ผู้มาใหม่ไม่ได้มีเพียงคนเดียว แต่มีถึงหกคน คนทั้งหกนั้นคือปรมาจารย์เปลี่ยนอาชีพของอาชีพทั้งหก ซึ่งก็คืออาชีพนักรบ ผู้พิทักษ์ นักธนู นักฆ่า นักบวชและผู้อัญเชิญ เมื่อรวมปรมาจารย์เปลี่ยนอาชีพนักเวทย์เข้าไปอีกก็เท่ากับเป็การรวมตัวกันที่หาได้ยากยิ่งของปรมาจารย์เปลี่ยนอาชีพทั้งเจ็ด เวลานี้พวกเขาทั้งเจ็ดได้กระจายตัวกันอยู่ภายในโถงเปลี่ยนอาชีพขนาดใหญ่ เมื่อเผชิญหน้ากับปรมาจารย์อีกหกคนที่เข้ามาอย่างกะทันหัน ปรมาจารย์เปลี่ยนอาชีพนักเวทย์ก็แสดงออกถึงความใและหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด
“ฮ่าๆ!” ปรมาจารย์เปลี่ยนอาชีพนักรบยิ้มออกมาอย่างแปลกประหลาด “เพราะเกิดเื่ไม่คาดฝันขึ้นเื่หนึ่งอย่างไรล่ะ พวกเราทั้งหมดจึงต้องมาที่นี่ ท่านปรมาจารย์นักเวท การมอบอาชีพให้เ้าหนุ่มนี่ล้มเหลวสินะ....... ไม่เพียงแค่เ้า เมื่อพวกเราทั้งหกคนมอบอาชีพให้เ้าหนุ่มนี่ก็ล้มเหลวทั้งหมดเช่นกัน”
“ล้มเหลวทั้งหมด?” ปรมาจารย์เปลี่ยนอาชีพนักเวทย์ตกตะลึง และทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นิ่งค้าง แล้วพูดออกมาอย่างใ “เ้าบอกว่า......นอกจากข้า พวกเ้าทุกคนก็ล้มเหลวเช่นกันอย่างนั้นรึ?”
“ถูกต้อง” ปรมาจารย์เปลี่ยนอาชีพผู้พิทักษ์พยักหน้าและตอบกลับมาอย่างเคร่งขรึม สายตาของเขากวาดมองไปยังเย่เทียนเซี่ย “อีกทั้งก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้สังเกตเลยว่าเขายังสวมเหรียญเกียรติยศแห่งผู้กล้าเอาไว้ด้วย!”
ดวงตาทั้งเจ็ดคู่จ้องมองไปยังตำแหน่งหน้าอกของเย่เทียนเซี่ยพร้อมกัน ตรงนั้นมีเหรียญเกียรติยศสีทองแดงที่ดูเรียบๆห้อยอยู่ แต่ตัวอักษรที่สลักลงไป้าเหรียญเป็คำว่า “ผู้กล้า” ทำให้ดวงตาของปรมาจารย์เปลี่ยนอาชีพทั้งเจ็ดเบิกค้างอยู่นาน
“นี่ หรือว่า...........” สีหน้าของปรมาจารย์เปลี่ยนอาชีพนักเวทย์เกิดความสงสัยขึ้นมาทันที และเมื่อเขามองเข้าไปยังดวงตาของเย่เทียนเซี่ยก็ยิ่งปรากฏการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน เย่เทียนเซี่ยสงบนิ่งเขาไม่ได้ถามอะไรออกไป เขาทำเพียงมองตรงไปยังคนเ่าั้อย่างเงียบงัน..... ตอนนี้กำลังจะเกิดเื่น่าสนใจบางอย่างขึ้นมาอีกครั้งสินะ
“เ้าหนุ่ม.....โอ้ จริงๆแล้วชื่อของเ้าก็คือเซี่ยเทียน เซี่ยเทียนเ้ารู้หรือไม่ทำไมเ้าถึงไม่สามารถรับอาชีพจากพวกเราได้?” ปรมาจารย์เปลี่ยนอาชีพนักรบพูดออกมาด้วยน้ำเสียงทุ่มลึก
เย่เทียนเซี่ยส่ายหน้า รอคอยคำตอบของเขา
“คนที่ไม่สามารถรับอาชีพได้จริงๆแล้วมิใช่ว่าไม่เคยมีมาก่อน แต่คนเหล่านี้จะปรากฏตัวขึ้นมาน้อยมาก เมื่อปรากฏเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาแล้วจะมีเพียงสองเหตุผลเท่านั้น หนึ่งคือพลังของคนๆนั้นอ่อนแอมากเกินไป อ่อนแอจนไม่สามารถรองรับพลังใดๆได้และไม่มีคุณสมบัติที่จะเปลี่ยนเป็อาชีพใดๆทั้งสิ้น แต่คนที่อ่อนแอจนถึงระดับนั้นจะปรากฏออกมาได้น้อยมาก ทว่าเ้า.....กลับได้รับเหรียญผู้กล้า ซึ่งไม่มีทางเป็คนประเภทนี้อย่างแน่นอน ดังนั้นเ้าจึงเป็คนอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งคนประเภทนี้มีน้อยยิ่งกว่าคนประเภทแรกเสียอีก แม้จะมีจำนวนน้อย แต่ั้แ่ข้าเกิดมาก็ยังเคยได้ยินอยู่บ้าง ทว่าไม่เคยพบเจอมาก่อนเลยในชีวิต”
คนทั้งเจ็ดมองไปที่ดวงตาของเย่เทียนเซี่ยที่เปลี่ยนเป็กระตือรือร้นขึ้นมาชัดเจน พวกเขาทั้งหมดมารวมตัวกันเพื่อเย่เทียนเซี่ยโดยเฉพาะ นั่นแสดงให้เห็นว่าพวกเขาพบเื่ใหญ่เข้าให้แล้ว
“ผู้ที่สามารถเหรียญผู้กล้าได้นั้นมีน้อยมาก ร้อยปีก่อนมีคนๆหนึ่งนามว่ากู่ผิงได้รับมันไป และในร้อยปีที่ผ่านมาก็มีอีกคนหนึ่งนามว่าอู๋ิได้รับมันไปอีกเช่นกัน ด้วยสิ่งนั้นจึงหมายความว่าเ้ามีคุณสมบัติของคนอีกประเภทหนึ่งก็คือ..... คนที่มีพลังที่แข็งแกร่งเกินไปอย่างไรล่ะ! พลังนั้นแข็งแกร่งจนอาชีพที่พวกเรามอบให้เ้าไม่เหมาะสมกับคุณสมบัติของพลังที่เ้ามี! ดังนั้นจึงถูกปฏิเสธโดยพลังในกายเ้าอย่างไรล่ะ” ปรมาจารย์เปลี่ยนอาชีพนักรบพูดออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง
อู๋ิ ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของทวีปที่สาบสูญ หลังจากเขาก็ปรากฏคนอีกคนหนึ่งที่ได้รับเหรียญผู้กล้าขึ้นมา สิ่งที่ทำให้พวกเขายิ่งใก็คือคนคนนั้นปฏิเสธการมอบอาชีพทั้งหมด ตามตำนานเล่าว่าคนที่มีความสามารถและคุณสมบัติที่จะทำให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นได้ มีเพียงอู๋ิคนเดียวเท่านั้น.......
“.........” เย่เทียนเซี่ย
อารมณ์ที่เคยหดหู่ของเย่เทียนเซี่ยหายไปเป็ปลิดทิ้ง เขาเงยหน้าขึ้นเผชิญหน้ากับสายตาตื่นใของคนทั้งเจ็ด ก่อนจะพูดออกไปด้วยท่าทางเจียมเนื้อเจียมตัว “จริงๆแล้ว......ผมก็ไม่ได้เก่งกาจอย่างที่พวกท่าคิดหรอกครับ”
อาชีพของผู้เล่นธรรมดาไม่มีคุณสมบัติคู่ควรที่จะเป็อาชีพของเขา........ โอ้พระเ้า นี่มันคือแจ็คพอต!
ปรมาจารย์เปลี่ยนอาชีพนักรบกรอกตาขึ้นก่อนจะพูดออกมา “เซี่ยเทียน เ้าคือผู้กล้าจากต่างแดน และคุณสมบัติของเ้าก็ยังไม่มีความแตกต่างจากบรรดาผู้กล้าจากต่างแดนคนอื่นๆที่มาจากเมืองเริ่มต้นด้วย อีกทั้งเ้ายังใช้คุณสมบัติเช่นนี้พิชิตเหรียญผู้กล้ามาได้ นี่ทำให้ข้าสนใจพลังพิเศษที่เ้ามีอยู่ไม่น้อย แต่ทว่าเมื่อพิจารณาถึงคุณสมบัติของเ้าแล้ว พลังของเ้าอาจจะยังคงหลับใหลอยู่ และยังไม่ปรากฏออกมาก็เป็ได้...... เซี่ยเทียน เมื่อไม่มีอาชีพเ้าคงลำบากมากสินะ เ้าสนใจจะไปพบคนๆหนึ่งกับพวกข้าหรือไม่ล่ะ....... เขาจะต้องสนใจเ้ามากแน่ๆ”
“เอ๋? พบใครเหรอครับ?” เย่เทียนเซี่ยถามออกไป
เื่แปลกๆเกิดขึ้นกับเขาครั้งแล้วครั้งเล่า นับวันเขาก็ยิ่งเริ่มคิดว่า World of Fate ไม่ใช่เกมเสมือนจริงง่ายๆเกมหนึ่งซะแล้ว มันเหมือนกับโลกจริงอีกโลกที่ไม่ต่างกับโลกข้างนอกนั่นเลย
“เขาก็คืออาจารย์ของพวกเรามีนามว่า ข่งซิว ปรมาจารย์เวทมนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองเทียนเฉินแห่งนี้” ปรมาจารย์เปลี่ยนอาชีพนักเวทย์พูดขึ้น “ห้วงเวลาแห่งโชคชะตาหายไป ปีศาจร้ายออกอาละวาด แผ่นดินระส่ำระสาย ทวีปที่สาบสูญในตอนนี้้าผู้กล้าที่แท้จริง ก่อนหน้านี้ไม่นานท่านข่งซิวอาจารย์ของพวกเราให้พวกเราจับตาดูผู้กล้าจากต่างแดนที่มีคุณสมบัติล้ำเลิศกว่าคนธรรมดา ผู้ที่เหรียญผู้กล้า ปฏิเสธการมอบอาชีพทั้งหมด...... เขาจะต้องสนใจเ้ามากแน่ๆ ไม่แน่บางทีอาจจะสามารถชี้แนะเ้าจนกลายเป็ผู้ที่แข็งแกร่งเฉกเช่นอู๋ิก็เป็ได้”
ปรมาจารย์เวทมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ข่งซิว....... NPCลับที่ผู้เล่นธรรมดาไม่เคยพบเจอมาก่อน!?
“ดีครับ เช่นนั้นเชิญท่านนำทางผมไปเลย” เวลานี้แม้แต่คนที่โง่ที่สุดก็น่าจะรู้ว่าควรพยักหน้าตอบกลับไป
ก่อนหน้านี้เขาต้องพบกับสถานการณ์ที่ไม่เป็ธรรมโดยไม่ได้ตั้งใจ ต่อมาก็ดูเหมือนจะได้พบเซอร์ไพรส์ครั้งยิ่งใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยหมอกควันแห่งความคลุมเครือ......... นี่แหละคือโชคชะตา โชคชะตาที่ไม่อาจคาดเดาได้
จากสายตาและสีหน้าที่แปลกประหลาดของปรมาจารย์เปลี่ยนอาชีพทั้งเจ็ด คนที่เขากำลังจะไปพบต่อไปนี้จะต้องน่าสนใจยิ่งกว่าคนที่เข้าเคยพบมาทั้งหมดอย่างแน่นอน....... แล้วความสงสัยก็ยิ่งซึมลึกลงไปในใจของเย่เทียนเซี่ย
ั้แ่ที่ปรมาจารย์เปลี่ยนอาชีพทั้งเจ็ดของเมืองเทียนเฉินรวมตัวกัน “ขาดงาน” และจากตำแหน่งของตัวเองไป ผู้เล่นมากมายที่เพิ่งมาจากเมือเริ่มต้นและรีบพุ่งมายังหอเปลี่ยนอาชีพแห่งนี้ก็ต้องเผชิญหน้ากับเก้าอี้ว่างเปล่าของปรมาจารย์เปลี่ยนอาชีพทั้งเจ็ด
ปรมาจารย์เปลี่ยนอาชีพทั้งเจ็ดอาจจะถูกลงโทษได้จากการบกพร่องต่อหน้าที่ของพวกเขา แต่พวกเขาก็อยากจะไปเป็พยานกับเื่ทั้งหมดที่พวกเขาสงสัยมาตลอด และเมื่อได้พบกับเย่เทียนเซี่ยก็ยิ่งทำให้พวกเขาเกิดสนใจเป็อย่างมาก
เมืองเทียนเฉินมีความเจริญมากกว่าที่เย่เทียนเซี่ยคาดเอาไว้ เขารีบเร่งฝีเท้าตามปรมาจารย์เปลี่ยนอาชีพทั้งเจ็ด ระหว่างทางเย่เทียนเซี่ยก็เก็บภาพตรอกซอกซอยต่างๆของเมืองเอาไว้ในความทรงจำ หากใช้คำว่างดงามราวกับกระเบื้องเคลือบมาบรรยายที่แห่งนี้ก็คงจะไม่เกินจริงเลยแม้แต่นิดเดียว บ้านเมืองนี้เจริญรุ่งเรืองยิ่งกว่าในซีรีย์โบราณไม่รู้กี่เท่า ขนาดใจกลางของเมืองยังเป็เช่นนี้ แล้วเมืองหลวงล่ะ....... จะมีบรรยากาศและความหรูหราเป็แบบไหนกันนะ
ใจกลางเมืองเทียนเฉิน ณ ที่ทำการของเ้าเมืองตะวันตกที่มีทหารยามรักษาการอย่างแ่า
สถานที่แห่งนี้เงียบเชียบอย่างแปลกประหลาด....... ถนนหนทางของเมืองเทียนเฉินมีผู้คนเดินไปเดินมาขวักไขว่ จำนวนผู้เล่นที่หลั่งไหลเข้ามาทำให้เสียงความคึกคักดังยิ่งขึ้นเป็เท่าตัว แต่ราวกับว่าที่แห่งนี้ตัดขาดจากเสียงภายนอกโดยสมบูรณ์ เพราะทันทีที่ก้าวไปภายในเสียงที่เคยดังอยู่ข้างหูของเย่เทียนเซี่ยก็หายไปทันทีราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน