"ท่านอาจารย์อยากไปชมหรือไม่ขอรับ" ิฝานกล่าวด้วยความตื่นเต้นมีอาจารย์คุ้มหัวอยู่ในเลยเขาต้องกลัวผู้ทรงพลังคนนั้นที่เขาล่วงเกินไป
ในปีนั้นเขาเพียงช่วยชีวิตท่านเ้าสำนักที่ถูกยาพิษจากน้ำมือชายชั่วคนหนึ่งเท่านั้น ดวงซวยนักเ้านั่นดันเป็ถึงบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของผู้ทรงพลังระดับฝ่าด่านเคราะห์ เขาไร้กำลังต่อต้าน...ทำได้เพียงหลบซ่อนตัวอยู่ในสำนักเท่านั้น วันนี้สบโอกาศใน่ที่ใต้หล้าชุลมุลออกมาเที่ยวเล่น แม้จะเศร้าใจเล็กน้อยที่ไม่อาจเข้าร่วมงานประลองได้
"ช่างเถอะ ข้าชมเอาจากตรงนี้ได้" ิเทียนเยว่ยิ้มบางๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าศิษย์เขายังคงวางท่ายิ่ง
'เป็ไงเล่าผู้เฒ่าเท่หรือไม่' ิเทียนเย่แอบยืดอกเล็กน้อย ที่กล่าวมาไม่ถือว่าโกหกเขาแผ่จิตััออกไปรับชมได้จริงๆ ทั้งยังคมชัดยิ่งไม่จะไม่ได้ยินเสียงก็ตาม
"สมเป็อาจารย์----" ิฝานยังคงรู้ความยิ่งประจบิเทียนเยว่ยกใหญ่ชมเสียจนเขาแทบจะลอยได้แล้ว
ทำเอาเด็กๆทั้งสามอึ้งไปเลยทีเดียว ท่านพี่ผู้นี้ประจบเก่งเหลือเกิน!
ิหนิงหนิงเห็นดังนั้นก็ไปอ้อนิเทียนเยว่เฉกเช่นแต่ก่อน
หลังจากหายบ้ายอิเทียนเยว่ก็แอบสงสัยในใจทักษะการประจบของิฝานสูงเกินไป เข้านี้ทำมาดตัวเอกหายไปไหนหมดแล้ว
ิเทียนเยว่มองิฝานแล้วส่ายหน้าเบาๆเล็กน้อย
ทำเอาิฝานสงสัยว่าตนทำอะไรผิดไป...
ผ่านไปหลายชั่วยามทั้งสามก็ขอตัวจากไปเนื่องจากอยากไปชมงานประลองที่จะจัดขึ้นยาวนานถึงสิบวัน!
จำนวนผู้เข้าแข่งขันเรียกได้ว่ามากมายมหาศาลทั้งยังมีข่าวลือว่า มหายานหนึ่งเดียวผู้นั้นก็จะมารับชมด้วยโดยใหสัตย์สาบานว่าจะไม่ลงมือยุ่งเด็ดขาด สิ่งนี้ทำให้สรรพสิ่งต่างวิ่งแจ้นมาร่วมงานหวังให้เข้าตาผู้าุโท่านนั้น...
แน่นอนว่าหมายถึงอาจารย์ของหลี่ฉางนั้นเอง
หากิเทียนเยว่รู้เข้า เขาคงเผ่นหนีไปตั่งแต่ปีก่อนแล้ว...
...
ณ ตำหนักเ้าเมือง ที่เป็สถานที่จัดงาน
ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งจิบชาช้าๆจ้องมองไปทางูเาสงบจิตไม่ทราบว่าคิดสิ่งใดอยู่
'อืม...ชะตาแข็งแกร่งยิ่งสอดส่องไปได้เลย' ชายวัยกลางคนส่ายหัวเบาๆ
เขามีนามว่า หลินทั่ว เป็สำเร็จเป็เซียนปฐีเมื่อสามพันปีก่อนถูกมอบหมายงานโดยโลกเบื่องบนให้มาคอยดูแลโลกมนุษย์ใบหนึ่งเป็เวลา พันปีแลกกับทรัพยากรบำเพ็ญ
แม้คนทั่วไปจะมองว่าเขาเป็เพียงมหายานก็ตาม
'ไม่เห็นมีคนส่งข่าวมาบอกเลยว่าจะมีเซียนนภามาพำนักอยู่ที่โลกใบนี้' หลินทั้วใช้นิ้วชี้เคาะที่ขมับเบาๆด้วยสายตาสับสน
เซียนปฐีแม้จะเป็แค่ก้าวแรกของตบะระดับเซียนแต่ก็ถือว่ามีหน้ามีตายิ่งบนแดนเซียน เพราะสิ่งมีชีวิตธรรมดาเองก็มีอยู่ในแดนเซียนเช่นกัน
'หากเป็เซียนนภาจริงๆคงจะเป็หัวหน้าสักคน ไปเยี่ยมหน่อยคงไม่เป็ไรกระมัง' หลินทั่วคิดก่อนจะส่ายหัวเบาๆ ในเมื่อผู้าุโท่านนั้นลงมือสังหารศิษย์เขาในทันทีแสดงว่าไม่อยากให้ใครรบกวน
ส่วนโลกนี้นั้นถูกสะกดตบะให้สิ้นสุดที่ระดับฝ่าด่านเคราะห์ขั้น 9 เนื่องจากขนาดของโลกที่เล็กเกินไปไม่อาจให้กำเนิดระดับมหายานได้ ส่วนตัวที่สามารถคงอยู่ได้เพราะสมบัติวิเศษชิ้นหนึ่งคอยสะกดพลังเอาไว้
หน้าที่ของเขาคือพัฒนาโลกใบนี้ยิ่งดวงชะตาแข็งแกร่งยิ่งรอบรับผู้ทรงพลังได้มากขึ้น ทั้งยังทำให้เขาได้ทรัพยากรมากขึ้นด้วย
หลินทั่วไม่มองอีกต่อไปหันหน้ากลับมาหลับตาลงอย่างสงบ
...
กลับมาทางด้านของิเทียนเยว่ที่ถูกเหล่าผู้คนมโนไปว่าเป็เทพเซียน
เขากำลังสอดส่องสถานที่ประลองอย่างสนุกสนาน
ดูคนต่อยตีกันเช่นนี้สนุกยิ่ง เืลมพลุ่งพล่าน!
ิเทียนเยว่ตอนนี้คล้ายกับพวกผีพนันก็มิปานเชียร์คนนั้นทีคนนี้ทีโดยไม่สำรวจตบะอีกฝ่ายเพื่ออรรถรส
สามวันผ่านไปรอบคัดเลือกก็ได้จบลงแล้ว แต่กระนั้นกลับมาคนผู้หนึ่งสะดุดตาเขายิ่ง
...ถังจื่อ! ใช่แล้วเป็เ้าศิษย์ที่ไม่กลับมาเยี่ยมตาเฒ่าอย่างิเทียนเยว่
ตอนนี้ดูสูงส่ง องอาจยิ่ง เพียงตาหน้าตาของเขาคลายเ็าขึ้นมากหลายส่วนราวกับทหารผ่านศึก
เมื่อสำรวจดูเขาก็พบว่าถังจื่อตบะพุ่งทยายไปถึงก่อกำเนิดขึ้น 9 สูงเสียยิ่งกว่าแม่พิมพ์ตัวเอกอย่างิฝานเสียงอีก...
'เ้าเด็กนี่ไปเจออะไรมากัน' ิเทียนเยว่ขมวดคิ้วเล็กน้อย อย่างไรเสียเขาก็มองถังจื่อเป็เหมือนลูกชายคนหนึ่ง
ที่จริงแล้วพร์ของถังจื่อนั้นด้อยที่สุดในหมู่สามพี่น้องที่บำเพ็ญเพียร...
ขนาดของรากิญญาของเขานั้นเล็กสุดทั้งยังเป็ธาตุน้ำด้วยธาตุน้ำแรกเริ่มก็มีความสารถโดดเด่นด้านการป้องกัน ไม่เหมาะนำไปใช้สู้ไม่น่าทำให้เขาแย่งชิงกับผู้อื่นไหว..
แต่เมื่อเขาเพ่งดูดีๆเขาพบว่าถังจื่อมีรากิญญาเพิ่มมาในร่างอีกสองอัน
อันหนึ่งสีแดงดั่งโลหิต อันหนึ่งดำสนิทดั่งความว่างเปล่า
รากิญญาทพ! ิเทียนเยว่ถึงกับลุกขึ้นยืนใช้แล้วแม้เขาจะไม่รู้จักรากิญญาทั้งสองแต่ขนาดของรากิญญานั้นมีขนาดเท่ากับรากิญญาเทพอัศนีของเขา ทั้งยังมีถึงสอง!
แม้จะเป็เช่นนั้นแต่ิเทียนเยว่กลับแสดงสีหน้าไม่สบายใจออกมา ความอาฆาตที่เขาััได้จากรากิญญาทั้งสองนี้มหาศาลยิ่ง
เด็กนี่คงมิได้ถูกยึดร่างไปกระมัง!
เขาพยายามตรวจสอบดูแต่กลับหาไม่พบความผิดปกติเลยเหมือนเดิมทุกประการยังคงเป็ิญญาของถังจื่อ
'...หรือจะเป็การจุติใหม่' ิเทียนเยว่ครุ่นคิดจู่ๆก็ขนลุกขึ้นมา...ประเดี๋ยวก่อน! ซวยแล้ว! ข้าคงไม่ได้ไปผู้กรรมกับเทพมารเขาหรอกนะ!
รากิญญาระดับเทพแท้จริงแล้วสามารถกำเนิดได้แค่กับตัวตนที่เกิดในแดนเทพเท่านั้น เื่นี้เขาเข้าใจได้จากความทรงจำในวิชาเก้านภาสิบสองตะวันจันทรา ผู้สร้างวิชานี้เองก็เป็ผู้ครองรากิญญาระดับเทพเช่นกันแม้จะครองเพียงหนึ่งแต่กลับสังหารเหล่าเทพได้นับล้าน ทรงพลังยิ่ง
แล้วถังจื่อเล่าเป็ใครกันแน่! สองรากิญญาเทพเรียกได้ว่าสูงเทียมฟ้า ไม่รู้ว่าเ้าเด็กนี้ปลุกความทรงจำได้ตั่งแต่เมื่อใด...
หากถังจื่อเติบโตไปแข็งแกร่งเหนือแดนเทพได้เขาย่อมยินดีแต่หากไม่เล่า...เขาจะไม่โดนลูกพี่จากแดนเทพหมายหัวหรอกหรือ! เหนือหัวเขาไปมีแดนเซียนสูงกว่านั้นมีแดนเทพอยู่ เขาพลันรู้สึกเศร้าใจขึ้นมา
'ข้าพลาดตรงไหนกัน' จนใจนักตั่งแต่ต้นจนจบถังจื่อไม่เคยแสดงออกมาเลยว่าเป็ผู้กลับมาจุติ น่าจะปลุกความทรงจำได้ตอนหาประสบการณ์เป็แน่...
'ฮึ่ม ช่างมันแล้ว ข้าไม่รู้อะไรทั้งสิ้น' ิเทียนเยว่ตัดสินใจแกล้งโง่แทน...
แต่เพราะเหตุการณ์นี้ทำให้การตัดสินใจเื่ก่อตั่งสำนักของเขาง่ายขึ้นมาก ผู้ชะตากับผู้มีรากิญญาที่กระหายเลือกชขนาดนั้นทั้งยังมีถึงสอง เขาต้องกลัวอันใดอีก มิใช่ว่ามีมีดพาดคออยู่แล้วหรอ...
'ศิษเอ่ยอย่าแพ้เล่า' ิเทียนเยว่ได้แต่เชียร์ถังจื่อเงียบๆ หวังให้ถังจื่อมีชัยในการต่อกรกับตัวตนที่ทำให้เขามาจุติใหม่...
ในทางกลับกันเขาพลันรู้สึกสงสารคู่ต่อสู้ของถังจื่อขึ้นมาเ้าหนูนี่ไม่ปราณีเลยแม้แต่น้อย เมื่อเหยียบขึ้นเวทีเขาก็สังหารสิ้นไม่สนใจสายตาอาฆาตของผู้คนเลย
เมื่อเห็นเป็เช่นนั้นเขาก็ตัดสินใจไม่สอดส่องอีกต่อไป ผล แพ้ชนะมันล็อคอยู่แล้ว! เขาตรวจดูทุกคนแล้วไม่พบเจอผู้เข้าแข่งคนไหนมีคุณสมบัติเทพเช่นนี้เลย เื่นี้ก็แน่อยู่แล้ว!
ิเทียนเยว่พลันซึมไปการต่อสู้เช่นนี้ดูไม่น่าตื่นเต้นอีกต่อไป เป็เพียงการล่าของถังจื่อเท่านั้น...
...
ทางด้านสนามประลอง หลินทั่วหรี่ตามอง ถังจื่อด้วยแววตาสงสัย
'มองไม่ออกอีกแล้ว...' เขาพลันรู้สึกเศร้าใจขึ้นมา่นี้บนโลกมนุษย์เริ่มมีตัวตนที่เขามองต้นกำเนิดไม่ออกโผล่ขึ้นมาแล้ว หากเป็เช่นนี้แทนที่เขาจะได้ทำผลงาน คงถูกถอดถอนแล้วให้คนที่ทรงพลังกว่าเข้ามาแทน ทำให้เขาคิดถึงผู้าุโที่พำนักอยู่ ณ เขาสงบจิตขึ้นมา
เขาพลันส่ายหัวเบาๆ ล้มเลิกความคิดที่ว่าตนถูกตัดหางปล่อยวัดไป อย่างไรเสียเขาก็ยังติดต่อกับโลกเบื่องบนได้อยู่ตลอด!
...
บน สนามประลอง
ชายหนุ่มผู้หนึ่งยืนมองถังจื่อด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะกล่าวเบาๆว่า
"เ้าช่างโเี้ยิ่ง"
"...ไร้สาระ" ถังจื่อพูดเบาๆพลันสะบัดมือหมายปลิดชีพอีกฝ่ายในทันที
แต่เมื่อนั้นเขาก็เบิกตากว้างขึ้นมาเขาตื่นตระหนักเล็กน้อย
คนผู้นี้สามารถป้องกันไว้ได้
'ไม่ถูกต้อง กระบวนท่าเมื่อครู่แม้แต่พวกมหายานยังต้านทานได้ยาก' ถังจื่อขมวดคิ้วแน่น
สาเหตุที่เขายอมเล่นปาหี่เช่นนี้อยู่แน่นอนว่าต้องเป็เพราะ หลินทั่ว เขาทราบตบะของอีกฝ่ายและรู้ว่าตัวเขาในตอนนี้ยังสู้ไม่ได้จึงได้แต่ยอมทน แต่เมื่อมองสังเกตดีๆเขาถึงกับเบิกตากว้างอีกครั้งด้วยความไม่เชื่อสายตาก่อนจะเปลี่ยนเป็ความโกรธแค้น
"ไอพระบัดซบ" ถังจื่อกล่าวด้วยใบหน้าบิดเบี้ยวเขาเห็นเค้าร่างของพระพุทธรูปองค์หนึ่งอยู่ด้านหลังของ ชายหนุ่มผู้นี้เขาพลันเร่งพลังโจมตีสูงสุดหลายสังหารในทันที
"...เ้าอยู่ในสายตาข้าเสมอ" ชายหนุ่มกล่าวเบาๆก็จะสูญสลายไปพร้อมกับกระบวนท่าสังหาร
"ผะ ผู้ชนะ ถังจื่อ" กรรมการกล่าวด้วยความหวาดกลัว เขาเป็ถึงระดับจิติญญาขึ้น 1 เกือบฉี่ราดเพราะกระบวนท่าเมื่อกี้แล้ว
เหล่าตัวตนระดับฝ่าด่านเคราะห์เองก็ใเช่นกัน
ส่วนที่ใที่สุดเห็นจะเป็ หลินทั่ว
'ให้ตายเถอะ เหตุใดตัวตนระดับนั้นจึงปรากฏขึ้นมาได้' ตัวเขาเห็นทั้งร่างพระพุทธองค์และพลังสังหารของถังจื่่อเขาก็ทราบทันทีว่าทั้งคู่เป็ตัวตนเหนือชั้นที่ไม่อาจกล่าวนามได้ ตัวตนที่น่ากลัวระดับที่สามารถทำลายล้างแดนเซียนได้
เหตุการณ์นี้ทำเอาเขาเกิดความคิดอยากรับใช้ถังจื่อขึ้นมา ตัวตนระดับนี้ ในแดนเซียนนับว่าเป็ตัวตนสูงส่งไร้ผ่าย ในเมื่อตัวตนระดับนี้กลับมาเกิดในโลกที่เขาดูแลเช่นนี้ ย้ายข้างไปเลยดีกว่า!
หลินทั่ว พลันยิ้มแย้มขึ้นมาพลางคิดหาทางประจบ ถังจื่อ ปกติแล้วเขาไม่ใช่คนเช่นนี้แต่เมื่อพบกับตัวตนระดับเทพแล้วเป็หมาเขาก็ยอม!
...
ทางด้านผู้ชมเองสี่พี่น้องพลันมองหน้ากันเหลอหลา พี่ใหญ่ของพวกเขามิใช่หรือ!
เหตุใดโเี้ อหังการถึงเพียงนั้น!
พวกเขาไม่เอ่ยคำอันใดได้แต่เพียงทำหน้าเศร้าสร้อยออกมาเท่านั้น เนื่องจากพี่ใหญ่ของพวกเขาไม่ชายตามองมาเลยแม้แต่น้อย พวกเขามีตบะระดับใดไม่ต้องกล่าวถึงระดับหลอมปราณทั้งสองแล้วิฝานเล่า เสียงที่ผ่านกระแสจิตพลันถูกเมินทั้งหมด ราวกับถูกตัดความสัมพันธุ์โดยสิ้นเชิง
...
ตกดึกถังจื่อนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง เขาไม่อาจอยู่ในเมืองได้เนื่องจากไปที่ไหนล้วนแต่มีคนหวาดกลัวเขา แต่เขาก็หาได้ใส่ใจไม่อย่างไรเสียก็แค่มนุษย์หากฝืนคืนตบะได้แค่ชายตะมองโลกใบนี้ก็หายไปแล้ว
"อาจารย์หรือ" ถังจื่อมองไปยังูเาสงบจิต ิเทียนเยว่คือผู้ที่เขารู้สึกเป็หนี้บุญคุณมากที่สุด เนื่องจากวิชายุทธที่ได้รับถ่ายทอดมานั้นสามารถส่งเสริมให้ วิชาเทพมารพันกร ของเขาสมบูรณ์แบบได้
ส่วนเหล่าน้องๆเขามองว่าเป็เพียงแค่คนที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปเท่านั้น โอกาสสำเร็จเซียนมีอายุยืนยาวน้อยยิ่ง ตัดความสัมพันธ์ไปเสียแต่เนิ่นๆจะดีกว่า
แต่ิเทียนเยว่ไม่เหมือนกัน คนผู้นี้มีโอกาศสำเร็จเป็เซียนหรือแม้กระทั้งสำเร็จเป็เทพได้ หากเป็เช่นนั้นเขาก็ไม่รักเกียจที่จะรับเขามาดูแล
ถังจื่อยิ้มน้อยๆพลางคิดว่าตนนั้นใจอ่อนง่ายยิ่ง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้