เมื่อหมี่หลันเยว่บอกตัวเลขในคลังสินค้าให้แล้ว หนิวต้าลี่ก็คำนวณกำไรในใจอย่างคร่าวๆ พลางฉีกยิ้มกว้าง ตรุษจีนปีนี้ท่าทางจะสุขสำราญเสียจริง
หมี่หลันเยว่ไม่ปล่อยให้เขารื่นเริงง่ายๆ จึงเตือนสติขึ้นมาว่า
"คุณลุงหนิวอย่าเพิ่งดีใจเร็วเกินไปนะคะ ถ้าคุณลุง้าสินค้าจำนวนมาก ก็ต้องใช้เวลามากขึ้นแน่นอน เพราะงั้นถ้าคุณลุงให้เวลาฉันมากพอ ฉันก็จะส่งสินค้าได้เยอะขึ้นค่ะ"
"ดังนั้น ฉันขอให้คุณลุงมารับสินค้าช้าลงสักหน่อย อย่าเพิ่งรีบมารับตอนที่สินค้าเหลือน้อย ให้เลื่อนไปอีกสามถึงห้าวัน แต่คุณลุงไม่ต้องกลัวนะคะว่าสินค้าในร้านจะไม่พอขาย คุณลุงลองใช้วิธีเดียวกับที่ร้านเราทำสิคะ เปิดรับจองเสื้อผ้าบางส่วน ให้ลูกค้าจ่ายเงินมัดจำก่อน แล้วค่อยมารับเสื้อผ้าภายหลัง"
"แบบนี้เวลาที่คุณลุงมารับสินค้าก็จะเลื่อนไปได้อีกสามถึงห้าวัน แต่ก็ไม่ควรช้าเกินไปนะคะ ไม่งั้นสินค้าจะขายไม่ทันตรุษจีน แต่ถ้าทำแบบนี้ สินค้าที่คุณลุงมารับก็จะเยอะขึ้น น่าจะพอขายจนถึงวันสิ้นปีเลยค่ะ"
"ส่วนเสื้อผ้าที่คุณลุงรับไปนั้น เพราะมีบางส่วนเป็สินค้าที่ลูกค้าสั่งจองไว้แล้ว แบบนี้ก็จะไม่กดเงินทุนของคุณลุง แถมไม่เปลืองพื้นที่โกดัง สินค้าที่เอาไปแล้ว น่าจะต้องเก็บเข้าโกดังแค่ครึ่งคัน ที่เหลือให้ลูกค้ามารับที่ร้านได้เลยค่ะ หมุนเวียนเงินได้ทันที ดีจะตายไป นี่มันเหมือนได้ยอดขายส่งครั้งใหญ่เลยนะคะ"
พอฟังหมี่หลันเยว่วางแผน หนิวต้าลี่ก็ยิ้มจนแก้มปริ
"ดีๆ ทำตามที่หลันเยว่ว่ามาเลย แบบนี้ฉันก็ไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว มีทั้งสินค้าส่ง ทั้งยอดขาย ไม่เสียอะไรสักอย่าง"
เขาหันไปพูดกับจางเหรินซ่านต่อ
"เหล่าจาง นายมันดาวนำโชคของฉันจริงๆ พอทำแบบนี้ เสื้อกันหนาวของฉันก็มีพอขาย ไม่ต้องกดเงินทุน ไม่ต้องมีสินค้าค้าง ก่อนตรุษจีนก็คงจะขายหมดเกลี้ยง นี่เป็ครั้งแรกในรอบหลายปีของฉันเลยนะ"
"แล้วก็หลันเยว่ เธอคือดาวนำโชคของฉันเหมือนกัน ั้แ่ได้ร่วมงานกับเธอ ชีวิตฉันก็ราบรื่น เหมือนติดปีก ไม่มีอะไรไม่เป็ใจ แม้แต่สินค้าที่ไปขนมาจากทางใต้ ยอดขายก็ยังพุ่งขึ้น นี่เป็เพราะโชคดีที่หลันเยว่นำมาให้แท้ๆ"
หนิวต้าลี่ดีใจจนหุบยิ้มไม่ได้
"หลันเยว่ มีอะไรให้ฉันช่วยบ้างไหม ่เทศกาลปีใหม่ทั้งที ให้ฉันช่วยทำอะไรสักอย่าง ออกแรงสักหน่อย"
"คุณลุงหนิวไม่ต้องหรอกค่ะ แค่คุณลุงขนสินค้ารอบใหญ่ไปได้ก่อนตรุษจีน ฉันซึ้งใจมากแล้วค่ะ แล้วก็คุณลุงจางคะ หวังว่าต่อไปเราจะร่วมงานกันได้อีก เชื่อใจกัน สนับสนุนกันและกันค่ะ"
เซ็นสัญญาครั้งใหญ่แบบนี้ หมี่หลันเยว่อารมณ์ดีเป็พิเศษ
"ร่วมงานกันน่ะร่วมแน่ หลันเยว่ แล้วเื่ส่วนตัวหรือเื่อื่นๆ มีอะไรให้ฉันช่วยได้บ้างไหม ใกล้ตรุษจีนแล้ว ให้ฉันแสดงน้ำใจหน่อย เธอก็เรียกฉันว่าลุง จะว่าไปตามศักดิ์ตามฐานะ ก็ต้องเตรียมของขวัญปีใหม่ให้เธอสิ"
หมี่หลันเยว่ไม่กล้าที่จะรับของขวัญปีใหม่จากคุณลุงหนิว การร่วมงานกันของทั้งสองฝ่าย ทำให้เธอได้กำไรไปมหาศาลแล้ว
"คุณลุงหนิวไม่ต้องจริงๆ ค่ะ ที่บ้านเราก็ไม่ได้ขาดอะไร คุณลุงแค่ขายห้องเสื้อหลันเยว่ของเราให้หมดเกลี้ยงก่อนปีใหม่ นั่นก็เป็ของขวัญตรุษจีนที่ดีที่สุดสำหรับฉันแล้วค่ะ"
แต่หนิวต้าลี่ไม่ได้คิดแบบนั้น เขาอยากจะให้หมี่หลันเยว่เก็บของไว้เป็ที่ระลึกจริงๆ การมารับสินค้าครั้งนี้ ราบรื่นเกินคาด ผลลัพธ์ดีเกินกว่าที่คาดไว้ นี่เป็ความดีความชอบของหนูน้อยคนนี้ล้วนๆ เขายังไงก็ต้องเตรียมของขวัญให้หลันเยว่สักหน่อย เพียงแต่ว่าตอนนี้เขานึกไม่ออกว่าจะเอาอะไรให้ดี
เขารู้สึกเสียใจที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้คิดถึงเื่นี้ ถ้าเตรียมพร้อมจากที่บ้าน ก็จะดูจริงใจกว่านี้ แต่สถานการณ์ตอนนี้ จะเอาอะไรไปให้หมี่หลันเยว่ดี หนิวต้าลี่เริ่มควานหาในกระเป๋าอย่างไม่รู้ตัว จู่ๆ คูปองก็ดึงดูดความสนใจของเขา
"จริงสิ หลันเยว่ ฉันให้ทีวีสีเธอสักเครื่องดีไหม"
หนิวต้าลี่หยิบคูปองออกมาจากกระเป๋า ถือไว้ในมือ นี่เป็ของที่หายาก ตอนนี้ทีวียังไม่แพร่หลาย ไม่ว่าจะซื้อทีวีขาวดำหรือทีวีสี ก็ต้องใช้คูปองถึงจะซื้อได้
ตอนนี้สิ่งที่อยู่ในมือของหนิวต้าลี่คือคูปองทีวีสี นี่เป็ของดีที่เอาไปให้ได้
"ไม่ต้องๆ ค่ะ คุณลุงหนิวจะสิ้นเปลืองไปทำไมคะ"
หมี่หลันเยว่อยากจะเปลี่ยนทีวีสีให้ที่บ้านจริงๆ ที่บ้านมีทีวีขาวดำอยู่เครื่องหนึ่ง ซื้อมาเมื่อสองปีก่อน
พูดถึงทีวีขาวดำเครื่องนี้ ถึงแม้ว่าหมี่หลันเยว่จะไม่ชอบทีวีขาวดำเลยสักนิด เพราะชาติที่แล้วเห็นแต่ทีวี LCD ทีวีจอแบนมาเยอะแล้ว ไม่มีความรู้สึกตื่นเต้นกับทีวีขาวดำเครื่องเล็กๆ นี้เลย แต่ในยุคนี้ นี่คือของฟุ่มเฟือย
ในละแวกบ้าน ตอนนี้มีแค่บ้านตัวเองที่มีทีวีเครื่องเดียว ดังนั้น ทีวีขาวดำที่หมี่หลันเยว่ไม่ค่อยชอบเครื่องนี้ จึงกลายเป็เครื่องอำนวยความสะดวกส่วนกลางของบ้าน ไม่ว่าจะฤดูร้อนหรือฤดูหนาว ในบ้านก็มีแต่คนเยอะแยะ หลายครั้ง คนในครอบครัวหลับไปแล้ว ทีวีเครื่องนั้นก็ยังทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย คอยให้บริการเพื่อนบ้าน
่หน้าร้อนยังดี หวังหย่วนฉิงเอาทีวีวางไว้บนขอบหน้าต่าง หันหน้าจอออกไปข้างนอก พวกเพื่อนบ้านก็พาลูกหลาน ถือเก้าอี้ตัวเล็กๆ มาจากบ้านตัวเอง นั่งล้อมวงดูกันอยู่ในลาน ถึงแม้จะเสียงดังจอแจ แต่ในบ้านก็ไม่มีคนนอก
คนในบ้านตัวเองยังพอจะงีบหลับในห้องได้ โดยมีเสียงรบกวนเป็เพื่อน ไม่ต้องรอจนกว่าผู้ชมทั้งหมดจะกลับไป น่าเสียดายก็แต่ต้นไม้ดอกไม้ครึ่งลาน พ่อที่คอยดูแลต้นไม้ดอกไม้เ่าั้อย่างดี ถูกเหยียบย่ำจนเหมือนไก่ที่ถูกถอนขนไปครึ่งตัว เละเทะไปหมด
่หน้าหนาวก็จะครึกครื้นกว่านี้อีก มีคนสิบยี่สิบคนเบียดเสียดกันอยู่ในห้องโถงใหญ่ บนพื้นและบนเตียงเต็มไปด้วยผู้คน หมี่หลันซิงยังเด็ก อยากจะสนุกสนาน ทุกวันก็จะคลุกคลีอยู่ในห้องโถงใหญ่ ไม่อยากจะไปไหน กลัวจะรบกวนการนอนหลับของน้อง หมี่หลันเยว่กับพี่ชายก็จะพยายามหาวิธีกล่อมให้น้องกลับไปที่ห้องเล็ก
ตัวเธอกับพี่น้องสามคนยังดีหน่อย สามารถขังตัวเองอยู่ในห้องเล็ก หลับไปได้ แต่พ่อแม่จะค่อนข้างลำบาก ต้องอยู่เป็เพื่อนเพื่อนบ้านที่อยู่ข้างๆ จนกว่าจะเห็นคำว่า ‘ลาก่อน’ ในทีวี ถึงจะถือว่าเป็การสิ้นสุดวัน เพื่อนบ้านกลับไปแล้ว ทั้งสองคนก็ต้องทำความสะอาดห้องอย่างง่ายๆ ถึงจะเข้านอนได้ ไม่งั้นในห้องคงดูไม่ได้ เละเทะเกินไป
แต่ถึงอย่างนั้น ั้แ่มีทีวีสีออกมา หมี่หลันเยว่ก็อยากจะเปลี่ยนให้พ่อแม่เครื่องใหม่ ใน่เวลานี้ ทีวีราคาค่อนข้างสมเหตุสมผล แค่สี่ห้าร้อยหยวน หมี่หลันเยว่ก็พอจ่ายได้ แต่เงินสี่ห้าร้อยหยวนนี้ ในครอบครัวธรรมดา ก็ต้องเก็บหอมรอมริบหลายปี
ต้องบอกว่า คูปองทีวีสีในมือของหนิวต้าลี่ ทำให้หมี่หลันเยว่ตาโต เธอถึงได้ยังไม่ได้ซื้อทีวีสีเครื่องนี้ ก็เพราะยังหาคูปองไม่ได้ ่ต้นยุค 80 สินค้าที่จำกัดการซื้อมีเยอะมาก เช่น ทีวีสี เครื่องซักผ้า จักรยาน ต้องใช้คูปองถึงจะซื้อได้ ไม่งั้น ถึงจะมีเงิน ก็ได้แต่มองตาปริบๆ
"หลันเยว่ ตกลงตามนี้ ฉันให้ทีวีสีเธอเครื่องหนึ่ง ถือว่าเป็ของมงคลที่ฉันให้ก่อนตรุษจีน"
หนิวต้าลี่สังเกตเห็นประกายแวววาวในดวงตาของเด็กสาว แม้จะหายไปแค่พริบตา แต่ด้วยสายตาของเขา จะไม่มองผิดอย่างแน่นอน
"ไม่ต้องจริงๆ ค่ะ คุณลุงหนิว ถ้าคุณลุงจะยืนยันที่จะซื้อของแบบนี้ให้ฉัน ความสัมพันธ์ของเราสองฝ่ายก็จะห่างเหินไป ของขวัญชิ้นใหญ่ขนาดนี้ ความสัมพันธ์ของเราจะอึดอัด ถ้าคุณลุงซื้อโบผูกผมสีแดงให้ฉัน ฉันอาจจะยินดีรับมากกว่า"
ท่าทีของหมี่หลันเยว่หนักแน่นจริงๆ เห็นว่าหมี่หลันเยว่ยังคงมีเหตุผลกับของขวัญที่ตัวเองคาดหวัง หนิวต้าลี่ก็ต้องชื่นชมความแน่วแน่ของเด็กสาว เพียงแต่ว่าเขาอยากจะให้ของขวัญหมี่หลันเยว่โดยตรงจริงๆ ไม่คิดว่าเด็กสาวจะดื้อรั้นขนาดนี้ ช่างเข้มแข็งเสียจริง
"อย่างนี้สิ หลันเยว่ เธอยืนกรานปฏิเสธขนาดนี้ ถ้าฉันยังยืนยัน ก็จะดูผิดแปลก แต่คูปองใบนี้ลุงจะให้เธอ เธอจะซื้อทีวีสีมาดูเอง หรือจะให้คนอื่นเป็ของขวัญก็ได้ทั้งนั้น เื่นี้เธอห้ามปฏิเสธแล้วนะ ไม่งั้นฉันจะเสียใจ"
คูปองทีวีสีใบนี้ ก็ถือว่าเป็ของขวัญที่หายากมาก มีหลายครอบครัวที่กำลังจะแต่งงานและ้าใช้ด่วน แต่ไม่มีช่องทางที่จะหาคูปองได้ ก็ต้องเสียเงินหลายสิบหยวน ซื้อจากคนอื่น ดังนั้น ถึงจะเป็แค่คูปอง ก็เป็ของขวัญที่มีค่ามาก
"ในเมื่อคุณลุงหนิวยืนยันขนาดนี้ ฉันก็จะไม่เกรงใจแล้วค่ะ อยากจะเปลี่ยนทีวีสีให้ที่บ้านมานานแล้วค่ะ ตอนนี้ก็ใกล้ตรุษจีนแล้ว ถ้าทำให้พ่อแม่ได้ดูทีวีเครื่องใหม่ ก็คงจะมีความสุขมาก คุณลุงหนิว ของขวัญของคุณลุงมาได้ถูกที่ถูกเวลามาก ขอบคุณคุณลุงค่ะ!"
พอได้ยินว่าหมี่หลันเยว่ยอมรับความ้าที่จะซื้อทีวีสีอย่างเต็มใจ แถมยังขอบคุณคูปองของเขาอย่างจริงใจ หนิวต้าลี่ก็ยิ่งชอบเด็กสาวที่มีหลักการมีขอบเขตคนนี้ น่าเสียดายที่ตอนนี้เธอยังเด็กเกินไป ไม่งั้นรีบจับจองให้ลูกชายที่บ้านแต่เนิ่นๆ ก็คงจะดี
"เธอเนี่ย เกรงใจฉันเกินไป แต่ถ้าเธอ้าคูปองใบนี้ ฉันก็ดีใจแล้ว งั้นเรามาเซ็นสัญญาซื้อขายกันดีกว่า อย่าให้เสียเวลางานของเธอเลย"
หนิวต้าลี่รู้ดีว่าเด็กสาวคนนี้จะให้ความสำคัญกับงานเป็อันดับแรกเสมอ
"คุณลุงหนิวเข้าใจก็ดีค่ะ พี่เถียจู้ ไปเรียกพี่เผิงเฟยมาส่งสินค้าหน่อยค่ะ ให้พี่ชายกับพี่หย่งจิ้นมาช่วยด้วย แบบนี้จะเร็วขึ้น ฉันจะเซ็นสัญญากับคุณลุงเองค่ะ"
หมี่หลันเยว่แบ่งงานอย่างคล่องแคล่ว หนิวเถียจู้ก็รีบไปเรียกคนที่กำลังทำงานอยู่สามคนมา
จางเหรินซ่านที่มองอยู่ข้างๆ เห็นหนิวต้าลี่ใจป้ำจะให้ทีวีสีเด็กสาวคนนี้ เขาก็ถึงกับงงไปเลย แค่ความสัมพันธ์แบบทางธุรกิจ จำเป็ต้องลงทุนขนาดนี้เลยเหรอ แต่พอหมี่หลันเยว่ปฏิเสธของขวัญของหนิวต้าลี่ สมองของเขาก็เหมือนจะเข้าใจอะไรขึ้นมาทันที ที่แท้...นี่ไม่ใช่แค่เื่ธุรกิจ แต่เป็เื่ของความจริงใจและมิตรภาพ
หลังจากส่งหนิวต้าลี่และจางเหรินซ่านไปแล้ว หมี่หลันเยว่ก็เริ่มนำทุกคนทำงานต่อ ตอนนี้เป็่วันหยุด พ่อแม่เริ่มปิดเทอมฤดูหนาวแล้ว พี่ชายก็เลยไม่ต้องกังวลเื่ที่บ้าน คอยช่วยงานอยู่ที่นี่ด้วย ทุกคนทำงานกันอย่างสนุกสนาน
แน่นอนว่าหมี่หลันเยว่ไม่ลืมที่จะสละเวลาไปที่ร้านค้า ซื้อทีวีสีรุ่นใหม่ล่าสุดให้ที่บ้าน ถึงแม้ว่าหมี่หลันเยว่จะยังไม่ชอบทีวีจอใหญ่ๆ แบบนี้ แต่พอทีวีเครื่องนี้ถูกยกกลับบ้าน ก็สร้างความฮือฮาให้กับเพื่อนบ้านในระแวกนั้น บ้านอื่นยังไม่ได้ดูทีวีขาวดำเลย บ้านสกุลหมี่ก็เปลี่ยนเป็ทีวีสีแล้ว
