หลี่หวงยิ้มอย่างเยือกเย็น เขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเขาไปรู้วิธีการปรุงยามากจากไหน แต่เขากลับทำมันได้อย่างชำนาญหลังจากอ่านหนังสือเกี่ยวกับการปลุกยาไป เขารู้สึกแปลกๆแต่เขาไม่สนใจมันในตอนนี้ เขาเลือกที่กลืนเม็ดยาที่เพิ่งปรุงเสร็จลงไปในทันที เม็ดยาสีดำมันวาวนั้นซึมซับเข้าสู่ร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเอง พลังิญญาที่สะสมอยู่ในเม็ดยาก็ะเิออกมาอย่างรุนแรง ร่างกายของหลี่หวงสั่นะเืจากพลังอันมหาศาลที่ไหลเวียนทั่วร่าง เส้นเอ็นและจุดชีพจรของเขาถูกกระตุ้นอย่างรุนแรง
ทันใดนั้น การเพาะปลูกของเขาก็พุ่งทะยานอย่างต่อเนื่อง
ทะเลิญญา ระดับที่ 3
…..
…..
ทะเลิญญา ระดับที่ 7
….
ทะเลิญญา ระดับที่ 9
….
แกนทองคำ ระดับที่ 2
….
แกนทองคำ ระดับที่ 6
….
แกนทองคำ ระดับที่ 8
….
….
ก่อตั้งิญญา ระดับที่ 4
….
….
ก่อตั้งิญญา ระดับที่ 9
….
นิพพานระดับที่ 1
และสุดท้าย การเพาะปลูกของเขาก็หยุดลงที่ขั้น นิพพาน ระดับที่ 1 พลังิญญารอบตัวเขาส่องสว่างและพลุ่งพล่านอย่างรุนแรง ออร่าของเขาเต็มไปด้วยความทรงพลัง ทั่วทั้งห้องพระคัมภีร์สั่นะเืจากพลังที่แผ่กระจายออกมา
หลี่หวงยิ้มเล็กน้อย "อืม... ก็ถือว่าประสบความสำเร็จอยู่"
เขาเริ่มรวบรวมรากฐานพลังทั้งหมดของเขาอย่างเป็ระเบียบ กระบวนการนี้ใช้เวลาหลายชั่วโมง เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งแสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้องพระคัมภีร์ ผ่านหน้าต่างที่เปิดอยู่ หลี่หวงลืมตาขึ้นอีกครั้ง และสูดหายใจลึก ก่อนจะพึมพำออกมาเบา ๆ "ก็พอใช้ได้"
หลี่หวงยืดตัวขึ้นยืนอย่างมั่นคงพร้อมด้วยพลังอันมหาศาลที่เพิ่งได้รับ เขาหันหน้าไปทางหน้าต่าง มองออกไปยังเมืองหลวงของราชวงศ์เพลิง์ที่เริ่มต้นวันใหม่ ประชาชนเริ่มเดินทางและทำงานในชีวิตประจำวัน และหลี่หวงยิ้มออกมา
หลี่หวงรู้ดีว่าการราชวงศ์เพลิง์เพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ เขา้าสร้างรากฐานใหม่ที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม เขา้าข้าราชการและแม่ทัพที่ภักดีและมีความอย่างแท้จริงสามารถที่แท้จริง ไม่ใช่ผู้ที่อ่อนแอไร้ความสามารถเหมือนในอดีต
ณ นิกายดาบ์ ผู้าุโสูงสุดยืนอยู่กลางลานฝึกฝน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว เมื่อเขาได้รับข่าวว่า หัวของซุนห้าว ลูกศิษย์คนสำคัญของเขา ถูกห้อยประจานอยู่ที่เมืองหลวงของราชวงศ์เพลิง์ ั์ตาของเขาเต็มไปด้วยความแค้น เขากำหมัดแน่น เตรียมไปหาผู้นำนิกายในทันที
แต่ก่อนที่เขาจะทำอะไร แผ่นดินก็เกิดการสั่นะเืขึ้นอย่างรุนแรง ทำให้ทุกคนในนิกายดาบ์มึนงงและตื่นตระหนก และแผ่นดินไหวครั้งนี้ไม่ใช่เื่ปกติอย่างแน่นอน ผู้าุโและศิษย์ต่างพุ่งออกมาจากที่พักของตน รีบรวมตัวกันเพื่อหาต้นตอของแผ่นดินไหวทันที
ขณะที่พวกเขากำลังหาต้นตอของแผ่นดินไหวอยู่ พวกเขาก็รู้แล้วว่าต้นตอของแผ่นดินไหวนั้นมาจากคลื่นดาบเงาขนาดใหญ่ั์กำลังพุ่งตรงมาที่นิกายดาบ์ ความเร็วและความแรงของมันทำให้คนส่วนใหญ่ไม่อาจหลบเลี่ยงมันได้ทัน และนิกายดาบ์ถูกแบ่งออกเป็สองส่วนด้วยพลังของคลื่นดาบนั้น อาคารและลานฝึกแตกกระจาย เสียงะเิและเสียงกรีดร้องดังก้องไปทั่วบริเวณ
หัวหน้านิกายดาบ์ และบรรพบุรุษที่มีพลังในระดับนิพพานอีกนับสิบคนบินออกมาจากส่วนลึกของนิกายด้วยความเร็ว พวกเขามองดูนิกายที่ถูกทำลายอย่างไม่เชื่อสายตา
หัวหน้านิกายยืนตัวตรง แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกเพราะคนบนท้องฟ้านั้นมีการบ่มเพาะเหนือกว่าระดับนิพพานอย่างแน่นอน เขาพยายามเก็บความหวาดกลัวและถามออกไปด้วยน้ำเสียงสุภาพ
"ท่านเป็ใครกันขอรับ... นิกายดาบของข้าไม่เคยไปทำให้ท่านขุ่นเคืองเลยนะขอรับ หรือศิษย์หรือผู้าุโคนใดของนิกายไปทำให้ท่านขุ่นเคืองข้าสามารถช่วยตามหามันผู้นั้นให้ท่านได้นะขอรับ"
ฉิงอิ๋ง ผู้นำของหน่วยลับเงาทมิฬ ยืนอยู่บนท้องฟ้าพร้อมดาบในมือ นางแสยะยิ้มอย่างเยือกเย็นก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงไร้ความปรานี "องค์จักรพรรดิ มีคำสั่งให้ตัดหัวพวกเ้าทุกคน"
หัวหน้านิกายดาบ์เห็นความเด็ดเดี่ยวในสายตาของนาง ความหวาดกลัวแผ่ซ่านทั่วร่าง เขาพยายามก้มศีรษะและเอ่ยเสียงสั่น "พวกเรานิกายดาบ์ขอยอมจำนนต่อราชวงศ์เพลิง์ขอรับ ข้าสาบานว่าจะภักดีต่อท่าน! ไม่..ไม่..ข้าสาบานว่าจะภักดีต่อองค์จักรพรรดิหลี่หวง!"
ฉิงอิ๋งไม่สนใจว่าพวกมันจะพูดอะไร นางสะบัดดาบของนางออกมาเป็ประกายวูบวาบและฟันไปที่นิกายดาบ์ในทันที ทุกคนในนิกายตั้งท่าเตรียมรับการโจมตีอยู่
ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องของหัวหน้านิกายและเหล่าบรรพบุรุษนิพพานก็ดังขึ้นในอากาศ ดาบของฉิงอิ๋งพุ่งผ่านร่างของพวกเขาอย่างรวดเร็ว ร่างกายของพวกขาดออกจากกันพร้อมเืที่พุ่งกระจายไปทั่วทั้งนิกายดาบ์ ท่ามกลางเสียงลมที่พัดผ่านไป ไม่มีใครสามารถต้านทานหรือหลบหลีกการโจมตีของฉิงอิ๋งได้ เศษซากของผู้ที่พยายามหนีถูกฟันเป็ชิ้น ๆ ร่วงหล่นลงสู่พื้น
เมื่อเสียงกรีดร้องเงียบลง ฉิงอิ๋งยืนอยู่ท่ามกลางสนามรบ ดวงตาของนางเยือกเย็นและเฉียบคม นางยกมือขึ้นและร่ายคาถาวิชาอันทรงพลัง ทันใดนั้นเอง เงาที่ทอดยาวอยู่บนพื้นเริ่มเคลื่อนไหวอย่างแปลกประหลาด เงาของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่อยู่ในอาณาเขตวิชาของนาง ไม่ว่าจะเป็ศิษย์นิกายดาบ์ที่แอบซ่อนตัวอยู่ หรือสัตว์ิญญาที่อาศัยอยู่ใกล้บริเวณนั้น ต่างถูกเงาของตนเองทิ่มแทงทะลุร่างกายอย่างรวดเร็ว
เสียงกรีดร้องดังขึ้นทั่วบริเวณเมืุ่์และสัตว์ิญญาต่างถูกเงาของตัวเองฆ่าในทันที ร่างของพวกเขาล้มลงไปกับพื้น เืไหลนองจากาแที่ถูกแทงทะลุ ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นในชั่วพริบตา คนที่เคยซ่อนตัวอยู่อย่างลับ ๆ ก็ถูกเงาตัวเองสังหารเช่นกัน และทุกชีวิตที่อยู่ในอาณาเขตนี้ต้องพบกับชะตากรรมเดียวกัน นั่นคือการถูกเงาของตัวเองสังหาร
ฉิงอิ๋งยืนอยู่ท่ามกลางความเงียบงัน ก่อนจะหันหลังกลับไป ทิ้งให้นิกายดาบ์ที่ครั้งหนึ่งเคยยิ่งใหญ่กลายเป็เพียงซากปรักหักพัง และไม่มีสิ่งใดหลงเหลืออีกแล้ว บัดนี้ นิกายที่เคยถูกกล่าวขานว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในราชวงศ์เพลิง์ได้ถูกลบออกจากหน้าประวัติศาสตร์ไปตลอดกาล
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้