รถตู้สีดำเพิ่มความเร็วขึ้นท่ามกลางสายฝนไม่นานนักก็เดินทางมาถึงหน้าทางเข้าหมู่บ้านคฤหาสน์บนเขา อยู่ๆสีหน้าของหญิงสาวสวมชุดดำที่เดิมทีใบหน้าเต็มใบด้วยรอยยิ้มก็เปลี่ยนไป
“อาจารย์...” เมื่อเห็นท่าทางของเธอโจวเหย้าเวยก็คิดว่ามือใหม่เกิดการขัดแย้งขึ้นมาอีกแล้ว
ไม่นานนักสีหน้าของหญิงสาวสวมชุดดำก็กลับมาเรียบเฉยอีกครั้ง “ฉันไม่ออกไปแล้วนะไปจัดการเองเถอะ สถานการณ์ไม่ดีเท่าไร หาโอกาสจัดการเองไปเลย”
ทำไมพวกนักปราชญ์รักศีลธรรมพวกนั้นถึงไปรวมตัวกันที่ใกล้ๆ บ้านตระกูลหลิน? ในใจของหญิงสาวสวมชุดดำเต็มไปด้วยความไม่สบายใจแม้ว่าเวทปีศาจของเธอนั้นจะได้เปรียบในการต่อสู้แต่ว่าเธอก็ยังไม่กล้าพอที่จะมั่นใจว่าจะสามารถใช้ศาสตร์ดำหลบหนีออกมาท่ามกลางการรุมล้อมของนักปราชญ์ระดับพื้นฐานสี่คนได้อีกอย่าง ที่นั่นก็มีคนที่เธอไม่อยากจะพบอยู่ด้วย
โจวเหย้าเวยพยักหน้ารับ เขาไม่ได้คิดอะไรมากอาจารย์ของเขาคนนี้ปฏิบัติกับเขาค่อนข้างดี แม้ว่าสถานการณ์จะไม่ดีเท่าไรในใจของโจวเหย้าเวยก็เต็มไปด้วยความโมโห เขาจึงไม่ได้คิดอะไรอย่างถี่ถ้วนความเก่งกาจของหญิงสาวสวมชุดดำ ไม่ใช่สิ่งที่โจวเหย้าเวยนั้นคิดไปเอง
โจวเหย้าเหวยลงจากรถไปก่อนจะเดินเข้าประตูใหญ่ไปอย่างสบายๆ
เหตุผลในการมาเยือนของเขานั้นก็คือมาเยี่ยมเพื่อน
เพื่อนของเขาคือใคร? ผู้เช่าของคฤหาสน์หมายเลขเจ็ดคุณหนูไอแห่งฝูหม่านโหลว ตระกูลโจวได้รู้จักกับตระกูลไอผ่านทางหญิงสาวสวมชุดดำไอลี่นั้นอาศัยความสัมพันธ์ที่มีกับตระกูลโจวทำให้เธอได้กลายมาเป็ประธานคนใหม่ของฝูหม่านโหลวอย่างราบรื่นหลังจากที่ปู่ของเธอเสียไป
สำหรับลูกชายคนเดียวของตระกูลโจวอย่างโจวเหย้าเวยแล้วไอลี่ก็เคยพบกับเขามาสองครั้ง แต่เื่ที่โจวเหย้าเวยจะทำกับบ้านหลินในครั้งนี้เธอกลับไม่ได้รับรู้เลย ไอลี่จึงยังคงดีใจที่โจวเหย้าเวยจะมาเยี่ยมเยือนบ้านของเธอแต่โจวเหย้าเวยกลับเดินทางผ่านบ้านของเธอไป พร้อมกับตรงไปที่บ้านหลินอย่างช้าๆ
เส้นทางเขาที่ตรงขึ้นไปยัง้าสำหรับร่างของโจวเหย้าเวยที่เพิ่งจะได้รับการฟื้นฟูกลับมานี้ ก็ออกจะลำบากเล็กน้อยในทุกๆ ฝีก้าวเขาต้องใช้แรงเป็อย่างมาก และยิ่งเป็แบบนี้เขาก็ยิ่งเกลียดคนที่ทำให้เขากลายมาเป็คนไร้ค่าแบบนี้อย่างหลินลั่วหรานเข้าไปถึงกระดูกดำ
แม้ว่าหญิงสาวสวมชุดดำจะให้สัญญาเอาไว้ว่าจะช่วยให้เขากลับมาฝึกศาสตร์อีกครั้ง แต่ว่าเวลาวัยรุ่นสี่ปีของเขามันล้ำค่ามากแค่ไหน? โจวเหย้าเวยคิดขึ้นมาด้วยความเกลียดชังแต่เขาไม่ได้คิดเลยแม้แต่น้อย ว่าหากเขาไม่ทำเื่โหดร้ายก่อนแล้วหลินลั่วหรานจะมาทำแบบนั้นกับเขาทำไม?
โจวเหย้าเวยเดินข้ามแม่น้ำมาก่อนที่จะผลักประตูเข้ามายังคฤหาสน์ตระกูลหลิน
เหล่านักปราชญ์ที่อยู่รอบๆต่างพากันมองหน้าสบตากัน หญิงสาวสวมชุดดำสามารถััได้ว่าพวกเขาอยู่ที่นี่แล้วทำไมพวกเขาถึงจะััถึงการมีอยู่ของปีศาจตนนี้ไม่ได้กันล่ะ?
จัดการปีศาจ? ตลกน่ะ มีฮุยจู๋อยู่ที่นี่พวกเขายิ่งไม่กล้าฆ่าเธอ อย่างไรการรอเวลาให้ได้เข้าไปเป็ผู้ที่ช่วยบ้านหลินเอาไว้ น่าจะเป็สิ่งที่ผู้มีศีลธรรมอย่างพวกเขาอยากจะทำกันมากกว่า!
สายฝนกระหน่ำลงมาหนักขึ้นมันกระทบลงกับกำแพงกระจกของคฤหาสน์ตระกูลหลินส่งเสียงดังเปาะแปะ
โจวเหย้าเวยไม่ได้สนใจเหล่าลูกสมุนที่นอนอยู่ที่พื้นกลางบ้านหรือว่าคนที่ถูกพันรัดอยู่ในเถาหนามเล็กเลยแม้แต่น้อยแต่กลับเดินตรงไปยังด้านในห้อง
พวกเป่าเจียถูกปืนจ่อเอาไว้ให้อยู่รวมกันพลังในเขาชิงเฉิงนั้นมีมากกว่าในตัวเมือง เธอหวังว่าจะสามารถอาศัย่เวลาตอนนี้ในการฟื้นฟูพลังเพื่อใช้ในการโต้ตอบในสถานการณ์จำเป็
และในระหว่างที่เธอกำลังคิดจะโต้กลับนั้นเองโจวเหย้าเวยก็เดินเข้ามา
สีหน้าของเป่าเจียซีดไปทันทีโจวเหย้าเวยไม่มีทางมอบโอกาสในการโต้กลับให้กับเธอ
“น้องเป่าเจียได้พบกันอีกครั้งแล้วนะครับ” ใบหน้าของโจวเหย้าเวยประดับไปด้วยรอยยิ้มและยังคงเรียกเธอออกมาว่า น้อง ราวกับไม่เคยเกิดเื่เมื่อหลายปีก่อน
เพียงแต่ คนที่ขับรถชนเธอเมื่อสามปีก่อนนั้นก็คือคนที่ดูใจดีตรงหน้าอย่างโจวเหย้าเวยนี่แหละ!
เธอทำอะไรผิด? เธอก็แค่ปฏิเสธเขาเท่านั้น...
คนที่บีบให้ตาของเธอลาออก ก็คือตระกูลโจว!
หากว่าเป่าเจียเป็คนที่เกลียดโจวเหย้าเวยเป็อันดับสองก็ไม่มีใครกล้าบอกว่าตัวเองเป็ที่หนึ่งอีกแล้ว โดยเฉพาะตอนนี้สุดท้ายเขาก็ลงมือกับบ้านหลินจนได้ เมื่อได้ยินเสียงเรียกน้องและสายตาของโจวเหย้าเวย เป่าเจียก็เกือบจะพ่นไฟออกมา
โจวเหย้าเวยนั่งลงที่โซฟาของบ้านหลินอย่างสบายใจยิ่งเมื่อเห็นท่าทางโมโหของเป่าเจีย เขาก็ยิ่งรู้สึกราวกับแมวที่กำลังหยอกล้อหนูอยู่
“ได้ยินมาว่าตอนนี้น้องเป่าเจียเองก็กำลังฝึกศาสตร์ยิ่งโตขึ้นก็ยิ่งเปล่งประกายนะ...น่าเสียดายนะที่จะต้องถูกคนไร้ค่าอย่างพี่กดดันเอาไว้แบบนี้?” เห็นได้ชัดว่าเป็คำพูดแสนปกติแต่กลับถูกโจวเหย้าเวยทำให้กลายเป็คำพูดที่ดูสกปรกโสมม ดวงตาของเป่าเจียแดงก่ำตอนนั้นเธออยากจะโจมตีเข้าไปโดยไม่ต้องสนอะไร แล้วฆ่าโจวเหย้าเวยให้ตายๆ ไปซะ
แต่ว่าเขาว่ากันว่าอย่างไรนะคนที่เข้าใจเราที่สุด นอกจากเพื่อนแล้ว ก็คือศัตรูของคุณ
โจวเหย้าเวยมองไปยังสีหน้าของเป่าเจียเขาไม่ได้สนใจอะไรเท่าไร แต่กลับชี้ไปยังลั่วตงที่ถูกทั้งสามคนบังเอาไว้ “พี่ขอแนะนำให้เธออย่าทำอะไรโดยไม่คิดนะน้องเป่าเจีย”
ความกระหายในแววตาของโจวเหย้าเวยนั้นเด่นชัดขึ้นเขาไม่ใช่ว่าเป็คนเสพติดในกามอะไร แต่ว่าการที่ได้เจอกับหญิงสาวที่ปฏิเสธเขาอีกครั้งแถมเขายังอยู่ในจุดที่เหนือกว่า ความอับอายที่เธอเคยมอบให้กับเขาก็มีเพียงการแก้แค้นอย่างโหดร้ายเท่านั้น ที่จะทำให้เขาพอใจขึ้นมาได้!
หลังจากจัดการจนพอใจแล้ว จะเอามา “ทำยา” หรือว่าจะทำเป็ขาตั้งหม้อระยะยาวดีนะ?
นี่เป็อีกปัญหาที่เขาจะต้องคิด
ยิ่งคิดเท่าไร เขาก็ยิ่งได้ใจขึ้นมามากเท่านั้นเขาขยับตัวเข้าไปััลงที่ใบหน้าของเธอััละเอียดอ่อนนุ่มนั่นทำให้เขาพึงพอใจมากทีเดียวคนที่อดทนมาตลอดอย่างผู้เป็พ่อ เมื่อเห็นว่าเด็กสาวที่อยู่ด้วยกันมาตลอดสามปีจนเป็ราวกับลูกสาวคนที่สองของเขาอย่างเป่าเจียกำลังถูกลวนลามสุดท้ายเขาก็ไม่อาจจะอดทนได้อีกต่อไป เพียงแค่เขาขยับมือขึ้นมา เสียง “ปัง!” ก็ดังขึ้น ลูกสมุนที่ถือปืนเอาไว้คนหนึ่งของโจวเหย้าเวยยิงเข้าที่ข้อมือของผู้เป็พ่อทันที
“คุณพ่อ!”
“คุณ...”
“พ่อ...พ่อ...”
เสียงร้องแสดงความใทั้งสามดังขึ้นพร้อมกันน้ำตาของผู้เป็แม่ไหลรินออกมา ใบหน้าของลั่วตงนั้นเต็มไปด้วยความกลัวเขาคิดกลับไปถึงตอนที่ยังไม่ถูกพวกหลินลั่วหรานช่วยเอาไว้ ภาพวันคืนที่ถูกทารุณเ่าั้ก็กลับมา
ลูกะุนั่นไม่เพียงแต่ตัดผ่านข้อมือของผู้เป็พ่อไปแต่มันกลับยังแม่นยำ ฝังลึกลงไปที่ข้อมือของเขาถ้าหากว่าไม่ได้รับการรักษาให้ทันเวลา ผู้เป็พ่อก็คงจะต้องเสียมือขวาของเขาไป
“ทำอะไรไม่รู้เื่!” โจวเหย้าเวยหยิบปืนออกมาจากที่อก ก่อนจะเล็งไปที่ผู้เป็พ่อ
“อย่า...” น้ำตาของเป่าเจียไหลรินลงมา เธอไม่อาจจะอดกลั้นได้อีกต่อไป
หลังจากเสียงปืนดังขึ้นติดต่อกันเืสดก็กระจายไปทั่วพื้น ผู้เป็พ่อนอนกลิ้งอยู่ที่พื้นที่แท้โจวเหย้าเวยก็ตั้งใจยิ่งไปที่แขนขาของเขาแม้ว่าจะเต็มไปด้วยเืและดูน่ากลัว แต่ก็ไม่ได้เอาถึงตาย
“โจวเหย้าเวย แกต้องไม่ตายดีแน่!” เป่าเจียข่มฟันลงที่ริมฝีปากจนเืไหลซิบออกมาเดิมทีโจวเหย้าเวยไม่ได้ใจดีอะไรหรอก เขาเพียงแค่อยากจะให้ตระกูลหลินได้รับรู้ถึงความทรมานของเขาก่อนไม่อย่างนั้นจะพอใจได้อย่างไร?
หากจะเป็แบบนี้ตายเสียยังจะดีกว่าอีก...เป่าเจียคิดขึ้นมาอย่างสิ้นหวัง ก่อนที่จะตายเธอจะต้องลากให้โจวเหย้าเวยรับเคราะห์ไปกับเธอด้วย! เธอไม่ได้สนใจอีกต่อไปแล้วว่าหากโจวเหย้าเวยตายขึ้นมา ตระกูลหลินจะเป็อย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็อย่างไรโจวเหย้าเวยต้องไม่ปล่อยพวกเขาไปแน่!
พลังเล็กๆกลุ่มหนึ่งรวมกันเข้าในร่างของเป่าเจีย ถ้าหากว่าเธอผลักโจวเหย้าเวยไปที่ในน้ำได้เธอก็มั่นใจว่า ก่อนที่ลูกสมุนทั้งสองคนจะจัดการทำให้เธอตายนั้นเธอจะต้องทำให้โจวเหย้าเวยจมน้ำตายไปก่อนแล้ว!
ในตอนที่พ่อของหลินลั่วหรานถูกโจมตีขึ้นมานั้นกัวเหล่าก็ตั้งใจจะลงมือช่วย แต่ก็ถูกมู่เหล่าห้ามไว้เสียก่อน
“กัวเหล่า ให้ข้าจัดการเอง!” เ้าพวกนักปราชญ์เหล่านี้ แม้แต่จิตใจที่ดีงามก็หายไปหมดแล้วยังจะอยากมาร้องขอให้์เห็นใจ คนแบบนี้ คิดว่าจะสำเร็จได้อย่างนั้นเหรอ?
มู่เหล่าอดที่จะใช้สายตาเย็นะเืมองไปรอบๆไม่ได้ แม้ว่าจะต้องทำลายแผนการของฮุยจู๋ ชื่อเสียงที่ดีเหล่านี้เขาก็ไม่ได้้ามันอีกแล้ว
เปลวไฟประกายขึ้นมาในฝ่ามือของเขาในพริบตาเพียงแค่ขยับออกมาเบาๆ พวกคนที่ทำชั่วอยู่ในห้องก็จะกลายเป็เศษฝุ่น!
ฮุยจู๋ส่งสายตาแสดงความไม่พอใจมาให้มู่เหล่าทำราวกับมองไม่เห็นมัน เขาขยับนิ้วมือของตัวเองในตอนที่กำลังจะปล่อยกลุ่มไฟออกไป ในเสียงฟ้าร้องที่ดังมาจากขอบฟ้าก็มีเสียงอินทรีดังแทรกขึ้นมา
มือของมู่เหล่าหยุดชะงักอย่างไม่รู้สาเหตุ
ท่ามกลางเสียงฝนและเสียงฟ้าร้องโครมครามนั้นคนที่ได้ยินเสียงร้องของอินทรีไม่ได้มีเพียงแค่เขาคนเดียวเหล่านักปราชญ์ต่างพากันละสายตาจากบ้านหลิน แล้วเงยหน้ามองขึ้นไปบนฟ้าเสียงร้องของอินทรียังคงดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่พวกเขาจะััได้ถึงกลิ่นอายที่เป็เอกลักษณ์ของนักปราชญ์ระดับพื้นฐาน!
อินทรีตัวนั้นเคลื่อนตัวเข้ามาท่ามกลางสายฟ้าไม่นานนักมันก็ปรากฏตัวขึ้นกลางท้องฟ้าเหนือหมู่บ้านคฤหาสน์บนเขาภายใต้สายฝนกระหน่ำตัวของคนที่อยู่บนตัวอินทรีถูกป้องกันออกจากน้ำฝนเอาไว้ด้วยชั้นแสงสลัวๆ
อินทรีตัวนี้ คือเสี่ยวจินไม่มีผิดแน่!
คนคนนั้น ยังจะต้องบอกอยู่ไหม?
สายฟ้าเปล่งประกายทำให้ท้องฟ้าสว่างขึ้นมาและเพราะว่าเสี่ยวจินกำลังขยับเข้ามาใกล้ขึ้นทำให้สามารถเห็นใบหน้าของคนที่อยู่้าตัวของอินทรีได้อย่างชัดเจน
รวมกันกับดวงตาที่เปล่งประกายและท่าทางอันแข็งแกร่ง แววตาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจนั่นคือหลินลั่วหรานที่กลายเป็ระดับพื้นฐานได้สำเร็จแล้ว!
หลินลั่วหรานอยู่บนหลังของเสี่ยวจินเธอพยักหน้าให้กับพวกมู่เหล่า จิตความคิดของเธอแข็งแกร่งมันห่างไกลจากนักปราชญ์ระดับเดียวกันมาก เธอสามารถััได้ถึงกลิ่นอายของศัตรูตัวฉกาจของเธออย่างหญิงสาวสวมชุดดำจิตใจของหลินลั่วหรานสั่นไหวขึ้นมา เพียงพริบตาเธอก็มาถึง้าของคฤหาสน์
สายฝนไม่สามารถจะกลบกลิ่นเืและเหล่านักปราชญ์ที่กำลังคอยดูอยู่ไปได้ หลินลั่วหรานเดาว่าที่บ้านของเธอคงจะเกิดเื่อะไรสักอย่างขึ้นแน่! แน่นอนว่าเธอต้องเห็นที่มู่เหล่ากำลังเตรียมที่จะปล่อยเวทลูกไฟออกไป เธอไม่ใช่คนที่ไม่รู้อะไรดังนั้นจึงไม่ว่าเื่ที่มู่เหล่าลงมือช้าเกินไป คนที่สามารถช่วยบ้านหลินได้ต่างก็คือคนที่เธอยอมรับทั้งนั้น!
โดยเฉพาะในตอนที่ผ่านไปสามปีอย่างในวันนี้เกรงว่าทุกคนต่างก็คิดว่าเธอตายไปแล้วใช่ไหม?
หลินลั่วหรานะโลงมาจากหลังของเสี่ยวจินก่อนที่ตัวของเธอจะลอยเข้าไปในห้องราวกับหมอกควันกลุ่มหนึ่ง
นักปราชญ์ชราฮุยจู๋ไม่ได้พูดอะไรออกมาและคนอื่นต่างก็ไม่ได้ส่งเสียงอะไรออกมาเช่นกันไม่ใช่ว่าหญิงสาวตระกูลหลินตายไปแล้วเหรอ? เวลาสั้นๆ แค่สามปี นอกจากเธอจะไม่ตายแล้วยังพัฒนาเป็ระดับพื้นฐานได้สำเร็จแล้วอีกด้วย ผู้คนที่เต็มไปด้วยความลังเลแววตาของพวกเขาต่างก็ปรากฏความอึ้งออกมา...
การกลับมาที่สวยงามของหลินลั่วหรานในความใของพวกเขา แฝงไปด้วยความโลภและไม่อาจจะดับมอดลงไปได้แม้แต่ในค่ำคืนที่ฟ้าฝนกระหน่ำแบบนี้!ความจริงแล้วมีอาจารย์ระดับสูง หรือว่าตัวเธอมีสมบัติล้ำค่าอยู่?
ก็ยังดี ไม่ว่าจะเป็อย่างไร พวกเขาก็ยังไม่ได้ลงมือทำอะไรกับบ้านหลินดูเหมือนว่าจะยังพอปิดบังต่อไปได้อยู่ รักษาความสัมพันธ์ขึ้นมาใหม่ก็น่าจะยังทันเหล่านักปราชญ์พวกนั้นต่างพากันคิดไป เมื่อเห็นว่าหลินลั่วหรานกลับมาแล้วกัวเหล่าและมู่เหล่าก็คลายกังวล ก่อนที่จะออกมาจากที่นั่น
มีเพียงในใจของฮุยจู๋ที่เป็ราวกับกระจกใสดูเหมือนว่าเขาจะปกปิดมันเอาไว้ไม่อยู่แล้ววันวานที่เคยให้หนังสือและได้เหล้ากลับมาตอบแทนนั้นดูเหมือนว่ามันจะไม่อาจหวนคืนมาได้อีกแล้ว ความหนักแน่นในใจของฮุยจู๋ห่างไกลจากนักปราชญ์ธรรมดาทั่วไปนัก ไม่อย่างนั้นเขาจะเป็เพียงนักปราชญ์ระดับพื้นฐานตอนปลายเพียงคนเดียวในโลกที่มีสภาพแวดล้อมแบบนี้ได้อย่างไร
เขาอยากจะพัฒนาขึ้นไป แล้วมันผิดอะไรล่ะ?
แต่หลินลั่วหรานจะไปมีอารมณ์มาสนใจความคิดของพวกเขาได้อย่างไรเธอล่องลอยเข้าห้องไปราวกับหมอกควัน สิ่งที่เธอพบก็คือผู้เป็พ่อนอนอยู่ท่ามกลางกองเื น้ำตาของผู้เป็แม่ความกลัวของลั่วตง...และความสงบที่ตั้งใจจะตายเอาไว้แล้วของเป่าเจีย
ท่าทางที่ตัวของหลินลั่วหรานปรากฏออกมาทำให้ในตอนที่ยังไม่มีใครเห็นเธออย่างชัดเจน ก็ค่อยๆ เงียบเสียงลงด้วยไม่ทันได้นัดหมายและพากันย้ายสายตาไปที่ตัวของเธอ
เป็คนที่สวยงามลูกสมุนของโจวเหย้าเวยถูกเสน่ห์ของเธอทำให้มึนเบลอไปตอนนั้นจึงลืมคิดไปแล้วว่าเป็ศัตรูหรือเป็มิตร
นั่นคือ เสี่ยวหราน?
สามปีที่ไม่ได้พบกัน ลั่วตงยังคงอยู่ในความกลัวสักพักถึงได้รู้ว่าเป็พี่สาวของเขาแต่คนที่อยู่ข้างกายอย่างเป่าเจียและผู้เป็แม่ต่างก็ถูกน้ำตาบดบังแววตาจนพร่ามัว
ไม่ใช่ว่าพวกเธอบอบบางมากแต่เป็เพราะตลอดสามปีที่ผ่านมา พวกเธอรู้สึกราวกับมีแผ่นน้ำแข็งกดทับอยู่ตลอดการรอคอย ความสิ้นหวัง ความคิดถึงความกลัวที่คนที่รอคอยอาจจะไม่มีชีวิตอยู่อีกแล้ว ของตลอดสามปีที่ผ่านมาในตอนนี้พวกมันต่างไหลรวมออกมาในน้ำตาของพวกเธอ...
โจวเหย้าเวยถอยหลังออกไปเขามึนงงจนเกือบจะทรุดลงที่พื้น
“เป็ไปไม่ได้!เธอควรจะตายแล้วนี่!”
เมื่อเห็นสถานการณ์ในบ้านของตัวเองหลินลั่วหรานจะไม่รู้เื่ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ได้อย่างไรความดีใจที่ได้พบกันอีกครั้งของพวกเขา ภายใต้ “งานเลี้ยงต้อนรับ” ที่ไม่ได้้าแบบนี้แปรเปลี่ยนกลายเป็ความชั่วร้ายที่กระจายไปทั่วทุกแห่ง
เธออุ้มลั่วตงขึ้นมาเบาๆมวลพลังธาตุไม้พุ่งเข้ามาราวกับสายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิก่อนที่เด็กชายที่อยู่ในความกลัวจะเข้าสู่ห้วงนิทราเพราะว่าสิ่งที่จะเกิดต่อจากนี้เต็มไปด้วยความรุนแรงหลินลั่วหรานจึงไม่อยากให้เด็กๆ ต้องเจอกับเื่แบบนี้ั้แ่ละอ่อน
โจวเหย้าเวยยิงปืนใส่หลินลั่วหรานไปหลายนัดแต่ว่าะุในไม่อาจจะเข้าใกล้ตัวของเธอได้เลยสักนิด มันร่วงหล่นที่กลางทางในตอนที่โจวเหย้าเวยหมุนตัวกลับเตรียมจะหนีไป สายลมก็พัดเข้ามาประตูบานใหญ่ปิดลงด้วยตัวเอง อีกทั้งยังพัดพาปืนออกจากมือของเหล่าลูกสมุนของเขา
ในใจของโจวเหย้าเวยนั้นใขึ้นมาแต่หลินลั่วหรานกลับยกรอยยิ้มขึ้นอย่างเยือกเย็น
“โจวเหย้าเวย คุณคิดว่าฉันตายแล้วคุณจะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบอย่างนั้นเหรอ...” มือขวาของหลินลั่วหรานขยับขึ้นเบาๆมวลพลังนั้นว่องไวเสียยิ่งกว่าะุปืน มันประดับไปด้วยแสงสวยงามก่อนที่จะพุ่งเข้าไปยังข้อมือของโจวเหย้าเวย
“ปัง” ข้อมือของโจวเหย้าเวยะเิรอยเืออกมากระดูกหักลงในทันที
“ฉันตายแล้วคุณก็สามารถลงมือกับครอบครัวของฉันได้...”
ะุมวลพลังสองเม็ดถูกส่งพุ่งออกไปมันส่งเสียง “ปังปัง” ขึ้นมา ครั้งนี้มันฝังลงที่มือซ้ายและต้นขาของเขา
ตัวของโจวเหย้าเวยร่วงลงไปที่พื้นความเ็ปทำเอาใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวไปหมดการยิงแขนขาของคนอื่นเพื่อความพอใจของตัวเองเมื่อสักครู่ เมื่อมาเกิดขึ้นกับตัวเองแล้วมันเ็ปแบบนี้เองสินะ!
หลินลั่วหรานขยับเข้ามาใกล้เธอก้มลงมองไปยังเศษเนื้อที่กองอยู่ที่พื้นอย่างคุณชายโจวก่อนที่จะระบายรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ออกมา
“แต่ว่าต้องทำยังไงดีนะ...เพราะฉันมีชีวิตกลับมาแล้ว!”
ขอโทษนะสำหรับคนที่อยากจะให้หลินลั่วหรานตายจากไป ครั้งนี้ต้องทำให้พวกคุณผิดหวังเสียแล้ว