ย้อนยุคมาเป็นเถ้าแก่เนี้ยสาวชาวสวน กับ ระบบวิเศษ (แปลจบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

      “ดูเหมือนง่าย แต่การหมักดอกท้อชั้นเลิศออกมานั้นยากยิ่งนัก สุราดอกท้อของข้าหมักจากน้ำค้างยามเช้าที่เก็บรวบรวมไว้ รสชาติจึงดีกว่าสุราดอกท้อทั่วไป” ซ่งจื่อเฉินลูบผมของจิ่นเซวียนด้วยความเอ็นดู “หากเหล้าดอกท้อนี้หมักออกมาแล้ว ข้าจะเอามาให้เ๽้าดื่มเป็๲คนแรก”

        “พวกเราใช้น้ำศักดิ์สิทธิ์หมักสุราได้!” น้ำค้างยามเช้าจะให้พลังสูงเท่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร อีกอย่างดอกท้อในมิติก็เบ่งบานตลอดทั้งปี เด็ดออกไปแล้วก็งอกกลับมาใหม่

        พวกเขาจึงสามารถหมักสุราดอกท้อได้มากเท่าที่๻้๵๹๠า๱ เมื่อขายสุราดอกท้อกับเหล้าองุ่นพร้อมกัน เงินตำลึงพวกนั้นก็จะเป็๲ของพวกเขาทั้งหมด

        “เด็กขี้งก เ๯้าคิดอยู่ใช่หรือไม่ว่าต้องขายราคาเท่าใด พวกเราจึงจะมิขาดทุน” ซ่งจื่อเฉินเห็นจิ่นเซวียนลอบยิ้ม เขาก็รู้ทันทีว่านางกำลังคิดเ๹ื่๪๫เงินอยู่

        “ของดีเช่นนี้ต้องได้เงินมากขึ้นแน่ สามี ข้าอยากนับเงินให้แขนเป็๲ตะคริวไปเลย” จิ่นเซวียนเอื้อมมือไปกุมใบหน้าของซ่งจื่อเฉินไว้พร้อมกับยิ้มให้เขา “ข้าเริ่มมิอยากแบ่งเงินให้พวกพี่ใหญ่แล้ว ข้ากลัวว่าหากพวกเขาได้เงินมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วจะมิรู้จักพอ”

        ใจของคนเราโลภมิมีที่สิ้นสุด หากพวกเขามิรู้จักพอ พวกเราคงต้องแตกหักกัน เพราะพวกจิ่นเซวียนจะแยกบ้านและไล่พวกเขาออกไป

        ซ่งจื่อเฉินโอบจิ่นเซวียนเอาไว้ในอ้อมกอดเพื่อให้นางวางใจ เขาคือสามีของนาง เขามิควรปล่อยให้นางต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหานี้

        “สามี บนโลกนี้ ผู้ที่ข้าเชื่อใจที่สุดนอกจากท่าน ก็คือท่านอาเล็กกับท่านอาเขยเล็ก พวกเขารักข้าที่สุด ข้าวางแผนจะดึงท่านอาเขยเล็กมาเข้าร่วมธุรกิจของพวกเราด้วย” จิ่นเซวียนเองก็มีผู้ที่นางห่วงใยเช่นกัน แทนที่จะยกผลประโยชน์ให้พวกพี่ชายของซ่งจื่อเฉิน สู้นำเงินไปช่วยครอบครัวของท่านอาเล็กกับท่านย่าเล็กของนางมิดีกว่าหรือ

        คนบางคนต่อให้ทำดีด้วยเพียงใด พวกเขาก็มิเห็นค่า

        “ครอบครัวของเ๯้าก็คือครอบครัวของข้า ข้าจะดีกับพวกเขาด้วย” จิ่นเซวียนดีกับพวกซย่าชุนอวิ๋น ซ่งจื่อเฉินมิห้าม หากเขามิมีจิ่นเซวียน ร่างกายของเขาก็คงมิฟื้นตัวเช่นนี้ เขาจึงรู้สึกขอบคุณนางตลอดเวลา

        “ภรรยา ข้าขอพูดตามตรง พี่ใหญ่กับพี่สองมิมีหัวทางธุรกิจ พวกเรามิสู้ซื้อพื้นที่ในชนบทสองแห่ง ให้พวกเขาจัดการคนละแห่ง ส่วนรายได้ก็แบ่งให้พวกเราหกส่วน พวกเขาสี่ส่วน ทำเช่นนี้ถือว่ามิผิดต่อพวกเขาแล้ว”

        ซ่งจื่อเฉินเองก็มิอยากให้ซ่งหวากับซ่งเหลียงเข้าร่วมธุรกิจร้านชาดกับโรงกลั่นเหล้าเช่นกัน

        “ที่ท่านพูดล้วนเป็๲ความจริง แต่ข้าพูดไปแล้ว หากจู่ๆ กลับคำขึ้นมา พวกเขาคงคิดว่าข้ามิรักษาสัจจะ” จิ่นเซวียนกังวลเหมือนซ่งจื่อเฉิน นางกังวลว่าซ่งหวากับซ่งเหลียงจะพึ่งพามิได้

        “ภรรยา เอาเช่นนี้ดีหรือไม่ พวกเราเลี้ยงอาเฉวียน อาฝูกับหยวนหยวนให้ดี ส่วนพวกพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ใหญ่ ให้พวกเขาจัดการผลผลิตในที่นา” ซ่งจื่อเฉินคิดอยู่ในใจเนิ่นนาน สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปออกมา

        หลานๆ หลายคนฉลาดเฉลียว ปรับตัวได้ ยิ่งพวกเขาซื่อสัตย์ จิตใจดีและรู้ถูกผิด หากพวกเราเลี้ยงดูสั่งสอนพวกเขาให้ดี ก็มิผิดต่อพวกซ่งหวาแล้ว

        “ภรรยา เ๯้าคิดว่ามิเหมาะสมหรือ?” จิ่นเซวียนครุ่นคิดอยู่นาน ซ่งจื่อเฉินจึงคิดว่านางมิเห็นด้วย

        “อาเฉวียนเป็๲เด็กดีจริงๆ ข้าเห็นด้วยที่จะให้เขาคลุกคลีอยู่กับข้า แต่ข้ามิอาจลำเอียงได้ เพราะอาฝูเองก็อยากตามมาทำธุรกิจด้วยกัน ถึงเวลานั้นข้าจะให้กำไรเด็กๆ ทั้งสามคนร้อยละห้าจากกำไรทั้งหมด มิว่าจะเปิดร้านชาดหรือร้านสุรา สัญญาร้อยละห้าถือว่ามิน้อยเลย”

        “เช่นนั้นที่เหลืออีกร้อยละเจ็ดสิบห้า เ๯้าจะแบ่งอย่างไร?” ซ่งจื่อเฉินอยากฟังความเห็นของจิ่นเซวียน

        “อีกร้อยละเจ็ดสิบห้าต้องมีส่วนแบ่งของท่านอาเล็ก ส่วนครอบครัวของท่านย่าเล็กนั้น พวกเขามิเก่งด้านธุรกิจ ข้าจึงวางแผนจะยกแปลงเพาะดอกไม้ให้พวกเขาดูแล พวกเขาจะได้มีส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจโรงกลั่นเหล้า นอกจากท่านอาเขยเล็ก ข้าก็มิอยากให้ผู้อื่นเข้าร่วมแล้ว เมื่อพวกเราเปิดโรงกลั่นเหล้ากับร้านชาดแล้ว ค่อยมาดูกันอีกทีหนึ่งว่ามีหนทางทำเงินอื่นอีกหรือไม่”

        “คืนนี้ดึกมากแล้ว พวกเราไปนอนกันก่อนเถิด” ซ่งจื่อเฉินมิอยากทำงานต่อแล้ว เขาเพิ่งแต่งงานก็ยุ่งอยู่กับการหาเงิน และเงินพวกนี้ก็มิได้หาได้ภายในวันเดียวเสียด้วย

        .......

        “สามี พวกเรานอนในมิติกันเถิด ตื่นเช้ามาพวกเราจะได้ฝึกกระบี่ด้วยกัน” จิ่นเซวียนเรียกซ่งจื่อเฉินให้เข้าไปนอนในตำหนักกับนาง ซ่งจื่อเฉินรู้สึกหดหู่เล็กน้อย คืนนี้เขาจะต้องนอนห้องด้านข้างอีกแล้วหรือ?

        “ภรรยา ห้องด้านข้างเหงายิ่งนัก ข้าอยากนอนกับเ๽้า” ซ่งจื่อเฉินมองจิ่นเซวียนอย่างน่าสงสาร เขาหวังว่าจิ่นเซวียนจะยอมให้เขาเข้าไปนอนในห้องนอนด้วย

        “ท่านมิได้สัญญากับข้าหรือ ว่าจะรอร่วมหอตอนที่ข้าโตแล้ว?” จิ่นเซวียนมองซ่งจื่อเฉินด้วยรอยยิ้มไปถึงดวงตา นางรู้สึกว่าดวงตาของซ่งจื่อเฉินงดงามยิ่งนัก งดงามจนนางเกือบจะโดนดูดเข้าไปในนั้น

        “ภรรยา กว่าพวกเราจะได้อยู่เคียงข้างกันมิง่ายเลย”

        “ข้าอนุญาตให้ท่านนอนพื้น” จิ่นเซวียนเข้าใจความหมายของซ่งจื่อเฉิน ความจริงแล้วนางรู้สึกกลัวเล็กน้อยถึงได้มิกล้าให้เขาเข้ามานอนด้วย

        “ขอบคุณฮูหยิน” ซ่งจื่อเฉินตอบตกลงทันที เมื่อได้ยินว่าจิ่นเซวียนยอมให้เขานอนพื้นในห้องของนาง จากนอนข้างห้องเปลี่ยนมานอนพื้น ถือว่าเขาเข้าใกล้นางมากขึ้นแล้ว

        จากนั้นมินาน ซ่งจื่อเฉินก็กอดผ้าห่มเข้ามาในห้องนอนหลัก เขาปูผ้านอนข้างเตียงของจิ่นเซวียน

        ทั้งที่จิ่นเซวียนนอนอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ มีผ้าม่านสีชมพูพลิ้วไหว นางกลับนอนมิหลับ

        “ภรรยา เ๯้าหลับหรือยัง?” ซ่งจื่อเฉินพลิกตัวลุกขึ้นมานั่งข้างเตียง และจ้องมองจิ่นเซวียนเหมือนหมาป่าเ๯้าเล่ห์ 

        จิ่นเซวียนตะแคงข้าง ลืมตามองซ่งจื่อเฉิน “หากท่านมิยอมนอนดีๆ ก็กลับไปนอนห้องข้างๆ เลย”

        “ข้าเกรงว่าเ๯้าจะนอนมิหลับ จึงอยากคุยเป็๞เพื่อนเ๯้า

        “ข้ออ้างท่านเยอะเสียจริง”

        “ภรรยา พื้นแข็งยิ่งนัก มิเหมาะให้ข้านอนเลย” ซ่งจื่อเฉินมิอยากนอนบนพื้นแล้ว เขาปีนขึ้นเตียงและเบียดจิ่นเซวียนไปด้านข้าง

        “ท่านทับข้าอยู่ ลุกขึ้นเร็วเข้า” จิ่นเซวียนถูกร่างของซ่งจื่อเฉินทับอยู่ นางรู้สึกว่าตัวเขาหนักยิ่งนัก

        “หรือเ๯้าจะทับข้าแทน” ซ่งจื่อเฉินก้มตัวลงจูบหน้าผากของจิ่นเซวียนด้วยท่าทางเ๯้าเล่ห์ “คืนนี้......”

        “ไปให้พ้นเลย.......” จิ่นเซวียนโอดครวญพลางผลักซ่งจื่อเฉินออก แต่ซ่งจื่อเฉินถอดชุดคลุมตัวนอกออกและพุ่งเข้าไปหาจิ่นเซวียนทันที “ภรรยา พวกเรามาทำคืนนี้ให้เร่าร้อนไปด้วยกันเถิด”

        ไอหมอนี่คิดมิซื่อกับนางขึ้นเรื่อยๆ นางยังมิทันได้เตรียมตัวร่วมหอกับเขาเลย!

        “สามี ท่านก่อไฟเอง ท่านก็ต้องเป็๲ผู้ดับเอง” จิ่นเซวียนยันตัวขึ้นจากเตียงด้วยรอยยิ้ม

        “ภรรยา หากข้าทนมิไหวขึ้นมา เ๯้าจะทำอย่างไร?” เสียงของซ่งจื่อเฉินน่าฟัง เขายื่นมือใหญ่ออกมา ดึงนางให้ล้มลงเหนือร่าง ความจริงแล้วจิ่นเซวียนทั้งสงสัยและหวาดกลัวกับเ๹ื่๪๫นี้ แม้นางจะมีความคิดแบบคนยุคใหม่ ทว่าในเ๹ื่๪๫ความสัมพันธ์นั้น นางหัวโบราณยิ่งนัก

        “ข้า......” จิ่นเซวียนถูกซ่งจื่อเฉินปิดผนึกริมฝีปากเมื่อจะเอ่ยปากพูด ร่างกายของพวกนางอิงแอบแนบชิดกัน ดอกท้อนอกหน้าต่างบานสะพรั่ง ทัศนียภาพวสันตฤดูในห้องพร่างพราวไร้ที่สิ้นสุด

        จิ่นเซวียนห้ามใจมิอยู่ นางปล่อยร่างกายตามการชักนำของซ่งจื่อเฉิน ชดเชยคืนเข้าหอของพวกเขา

        หลังผ่านการร่วมรัก จิ่นเซวียนอยากไปอาบน้ำ นางรู้สึกว่าบนเตียงเหนอะหนะ ทำให้รู้สึกมิสบายตัวนัก

        “ท่านอย่าหันหน้ามานะ ข้าจะใส่เสื้อผ้า” จิ่นเซวียนมิอยากให้ซ่งจื่อเฉินเห็นเรือนร่างอันเปลือยเปล่าของนาง จึงดันให้เขาหันไปทางอื่น

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้