เขากับไป๋จิ่งเป็เพื่อนเล่นกันมาั้แ่เด็ก แต่ทั้งคู่ก็ไม่ใช่คนดีเด่อะไร ต่างคนต่างแยกกันไปมีคนใหม่นับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ไม่เคยเลิกรากันจริงๆ
ตระกูลไป๋กับตระกูลเจี่ยนเป็เพื่อนสนิทกันมาหลายชั่วอายุคน ดาราชั้นนำของประเทศครึ่งหนึ่งเป็ศิลปินในสังกัดบริษัทบันเทิงของพ่อไป๋ ส่วนการโปรโมทบริษัทบันเทิงของตระกูลไป๋ส่วนใหญ่ดำเนินการผ่านบริษัทสื่อออนไลน์ของตระกูลเจี่ยน แม้กระทั่งสตรีมเมอร์ชื่อดังหลายคนที่อยู่ในอัลดัสก็ยังได้รับสิทธิพิเศษมาเป็เด็กฝึกหัดในบริษัทของตระกูลไป๋ เนื่องด้วยทั้งสองตระกูลมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ซับซ้อน หากทั้งสองคนเลิกรากัน ก็จะก่อให้เกิดประเด็นมากมาย และอาจส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นได้
แต่ไม่ใช่แค่นั้น เจี่ยนซีเมิ่งคิดว่าตนเองน่าจะชอบไป๋ไป๋ ไป๋จิ่งตรงสเปคของเขาทุกอย่าง ผิวขาวสวย ขาเรียวยาว เื่บนเตียงก็เร่าร้อน เอาใจเก่ง มีลูกเล่นแพรวพราว เขาไม่มีเหตุผลที่จะไม่ชอบเธอเลย
แม้ว่าทั้งสองคนจะต่างคนต่างไปมีคนใหม่ แต่เขาคิดว่าหากได้แต่งงานกันจริงๆ เขาก็ยินดีที่จะเลิกเ้าชู้เพื่อไป๋จิ่ง... ใครจะรู้ว่าไป๋จิ่งจะตอบกลับมาว่า “อย่าเลย! ถ้าคุณไม่หาความสนุกแล้ว แล้วฉันหาความสนุกต่อได้ยังไง?”
ยังไม่ทันที่เขาจะได้ตอบโต้ ไป๋ไป๋ตัวดีก็ยิ้มหวานแล้วพูดกับเขาว่า “รู้ไหม ผู้ชายรวยหาง่ายจะตายไป แต่ผู้ชายรวยที่ร้อนแรงแถมไม่ว่าอะไรฉันแบบคุณ หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว! ฉันไม่อยากเป็แม่บ้านเลี้ยงลูกแบบโอเมก้าคนอื่นๆ หรอก พวกเราสองคนเหมาะสมกันที่สุด!”
'…เหมาะสมกันเหรอ…' เจี่ยนซีเมิ่งคิดอย่างฉงน
คำพูดของไป๋จิ่งทำให้เขาสับสน แต่เมื่อนึกถึงภาพที่แม่ของเขาจำต้องยอมอดทนอดกลั้นกับการที่พ่อของตนเองออกไปเที่ยวสำมะเลเทเมา เขาก็เริ่มเข้าใจ และรู้สึกขมขื่นขึ้นมาเล็กน้อย ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ยอมแพ้
ชีวิตก็เป็แบบนี้ไม่ใช่หรือไง เขาได้ไพ่ดีมาถืออยู่ในมือแล้ว ฐานะทางบ้านที่ดี หน้าตาที่หล่อเหลา ธุรกิจที่กำลังรุ่งเรือง และยังมีคู่ครองที่สวยและใจกว้าง จะมีอัลฟ่าสักกี่คนที่เป็ได้อย่างเขา
เขาปลอบใจตัวเองไปแบบนั้น แต่ข้างในยังคงมีความโกรธและความหงุดหงิดที่ไม่อาจบรรยายได้
โทรศัพท์ในอ้อมแขนดังขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็สายจากเลขาเฉิง
“ท่านประธานเจี่ยนครับ เขามาถึงแล้วครับ”
“ดี พาขึ้นมาเลย” เจี่ยนซีเมิ่งพูดด้วยน้ำเสียงแ่เบา หลังจากตัดสายไปแล้ว จึงเดินกลับไปยังโต๊ะอาหารอย่างช้าๆ
เขามองไปยังหอคอยทะเลสามชั้น ใช้ตะเกียบเขี่ยปูทาระบะที่อยู่ชั้นบนสุด กลิ่นหอมเป็เอกลักษณ์ของอาหารทะเลโชยออกมา เขาที่ปากขมเพราะกินยาจีนเข้าไป ถึงกับรู้สึกอยากอาหาร เขาเลิกคิ้วขึ้น แล้วตักน้ำซุปด้วยช้อนกระเบื้องเคลือบสีขาวมาจิบเบาๆ
หอคอยทะเลหม้อนี้ราคาแพง สมควรที่จะทำให้ลิ้นของเขาได้ััถึงความสดชื่น แต่เขากลับกินอะไรก็ไม่อร่อย จึงขว้างช้อนกระเบื้องลงบนโต๊ะด้วยความหงุดหงิด
'ให้ตายเถอะ ปูทาระบะอะไรกัน! ไม่มีรสชาติอะไรเลย!'
ไม่รู้ว่าเป็เพราะยาจีนหรืออาหารทะเล ่หลายวันมานี้เจี่ยนซีเมิ่งถึงรู้สึกร้อนรุ่มไปหมด จึงปลดกระดุมเสื้อออกด้วยความหงุดหงิด แล้วพับแขนเสื้อขึ้น
ในขณะนั้นเอง เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆ จากด้านนอก แต่เขาี้เีที่จะหันกลับไป จึงตอบอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “เข้ามา”
เมื่อประตูไม้หนักอึ้งถูกเปิดออก กลิ่นหอมฉุนกึกโชยมาปะทะจมูกของเว่ยเจียอย่างจัง ทำให้ััที่แสนธรรมดาของเว่ยเจีย ต้องชะงักไปล็กน้อย ภาพที่ปรากฏแก่สายตาคือห้องส่วนตัวสไตล์โบราณ พื้นที่ไม่ใหญ่แต่ตกแต่งอย่างหรูหรา เหนือโต๊ะอาหารคือโคมระย้าคริสตัลละเอียดลออ ทว่ารอบด้านกลับเป็หน้าต่างลายฉลุไม้จันทน์แดง ลึกเข้าไปด้านในคือฉากกั้นลายดอกไม้และนก บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารที่ปรุงแต่งอย่างประณีต ทว่ากลับไร้เงาผู้คน
"ท่านประธานเจี่ยนครับ คุณเว่ยมาถึงแล้ว" เลขานุการหนุ่มที่นำทางเขามาเอ่ยเสียงทุ้มต่ำภายในห้อง
เว่ยเจียมองตามสายตาของอีกฝ่าย จึงพบว่ามีคนยืนอยู่ตรงส่วนลึกสุดของห้อง ทว่าอีกฝ่ายโดนเงามืดกลบทับจนมองเห็นใบหน้าไม่ชัดเจน
"อืม" คนในเงามืดขานรับในลำคอ เลขานุการได้รับคำสั่งจึงผายมือให้เว่ยเจียบอกเป็สัญลักษณ์ให้ "เข้าไป" จากนั้นก็โค้งคำนับอย่างนอบน้อมแล้วหันหลังกลับ พร้อมปิดประตูห้องลง
เมื่อประตูปิดสนิท เว่ยเจียกลับทำตัวไม่ถูก เขาโทรศัพท์ตามเบอร์ที่ปรากฏในข้อความ ปลายสายบอกเขาว่าท่านประธานเจี่ยนผู้บริหารแพลตฟอร์มไลฟ์สด้าพบเขา และกำชับว่าการพบกันครั้งนี้ต้องเป็ความลับอย่างที่สุด เว่ยเจียตอบตกลงโดยง่าย เพราะนี่ไม่ใช่การซื้อขายที่เปิดเผยได้
ก่อนมาตามนัด เขาเตรียมใจมาเป็อย่างดี หากข้อเสนอของอีกฝ่ายสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของเขาได้ จะให้เขาทำอะไรเขาก็ยอม
'ใช่แล้ว ฉันทำได้เพื่อเสี่ยวถิง... ยิ่งไปกว่านั้น อีกฝ่ายก็้าให้เก็บเป็ความลับ เมื่อเื่จบลงจะไม่มีใครรู้เื่นี้...'
เว่ยเจียปลอบใจตัวเองให้คลายกังวล ทว่ายังคงกำชายกางเกงแน่น เขาจับจ้องเงาร่างในเงามืดไม่วางตา เมื่อเห็นว่าเขาแสดงท่าทีระแวดระวัง เงาร่างนั้นก็ก้าวเข้ามาหาเขา เมื่อคนผู้นั้นมายืนอยู่ใต้โคมไฟระย้า เว่ยเจียก็อดทึ่งไม่ได้ ก่อนมาตามนัด เขาได้วาดภาพสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดไว้ในใจแล้ว คิดว่าจะได้พบชายแก่พุงพลุ้ยหน้ามัน ทว่ากลับเป็ใบหน้าที่งดงามที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมาในชีวิต
ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ดวงตาหงส์ที่คล้ายยิ้มก็มิใช่ เรียบเฉยก็ไม่เชิงกำลังมองเขาอย่างตรงไปตรงมา ดวงตาสีดำลุ่มลึกสะท้อนแสงระยิบระยับของโคมไฟ เมื่อเห็นเขายืนแข็งทื่อ ริมฝีปากแดงรูปทรงสวยของท่านประธานเจี่ยนก็แต้มรอยยิ้มร้ายกาจ พลางกระดิกนิ้วเรียกเขา
"ถอดหน้ากากออก" เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าเสียดสีแก้วหูของเว่ยเจียจนคันยิบ แม้แต่เสียงก็ยังเปี่ยมไปด้วยฟีโรโมน
เขารู้ว่าคนตรงหน้าคืออัลฟ่าระดับสูง ส่วนเขาเป็เพียงเบต้า ตามหลักแล้วควรจะไม่ได้รับผลกระทบ ทว่าถึงแม้จะไม่ได้กลิ่นฟีโรโมนชั้นเลิศของอีกฝ่าย เขาก็ถูกกดดันด้วยออร่าที่น่าหลงใหลจนน่าใอยู่ดี เขารวบรวมสติ ควบคุมนิ้วมือไม่ให้สั่นเทา แล้วค่อยๆ ถอดหน้ากากออก
เมื่อเห็นใบหน้าของเขา ชายหนุ่มรูปงามกลับเปล่งเสียง "เฮอะ" ออกมาอย่างไม่ไว้หน้า "ตัวจริงนายธรรมดามาก ไม่เห็นหล่อเหลาเท่ารูปที่ใส่หน้ากากในแพลตฟอร์มเลย"
คำพูดที่ไม่ไว้หน้าของอีกฝ่ายทำให้ความรู้สึกดีๆ ที่เว่ยเจียมีให้เขาในตอนแรกมลายหายไป เขารู้ตัวดีว่าหน้าตาไม่ได้โดดเด่นอะไร อย่างมากก็แค่ดูดีสมส่วน ทว่าเสียง "เฮอะ" นั่นมันเสียมารยาทเกินไปแล้ว!
เว่ยเจียรู้สึกขุ่นเคือง ทว่าอีกฝ่ายคือเ้าของเงินของเขา อีกทั้งยังเป็เ้าของแพลตฟอร์ม ต่อให้ไม่พอใจแค่ไหนก็ต้องอดทนไว้ เขาจึงกำหมัดแน่นเพื่อระงับอารมณ์ฉุนเฉียว แล้วเอ่ยเสียงแข็ง "ขอโทษที่ทำให้ท่านผิดหวัง"
เมื่อเห็นเขาว่าง่าย เ้านายผู้มั่งคั่งรูปงามกลับหัวเราะคิกคักชอบใจ เขาเอามือสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกง แล้วนั่งลงบนโต๊ะอาหาร
"นายรู้จักสงบสติอารมณ์ได้ดี ไม่เลว"
เว่ยเจียไม่ได้พูดอะไรกับคำชมที่ฟังดูประหลาดของเ้านายผู้มั่งคั่ง ค่อยๆ คลายกำปั้น ทว่ายังคงก้มหน้างุดอยู่เหมือนดิม ในตอนนั้นเอง ชายหนุ่มรูปงามก็เลิกคิ้วขึ้น สายตาคมกริบไล่สำรวจเขาั้แ่หัวจรดเท้า เว่ยเจียถูกสายตาที่ราวกับกำลังล่าเหยื่ออันน่าหวาดหวั่นคู่นั้นมองจนรู้สึกขนลุกซู่ ชายหนุ่มจึงค่อยๆ เบนสายตากลับไป พลางขมวดคิ้วแล้วยิ้มออกมา "ถอดเสื้อผ้า"
"อะไรนะครับ?" เว่ยเจียสงสัยว่าตนเองหูฝาด จึงได้แต่ถามย้อนกลับไปอย่างงงงัน
"ถอดเสื้อผ้า" เ้านายรูปงามเอ่ยชัดถ้อยชัดคำ ราวกับไม่รู้สึกว่าคำสั่งนี้มีอะไรแปลกประหลาด ทั้งยังยกค็อกเทลขึ้นจิบอย่างไม่รีบร้อน หยิบเชอร์รีในแก้วขึ้นมาเคี้ยวอย่างสง่างาม
เว่ยเจียเตรียมใจมาพร้อมแล้ว ทว่าไม่นึกว่าจะเร็วขนาดนี้ เขาตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ ข่มใจให้ทำตามคำสั่ง ทว่านิ้วมือกลับสั่นเทาอย่างอดไม่ได้
เมื่อเห็นเขาลีลา ท่านประธานเจี่ยนก็ไม่ได้บีบบังคับ เพียงแต่แลบลิ้นแดงยาวออกมา เล่นกับเชอร์รีบนปลายลิ้นอย่างเชื่องช้า "ถอดเสื้อผ้า หรือหันหลังกลับแล้วเดินออกไป เลือกเอาเอง"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้