“เสี่ยวหลี เ้ากลับมาแล้ว!” เนี่ยิพูดยิ้มแย้ม (เสี่ยวเป็คำขึ้นต้นแสดงความสนิทสนม)
“ขอรับ ท่านพ่อ ข้ากลับมาแล้ว!” เห็นท่าทางเริ่มแก่เฒ่าและซูบผอมของบิดา เนี่ยหลีอดตาแดงรื้นขึ้นมามิได้ ความทรงจำในอดีตถาโถมขึ้นมาเป็ระลอก
“ดูเหมือนเสี่ยวหลีจะโตขึ้นเยอะนะ นับวันก็ยิ่งหล่อเหลาเอาการเลยทีเดียว! อยู่ที่โรงเรียนเซิ่งหลันมาหนึ่งปี สง่าราศีไม่เหมือนเดิมจริงๆ!” เนี่ยไคที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้นยิ้มแย้ม เขาคือน้องชายของเนี่ยิ อายุน้อยกว่าเนี่ยิสามปี และเหมือนๆ กับเนี่ยิ ไม่มีพร์ในการฝึกยุทธ์ เป็เพียงชาวนาธรรมดาคนหนึ่ง
ที่อายุระดับเนี่ยิและเนี่ยไคนั้น อาณาเขติญญาแข็งตัวหมดแล้ว ไม่สามารถฝึกยุทธ์ได้อีก ทว่าเป็คนธรรมดาก็ไม่เป็ไร
‘ในชีวิตชาติก่อน ข้าไม่มีความสามารถจะปกป้องพวกท่านได้ ชีวิตนี้ พวกท่านมีข้าคอยปกป้องแล้ว!’
เนี่ยหลีกลับถึงบ้าน ได้พบท่านแม่และท่านอาสะใภ้ ครอบครัวสุขสันต์ ในที่สุดครอบครัวก็ได้กลับมาอยู่พร้อมหน้ากันแล้ว ในใจของเนี่ยหลีเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกและความตื่นเต้น
“เสี่ยวหลีพลังกายของเ้ามีมากน้อยเท่าใดแล้ว?” เนี่ยิอดถามขึ้นมาไม่ได้ในที่สุด
สายตาของทุกคนตกอยู่บนร่างของเนี่ยหลี และเนี่ยอวี่ก็กระพริบตาปริบๆ ของนางจ้องมองเนี่ยหลี
“กินข้าวกันก่อนเถอะ!” มารดาของเนี่ยหลี เซียวอวิ๋น รีบพูดขึ้น
ในชีวิตหนก่อน ไม่ว่าจะเป็เนี่ยิหรือว่าเซียวอวิ๋น แม้พลังยุทธ์ของเนี่ยหลีไม่อาจก้าวหน้า สร้างความผิดหวังให้แก่พวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ทว่าพวกเขายังคงปลอบใจเนี่ยหลีไม่หยุด ไม่ถามอะไรเนี่ยหลีมากมาย ทว่าเนี่ยหลียังคงรู้สึกถึงความคาดหวังของพวกเขา ทุกครั้งที่เขาได้กลับมาอยู่ด้วยกัน ช่างรู้สึกราวกับถูกมีดกรีดใจ เขามักโทษตนเองเสมอที่เป็คนไร้ความสามารถ
ทว่าสำหรับชีวิตในชาตินี้ ในที่สุดเขาก็ไม่ทำให้บิดามารดาผิดหวังแล้ว
“การทดสอบปลายปีของปีนี้ พลังิญญาของข้าเพิ่งทะลวงถึงหนึ่งร้อยแต้ม เป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองแดงหนึ่งดาวแล้ว” เนี่ยหลีกินอาหารเงียบๆ ก็พลันพูดขึ้น เขาไม่กล้าบอกพลังที่แท้จริงให้บิดามารดาและท่านอารู้ ไม่เช่นนั้นเกรงว่าพวกเขาจะตื่นใ
เนี่ยิและพวกไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเนี่ยหลีจะสามารถกลายเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรได้ พวกเขาล้วนคิดว่าหากเนี่ยหลีได้เป็นักสู้ระดับทองแดงหนึ่งดาวก็ถือว่าดีมากแล้ว เมื่อได้ยินเนี่ยหลีบอกว่าเขาก้าวขึ้นเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองแดงหนึ่งดาวได้แล้ว แต่ละคนก็ตะลึงตาค้าง ตะเกียบในมือค่อยๆ หยุดลง
ผู้ควบคุมจิตอสูร... ระดับทองแดงหนึ่งดาวรึ?
เนี่ยิและพวกคิดว่าตนฟังผิด
“เป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองแดงหนึ่งดาวจริงๆ รึ?” เนี่ยไคที่อยู่ด้านข้างอดเอ่ยปากถามเนี่ยหลีอีกครั้งมิได้
“อืม!” เนี่ยหลีพยักหน้าหงึกๆ ชำเลืองมองบิดามารดาผู้มีเมตตาข้างกาย อดรู้สึกเศร้าใจขึ้นมาในอกมิได้ หนึ่งในความเสียใจของเขาเมื่อชาติที่แล้ว บัดนี้ในที่สุดก็สามารถชดเชยให้แก่พวกเขาได้แล้ว!
“ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองแดงหนึ่งดาว!” เนี่ยิและพวกพึมพำกับตัวเอง “ครอบครัวของเราในที่สุดก็มีผู้ควบคุมจิตอสูรแล้วหรือ?”
ผ่านไปครู่หนึ่ง ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความปลื้มปีติดีใจยิ่ง
นั่นคือผู้ควบคุมจิตอสูรเชียวนะ!
ผู้ควบคุมจิตอสูรทุกคนในตระกูลถือเป็บุคคลที่สูงส่งยิ่ง นอกจากไม่ต้องจ่ายภาษีให้กับทางตระกูลแล้ว แต่ละเดือนยังจะได้รับข้าวของมากมายจากทางตระกูลอีกด้วย
“นอกจากได้เป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองแดงหนึ่งดาวแล้ว ข้ายังได้รับเลือกให้เข้าเรียนในชั้นเรียนสำหรับผู้มีพร์ของโรงเรียนเซิ่งหลันอีกด้วย!” เนี่ยหลีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดต่อ
“ชั้นเรียนสำหรับผู้มีพร์รึ? ชั้นเรียนสำหรับผู้มีพร์นี้มิใช่ต้องเป็ผู้มีพร์จึงจะเข้าเรียนได้หรอกหรือ? ลูกชายของเนี่ยชง เนี่ยหลง เขาก็เป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองแดงหนึ่งดาวเหมือนกัน ยังไม่มีคุณสมบัติเข้าเรียนในชั้นเรียนสำหรับผู้มีพร์ได้เลย!” เนี่ยไคที่นั่งอยู่ถัดจากเขาไปพูดขึ้นอย่างเศร้าใจ เขามีความรู้ไม่น้อยเกี่ยวกับสภาพการณ์ภายในโรงเรียนเซิ่งหลัน
เนี่ยอวี่กระพริบตาปริบๆ ดวงตากลมโตสุกใสของนางจ้องมองเนี่ยหลีด้วยความนับถือและพูดขึ้นว่า “พี่ชายเนี่ยหลีเยี่ยมมาก!” ตลอดเวลาที่ผ่านมา เนี่ยหลีคือแบบอย่างที่นางเคารพเลื่อมใสอย่างยิ่ง
“ฮ่าๆ!” เนี่ยหลีหัวเราะฮาๆ ลูบศีรษะเล็กๆ ของเนี่ยอวี่ ในชีวิตชาติที่แล้ว เขาได้แต่เงยหน้าขึ้นมองเนี่ยอวี่ ได้รับการปกป้องจากเนี่ยอวี่ น้องสาวผู้นี้ ชีวิตครั้งนี้ก็ให้ข้าได้เป็ฝ่ายปกป้องเ้าเถอะ เนี่ยหลีครุ่นคิดอยู่ในใจ
“คงเป็เพราะพร์ของเสี่ยวหลีมีความพิเศษอยู่ จึงถูกเลือกให้เข้าเรียนในชั้นเรียนสำหรับผู้มีพร์ ไม่เช่นนั้นก็คงเป็ไปไม่ได้ที่จะฝึกจนได้เป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองแดงหนึ่งดาวภายในระยะเวลาอันสั้นเพียงนี้ได้! ครอบครัวของพวกเราในที่สุดก็มีผู้ควบคุมจิตอสูรคนหนึ่งแล้ว!” เนี่ยิพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น
เวลานี้ ไม่ว่าจะเป็เนี่ยิ เนี่ยไค อาสะใภ้เมี๋ยวหลิง หรือว่าเนี่ยอวี่ พวกเขาต่างรู้สึกดีใจยิ่ง เซียวอวิ๋นยิ่งตื่นเต้นจนน้ำตาไหลพราก
“เสี่ยวหลีอนาคตของเ้าสดใสแล้ว!” เนี่ยไคตบบ่าเนี่ยหลี
“เสี่ยวหลี ไป พวกเราไปพบท่านประมุขกันเถอะ!” เนี่ยิพลันลุกขึ้นยืน ในใจเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ ในที่สุดครั้งนี้เขาก็สามารถยืดอกชูคอต่อหน้าผู้คนในตระกูลได้แล้ว เนี่ยิมักถูกคนในตระกูลดูแคลน โดยเฉพาะเนี่ยชงที่มักจะมาคุยโวใส่หน้าเขา วันนี้ในที่สุดเนี่ยหลีก็ช่วยกู้หน้าให้เขาแล้ว
“ไม่ทันไรท่านก็จะไปรายงานข่าวแล้วหรือ ลูกของพวกเราเพิ่งกลับมา ให้เขาได้กินอิ่มก่อนเถอะ จะต้องรีบร้อนเพียงนี้เชียวหรือ?” ท่านแม่เซียวอวิ๋นหรี่ตามองเนี่ยิ
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว!” เนี่ยิหัวเราะอย่างมีความสุข เขามีความภาคภูมิใจอยู่เต็มอก ดังนั้นจึงรู้สึกตื่นเต้นจนแทบทนไม่ไหว
เห็นครอบครัวมีความภูมิใจในตัวเขา เนี่ยหลีรู้สึกดีใจยิ่งนัก
“สถานการณ์ของตระกูลเป็อย่างไรบ้าง?” เนี่ยหลีเอ่ยถามขึ้นมาขณะกินข้าว
“ประหลาดมาก” ขณะที่หัวข้อสนทนาเปลี่ยนเป็เื่สถานการณ์ภายในตระกูล เนี่ยิใบหน้าบูดบึ้ง
“ประหลาดรึ?” เนี่ยหลีสงสัยเล็กน้อย
“ใช่แล้ว” เนี่ยิพยักหน้า “ตระกูลเทียนเหินมีฐานะการเงินที่ต้องอยู่ในสภาพรัดเข็มขัดมานานแล้ว เมื่อไม่นานมานี้ จู่ๆ ตระกูลเสินเซิ่งก็เริ่มกดดันพวกเรา กระทบกระเทือนการค้าของพวกเราอย่างใหญ่หลวง คู่ค้าบางคนก็หยุดร่วมงานกับเรา ทำให้ผู้าุโของพวกเรากับท่านประมุขกังวลใจอย่างยิ่ง ท่านประมุขของพวกเราถึงขนาดเขียนจดหมายไปหาตระกูลเสินเซิ่งด้วยตนเองเพื่อสอบถามเหตุผล ทว่ากลับถูกเพิกเฉย พวกเขาอาจ้ารออีกสักพักหนึ่ง เพื่อให้ตระกูลเทียนเหินของพวกเราตกอยู่ในสภาพที่ยากลำบากมากขึ้นก่อน ค่อยเจรจาเงื่อนไขกับเรา แต่จู่ๆ ก็เกิดเหตุการณ์พลิกผันจนดีขึ้น...”
“เหตุการณ์พลิกผันรึ?” เนี่ยหลีถาม
“ถูกต้อง จู่ๆ สิบกว่าครอบครัวก็เป็ฝ่ายเริ่มมาทำงานกับพวกเรา เงื่อนไขก็ดียิ่ง ตอนแรกท่านประมุขเกรงว่าจะเป็กับดับ แต่ทว่าต่อมาเขาจึงพบว่าทั้งหมดไม่มีเจตนาร้ายแต่อย่างใด พูดกันว่าทั้งหมดเป็เพราะสมาคมนักปรุงยาวิเศษ พวกเขามอบโอกาสทางการค้าให้แก่เราหลายอย่าง ให้พวกเราปลูกสมุนไพรหลายชนิด ยิ่งไปกว่านั้น ค่าตอบแทนก็ดียิ่ง ภายใต้ร่มเงาของสมาคมนักปรุงยาวิเศษ ตระกูลเสินเซิ่งจึงไม่อาจลงมืออะไรกับพวกเราได้อีก” เนี่ยิพูด
ได้ยินคำพูดของเนี่ยิ เนี่ยหลีก็เข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมด ในใจปรากฏภาพสตรีสาวงดงามผู้หนึ่งขึ้นมา ทั้งหมดนี้คงเป็ฝีมือจัดการของหยางซิน
ในเมื่อเวลานี้เนี่ยหลีกลายเป็คู่ค้าคนสำคัญของสมาคมนักปรุงยาวิเศษ การจัดการของหยางซินจึงเป็เื่ปกติอย่างยิ่ง อำนาจของสมาคมนักปรุงยาวิเศษมิได้ด้อยไปกว่าตระกูลเสินเซิ่ง เครือข่ายของสมาคมยังแข็งแกร่งยิ่งกว่าตระกูลเสินเซิ่งเสียอีก ไม่ว่าอย่างไร ทุกครอบครัวยังคงต้องซื้อยาจากสมาคมนักปรุงยาวิเศษ ดังนั้น ในเมื่อมีสมาคมนักปรุงยาวิเศษคอยปกป้อง ตระกูลเสินเซิ่งจึงไม่กล้าแตะต้องตระกูลเทียนเหินอีกต่อไป
ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยสูตรยาที่เนี่ยหลีส่งมอบให้พวกเขา ต่อให้เป็จวนเ้าเมืองและสามตระกูลหลักก็ยังต้องก้มหัวขอร้องสมาคมนักปรุงยาวิเศษ เมื่อสมาคมนักปรุงยาวิเศษมีความเข้มแข็งถึงจุดนี้ หากตระกูลเสินเซิ่งยังกล้าขัดแย้งกับสมาคมนักปรุงยาวิเศษอีก เช่นนั้นก็นับว่าเป็การรนหาที่ตายโดยแท้แล้ว
เมื่อกลับมา นอกจากจะได้มีโอกาสเยี่ยมญาติมิตรแล้ว เขายังต้องจัดการให้ตระกูลเทียนเหินมีสายสัมพันธ์กับสมาคมนักปรุงยาวิเศษ เนี่ยหลีคิดไม่ถึงว่าหยางซินกลับจัดการเื่เหล่านี้เรียบร้อยแล้ว ต่อไปนี้เนี่ยหลีก็จะสามารถจดจ่ออยู่กับการรับมือกับตระกูลเสินเซิ่ง แน่นอน สมาคมนักปรุงยาวิเศษย่อมต้องมีส่วนสำคัญกับการนี้
“เหตุใดท่านจึงเล่าเื่พวกนี้ให้เด็กๆ ฟังรึ?” เซียวอวิ๋นจ้องมองเนี่ยิอย่างไม่ชอบใจ ในสายตาของนาง เนี่ยหลียังเด็กนัก รู้เื่พวกนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์อันใด
“มุมมองของสตรีเพศ เวลานี้เนี่ยหลีเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับหนึ่งดาวแล้ว อนาคตข้างหน้าเขาจะกลายเป็เสาหลักของตระกูลเทียนเหิน ถึงเวลานั้น เื่ที่เขาจะต้องเรียนรู้ยังมีเยอะกว่านี้อีกมากนัก!” เนี่ยิโต้ด้วยสีหน้าและน้ำเสียงภาคภูมิใจยิ่ง
“เอาล่ะๆ ท่านพูดได้ถูกต้อง!” เซียวอวิ๋นพูดอย่างหงุดหงิด
บิดามารดาก็เหมือนกับชาติที่แล้ว ชอบทะเลาะกันบ่อยๆ อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างพวกท่านก็ยังคงดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ มีมีแปรเปลี่ยน เมื่อได้เห็นภาพฉากนี้ เนี่ยหลีก็อดหัวเราะขึ้นมามิได้
“ท่านพ่อ ่นี้ข้ายังไม่อยากพบท่านประมุข ข้าอยากฝึกยุทธ์ต่อไป” เนี่ยหลีเงยหน้าขึ้นจ้องมองเนี่ยิและพูด
“ได้ ไปพบเขาทีหลังก็ได้!” เนี่ยิหัวเราะ
ท่านอาเนี่ยไคที่อยู่ด้านข้างลูบศีรษะเนี่ยอวี่และพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “เสียวอวี่ เ้าเองก็ต้องขยันฝึกตนให้มาก จะต้องดูพี่เนี่ยหลีเป็แบบอย่าง!”
“อืม เสียวอวี่จะขยัน!” เนี่ยอวี่พยักหน้าหงึกๆ และพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ใกล้ค่ำแล้ว ลมราตรีพัดผ่านมาเป็ระยะภายในผืนป่า เสียงใบไม้เสียดสีกันส่งเสียงดังกรอบแกรบกลางสายลม
เนี่ยหลีเดินออกจากบ้านและมุ่งหน้าไปยังป่าบนูเาด้านหลัง ขณะนั่งลงบนหินใหญ่ก้อนหนึ่ง เขามองไกลออกไป เห็นแสงไฟจากบ้านเรือนหลายๆ หลัง
ตระกูลตรา์เทียนเหินเป็ตระกูลที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน สามารถย้อนกลับไปถึงยุคอาณาจักรวายุเหมันต์เลยทีเดียว บรรพบุรุษของตระกูลตรา์เทียนเหินเป็หนึ่งในผู้ปกครองหลักในยุคนั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อประสบกับความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยและยุคมืดที่ยาวนาน ตระกูลเทียนเหินจึงตกต่ำลงจนกลายเป็ตระกูลเล็กๆ ในเมืองกวงฮุย
เนี่ยหลีนั่งขัดสมาธิอยู่บนหินก้อนใหญ่ ฝึกยุทธ์อยู่เงียบๆ อีกนิดเดียวเขาก็จะก้าวขึ้นถึงระดับเงินแล้ว หากเขาทะลวงขึ้นสู่ระดับเงินได้เมื่อใด เขาก็จะสามารถหลอมรวมกับจิตอสูรปีศาจเงาในตะเกียงิญญาได้
ขณะที่กินยาวิเศษไม่หยุด เขาก็โคจรเคล็ดวิชาเทียนเต้าไปพร้อมๆ กัน เนี่ยหลีกำลังดูดซับฤทธิ์ยาเข้าสู่กระแสเืและค่อยๆ ให้ฤทธิ์ยานั้นซึมซับเข้าสู่อาณาเขติญญาของตน สิ่งนี้ช่วยให้อาณาเขติญญาของเขาเริ่มขยายตัวขึ้นไม่หยุด
อาณาเขติญญาของเขาเริ่มเดือดพล่านขึ้นมาเต็มไปด้วยพลังิญญาทรงอานุภาพ
อย่างไรก็ตาม หากเขา้าทะลวงขึ้นสู่ระดับเงิน ขณะนี้ก็ยังมีความยากอยู่บ้าง เนี่ยหลีเดาว่าเขาจะต้องใช้เวลาอีกราวสิบวันจึงจะทำได้
“ข้าเกือบลืมไป ยังมีอีกวิธีที่ข้ายังไม่ได้ใช้!” เนี่ยหลีดูเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ เขายิ้มออกมาเล็กน้อย ขณะทะลวงเข้าสู่ระดับเงิน ยังมีเคล็ดวิธีชนิดหนึ่งเรียกว่าฝ่ามือสกัดจุดพิสดาร วิธีนี้สามารถผนึกเส้นเืบนแขนและหลายๆ จุดในร่างกาย เขาจะผนึกจุดฝังเข็มทั้งหมดสามสิบหกจุดและบังคับให้พลังิญญาถูกกักอยู่แต่ในอาณาเขติญญา ช่วยให้เขาสามารถบังคับตนให้ทะลวงฝ่าด่านขึ้นสู่ระดับเงินได้
วิธีนี้นอกจากต้องสิ้นเปลืองพลังิญญาเป็จำนวนมากแล้ว ยังอาจจะทำลายจุดฝังเข็มบางส่วนได้ อย่างไรก็ตาม หากมียาวิเศษคอยส่งเสริม ก็ย่อมสามารถรักษาได้อย่างง่ายดายเช่นกัน
“ใช้วิธีนี้ก็แล้วกัน” เนี่ยหลียิ้มบางๆ ด้วยเคล็ดวิชาฝ่ามือสกัดจุดพิสดาร เขาเริ่มผนึกจุดฝังเข็มต่างๆ ภายในร่างกายทีละจุดๆ ขังพลังิญญาของตนเอาไว้
ไม่มีผู้ใดยอมใช้เคล็ดวิธีนี้ เว้นแต่จะมีความมั่นใจเต็มที่!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้