วงล้อมิติลี้ลับ ประตูทั้งเก้าเชื่อมถึง์
์ที่ว่านี้หมายถึงสิ่งใดกัน?
หลิ่วิเยวี่ยมองหนิงเทียนที่พยายามไล่ตามนางด้วยอารมณ์ที่ค่อนข้างซับซ้อน นางมีหลายสิ่งที่อยากพูดแต่ไม่สามารถบอกเขาได้ ดังนั้น นางจึงทำได้เพียงฝังสิ่งเ่าั้ไว้ในใจตลอดกาล
วงล้อมิติลี้ลับมีการผสมผสานกับเก้าประตูมิติในรูปแบบที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น หนึ่งคู่กับแปด สองคู่กับเจ็ด สามคู่กับหก และสี่คู่กับห้า
การรวมกันของประตูบานที่สองกับเจ็ดสอดคล้องกับพื้นที่พิเศษในเมืองร้างซึ่งเป็แดนลับใต้ยอดเขาหมื่นอสูร และประตูมิติที่หลิ่วิเยวี่ยเข้ามานั้นก็สอดคล้องกับประตูเก้า์ซ่อนเร้นซึ่งอยู่ระหว่างประตูทั้งสองบาน
สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับเสียงเก้า์ทมิฬ ซึ่งเป็สมบัติล้ำค่าจากหอฉินที่หลิ่วิเยวี่ยได้รับมา
มันเป็พื้นที่ลึกลับและโลกแห่งดนตรีที่เต็มไปด้วยคลื่นเสียงอันไร้จุดสิ้นสุด ซึ่งประกอบด้วยความสุขและความเศร้าของโลกมนุษย์
เมื่อฉินลอยออกมาจากร่างของหลิ่วิเยวี่ย สายฉินก็สั่นะเืโดยอัตโนมัติแม้ไม่มีกระแสลม สะท้อนถึงความผันผวนของสถานที่นี้และประกอบด้วยความโศกเศร้านับอนันต์
ดวงตาของหลิ่วิเยวี่ยเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา ราวกับว่าทั้งชีวิตของนางช่างน่าสลดอย่างแท้จริง
เสียงฉินกระทบกระเทือนจิตใจดุจิญญากำลังคร่ำครวญ ทั้งยังดึงห้วงอารมณ์ของนางให้จมดิ่งลงไปกับ่เวลานั้น
พลังพิเศษบางอย่างเกิดขึ้นในร่างกายของหลิ่วิเยวี่ยพร้อมกับรัศมีของจื๋อซิวที่เกี่ยวข้องกับหนิงเทียน
ในฐานะศิษย์ซิงซิว หลิ่วิเยวี่ยมีสายเืที่แข็งแกร่งมาก แต่น่าเสียดายที่นางถูกยอดฝีมือของวังดาราพบตัวเข้าเสียก่อน ดังนั้น นางจึงเป็ดาวคู่ประสานธาตุ
เมื่อไม่นานมานี้นางได้เชื่อมสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับหนิงเทียนเพื่อช่วยชีวิตเขา ยามนั้นนางได้รับพลังประหลาดจากร่างของเขามาด้วย ซึ่งมันได้เปลี่ยนแปลงร่างกายของนางไปในชั่วพริบตา
สถานการณ์เช่นนี้มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก เหล่าคนนอกจึงไม่เคยรับรู้ถึงมันเลย
ยามนี้สิ่งแปลกปลอมได้ปรากฏขึ้นในใจของหลิ่วิเยวี่ยแล้ว มันคือกล้วยไม้เซียนเก้าชีวิตจากร่างของหนิงเทียน ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็เลขเก้าหลักจากคัมภีร์หลิงฮวง อีกทั้งยังมีแหล่งกำเนิดชีวิตบางส่วนจากร่างของหนิงเทียนที่ไหลเข้าสู่ร่างของนาง และช่วยซ่อมแซมแก่นแท้สายเืที่เหือดแห้งไปก่อนหน้านี้
ประตูเก้า์ซ่อนเร้นตั้งอยู่ในพื้นที่พิเศษซึ่งประกอบด้วยเสียงอันลึกซึ้งของ์ทั้งเก้าที่ค่อนข้างสลับซับซ้อน
ในฐานะศิษย์จากตำหนักดาวเหนือ หลิ่วิเยวี่ยประสบความสำเร็จอย่างมากด้านมนตร์คาถาและโหราศาสตร์ เมื่อรวมกับการเลขเก้าหลัก นางจึงเข้าใจการประยุกต์ใช้ดนตรีมากมายจากคลื่นเสียง์ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งความแข็งแกร่งในการฝึกฝนของนางก็ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และรากฐานทางกายภาพก็ยังได้รับการเสริมสร้างจนเข้มแข็ง
ในบรรดาประตูทั้งหมดนั้นประตูบานที่สองกับเจ็ดนับว่ามีโชคลาภอย่างยิ่ง และโชคที่ดีที่สุดก็อยู่ที่ประตูบานที่สอง
หลิ่วิเยวี่ยยึดครองประตูเก้า์ซ่อนเร้น ขณะที่หนิงเทียนกำลังพาซิ่งอวี่เจวียนเข้าสู่ประตูศักดิ์สิทธิ์เก้า์
ที่แห่งนี้มีสิ่งสร้างสรรค์แบบใดซ่อนอยู่กันแน่?
สถานที่ทั้งเก้าแห่งสอดคล้องกับ์ทั้งเก้า และประตูศักดิ์สิทธิ์ก็สอดคล้องกับลัทธิเต๋าซึ่งประกอบด้วยการกำเนิด์และโลก
ทันทีที่หนิงเทียนก้าวเข้าไปในประตูศักดิ์สิทธิ์เก้า์ ร่างกายของเขาก็รู้สึกถึงการร้องเรียกจากสิ่งที่อธิบายไม่ได้ ไม่เพียงแต่กล้วยไม้เซียนเก้าชีวิตเท่านั้น ทว่าแผนที่ิญญาธาราและแผนที่จิติญญาเนตรเพลิงก็ยังกระตือรือร้นอย่างมากอีกด้วย
ปฏิกิริยาของซิ่งอวี่เจวียนแตกต่างจากหนิงเทียน นางรู้สึกเพียงว่าสภาพแวดล้อมที่นี่ไม่ธรรมดาและมีพลังิญญาที่ทรงพลัง ซึ่งถือเป็สถานที่ชั้นเลิศสำหรับการบำเพ็ญก็เท่านั้น
ประตูศักดิ์สิทธิ์เก้า์เป็พื้นที่พิเศษ ภูมิประเทศบนูเามีลักษณะเหมือนัเก้าตัวที่เกาะอยู่ ซึ่งเป็สิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติทว่ากลับเต็มไปด้วยความลึกลับขั้นสูงสุด
บนสันเขาทุกแห่งมีหินสีมรกตทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสซึ่งมีเนื้อััที่เป็ธรรมชาติบนพื้นผิว ทั้งยังประกอบด้วยมนตร์วิเศษแห่งสรวง์
ดวงตาของหนิงเทียนเป็ประกาย เขารีบวิ่งไปยังูเาที่ใกล้ที่สุดและตรงเข้าหาหินสีมรกตขนาดมหึมา
หากมองจากระยะไกลมันดูเหมือนหินสีมรกตก้อนหนึ่ง ทว่าเมื่อมองใกล้ๆ แล้วมันกลับดูเหมือนไพลิน ซึ่งมีคนกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นผิว
ซิ่งอวี่เจวียนถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ “มีผู้ใดเคยมาที่นี่หรือ?”
หนิงเทียนมองนางด้วยสายตาแปลกๆ แล้วถามว่า “ท่านไม่เห็นอะไรพิเศษเลยหรือ?”
ซิ่งอวี่เจวียนตอบอย่างไม่เข้าใจ “มีอะไรพิเศษกัน?”
หนิงเทียนไม่ได้พูดอะไรต่อ เขามองเห็นร่างหนึ่งกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนไพลินอย่างชัดเจน แต่ซิ่งอวี่เจวียนกลับไม่เห็น นี่เขาเห็นผีหรือ?
หลังจากสังเกตอย่างระมัดระวังแล้วร่างนั้นนับว่าแปลกมาก ยิ่งพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก็พบว่าร่างนี้ประกอบด้วยเจ็ดร่างซ้อนทับกัน นี่มันเื่อะไรกันแน่?
เป็ไปได้หรือไม่ที่คนทั้งเจ็ดที่เขาเห็นจะเป็ผู้ที่เคยนั่งบำเพ็ญเพื่อตระหนักถึงเต๋าบนไพลินก้อนนี้ และพวกเขาต่างก็ทิ้งร่องรอยเงาเอาไว้จนสุดท้ายพวกมันทั้งหมดก็รวมเข้าด้วยกัน
“ข้าจะลองขึ้นไปนั่งบนนั้น พี่สาวโปรดรออยู่ตรงนี้ก่อน อย่าขยับ อย่าส่งเสียงดัง และอย่าวิ่งไปทั่ว” หนิงเทียนเตือนอย่างจริงจังก่อนจะก็ะโขึ้นไปบนหินสีมรกตแล้วนั่งลงบนจุดที่เยื้องออกมาเล็กน้อย โดยไม่สนว่าซิ่งอวี่เจวียนจะเข้าใจหรือไม่
ทันทีที่นั่งลงไปก็มีปัญหาเกิดขึ้น ร่างเงาที่หนิงเทียนมองเห็นตามหลอกหลอนเขาราวกับิญญาชั่วร้าย ซึ่งแท้จริงแล้วร่างเ่าั้้าโต้แย้งและเทศนาธรรมร่วมกับเขา
ภายในร่างเงาประกอบด้วยร่างซ้อนทับเจ็ดร่างซึ่งเป็ตัวแทนของจิตสำนึกทั้งเจ็ด ทั้งหมดทรงพลังอย่างมาก แต่ละร่างล้วนมีความคิดเกี่ยวกับการบำเพ็ญเป็ของตนเอง ทั้งยังมีมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้
หนิงเทียนปวดหัวอย่างยิ่ง เขาเร่งใช้ทักษะม่านตาโดยให้ม่านตาสุวรรณช่วยปกป้องและใช้ดวงตาเสน่ห์โจมตีเพื่อเผชิญหน้ากับตัวตนทางจิติญญาซึ่งไม่ทราบที่มา
ในการเผชิญหน้าครั้งแรก หนิงเทียนก็ถูกโจมตีอย่างหนักจนแทบเสียสติ และอวัยวะภายในของเขาก็ราวกับถูกแผดเผาจนหมดสิ้น
คนทั้งเจ็ดล้วนเป็ตัวตนที่ทรงพลัง พวกเขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันกับหนิงเทียนเลยแม้แต่น้อย
“หากมีความสามารถก็จงสู้ด้วยขอบเขตเดียวกันสิ!” หนิงเทียนส่งคลื่นจิตออกมา พวกเ้าทุกคนแข็งแกร่งถึงเพียงนั้นแล้วใครจะเทียบได้เล่า?
“หากอยู่ในขอบเขตเดียวกันแล้วข้าต้องกลัวเ้าหรือ?” ร่างทั้งเจ็ดนั้นล้วนเย่อหยิ่ง พวกเขายอมลดระดับขอบเขตของตนลงแล้วสู้กับหนิงเทียนด้วยพลังของขอบเขตจิตหยั่งลึก
“อยู่ในขอบเขตเดียวกันแล้วยังต้องกลัวอะไรอีก? เข้ามาเลย!” หนิงเทียนมีจิติญญาแห่งการต่อสู้อันสูงส่ง เขาััได้ถึงพลังของคนทั้งเจ็ดและอยากต่อกรกับพลัง่วัยหนุ่มของพวกเขา
ในบรรดาร่างทั้งเจ็ดนั้น มีสามคนเป็ซิงซิว สามคนเป็หยวนซิว และมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เป็จื๋อซิว ซึ่งทำให้หนิงเทียนสับสนมากยิ่งขึ้นว่าพวกเขาเข้ามาในประตูศักดิ์สิทธิ์เก้า์ได้อย่างไร
“สู้ด้วยความแข็งแกร่งทางจิต” ซิงซิวเลือกสิ่งที่ตนเชี่ยวชาญที่สุด
“แข่งกันด้วยพลังหยวนหรือไม่ก็พละกำลังที่แข็งแรง!” หยวนซิวก็ไม่ได้โง่เขลาเช่นกันและเสนอจุดแข็งของตนออกมา
“แข่งด้วยการใช้ทักษะ!” นี่คือสิ่งที่จื๋อซิวพูด
หนิงเทียนได้ยินดังนั้นก็กล่าวว่า “ได้ พวกเ้าเข้ามาทีละคนเลย ข้าจะสู้ด้วยทุกทาง”
หนิงเทียนพลังหนึ่งหยวนและมีความแข็งแกร่งทางกายภาพอันสูงส่ง นอกจากนี้เขายังฝึกฝนดวงตาเสน่ห์เพื่อเสริมสร้างพลังจิต ตลอดจนทักษะที่เหลือก็ถูกนำไปใช้โดยอาศัยเลขเก้าหลักเป็รากฐาน ดังนั้น เขาย่อมสามารถต่อกรกับคู่ต่อสู้ของตนได้
“เ้าเด็กคนนี้โอหังยิ่งนัก! ข้าเริ่มก่อนเอง ิญญาดาราปราบปราม!”
นี่คือการปราบปรามทางจิตของซิงซิว มันเปรียบเสมือนนภาแ่าซึ่งมีดวงดาราเคลื่อนคล้อยไปมา ทั้งยังก่อตัวเป็รูปแบบลึกลับที่ลอยลงมายับยั้งจิติญญาและกดทับจิตใจของหนิงเทียนราวกับูเาแสนหนักหน่วง
หนิงเทียนใช้ทักษะดวงเนตรเพื่อกระตุ้นแผนภาพเถาวัลย์ัในเส้นลมปราณที่สี่ แส้เถาวัลย์ัรวมกับพลังของดวงตาเสน่ห์ก่อนจะปรากฏร่มคลุมนภาท่ามกลางอาวุธิญญาทั้งเก้า ซึ่งต่อต้านการปราบปรามของิญญาดาราได้โดยตรง
“ฝีมือไม่เลวนี่ เคลื่อนภูผาพิชิตขุนเขา!”
ทันใดนั้นทักษะหยวนซิวดุจดั่งูเาขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้น แล้วกดทับลงบนศีรษะของเขา
หลังจากหนิงเทียนต่อยหมัดออกไป พลังหนึ่งหยวนก็แยกูเาออกเป็ชิ้นๆ และขุนเขาก็พังทลายลงพร้อมเสียงกัมปนาท
“ภาพมายาย้อนกลับ!” พลันความมหัศจรรย์แห่งการเปลี่ยนแปลงของจื๋อซิวก็ปรากฏออกมา ทว่าสายตาอันเฉียบคมของหนิงเทียนก็ช่วยให้เขาพบวิธีทำลายมันในไม่ช้า
“ทักษะเก้าร่างเถาวัลย์ั!” พลังของหนิงเทียนล้นหลามกลืนนภา การต่อสู้ทางจิตประเภทนี้แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงภายนอกเพียงเล็กน้อย และซิ่งอวี่เจวียนก็ไม่ทันสังเกตเห็นสิ่งใด
“เ้าตัวดีช่างมีความสามารถ! พวกเราลุยพร้อมกันเลย!” ร่างทั้งเจ็ดแสดงความแข็งแกร่งออกมาในชั่วพริบตา ไม่ว่าหนิงเทียนจะยอมรับการเคลื่อนไหวหรือไม่ พวกเขาก็จะบุกเข้าไปพร้อมกันอยู่ดี
หนิงเทียนััได้ถึงอันตราย เมื่อร่างทั้งเจ็ดรวมกันเป็หนึ่งเดียว สิ่งที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกันก็ผสานกันอย่างกลมกลืน และแปรเปลี่ยนเป็พลังที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
“เต๋าของซิงซิว หยวนซิว และจื๋อซิวสามารถรวมเป็ร่างเดียวได้หรือ?” ความคิดนี้แวบขึ้นมาในใจของหนิงเทียนโดยพลัน และจิติญญาแห่งการต่อสู้ของเขากำลังลุกไหม้
เขาโดนโจมตีอย่างหนักหน่วง แผนที่จิติญญาทั้งหกในร่างของเขาเดือดพล่านในเวลาเดียวกัน แหล่งกำเนิดชีวิตและแผนที่จิติญญาเนตรเพลิงประกอบด้วยพลังของน้ำและไฟ จากนั้นคำว่า “ดิน ไฟ น้ำ ลม” ก็ปรากฏขึ้นในใจโดยไม่ทราบสาเหตุ
“ครอง์เคลื่อนย้าย!” หนิงเทียนใช้วิชาตัดบุปผาย้ายกิ่งก้านซึ่งเป็ทักษะเคลื่อนย้าย เนื่องจากศัตรูทั้งเจ็ดที่รวมเป็หนึ่งนั้นแข็งแกร่งเกินไปและเขาต้องตัดทอนขั้นตอนเพื่อทำลายพวกเขา
ระหว่างนี้หนิงเทียนก็รวบรวมข้อมูลจำนวนมากโดยไม่รู้ตัว ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็ความคิดเห็นและมุมมองของร่างทั้งเจ็ดเกี่ยวกับประตูศักดิ์สิทธิ์เก้า์ ตลอดจนประสบการณ์และกฎเกณฑ์โดยสรุปของพวกเขา
ชิ้นส่วนไพลินใต้ที่นั่งเต็มไปด้วยความลึกลับ ร่างทั้งเจ็ดล้วนมีความเข้าใจต่อความหมายที่แท้จริงแตกต่างกัน ทว่ายามนี้พวกเขากำลังหลอมรวมพลังเพื่อกำราบหนิงเทียน ซึ่งเกือบทำให้หนิงเทียนหมดหนทางตอบโต้
“ยันต์เต๋าอนันต์ เสาเลขสมบูรณ์ทั้งเก้า!” ใจของหนิงเทียนเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขาทะนงตัวมากเกินไปจึงต้องตกอยู่ในความสิ้นหวัง และขณะนี้เขาก็ไม่สามารถพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว
ซิ่งอวี่เจวียนคิดว่าหนิงเทียนกำลังบำเพ็ญเพื่อความกระจ่างแจ้ง แต่ความจริงแล้วเขายังติดอยู่ในการต่อสู้ทางจิตและแสงิญญาก็ถูกระงับจนเกือบพังทลาย
ทันใดนั้นไพลินก็สั่นะเืและมีอักขระปรากฏอยู่ภายใน ก่อนจะมีเสียงหนึ่งดังสนั่นขึ้น
หนิงเทียนเกิดประกายแห่งแรงบันดาลใจ แนวทางทั้งหมดที่บรรดาศัตรูเข้าใจล้วนมาจากไพลินก้อนนี้ หากพลังิญญาของพวกเขานำทางไปสู่ไพลิน มันจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นบ้าง?
หนิงเทียนทำในสิ่งที่เขาคิดทันที เขาเร่งนำจิติญญาทั้งเจ็ดที่รวมกันเป็หนึ่งเดียวเข้าไปข้างในไพลิน ทันใดนั้นก็เกิดเสียงกังวานขึ้นราวกับว่าไพลินทั้งก้อนถูกกระตุ้น
ด้วยการใช้ทักษะดวงเนตร หนิงเทียนจึงมองเห็นการเปลี่ยนแปลงภายในไพลิน มันเหมือนกับเขาวงกตที่ไร้จุดสิ้นสุด ร่างทั้งเจ็ดแต่ละร่างเข้าใจเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งรวมกันแล้วยังน้อยกว่าสองในสามด้วยซ้ำ
กล่าวคือพวกเขายังไม่เข้าใจความลึกลับในไพลินชิ้นนี้อย่างถ่องแท้ ซึ่งสามารถคาดเดาได้ว่าอาจเป็เพราะวิธีการนั้นผิด หรือไม่ก็เป็เพราะทักษะของพวกเขายังไม่สมบูรณ์
ในอดีต ย่อมเป็เื่ยากสำหรับหนิงเทียนที่จะเห็นภาพรวมทั้งหมด แต่บัดนี้เมื่อเขาเข้าใจเลขเก้าหลักแล้ว เขาจึงมองเห็นสถานการณ์พื้นฐานในไพลินได้อย่างชัดเจนจากการรวมทักษะม่านตาคู่เข้ากับดวงตาเสน่ห์ ทั้งยังพบข้อบกพร่องที่เขาสามารถใช้ตัวเลขทั้งเก้าเพื่ออนุมานและปรับปรุงได้
ด้วยวิธีนี้ หนิงเทียนก็ตระหนักได้ถึงความลึกลับในการต่อสู้กับร่างเ่าั้โดยไม่ได้ตั้งใจ อีกทั้งยังเข้าใจความลึกลับในไพลินได้อย่างถ่องแท้
ทันใดนั้นหนิงเทียนก็ยืนขึ้นแล้วมุ่งหน้าไปยังูเาอีกลูกหนึ่ง ที่แห่งนั้นมีชิ้นส่วนของไพลินซึ่งมีร่างที่ประกอบด้วยเงาิญญาเจ็ดเงานั่งขัดสมาธิอยู่บนนั้นเช่นกัน
ซิ่งอวี่เจวียนเฝ้าติดตามหนิงเทียนไปโดยไม่รู้ว่าเขาคิดจะทำสิ่งใด ทุกครั้งที่วิ่งขึ้นไปเขาก็คอยมองหาไพลิน จากนั้นก็นั่งขัดสมาธิอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะวิ่งออกไปโดยไม่มีคำอธิบายใดๆ ซึ่งทำให้นางสับสนอย่างยิ่ง
ยามนี้เส้นลมปราณที่เจ็ดของหนิงเทียนเริ่มปรากฏรอยประทับิญญาขึ้นทีละน้อย ซึ่งกำลังควบแน่นเป็แผนที่จิติญญา
หลังจากเข้าใจความลึกลับทั้งหมดของไพลินเก้าทิศบนูเาเก้าลูกของประตูศักดิ์สิทธิ์เก้า์แล้ว รอยประทับทั้งเก้าก็รวมเป็หนึ่งเดียว ก่อตัวเป็แผนที่จิติญญาที่เจ็ด จากนั้นเขาก็เข้าสู่ขอบเขตจิตหยั่งลึกขั้นเจ็ดทันที
ซิ่งอวี่เจวียนตกตะลึงอย่างยิ่ง นี่เป็วิธีฝึกฝนแบบใดกัน? ช่างเป็เื่ที่หายากและไม่เคยได้ยินมาก่อน
แผนที่จิติญญาซึ่งควบแน่นในเส้นลมปราณที่เจ็ดของหนิงเทียนมีความเกี่ยวข้องกับคำว่า “ดิน” ในดิน ไฟ น้ำ และลมซึ่งเป็ส่วนหนึ่งของแผนที่จิติญญาธาตุ ทั้งยังสอดคล้องกับจมูกซึ่งเป็ส่วนหนึ่งของตา หู ปาก และจมูก
ผู้บำเพ็ญล้วนมีตา หู ปาก จมูก และแขนขาซึ่งสอดคล้องกับเส้นลมปราณทั้งแปด แต่เส้นลมปราณที่เก้านั้นจะแตกต่างกันไปตามเชื้อสายที่แบ่งออกเป็ซิงซิว หยวนซิว และจื๋อซิว
เส้นลมปราณที่เก้าของหยวนซิวพาดผ่านหัวใจ ซึ่งเป็แหล่งส่งผ่านสายเืที่ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างทรงพลัง
เส้นลมปราณที่เก้าของซิงซิวพาดผ่านจุดไป่ฮุ่ย[1] ซึ่งเชื่อมต่อกับ์ทั้งเก้าและไหลผ่านทะเลดวงดาวโดยตรง
ส่วนเส้นลมปราณที่เก้าของจื๋อซิวนั้นพาดผ่านจุดเสินถิง[2]ที่เชื่อมถึงทะเลแห่งจิตสำนึก ซึ่งเป็ดินแดนของจิติญญา
ทันใดนั้นูเาขนาดเล็กก็ปรากฏขึ้นข้างกายหนิงเทียน มันมีรูปร่างเหมือนัเก้าตัวลอยเวียนวน และสะท้อนถึงการสร้างฟ้าดินซึ่งประกอบด้วยความลึกลับขั้นสูงสุด
---------------------------------------
[1] จุดไป่ฮุ่ย (百会穴) คือ รอยยุบบริเวณยอดศีรษะ เป็จุดสูงสุดในร่างกาย ทั้งยังรวบรวมเส้นลมปราณที่เปี่ยมด้วยเืและมวลพลัง เป็จุดสำคัญในการบำรุงสมอง และปรับสมดุลหยินหยางในร่างกาย
[2] จุดเสินถิง (神庭) คือ จุดฝังเข็มที่อยู่ถัดจากไรผมขึ้นมาประมาณ 1-2 เิเ ซึ่งช่วยผ่อนคลายจิตใจและบำรุงสมอง
