เมฆดำมารวมตัวกัน และปรากฏการณ์ประหลาดก็เกิดขึ้น! ท้องฟ้าถูกปกคลุมด้วยสีเืจาง ๆ สิ่งมีชีวิตลึกลับที่มีตัวเลขพร่ามัวปรากฏและหายไป ทุกตัวต่างเงยหน้าคำรามใส่ท้องฟ้า!
เมื่อเห็นฉากนี้ ทุกคนต่างก็ตกตะลึงอีกครั้ง บ้าชะมัด! นี่มันอัจฉริยะเกินไปแล้ว!
แม้แต่เหล่าผู้าุโที่มีอายุมาหลายปี ผ่านพายุฝนมานับไม่ถ้วน และมักจะสงบนิ่งอยู่เสมอ เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ พวกเขาก็อดสบถออกมาไม่ได้!
วันแรกที่เขาเกิด เขาได้สูดลมหายใจด้วยปราณม่วงและเสียงร้องก็เป็เสียงแห่งมหาเต๋า ไม่เพียงแต่นำพาประโยชน์มากมายให้แก่ผู้คนรอบข้าง แต่ยังทำให้ผู้คนมากมายสามารถทะลวงระดับขั้นได้โดยตรง! อุปสรรคที่เคยขัดขวางพวกเขาได้ถูกขจัดไปแล้ว ตอนนี้เป็เพียงเื่ของเวลาก่อนที่พวกเขาจะสามารถทะลวงไปอีกระดับ!
แต่ตอนนี้ เขากลับพัฒนาระดับพลังของตัวเองั้แ่วันแรกที่เกิดอย่างนั้นหรือ?
บรรพบุรุษตระกูลหลินพยายามรักษาความสงบ แต่เมื่อเขามองไปยังปรากฏการณ์ประหลาดบนท้องฟ้า หางตาของเขากระตุกโดยไม่รู้ตัว โชคดีจริง ๆ ที่อัจฉริยะเช่นนี้เกิดในตระกูลหลิน!
...
รัศมีสีเืปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า พร้อมกับอักษรเต๋าจำนวนนับไม่ถ้วนที่หมุนวนไปมา
แม้ว่าภาพวาดแห่งสรรพชีวิตต่อต้าน์จะไม่ได้แผ่พลังอันรุนแรงออกมา แต่ความลึกซึ้งที่แฝงอยู่กลับซับซ้อนเป็อย่างยิ่ง! สิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนและตัวตนในตำนานต่าง ๆ ปรากฏขึ้นในนั้น!
เมื่อมองไป มันราวกับพวกเขาได้ย้อนกลับไปในยุคโบราณ กลิ่นอายแห่งการสังหารอันดุร้ายพุ่งเข้าปะทะใบหน้า!
นี่คือ... อัจฉริยะเยาวชนอย่างนั้นหรือ?
มุมปากของทุกคนกระตุกไม่หยุด
หากไม่ใช่เพราะว่าคลื่นพลังของปรากฏการณ์นี้ไม่ได้รุนแรงมากนัก และเป็เพียงการทะลวงระดับใน่สามระดับล่าง ไม่มีใครคงสงสัยเลยหากจะบอกว่านี่เป็การทะลวงระดับ่สามระดับกลางหรือสามระดับบน!
แสงสว่างที่พุ่งขึ้นบนท้องฟ้าไม่ได้คงอยู่เป็เวลานาน ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ทุกอย่างก็สลายหายไปจนหมดสิ้น สิ่งนี้ยิ่งเป็การยืนยันความคิดของทุกคนว่าสาเหตุมาจากอัจฉริยะรุ่นเยาวจริง ๆ
ทั้งงานเลี้ยงตกอยู่ในความเงียบ ใบหน้าของตัวแทนจากหลายตระกูลและหลายพรรคพวกดูหมองคล้ำ สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปมาไม่หยุด
หลังจากเงียบงันไปนาน ในที่สุดก็มีคนถอนหายใจออกมาแล้วพูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า
"ข้ายังไม่อยากจะเชื่อเลย คลื่นพลังเช่นนี้เกิดขึ้นจากอัจฉริยะรุ่นเยาวจริง ๆ หรือ…"
"ตระกูลหลินแข็งแกร่งเกินไปแล้ว…"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ บรรพบุรุษตระกูลหลินก็กล่าวขึ้นด้วยสีหน้าสงบนิ่ง
"สาเหตุของเื่นี้ก็คือบุตรศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลเรา ไม่ใช่เพราะข้าทะลวงระดับ พวกเ้าคงไม่ยังมีข้อกังขาอยู่กระมัง?"
ทุกคนพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้ จะไม่เชื่อได้อย่างไร? ก็เขาทะลวงระดับต่อหน้าต่อตาพวกเขาเลยนี่นา!
"บรรพบุรุษตระกูลหลิน ข้าขอถามหน่อยเถอะ ท่านทะลวงสองระดับภายในสองวันอย่างนั้นหรือ?" ธิดาศักดิ์สิทธิ์สำนักแห่งแสงกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบ
"ก็นับว่าใช่" บรรพบุรุษตระกูลหลินพยักหน้า เขาหันไปมองพวกผู้าุโที่อยู่ในยุคเดียวกันกับเขาแล้วเผยรอยยิ้ม "มันก็ไม่ได้วิเศษวิโสอะไรหรอก"
บ้าจริง!!
เหล่าผู้าุโที่มีอายุไล่เลี่ยกันกับบรรพบุรุษตระกูลหลินต่างพากันขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน พวกเขาล้วนสร้างพรรคพวกและอิทธิพลของตนเองมาเป็เวลาหลายปี ความสัมพันธ์ระหว่างกันก็ถือว่าไม่เลว แต่ตอนนี้พอเห็นบรรพบุรุษตระกูลหลินทำหน้าภาคภูมิใจ พวกเขาก็โกรธขึ้นมาทันที!
แค่เทียบกับเขาไม่ได้ก็เื่หนึ่ง แต่นี่ลูกหลานของพวกเขายังน่าผิดหวังกันหมดอีกงั้นหรือ?
เดิมทีพวกเขาวางแผนจะใช้โอกาสในงานเลี้ยงนี้ล้อเลียนว่าตระกูลหลินไม่มีอัจฉริยะเกิดขึ้นมานานกว่าร้อยปีแล้ว แต่ตอนนี้… พวกเขาจะไปเย้ยหยันอะไรได้อีก?
เหล่าผู้าุโไม่พอใจจนเคราสะบัดไปมา แต่ไม่นานก็หัวเราะขึ้นมา เสียงหัวเราะของพวกเขาดูสง่างามและเป็มิตร
"เช่นนั้น บรรพบุรุษหลิน ท่านยังมิได้ก้าวข้ามขั้นนั้นกระนั้นหรือ?"
ชายชราผู้หนึ่งสวมชุดคลุมดำ รูปร่างกำยำบึกบึนกล่าวขึ้นพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ
"เราก็พูดกันไปแล้วว่ามันเป็เพราะลูกหลานของตระกูลหลิน เป็บุตรศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรา แล้วบรรพบุรุษตระกูลหลินจะก้าวข้ามขั้นนั้นไปได้อย่างไร? เ้าถามอะไรที่มันเห็นชัดอยู่แล้วชัด ๆ?"
ผู้าุโคนหนึ่งกล่าวขึ้นอย่างไม่พอใจ จากนั้นเขาก็จัดเสื้อผ้าของตนให้เข้าที่ ก่อนจะยกถ้วยชาขึ้นจิบด้วยรอยยิ้ม
"ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ"
"น่าเสียดายจริง ๆ น่าเสียดาย…"
"น่าเสียดาย ข้านึกว่าบรรพบุรุษตระกูลหลินจะก้าวนำไปอีกขั้นแล้วเสียอีก ช่างน่าผิดหวัง…"
เหล่าผู้าุโหลายคนกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงแปลก ๆ ส่วนคนอื่น ๆ ในงานเลี้ยงต่างมองหน้ากันไปมา พวกเขาดื่มชาและแทะเมล็ดแตงเงียบ ๆ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้าุโเช่นนี้ ไม่มีใครกล้าเอ่ยปาก
"ข้าว่าพวกเ้าก็แค่อิจฉาเท่านั้นแหละ" บรรพบุรุษตระกูลหลินหัวเราะเบา ๆ
"แน่นอนว่าไม่ใช่! พวกเราเพียงแค่ผิดหวังที่ไม่ได้ดื่มเหล้าฉลองการบรรลุของบรรพบุรุษตระกูลหลินเท่านั้นเอง"
ผู้าุโที่สะพายกระบี่ไว้บนหลัง เปล่งอาภรณ์กระบี่ไปทั่วร่าง พูดอย่างสงบนิ่ง แต่ในน้ำเสียงกลับเต็มไปด้วยเลศนัย
"ช่างน่าเสียดาย!" ชายชราร่างกำยำถอนหายใจ
เมื่อเห็นท่าทีของเหล่าสหายเก่า บรรพบุรุษตระกูลหลินก็หัวเราะเบา ๆ และกล่าวว่า
"ไม่เป็ไร ยังไงพวกเ้าก็ต้องมาอีกอยู่ดี"
"อีกครั้ง?" บรรดาผู้าุโต่างชะงักไป
"ด้วยการกำเนิดของบุตรศักดิ์สิทธิ์ ข้าเองก็ได้รับความเข้าใจบางอย่าง" บรรพบุรุษตระกูลหลินกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
ผู้าุโที่สะพายกระบี่พลันตัวแข็งทื่อ
"แม้ว่าตอนนี้ข้ายังไม่อาจทะลวงไปได้ แต่สิ่งที่เคยขวางเส้นทางข้าไว้ก็คงถูกกวาดล้างไปหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม หากจะก้าวข้ามขั้นสำคัญจริง ๆ ก็คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะ… ข้าว่าประมาณสามปีได้" บรรพชนตระกูลหลินลูบเคราพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน
"ใน่เวลาที่ยาวนานนี้ ข้าหวังว่าจะสามารถบ่มเพาะคนรุ่นต่อไปได้อย่างเต็มที่ ท้ายที่สุดแล้ว คนรุ่นหลังคือความหวังของอนาคต เราพวกคนแก่ก็แค่คนเฒ่าคนแก่เท่านั้นเอง"
เมื่อเห็นท่าทีของบรรพชนตระกูลหลิน หัวหน้าฝ่ายต่าง ๆ แทบกลั้นหัวเราะไม่ไหว พวกเขาทำได้เพียงก้มหน้าลงข่มกลั้นมันไว้ ั์ตาของนางมารสาวเปล่งประกายระยิบระยับขณะกวาดสายตามองไปรอบ ๆ
แม้แต่เหล่าผู้าุโที่โดยปกติแล้วมีอารมณ์ดี ก็แทบจะทนไม่ไหวในตอนนี้ มุมปากของพวกเขากระตุก ผู้าุโที่สะพายกระบี่ต้องฝืนกลืนชาลงไปอย่างขมขื่น
สามปี? อย่าว่าแต่สามปีเลย ต่อให้เป็สามร้อยปีหรือสามพันปีก็คุ้มค่าหากสามารถก้าวข้ามขั้นนั้นไปได้! นี่ไม่ต่างอะไรจากการบรรลุขั้นใหม่เลย!
"ข้าแก่แล้ว คนรุ่นหลังคือความหวังของอนาคต" บรรพบุรุษตระกูลหลินทอดสายตามองไปยังที่ห่างไกลและกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง
เพล้ง!
ในทันที ผู้าุโคนหนึ่งบดขยี้ถ้วยในมือจนแตกเป็เสี่ยง ๆ จากนั้นเขาก็มองไปยังเหล่าคนในตระกูลที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ซึ่งต่างพากันก้มหน้าก้มตาไม่กล้าพูดอะไร ด้วยสายตาไม่เป็มิตร
'เดี๋ยวกลับไปข้าจะสั่งสอนพวกเ้าให้เข็ด! ดูอัจฉริยะนั่นสิ! แล้วลองดูตัวพวกเ้าเอง!'
เมื่อััได้ถึงสายตาของบรรพชน พวกผู้นำทั้งหลายที่อำนาจสูงสุดในตระกูลของตนต่างร่ำร้องอยู่ในใจอย่างสิ้นหวัง
บรรพชน! อย่ามาลงแต่โทษพวกเราเลย! ท่านเองก็เทียบบรรพบุรุษตระกูลหลินไม่ได้เหมือนกันไม่ใช่หรือ!?