้าตาหล่อเหลาและคมเข้มสมกับชื่อ เนื้อตัวกำยำไปด้วยมัดกล้ามสมชายชาตรียิ่งเสริมส่งให้ชายคนนี้สะดุดตาของมุกดายิ่งนัก
“สวัสดีครับคุณนาย… ”
บังเอิญลุงเข้มเหลือบมาเห็นว่ากำลังมีสายตาคู่หนึ่งกำลังแอบมองมาจากห้องรับแขกของบ้าน จึงะโทักไปตามมารยาท แม้รู้ว่าอาจทำให้คนมองเขิน
“สวัสดีจ้ะลุงเข้ม… ”
มุกดาะโตอบอายๆ…
ดวงตาคมสวยยังจับจ้องอยู่ที่ร่างกำยำ ลุงเข้มเปลือยอก ไม่ได้สวมเสื้อเพราะวันนี้แดดไม่แรงนัก อวดแผงอกแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ ที่ไหล่ข้างขวามีลายสักน้ำมันสีดำรูปเสือและอักขระโบราณดูขลัง
คุณนายเผลอมองเข้าอย่างจังเพราะว่าชอบผู้ชายตัวใหญ่ ใบหน้าของลุงเข้มมีหนวดเคราดุดันพันธุ์ขน เห็นเส้นขนสีดำเป็แพแผ่กระจายไปทั่วอกกว้าง
เส้นขนบางส่วนเลื้อยต่ำลงมาที่ท้องแน่นไปด้วยลอนกล้าม ก่อนจะลงไปกองรวมกันอยู่ภายใต้ขอบกางเกงที่สังเกตได้ถึงความตุงแน่นสะดุดตา
ทำให้มุกดาพอจะคาดเดาได้ว่าสิ่งที่พ่อให้มาซุกซ่อนอยู่ข้างในนั้นต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ
“งานคืบหน้าไปแค่ไหนแล้วจ๊ะลุง… ”
คุณนายร้องถาม
“วันนี้เทคอนกรีตฐานรองพื้นเสร็จแล้วครับ เดี๋ยวบ่ายนี้กำลังจะเริ่มฉาบปูนและพ่นน้ำยากันซึมครับ… ”
ลุงเข้มรายงานความคืบหน้าของงาน…
“จ้ะ… ไม่ต้องเร่งมาก เน้นให้งานออกมาดีก็แล้วกัน”
คุณนายกำชับ…
ตามสัญญาตกลงกันไว้ว่าใช้เวลาก่อสร้างสามสิบวัน ตอนนี้เริ่มงานไปได้สัปดาห์กว่าๆ แต่ก็คืบหน้าไปมากแล้ว
“ไม่ต้องห่วงครับคุณนาย… ผมรับประกันว่างานเสร็จแน่นอนครับ แต่ว่า่นี้ขอให้คนงานได้หยุดสี่วันนะครับในวันที่ 13 ถึง 16 ให้ลูกน้องกลับไปเยี่ยมบ้าน่สงกรานต์”
ลุงเข้มตอบ…
จากนั้นบอกขั้นตอนของงานว่าเมื่อคนงานกลับมาจะปูกระเบื้องสระ ซึ่งใช้ทั้งโมเสกและกระเบื้องแก้วเพื่อความสวยงามตามแบบที่ตกลงกันไว้
“ไม่เป็ไรจ้ะ… ”
คุณนายตอบเสียงหวาน…
อันที่จริงเื่นี้ลุงเข้มได้บอกล่วงหน้าเอาไว้แล้ว ซึ่งมุกดาก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะ่สงกรานต์คนงานก็ควรจะได้กลับไปเยี่ยมบ้าน
และหล่อนก็เชื่อใจลุงเข้มซึ่งทำงานดีมากเป็ที่น่าพอใจ ตอนนี้งานก็คืบหน้าไปมากแล้ว
อีกสามวันต่อมา
หลังจากคนงานซึ่งมีทั้งหมดห้าคนลากลับบ้านไปหมดแล้ว มุกดาใเมื่อเปิดหน้าต่างออกมาแล้วเห็นลุงเข้มกำลังถือตลับเมตรเดินสำรวจพื้นที่อยู่ใกล้ๆ กับสระว่ายน้ำที่ตอนนี้ฉาบปูนพื้นและด้านข้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว
หล่อนจ้องมองไม่ละสายตา…
ลุงเข้มไม่สวมเสื้อ ่ล่างนุ่งกางเกงตัวเดียว มุกดาสะดุดตากับเรือนร่างกำยำไปด้วยมัดกล้ามดูราวกับคนที่ผ่านการออกกำลังกายมาอย่างหนัก ดูต่างจากเรือนร่างของกรรมกรทั่วไป
