เฉินเนี้ยนหรานผู้นี้ว่ายอดแล้วสตรีชั้นสูงที่อยู่เื้ันางยิ่งมีที่มาน่าใ
จ้าวชุนฮวายิ่งฟังสีหน้ายิ่งย่ำแย่ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่าควรทำอย่างไรจึงจะสามารถไล่เฉินเนี้ยนหรานออกจากหมู่บ้านนี้แต่ในยามนี้ ประวัติของอีกฝ่ายกลับน่าใเช่นนี้
แต่ยังมีคนที่ยังสงสัยอยู่
“ข้าว่านะนายหญิงของพวกเ้ามีพี่สาวที่มีเื้ัยิ่งใหญ่เช่นนี้ เหตุใดไม่มารับนางไปอยู่ด้านนอกเล่า? จากความสามารถของนางแล้วจะไม่สามารถทำให้นายหญิงของพวกเ้ายืนอยู่ด้านนอกได้หรือ? อยู่ที่นี่เอาแต่คุ้ยดินอยู่ทุกวันลำบากนัก”
แม้ระดับของบัณฑิตชาวนา คนงาน พ่อค้าจะเป็ระดับต่ำ ซึ่งชาวนายังอยู่ในลำดับที่สองแต่คนในหมู่บ้านที่พึ่งที่ดินทำงานหาเงินนั้น มีใครบ้างที่ไม่ลองออกไปออกไปยืนหยัดอยู่ข้างนอก ทำงานมือสะอาดสักหน่อย นั่นดีกว่าพยายามกับการทำงานจากที่ดินที่นา
“เื่นี้ข้าไม่รู้แน่ชัดหรอกนะแต่ข้าเคยได้ยินเข้าโดยบังเอิญอยู่ครั้งหนึ่ง เหมือนว่าคุณหนูหลัวโน้มน้าวนายหญิงของพวกเราเช่นนี้เหมือนกันแต่นายหญิงทำแค่พูดว่า นางอยากจะพึ่งพาสมบัติที่ตนพยายามหามาได้ ไม่ใช่พึ่งพาความสัมพันธ์พี่น้องมาช่วยทำให้ร่ำรวยง่ายขึ้นแล้วยังพูดอะไรนะ การได้สิ่งใดมาง่ายๆ จะไม่มีทางให้ความสำคัญกับสิ่งนั้น เฮ้ออย่างไรข้าก็ไม่เข้าใจ รู้สึกว่านายหญิงคนนี้ซื่อสัตย์เกินไปจริงๆเ้าว่ามีชีวิตอยู่ดีๆ ไม่ชอบ เหตุใดจึงต้องมาทำการเกษตรในชนบทเช่นนี้ด้วย?”
คำพูดของนางได้รับการเห็นด้วยจากทุกคน
สุดท้ายหนิวซื่อยังพูดเสริมอีกว่า“อ๋อ จริงสิ ข้ายังจำได้ว่าตอนนั้นนายหญิงของข้ายังพูดอีกประโยคว่าใครพูดว่าสตรีสู้บุรุษไม่ได้ ข้าจะใช้ผลผลิตที่หาได้จากพื้นดินมาพิสูจน์ว่าข้าไม่ได้ด้อยไปกว่าบุรุษ”
คำพูดนี้ได้ทำให้สตรีทุกคนต่างในิ่งไปนานและยังไม่สามารถดึงสติกลับมาได้ในเรือนพวกนางมีแม่สามีที่เป็ใหญ่ ต่อมาก็เป็สามี ซึ่งมีทั้งดีเล็กน้อยและมีทั้งคนไม่ดี อยู่ว่างๆ ก็มาหาเื่พวกนาง ทั้งยังต่อว่าราวกับหมูกับหมา แต่ในความเป็จริงแล้วพวกนางต่างลำบากกว่าผู้ใด งานทำนาทำสวนที่เรือนพวกนางต่างลงมือทำไม่น้อยแต่สิ่งที่ได้กลับมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
การกดหัวเช่นนี้ทำให้ในใจของพวกนางรู้สึกไม่ยุติธรรม พอตอนนี้ได้ยินเฉินเนี้ยนหรานกล้าพูดออกมาว่าผู้ใดบอกสตรีสู้บุรุษไม่ได้สตรีก็สามารถทำงานหาเงินจากพื้นดินจนมีทรัพย์สมบัติได้เช่นกัน จึงรู้สึกว่านี่คือคำพูดจากภายในใจของพวกนาง
แม้พวกนางจะไม่เหมือนเฉินเนี้ยนหรานที่ทำสิ่งยิ่งใหญ่ไปทำงานหามา ไปต่อสู้ แต่ภายใต้นามธรรม ความคิดริเริ่มแปลกใหม่ของเฉินเนี้ยนหรานกลับทำให้พวกนางสร้างภาพลักษณ์สตรีขึ้นมาใหม่ และสามารถแข็งแกร่งให้ได้ด้วยตนเอง!
แม้คำพูดพวกนี้จะไม่ได้สร้างภาพลักษณ์ที่สูงส่งให้เฉินเนี้ยนหรานมากนักแต่ในสิ่งที่เป็นามธรรม นางกลับได้ความรู้สึกดีๆ จากสตรีที่ออกเรือนแล้วไม่น้อย
ภายในใจพวกนางหวังว่าจะมีวันที่สตรีสักคนสามารถยืนหยัดขึ้นมาได้สามารถทำให้พวกบุรุษที่ทำราวกับตนเองเป็คนยิ่งใหญ่ได้เห็นว่าผู้หญิงก็มีความสามารถเช่นกัน
“เฮ้อถ้ารู้ก่อนหน้านี้ ข้าให้คนขับรถมาส่งก็ดีแล้วคิดไม่ถึงว่าคนในหมู่บ้านยังจำคนขับรถประจำตัวข้าได้อยู่ ข้าที่เป็เ้านายจริงๆกลับแย่กว่ากันเยอะนัก”
“ไม่ว่าจะพูดอย่างไรครั้งนี้เ้าได้ช่วยข้าไว้มาก”
“ความจริงแล้วเ้าสามารถทำการค้าในเมืองได้นะ ข้าทานอาหารตุ๋นที่ลุงของเ้าส่งมารสชาติไม่เลวเลย ใช้ความสามารถไปเยอะเลยล่ะสิ”
“การค้าของข้าเพิ่งจะเริ่มไม่สามารถบอกว่าจะทิ้งก็ทิ้งได้หรอกนะ ส่วนในเมือง ต่อไปข้าจะไป เพียงแต่จะไม่ไปขอความช่วยเหลือเหมือนกับในครั้งนี้ วันที่ข้าเข้าไปในเมืองจะต้องเป็ตอนที่พวกข้าแม่ลูกอยู่ด้วยกันแล้ว”
หนิงเซียงหันตัวกลับมาแล้วเอาปิ่นปักผมดอกไม้ป่าในมือมาทัดบนศีรษะของนาง“ความจริงแล้ว เ้าไม่จำเป็ต้องเหนื่อยเพียงนั้น เช่นข้า ที่โรงเตี๊ยมห่ายเทียน แม้จะทำงานเช่นนั้นแต่คนด้านนอก มีผู้ใดบ้างไม่อยากจะมารู้จักข้า ภายนอกน่ะ กิจการของข้าก็ทำได้ยิ่งใหญ่แม้แต่บุรุษที่แข็งแกร่งอย่างโจวอ้าวเสวียนยังต้องมาร่วมมือกับข้า ทั้งหมดนี่ข้าเพียงแค่ยิ้มให้บุรุษพวกนั้นดื่มสุรากับพวกเขาเล็กน้อยก็ได้แล้ว ประหยัดเื่ที่ต้องทำไปเยอะ ข้าไม่มีทางทำตัวให้ลำบากหรอกนะ”
เฉินเนี้ยนหรานยิ้มบางมองพระอาทิตย์สีแดงอ่อนบนท้องฟ้า “ใกล้จะถึงเวลาอาหารกลางวันแล้ว กลับไปเถิด” ทุกคนย่อมมีวิธีจัดการต่างกันเฉินเนี้ยนหรานไม่ได้ดูถูกหนิงเซียง แต่ก็…ไม่ยินยอมขายรอยยิ้ม และไม่ยินยอมจะอยู่กับบุรุษบ้ากามคนใดแม้การทำงานเช่นนี้จะไม่ได้ขายตัว แต่เฉินเนี้ยนหรานก็รับไม่ได้
“ตอนที่ข้าอยู่ในยุคปัจจุบันไม่มีเงินไม่มีคนให้ถาม ยิ่งไม่มีทักษะใดที่ถนัด มีเพียงใบหน้ารูปไข่กับความสาวตอนนั้นงานอดิเรกที่ทำบ่อยที่สุดคือ ไปเช่าหนังสือนิยายราคาไม่กี่เหมามาอ่าน และทานเต้าหูทอดด้วยกันกับสหายเท่านั้น”
“พ่อแม่ของข้าเป็คนพิการบนตัวสวมใส่เสื้อผ้าราคาไม่เกินสามสิบหยวน เดินออกไปมักจะถูกคนหัวเราะเยาะ ชอบบุรุษคนหนึ่งหลังจากคบกันได้สามเดือนกลับถูกขอเลิก เ้ารู้หรือไม่เหตุผลคืออะไร? เขาบอกว่าข้าขี้งกแค่เห็นก็รู้แล้วว่าเกิดมาจากบ้านที่ยากจน”
“เพราะก่อนหน้านี้เขาได้ผ่านชีวิตที่ยากลำบากมาดังนั้นจึงไม่คิดจะหาสตรีที่ยากจนเช่นข้า เขาหัวเราะเยาะทุกอย่างของข้าเอาชีวิตของข้าไปเทียบกับสตรีคนใหม่ที่เป็เถ้าแก่เนี้ยะอีกทั้งเถ้าแก่เนี้ยะคนนั้นก็เป็สตรีที่ชอบทะเลาะกับข้ามากที่สุด…สุดท้ายข้าถึงได้รู้ว่าแม้นางจะเป็เถ้าแก่เนี้ยะแล้วอย่างไร อยู่ด้านนอกก็ยังเป็หญิงขายตัว หาเงินมาให้พ่อเปิดบริษัท…”
หนิงเซียงพูดมามากมายล้วนเป็เื่ของชาติก่อนคำพูดพวกนี้แม้จะอยู่ในยุคปัจจุบัน นางก็ไม่กล้าพูดกับใครส่งเดช อยู่ที่นี่พอได้มาเจอกับเฉินเนี้ยนหรานที่ข้ามมิติมาเหมือนกันจึง้าจะระบายออกมาให้ฟัง
“ความจริงแล้วข้าเองก็ดูถูกตนเองข้ามมิติมาอยู่ในร่างนี้ ข้ารู้แค่ว่าเ้าของร่างนี้ถูกคนในครอบครัวต่อว่าวันแรกที่ข้ามาถึง พ่อของคนคนนี้เอานางไปขายให้กับคนฆ่าหมู คาดว่าเพราะคิดสั้นนางเลยตายแล้วข้าเข้ามาอยู่ในร่างของนางแทน”
“หน้าตางามเช่นนี้นิสัยก็ไม่เลว เหตุใดต้องเปลืองแรงทำงาน ข้าเดินอยู่ด้านนอกลำพัง และเจอกับอาจารย์ของข้าในตอนนี้เป็นางที่สอนให้ข้าใช้วิธีที่สตรีถนัดที่สุดแล้วสร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และเติบโตมาเป็อย่างเช่นตอนนี้…ฮ่าๆ….ไม่ว่าจะดื่มสุรากับบุรุษคนใด คล้ายทำเพื่อความสนุก แต่ข้ากลับมีทรัพย์สมบัติและอำนาจที่คนมากมายคิดไม่ถึง…แม้แต่พ่อแม่ของเ้าของร่างนี้มาเจอกับข้าในตอนนี้ก็เข้ามาประจบเหมือนเจอเ้านายอย่างไรอย่างนั้น…”
“เ้าคิดว่าทำเช่นนี้มันมีความสุขหรือ?”
คำถามนี้หนิงเซียงไม่ได้ตอบ เฉินเนี้ยนหรานจึงพูดออกมาตรงๆ “เ้าไม่มีความสุข กลับกันเ้ายังทุกข์มาก นั่นไม่ใช่ชีวิตที่เ้า้าความจริงแล้วตอนที่เ้าบอกว่าอยากจะทำกิจการการเกษตรนี่กับข้า เ้าก็คิดว่าจะสลัดสถานะในตอนนี้ออกไปอย่างไรใช่หรือไม่เื่เล็กนัก จากความรู้ในยุคปัจจุบันและความระมัดระวังของข้า ต่อไปการจะพาเ้ามาถือเป็เื่เล็กน้อยฮ่าๆ ไป ข้าจะพาเ้าไปจับปู จับปลาไหล อีกเดี๋ยวจะทำของอร่อยๆ ให้เ้าทาน”
ทั้งๆที่เป็สตรีชั้นสูงหน้าตางดงามสองคน เสื้อผ้าที่สวมสะอาดสะอ้านแต่กลับถลกกระโปรงเดินไปเดินมาทั่วทั้งเถียงนา เพื่อจับปูพวกนั้น
ที่ทำให้หนิงเซียงตกตะลึงคือเฉินเนี้ยนหรานยังถลกขากางเกงขึ้นด้วย หลังจากหารูเล็กๆ เจอจึงยื่นเท้าเข้าไปเขย่าอยู่สองสามที ก็มีปลาไหลมุดออกมาจากรู…
“เ้าไม่ใช่สตรี”
“ฮ่าๆข้าไม่ใช่สตรีจริงๆ นั่นแหละ ตอนนี้ข้าคือบุรุษ มาเถิด แม่นาง เ้ามาเรียนแทงปลาไหลกับข้าเถิด”
***
รอจนหนิวซื่อได้รับคำสั่งว่าให้ยกถังมาก็เห็นบนตัวของสตรีทั้งสองคนเต็มไปด้วยโคลน
“์นายหญิงทั้งสองท่านพวกท่านบ้าไปแล้วจริงๆ หรือ ดูสิโคลนเต็มไปหมดทั้งตัวเลยหากไม่รู้ยังคิดว่าพวกท่านทั้งสองขุดดินหากินแล้ว โดยเฉพาะคุณหนูหลัว เหตุใดท่านจึงเล่นสนุกตามนายหญิงของพวกเราเล่าท่านดูเสื้อคลุมนี่เต็มไปด้วยโคลนทั้งนั้น”
ทั้งสองคนไม่ได้โกรธกับคำบ่นของหนิวซื่อเพียงแค่หัวเราะออกมาเสียงดังอย่างอารมณ์ดี โดยเฉพาะหนิงเซียงยิ่งหลังจากปีนขึ้นมาบนฝั่งก็ลงไปนอนยาวอยู่บนพื้นหญ้า
“สดชื่นสดชื่นจัง ที่แท้ปล่อยวางให้ตนเองสักครั้งก็สนุกมากเหมือนกันนะ ที่นี่ไม่เลวเลย แม้จะอยู่ไกลไปสักหน่อยแต่มีูเา มีน้ำ ยังมีของให้ทานให้ดื่ม ปู ปลาไหลอะไรล้วนมีเสียหมด ข้าชอบที่นี่เฉินเนี้ยนหราน ครอบครัวเ้าเมื่อใดจะสร้างเรือนหรือ หากจะต่อเติมเรือนยามใด อย่าลืมพาข้ามาด้วยนะ”
เมื่อได้ยินคำว่าสร้างเรือนใจของเฉินเนี้ยนหรานกระตุกไปทีหนึ่ง จะต้องรู้ว่า ตอนที่มาครั้งแรก นางได้จินตนาการว่าจะสร้างเรือนอยู่ที่นี่อีกทั้งยังเป็เรือนสองชั้น แต่ยามนี้ เื่ที่ต้องทำมีมากเกินไป และที่สำคัญยังต้องพาลูกกลับมา
“เรือนน่ะค่อยว่ากันทีหลัง เ้า้าเข้ามาอยู่ด้วยกันหรือจะสร้างเรือนอยู่ข้างกันเล่า?”
“เื่นี้หรือถึงตอนนั้นค่อยว่ากัน จริงสิ เ้าดูว่าในชนบทนี้มีการค้าใดที่ต้องให้พวกเราสองคนร่วมมือกันหรือไม่หลายปีมานี้ได้แต่อยู่ว่างในโรงเตี๊ยมห่ายเทียน ความจริงแล้วข้ามาบริหารกิจการของตนเองอย่างพวกสินค้าจากการเกษตรพวกนี้ ข้าเองก็มีขายนะ ทั้งยังขายในเมืองหลวงด้วย”
ข้อมูลที่หนิงเซียงพูดออกมาทำเฉินเนี้ยนหรานตกตะลึงไป “ที่เ้าพูดมาเป็ความจริงหรือ? ที่เมืองหลวงมีร้านของเ้าอยู่?”
นางสะบัดโคลนที่มือออกมองสตรีที่เนื้อตัวเละเทะนอนหมดภาพลักษณ์บนพื้นหญ้าด้วยความประหลาดใจ ในตอนนั้นเองที่หนิงเซียงงอขากางแขนออกจนกลายเป็ตัวอักษร 大 ตัวใหญ่
ท่าทางไม่มีความสวยงามแม้แต่หนิวซื่อก็ใจนมายืนอยู่ตรงหน้านาง กลัวจะมีคนมาเห็นท่าทางไม่งามของนาง
“มีเรียกข้าว่าพี่ แล้วข้าจะช่วยเ้า” หนิงเซียงดึงรากหญ้าขึ้นมาแล้วเคี้ยวมันอย่างแรง
“พี่หลัวพี่สาวคนดี หากเ้ามีร้านอยู่ที่เมืองหลวงจริง เช่นนั้นสินค้าจากการเกษตรของข้าพวกนี้ก็สามารถพัฒนาออกไปได้แล้ว ฮ่าๆ ถึงตอนนั้นจะต้องปลูกผักดีๆ ออกมา ใส่หีบห่อให้ดีก็สามารถเอาไปขายในเมืองได้แล้ว”
พอคิดถึงพวกนี้ในที่สุดเฉินเนี้ยนหรานก็คิดออก เมืองหลวงเป็ฝ่าเท้าของ์ มีร้านของหนิงเซียงอยู่ถึงตอนนั้นนางจะเอาผลผลิตออกไปขายก็ง่ายขึ้นมากแล้ว
“อืมหากมีความพิเศษสักหน่อยแล้วส่งจากที่นี่ไปเมืองหลวง หากไม่ใช่สินค้าสดคงเอาไปไม่ได้ทางที่ดีที่สุดให้ทำของแห้งที่พิเศษสักหน่อย ส่วนของสดน่ะ ส่งของจากที่แหน่งนี้ไปไม่ได้หรอก”
เื่นี้นางไม่ต้องพูดเฉินเนี้ยนหรานก็สามารถคิดออก
