ปฐมบท
“อ๊า ท่านไคม์…”
“อ๊ะ วิเศษสุดๆ เลยค่ะ
ลมหายใจอุ่นๆ กระทบหน้าอก เสียงอันอ่อนหวานปานน้ำผึ้งจั๊กจี้แก้วหู เสียงที่เปี่ยมไปด้วยความรักอันลึกซึ้งผ่านเข้าไปในหู ทำเอาหัวใจแทบละลาย
(ให้ตายสิ… ที่ฉันหวังไม่ใช่เื่แบบนี้หรอกนะ…)
ชายหนุ่มผู้นี้— ไคม์รู้สึกถึงความหนักของร่างกายทั้งนุ่มและอุ่นกดทับตัวเขา แอบถอนหายใจอยู่ในใจ
ไคม์อยู่บนเตียงคิงไซซ์ขนาดใหญ่ นอนได้เกินสิบคน นอกจากไคม์แล้ว ก็มีผู้หญิงหลายคนอยู่บนเตียงด้วย พวกเธอสวมชุดชั้นในกับเสื้อคลุมเนื้อบาง ส่งสายตาสุดยั่วยวน ในดวงตาหวานเยิ้มเ่าั้มีแต่ไคม์เพียงผู้เดียว
ไคม์ถูกหน้าอกเบียดอัดเข้ามารอบทิศ ขาเรียวยาวเคลื่อนเข้ามาเกี่ยวกระหวัดไคม์ เสียงขย่มเตียงดังเอี๊ยดอ๊าดพร้อมกับเสียงครางอันเย้ายวนของเหล่าหญิงสาว
เหล่าหญิงสาวที่ร่ายล้อมไคม์นั้นล้วนแต่เป็หญิงงามไม่มีใครเทียบเทียม พวงแก้มมีสีกลีบกุหลาบราวกับต้องพิษอันหอมหวาน พวกเธอต่างกระหายในตัวไคม์
(ก็คงโดน ‘พิษ’ เล่นงานอยู่จริงๆ นั่นแหละ… เ้าพวกนี้นะ)
ไคม์ลูบไล้ผิวนวลเนียน นวดคลึงเต้านมและบั้นท้ายกลมกลึงพร้อมกับแค่นหัวเราะ หญิงสาวที่นี่ทุกคนล้วนตกเป็ทาสของไคม์ พิษอันหอมหวานแพร่กระจายไปทั่วทุกอณูของร่างกาย ทำให้พวกเธอสำแดงธาตุแท้ออกมาแล้วโหยหาไคม์
(เราคงต้องรับผิดชอบสินะ ก็เพราะสนิม… ไม่สิ ‘พิษ’ ที่ขับออกจากร่างกายเราเป็ต้นเหตุอะเนอะ)
“ท่านไคม์… ได้โปรด ได้โปรดเมตตาดิฉันด้วยค่ะ… เอาอีกค่ะ เอาอีก…!”
หญิงสาวคนหนึ่งถอดชุดชั้นในเปียกชุ่มทิ้ง ราวกับบอกเป็นัยว่าเธอทนต่อไปไม่ไหวแล้ว หญิงสาวคนอื่นเห็นเช่นนั้นก็ทำตาม เปลือยกายไล่ไปทีละคน
“ก็ได้…เข้ามาสิ เดี๋ยวฉันจะเป็คู่ซ้อมให้ทุกคนพร้อมกันเลย”
ไคม์โอบกอดหญิงงามคนหนึ่งแล้วขโมยจูบ ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าหญิงสาวคนอื่นๆ กอดรัดแขนขา เขานึกย้อนกลับไปถึงเื่ราวความเป็มาจนมาถึงจุดนี้
เื่ราวต่อจากนี้คือต้นกำเนิดของาาองค์หนึ่ง เป็วีรกรรมของมารมนุษย์ผู้แข็งแกร่งที่สุด ซึ่งในยุคหลังเขาถูกขนานนามว่าเป็ ‘าาผู้ทรงธรรม’ บ้างก็ว่าเป็ ‘ทรราช’…บ้างก็ว่าเป็ ‘จอมมาร’
นี่คือเื่ราวการผจญภัยและการต่อสู้ของชายผู้ถูกเรียกว่า ‘าาแห่งพิษ’
ตอน เด็กต้องสาป
ย้อนกลับไปเมื่อสิบสามปีก่อนซึ่งเป็จุดเริ่มต้นของเื่ราวทั้งหมด
ณ ราชอาณาจักรเจด ประเทศเล็กๆ — ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางทวีป ที่ที่เื่ราวกำลังจะได้เปิดม่าน
“แฮก…แฮก…แฮก…”
หญิงคนหนึ่งนอนหอบถี่บนเตียง เธออายุราว 20 ต้นๆ แก้มซูบตอบ ร่างกายชุ่มเหงื่อ เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังป่วยเป็โรคอะไรบางอย่าง มิหนำซ้ำอาการของโรคเข้าสู่ระยะอันตรายแล้ว ใครเห็นสภาพเธอก็คงบอกว่าเธอคงอยู่ได้อีกไม่นาน
“ซาช่า…”
ชายที่อยู่ข้างเตียงโน้มตัวลงไป เขาเรียกหญิงสาวพร้อมทำสีหน้าอมทุกข์ แต่ไม่มีเสียงตอบกลับ… หากเสียงเรียกจากชายผู้นั้นสามารถส่งไปถึงหญิงสาวที่ชื่อว่า “ซาช่า” ได้ก็คงจะเป็ปาฏิหาริย์
ทั้งสองคนเป็สามีภรรยากัน และไม่ใช่คู่สามีภรรยาธรรมดา พวกเขาทั้งสองคือวีรบุรุษ เป็ผู้กอบกู้โลกที่ช่วยเหลือเหล่าผู้คนให้รอดพ้นจากภัยพิบัติครั้งใหญ่
เมื่อหนึ่งปีก่อน ราชอาณาจักรเจดเกิดภัยพิบัติที่เรียกว่า ‘ราชินีแห่งพิษ’ สัตว์ประหลาดที่ถูกจัดอยู่ใน ‘ระดับจอมมาร’ รุกรานตอนเหนือของราชอาณาจักรจนล่มสลาย หมู่บ้านทั้งหลายต่างถูกทำลาย พวกมันสร้างความเสียหายนับไม่ถ้วน
ผู้ที่ปราบสัตว์ประหลาดแห่งภัยพิบัติคือหญิงสาวที่นอนหลับอยู่บนเตียง และชายผู้เฝ้าดูแลอยู่เคียงข้างหญิงสาวคือ— ซาซ่า ฮัลส์เบิร์ก จอมเวทมือฉมังเ้าของฉายา ‘นักปราชญ์’ ส่วนชายหนุ่มคือ— เควิน ฮัลส์เบิร์ก จอมยุทธ์ผู้ได้ชื่อว่า ‘ปรมาจารย์หมัด’
‘ราชินี’ ถูกปราบโดยกองทัพที่มีคู่สามีภรรยาเป็ผู้บัญชาการ ทั้งสองได้คืนความสงบสุขให้กับราชอาณาจักร
ทว่า…สิ่งที่ต้องแลกมาก็คือ ซาซ่าถูก ‘ราชินี’ ร่ายคำสาปใส่ก่อนถูกปราบ ทำให้ป่วยเป็โรคที่รักษาไม่หาย
ตอนนี้ซาซ่ากำลังเข้าใกล้ความตายทุกที แม้บรรดาแพทย์ เภสัชกร และนักเวทหลวงจำนวนมากจะรวมตัวกันเพื่อช่วยชีวิตวีรบุรุษผู้กอบกู้ประเทศ แต่ก็หาทางรักษาไม่ได้
“แฮก… แฮก…”
“ซาช่า… ทำไมถึงเป็แบบนี้…ทำไม…ทำไมเธอถึงต้องเจอกับเื่แบบนี้ด้วย…! พระผู้เป็เ้า พวกเราทำกรรมอะไรไว้…! ”
เควินสิ้นหวังกับความไร้น้ำยาของตนเอง เขาทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากเพ่งมองภรรยาที่กำลังทุกข์ทรมาน
เควินคือจอมยุทธ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในราชอาณาจักร และเป็ ‘ปรมาจารย์หมัด’ ซึ่งสามารถฆ่าัด้วยมือเปล่า แต่เขาผู้นั้นไม่อาจช่วยชีวิตหญิงสาวผู้เป็ที่รักซึ่งล้มป่วยจากคำสาป
ถ้ารู้ว่าจะเป็แบบนี้ ปล่อย ‘ราชินีแห่งพิษ’ อาละวาดไปเสียก็ดี ถึงประเทศจะล่มสลาย แต่ถ้าไม่ยุ่งเกี่ยวหนีเอาตัวรอดก็คงจะดี ความคิดไม่สมกับเป็วีรบุรุษผุดขึ้นในหัวเขา
“ซาช่า… ขอร้องล่ะ อย่าเพิ่งตายนะ อย่าทิ้งฉันไปนะ…”
“ขออนุญาตครับ นายท่าน”
เควินร้องคร่ำครวญด้วยความเศร้าพลันได้ยินเสียงเคาะประตู พอเควินนิ่งเงียบไม่ตอบกลับ พ่อบ้านที่ทำงานในคฤหาสน์ก็เปิดประตูเข้ามา
พ่อบ้านวัยกลางคนมองคู่สามีภรรยาด้วยความปวดใจ แล้วเรียกเควินด้วยวาจาสุภาพ
“นายท่าน มีแพทย์มาขอพบอยู่ที่หน้าคฤหาสน์ครับ อนุญาตให้เขาเข้ามาไหมครับ ”
“…”
เควินกัดกรามดังกร้วม แพทย์หลายต่อหลายคนที่ได้เข้ามาตรวจอาการภรรยาต่างก็หมดทางเยียวยาทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ยังไงเสียครั้งนี้ก็คงทำอะไรไม่ได้อยู่ดี
“...ได้สิ ให้เขาเข้ามา ”
ทว่าเขาจะไล่ตะเพิดคนที่มาช่วยซาช่าไม่ได้ บางทีคนที่มาอาจจะเป็แพทย์ที่องค์าาส่งตัวมาเป็การขอบคุณที่เราปราบ ‘ราชินีแห่งพิษ’ ให้ก็ได้ มีข่าวลือว่าเขาจะได้รับตำแหน่งขุนนางจากการปราบ ‘จอมมาร’ ด้วย คงไม่ใช่เื่ที่เป็ไปไม่ได้
เควินบอกอนุญาต พ่อบ้านขานตอบว่า “เข้าใจแล้วครับ” แล้วเดินหายไปยังโถงทางเดิน…ในเวลาต่อมา คนคนหนึ่งเข้ามาในห้องนอน
“ไง เควิน ไม่ได้เจอกันนานเลย ยังจำฉันได้ไหม”
“เธอคือ…!? ”
หญิงสาวร่างสูงเดินยกมือทักทายอย่างเป็กันเองเข้ามาในห้อง รูปลักษณ์ภายนอกเป็หญิงอายุราว 20 ต้นๆ ชุดสูทสำหรับบุรุษคลุมทับด้วยเสื้อกาวน์เหมือนกับเป็ผ้าคลุม
เควินรู้ว่าเธอเป็ใคร เขาเคยเรียกเธอว่าเพื่อน แต่ตอนนี้ตัดความสัมพันธ์กันไปแล้ว
“แก…มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!? ดอกเตอร์เฟาสท์!”
“เฮอะ! นึกไม่ถึงว่าจะทักทายด้วยการตะคอกใส่กันแบบนี้ แต่ก็ดีแล้วที่ยังสบายดีอยู่”
หญิงสาวสวมเสื้อกาวน์—ถูกเรียกด้วยน้ำเสียงแดกดัน ริมฝีปากสีแดงฉ่ำของเฟาสท์หยักยิ้มเป็รูปพระจันทร์เสี้ยว
ดอกเตอร์เฟาสท์ ผู้คนและประเทศต่างๆ ให้ค่าเธอแตกต่างกันไป
ในแง่บวก…เธอได้รับคำสรรเสริญว่าเป็ผู้คิดค้นยารักษาโรคร้ายได้ เป็ผู้สะกดปีศาจที่ถล่มประเทศหนึ่งจนเกือบล่มสลายได้ เป็ผู้หยุดยั้งการอาละวาดของเหล่าสัตว์อสูรได้ด้วยตัวคนเดียว
ผู้คนที่ยกย่องเฟาสท์ต่างพูดว่าเธอเป็ “ผู้หญิงที่แสนวิเศษและสูงส่งราวกับนางฟ้า”
ในแง่ลบ…เธอถูกเหยียดหยามในฐานะแพทย์ที่ใช้คนเป็หนูทดลองในการคิดค้นยาจนทำให้คนหลายร้อยคนต้องจบชีวิต ใช้คนทั้งหมู่บ้านเป็เครื่องสังเวยให้กับเวท ดัดแปลงร่างกายของผู้ที่ถูกเรียกว่ากึ่งมนุษย์จนกำเนิดเป็อาวุธชีวภาพ
ผู้คนที่เป็ปรปักษ์กับเฟาสท์ต่างดูแคลนเธอว่าเป็ “หญิงน่ากลัว จิตใจเหี้ยมโหดดั่งมารร้าย”
เควินและซาช่าเคยเรียกเฟาสท์ว่าเป็เพื่อน และเคยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แต่พวกเขาให้อภัยการกระทำวิปริตของเธอไม่ได้ และตัดเพื่อนกับเธอไปแล้ว
ถึงอย่างนั้น…ทำไม ทำไมเฟาสท์ถึงมาปรากฏตัวต่อหน้าสามีภรรยาเอาป่านนี้
“‘ทำไม’ น่ะเหรอ อย่าพูดจาเ็าแบบนั้นสิ ฉันไม่ได้ไร้หัวใจขนาดจะเมินเพื่อนเก่าที่กำลังตกที่นั่งลำบากได้ลงคอหรอกนะรู้ไหม พอได้ข่าวว่าซาช่าถูก ‘ราชินีแห่งพิษ’ สาป ฉันก็รีบมาที่นี่เลยนะ”
“กล้าพูดออกมาได้…! นี่แกลืมไปแล้วเหรอว่าเมื่อห้าปีที่แล้ว แกทำอะไรกับคนในหมู่บ้านนั้นไปน่ะ!?”
“แน่นอน ฉันจำได้อยู่แล้ว การไม่ลืมผู้คนที่เสียสละให้กับการทดลองน่ะ เป็จรรยาบรรณของนักวิจัยนะ เื่นั้นเอาไว้คุยทีหลัง… รีบๆ ให้ฉันตรวจอาการของคุณนายหน่อยจะได้ไหม”
“แก…!”
เควินจ้องเขม็งเฟาสท์ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกถึงความหวังอันริบหรี่ที่เริ่มเปล่งประกายในใจเขา
แพทย์ที่อยู่ตรงหน้าคือคนสติเฟื่อง เป็สัตว์ประหลาดที่ก้าวข้ามเส้นความเป็มนุษย์ไปแล้วอย่างเห็นได้ชัด
(แต่ว่า…ไม่ต้องสงสัย ผู้หญิงคนนี้คือแพทย์มือทองและนักเวท ถ้าเป็เฟาสท์ละก็ บางทีอาจจะช่วยซาช่าให้หายขาดก็ได้…)
ทว่าถ้าแม้แต่เฟาสท์ยังช่วยไม่ได้ ก็คงจะไม่มีทางรักษาภรรยาได้จริงๆ ความคิดเหล่านี้ผุดขึ้นในสมองของเควิน
“อึก… ถ้าเล่นพิเรนทร์ๆ กับภรรยาฉันละก็ ฉันไม่ยกโทษให้แน่! ”
แม้เควินจะทำสีหน้าเจ็บใจ แต่ก็อนุญาตให้เฟาสท์ตรวจอาการซาช่า
“ได้สิ น่าจะให้ตรวจั้แ่แรกแล้วแท้ๆ”
เฟาสท์ยิ้มเฝื่อนพร้อมกับตบบ่าเควิน แล้วเริ่มตรวจอาการของซาช่าที่นอนอยู่ข้างๆ
“ฮึบ… ขออนุญาตถอดเสื้อนะ”
“อึก…”
พอเฟาสท์ถอดเสื้อซาช่าออก ก็เจอรอยช้ำสีม่วงทั่วร่างกาย รอยช้ำมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่หัวใจและลามไปถึงคอแล้ว
“โอ้ อย่างนี้นี่เอง”
