นางเอ่ยหยั่งเชิง “วางใจเถิด ข้าไม่มีทางทำร้ายพวกเ้า ข้าแค่อยากจะช่วยพวกเ้าเท่านั้น ลูกหมาป่าในท้องแม่มิอาจคลอดออกมาได้ อันตรายเกินไปแล้ว”
ราวกับฟังเข้าใจ หมาป่าดำค่อยๆ ระงับกลิ่นอายไม่เป็มิตรของมันและหันไปมองหมาป่าขาวบนพื้น ภายในดวงตาเปี่ยมด้วยความเ็ป
ครั้นเห็นเคอโยวหรานมิได้ตั้งใจจะทำร้ายพวกมันจริงๆ หมาป่าดำจึงรีบหันหลังกลับแล้วเดินไปยังข้างกายหมาป่าขาว
น้ำตาไหลรินจากหางตาของหมาป่าดำ มันเอาหัวถูกับหมาป่าขาวไม่ยอมหยุด โดยหวังว่าจะสามารถช่วยเพิ่มพลังให้อีกฝ่ายได้สักเล็กน้อย
เคอโยวหรานซาบซึ้ง นางหยิบชามออกมาจากมิติวิเศษ ตักน้ำในสระดอกบัวเจ็ดสีมาหนึ่งชาม ก่อนจะย่อกายลงตรงหน้าหมาป่าขาว ขยับชามเข้าใกล้เพื่อให้มันดื่มน้ำสักนิด
หมาป่าขาวมิได้ดื่มน้ำ มันทอดมองเคอโยวหราน ส่งเสียงครางพลางเอาอุ้งเท้าหน้าแตะท้องตนเองอย่างอ่อนแรง
ราวกับกำลังวิงวอนนางให้ช่วยเหลือบุตรในครรภ์ของตน
มันฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเคอโยวหราน เปล่งเสียงร้องไห้คร่ำครวญเป็ครั้งสุดท้ายก่อนจะปิดตาลงในที่สุด
แต่บุตรในครรภ์ของแม่หมาป่ายังคงเคลื่อนไหว ท้องที่นูนสูงขยับขึ้นลงตลอดเวลา ราวกับลูกหมาป่าที่อยู่ภายในกระสับกระส่ายเป็อย่างยิ่ง
เคอโยวหรานมองไปทางหมาป่าดำและเอ่ยถามว่า “แม่หมาป่าสิ้นใจแล้ว นาง้าให้ข้าช่วยลูกของพวกเ้า ข้าขอใช้มีดผ่าเปิดท้องเพื่อนำลูกหมาป่าออกมาได้หรือไม่?”
หมาป่าดำส่งเสียงร้องหงิงๆ สองครั้งก่อนจะเบนหน้าหนี มันหมอบลงข้างกายแม่หมาป่าพลางเปล่งเสียงสะอื้น ราวกับเห็นด้วยในวิธีการของเคอโยวหราน แต่กลับมิอาจหักใจมอง
เคอโยวหรานสูดลมหายใจเข้าลึก นางหยิบมีดเล่มหนึ่งจากชั้นวางสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ต ขูดขนบริเวณหน้าท้องของแม่หมาป่า จากนั้นกรีดเปิดหน้าท้องของมันอย่างระแวดระวัง
ไม่นานนัก นางก็อุ้มเ้าตัวเล็กที่ลมหายใจรวยรินทั้งสองออกมาจากท้องของแม่หมาป่า
เคอโยวหรานนำอ่างล้างหน้าออกมาหนึ่งใบ วางลูกหมาป่าทั้งสองตัวลงไปอย่างแ่เบา
ต่อมาก็ร้อยด้ายสีขาวเข้ากับเข็มเย็บผ้าและเริ่มเย็บปิดหน้าท้องแม่หมาป่าทีละตะเข็บ
บริเวณที่แม่หมาป่าล้มลง บังเอิญมีบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติขนาดเล็กอยู่ด้านข้างพอดี
เคอโยวหรานหยิบอ่างหนึ่งใบออกมาจากมิติวิเศษ ตักน้ำพุร้อนครึ่งอ่าง จัดการล้างตัวให้ลูกหมาป่าสีขาวและดำทั้งสองจนสะอาดสะอ้าน
นางนำกระเช้าผลไม้ออกมาจากเขตจำหน่ายผลไม้ รองด้านล่างด้วยผ้าขนหนูเป็ชั้นหนา แล้ววางเ้าตัวเล็กทั้งสองลงภายในนั้นอย่างระแวดระวัง
จากนั้นยังใช้ผ้าขนหนูอีกจำนวนหนึ่งมาห่มเพื่อรักษาความอบอุ่นบนกายของพวกมัน
นางหยิบนมผงสำหรับทารกหนึ่งกระป๋องเล็กและขวดนมขนาดเล็กสองขวดออกมา นำน้ำพุร้อนชงนมสองขวดแล้วป้อนให้เ้าตัวเล็กทั้งสอง
ลูกหมาป่าทั้งสองกำลังหลับตา ครั้นได้กลิ่นหอมของน้ำนมก็ราวกับพบมารดาของตน พากันดื่มนมอึกใหญ่และฟื้นคืนชีวิตชีวาในไม่ช้า
เมื่อพวกมันนอนหลับสนิทหลังดื่มนมเสร็จ เคอโยวหรานก็ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ วางหมาป่าตัวน้อยไว้ข้างกายหมาป่าดำแล้วเอ่ยว่า
“ดูลูกๆ ของเ้าเถิด มารดาของพวกมันพยายามให้กำเนิดพวกมันอย่างสุดชีวิต เฝ้าหวังให้พวกมันเติบโตมามีสุขภาพแข็งแรงและปลอดภัย
หมาป่าน้อยยัง้าให้ผู้เป็บิดาเช่นเ้าคอยเลี้ยงดูอย่างเอาใจใส่และสอนทักษะการเอาชีวิตรอดแก่พวกมัน เ้าควรทำให้หมาป่าขาววางใจมิใช่หรือ?”
หมาป่าดำส่งเสียงครางสองครั้ง มันเลียหัวลูกหมาป่าทั้งสองเบาๆ และใช้สายตาฉายแววซาบซึ้งทอดมองเคอโยวหราน
ยามเห็นร่างของแม่หมาป่าบนพื้น เคอโยวหรานจึงหาพื้นดินอ่อนนุ่มในบริเวณใกล้เคียง จัดการขุดหลุมขนาดใหญ่และฝังร่างแม่หมาป่าลงไป
นางนั่งยองลงด้านข้างหมาป่าดำและลูกหมาป่า เอ่ยพึมพำกับหลุมศพของแม่หมาป่าว่า “ไม่ต้องห่วง ข้าจะดูแลลูกๆ ของเ้าเป็อย่างดี นับแต่นี้ไปพวกเขาก็คือสมาชิกในครอบครัวของข้า”
ทางด้านต้วนเหลยถิงที่อาการดีขึ้นเพิ่งจะตามหลังมาจนทัน
เมื่อได้ยินเสียงความเคลื่อนไหว เคอโยวหรานพลันหันไปมอง หมาป่าดำเองก็ลุกขึ้นแยกเขี้ยวอย่างรวดเร็วเช่นกัน มันตั้งท่ามุ่งร้ายหมายจะโจมตีต้วนเหลยถิง
เคอโยวหรานหูตาว่องไว นางรีบกอดหมาป่าดำเอาไว้ ทว่าเพราะความรีบร้อน ฝ่ามือจึงััเข้ากับเขี้ยวของหมาป่าดำ ถูกเขี้ยวอันคมกริบกรีดเป็ทางยาวโดยไม่รู้ตัว
ทั้งยังไม่ลืมเอ่ยปลอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนข้างหูหมาป่าดำว่า “ไม่เป็ไร มิต้องกังวล เขาคือสามีของข้า มีความสัมพันธ์ไม่ต่างจากเ้ากับหมาป่าขาว ใจเย็นลงได้หรือไม่?”
แต่สิ่งที่ต้วนเหลยถิงเห็นกลับกลายเป็ เพื่อช่วยชีวิตตน เคอโยวหรานพลันกระโจนกอดหมาป่าดำที่ตัวสูงใหญ่กว่านางถึงหนึ่งศีรษะด้วยมือเปล่า อีกทั้งเขี้ยวของหมาป่าดำยังทำให้นางได้รับาเ็
ไม่มัวคิดใคร่ครวญ ชายหนุ่มกำอาวุธหมายจะพุ่งเข้าหาหมาป่าดำทันที
เคอโยวหรานเพิ่งจะปลอบโยนหมาป่าดำให้สงบลงได้ มีหรือจะไปนึกว่าต้วนเหลยถิงจะตื่นตระหนกถึงเพียงนี้
ด้วยกลัวว่าเขาจะทำร้ายหมาป่าดำ เคอโยวหรานรีบปล่อยมือจากมันแล้ววิ่งเข้าไปหาต้วยเหลยถิง ะโเสียงดังว่า “ต้วนซานหลาง อย่าทำร้ายพวกมัน”
เนื่องจากระดับความเร็วของต้วนเหลยถิงนั้นมากจนเกินไป อีกทั้งความเฉื่อยจากการกระโจนเข้าไปของเคอโยวหรานก็ไม่น้อย คนทั้งสองจึงตกลงไปในสระบัวเจ็ดสีที่อยู่ใกล้เคียง
ชั่วขณะนั้นเคอโยวหรานรู้สึกถึงแรงดูดมหาศาล ลากนางลงไปยังส่วนลึกที่สุดของสระบัว
นางปล่อยมือจากต้วนเหลยถิงโดยสัญชาตญาณ ถูกลากไปยังใจกลางสระบัวด้วยความเร็วราวกับกระแสลม
น้ำพุิญญาในสระบัวเจ็ดสีผสานกับเืของเคอโยวหราน ก่อให้เกิดเป็ระลอกคลื่น
เคอโยวหรานที่อยู่ใต้น้ำถูกห่อหุ้มด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์หลายชั้นในทันใด ผ้าฝ้ายหนาพันรอบาแบนศีรษะหลุดออกในเสี้ยววินาที เลือนหายกลายเป็ประกายแสงพร่างพราวดั่งดวงดาราใจกลางสระบัว
ประกายแสงหลากสีไหลเวียนรอบกายนางไม่ยอมหยุด ท้ายที่สุดก็ก่อตัวเป็ลำแสงสีรุ้งหนึ่งสาย ไหลเข้าสู่ร่างกายของเคอโยวหรานทางปากแผลบนศีรษะ
ด้วยระดับความเร็วของลำแสง ทำให้ต้วนเหลยถิงที่พยายามแหวกว่ายเข้าหาใจกลางสระบัวยังไม่ทันได้สติรู้ตัว ลำแสงทั้งหมดก็ไหลทะลักเข้าสู่ร่างกายของนางจนสิ้นเสียแล้ว
หลังจากลำแสงไหลทะลักเข้าไป าแบนหน้าผากของเคอโยวหรานพลันหายเป็ปกติด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า สุดท้ายก่อตัวเป็ไฝทรงหยดน้ำตาจวนจะหยดลงมาหนึ่งเม็ด
อีกทั้งร่างกายของนางยังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงชนิดพลิกฟ้าพลิกดินเพราะการก่อตัวของไฝน้ำตานี้
ร่างกายผอมแห้งดั่งท่อนฟืนแต่เดิมราวกับถูกฉีดสารอาหาร ปรากฏส่วนอวบอิ่มเว้าโค้งสมบูรณ์แบบด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
กระบวนการทั้งหมดรวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ เป็เวลาเพียงไม่กี่อึดใจเท่านั้น
หลังจากได้เห็นการเปลี่ยนแปลงแต่ละกระบวนการของเคอโยวหราน ในที่สุดต้วนเหลยถิงก็สามารถเข้าประชิดตัวนางได้ ชายหนุ่มใช้ท่อนแขนโอบรอบเอวบางและออกแรงดึงเข้าหาอ้อมกอดของตน
ขาทั้งสองข้างพลันออกแรงถีบ พาเคอโยวหรานพุ่งขึ้นสู่ผิวน้ำอย่างรวดเร็ว ไม่นานนัก คนทั้งสองก็สามารถโผล่ขึ้นเหนือน้ำได้สำเร็จ
เคอโยวหรานกอดลำคอของต้วนเหลยถิงเอาไว้ จดจ้องบุรุษตรงหน้าไม่วางตา ถึงขั้นลืมเลือนแม้กระทั่งวิธีหายใจไปชั่วขณะ
อันใดคือรูปงามไร้ผู้ใดเทียบเทียม อันใดคือหยกงามเหนือผู้คน อันใดคือใบหน้าดั่งหยกชั้นเลิศและงามสง่า?
ครั้งนี้บุรุษตรงหน้าทำให้นางได้ประสบอย่างแท้จริง
ทางด้านต้วนเหลยถิงก็ตกตะลึงจนพูดคำใดไม่ออกเช่นกัน กระทั่งดวงตายังหยุดนิ่งเสียแล้ว
สตรีตรงหน้ายังจะใช่แม่นางน้อยผอมแห้งดำคล้ำผู้นั้นได้อย่างไร
ดวงตาของนางกลมโตดั่งลูกผูเถา [1] แพขนตาทั้งสองข้างขยับราวปีกผีเสื้อ บนแพขนตายังมีหยดน้ำจวนจะร่วงหล่นลงมาเกาะอยู่
ไฝน้ำตาสีแดงตรงหว่างคิ้วเป็ประกาย ราวกับตะขอเกี่ยวิญญา งามเสียจนสามารถดึงดูดิญญาของผู้คน
ผิวพรรณขาวผ่องชุ่มชื่นดั่งสีแดงระเรื่อในหยกขาว คิ้วแม้ไม่วาดยังดำเงางาม ริมฝีปากแม้ไม่แต่งแต้มยังเผยสีแดงเป็ประกาย
ครั้นเคอโยวหรานเห็นต้วนเหลยถิงจดจ้องตนด้วยความเหม่อลอย นางจึงปล่อยมือทั้งสองข้างออกจากลำคอของอีกฝ่ายอย่างช่วยมิได้ จากนั้นลูบไล้ใบหน้าหล่อเหลาของเขาอย่างเชื่องช้า เอ่ยด้วยความใคร่รู้ว่า “หนวดเคราของท่านเล่า?”
ต้วนเหลยถิงเห็นเพียงริมฝีปากเล็กของนางขยับขึ้นลง เขาอดมิได้ที่จะกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว ฝ่ามือใหญ่ประคองศีรษะของนางเอาไว้ จัดการทาบทับปิดมันอย่างมิอาจควบคุมตนเอง
“อื้อ...”
การประทับจูบเกิดขึ้นกะทันหันนัก ส่งผลให้เคอโยวหรานสมองพังในเสี้ยววินาที มิอาจคิดใคร่ครวญสิ่งใดแม้เพียงนิด...
เวลาล่วงเลยไปเนิ่นนาน นานเสียจนเคอโยวหรานจวนจะขาดอากาศหายใจ ต้วนเหลยถิงถึงค่อยๆ ผละออก แตะหน้าผากลงัักับหน้าผากของเคอโยวหราน
---------------------------------------
เชิงอรรถ
[1] ผูเถา 葡萄 หมายถึง ผลองุ่น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้