หอบำรุงพลอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของตระกูลเย่ เป็สถานที่สำหรับงานฝ่ายธุรการแนวหลัง งานบริหารจัดการทรัพย์สมบัติของตระกูล เมื่อเย่ชิงหานมาถึงก็เห็นลูกหลานของตระกูลแวะเวียนมาเบิกแก่นผลึกมารอสูรกันอยู่ไม่ขาด แต่ละคนเบิกได้ในจำนวนที่แตกต่างกัน
“นายน้อยเฟิงสุดยอดจริงๆ หมาป่าสีเทาคุณภาพระดับเจ็ดเดือนหนึ่งเบิกแก่นผลึกมารอสูรได้หนึ่งร้อยเม็ด สัตว์อสูรของข้าคุณภาพระดับหกเบิกได้แค่ห้าสิบเม็ด”
“ใช่สิ ของข้าระดับสี่เบิกได้แค่ยี่สิบเม็ดเท่านั้นเอง...”
ในขณะที่เย่ชิงหานกำลังเดินเข้าไปในหอบำรุงพล เบื้องหน้ามีคนกลุ่มหนึ่งเดินสวนมา เด็กน้อยที่เดินอยู่ตรงกลางถูกห้อมล้อมราวกับเดือนที่ถูกล้อมด้วยหมู่ดาวฉันนั้น เขากำลังอุ้มลูกหมาป่าสีเทาด้วยใบหน้าท่าทางหยิ่งยโสอวดดีซึ่งก็คือเย่ชิงเฟิงนั่นเอง
สายตาเย่ชิงหานที่มองไปประสานเข้ากับเย่ชิงเฟิงพอดี เห็นใบหน้าเย่ชิงเฟิงปรากฏรอยยิ้มชั่วร้ายมองมายังตนเอง เย่ชิงหานขมวดคิ้วแต่ก็ไม่ได้สนใจรีบเดินเข้าไปภายในหอบำรุงพลอย่างรวดเร็ว
“สวัสดี ข้ามาขอเบิกแก่นผลึกมารอสูร” ภายในมีชายวัยกลางคนร่างอ้วนท้วมนั่งอยู่คนหนึ่ง เขากำลังพลิกดูสมุดบัญชีไปมาอย่างี้เี
“อืม...ชื่ออะไร สัตว์อสูรคุณภาพระดับเท่าไร” ชายวัยกลางคนร่างอ้วนท้วมหน้าก็ไม่หันมามองเพียงแต่ถามออกมาสองสามประโยค
เย่ชิงหานตอบตามความจริง “เย่ชิงหาน สัตว์อสูรคุณภาพระดับสี่สุนัขจมูกราชสีห์”
“อืม...รับไป นี่คือผลึกมารอสูรของเดือนนี้ วันนี้ของเดือนหน้าค่อยมาใหม่” ชายวัยกลางคนพลิกดูสมุดบัญชีอยู่ครู่หนึ่งจึงล้วงมือเข้าไปในถุงเล็กๆ ที่อยู่ข้างๆ หยิบของสีดำโยนมาให้เย่ชิงหานห้าชิ้น
เย่ชิงหานรับมาอย่างระมัดระวัง เห็นชายวัยกลางคนไม่ล้วงแก่นผลึกมารอสูรออกมาให้อีกจึงเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย “ผู้าุโ สัตว์อสูรคุณภาพระดับสี่ไม่ใช่ว่าเบิกแก่นผลึกมารอสูรได้ยี่สิบเม็ดหรอกหรือ? ทำไมข้าได้แค่ห้าเม็ดเท่านั้น?”
ชายวัยกลางคนร่างอ้วนท้วมเริ่มจะหงุดหงิด เขามองไปยังเย่ชิงหานด้วยสายตาเ็าแล้วกล่าวขึ้นด้วยความฉุนเฉียว “บ่นอะไรน่ารำคาญ สัตว์อสูรขยะอย่างเ้าจะเอาเท่าไร? จะเอาไม่เอา ไม่เอาก็ไม่ต้องเอาสักเม็ด”
“อ้อ!” เย่ชิงหานอดกลั้นอารมณ์ความโกรธไม่พอใจไว้ ตอบรับไปคำหนึ่งแล้วเดินออกไป
เมื่อเย่ชิงหานเดินออกไปจนพ้นชายร่างอ้วนท้วมวัยกลางคนจึงยิ้มและพูดออกมาอย่างเ็า “กล้าล่วงเกินนายน้อยขวงกับนายน้อยเฟิงยังคิดจะขอเบิกแก่นผลึกมารอสูรยี่สิบเม็ด ให้เ้าห้าเม็ดนับว่าเห็นแก่หน้าพ่อเ้าที่ตายไปมากพอแล้ว...”
ลานที่พักเล็กๆ ด้านตะวันออก
เย่ชิงหานวางเ้าอสูรน้อยเขาเดียวของตนไว้บนโต๊ะอย่างระมัดระวัง จากนั้นจับถาดไม้วางไปยังปากของเ้าอสูรน้อย ขนาดของเ้าอสูรน้อยยังคงเหมือนกับตอนที่เรียกออกมามีขนาดตัวใหญ่แค่เท่ากำปั้นซึ่งนอนขดหลับลึกอยู่ตลอด
เย่ชิงอวี่ที่อยู่ข้างๆ เบิกตาโตของนางมองดูด้วยความสนใจใคร่รู้ นางหยิบแก่นผลึกมารอสูรขึ้นมาเม็ดหนึ่งแล้วพูดขึ้น “ท่านพี่ นี่ก็คือแก่นผลึกมารอสูรหรือ? จะให้เ้าอสูรน้อยใช้อย่างไร? หรือให้มันกินลงไปตรงๆ แบบนี้เลย?”
“แน่นอนว่าไม่ใช่ สัตว์อสูรที่อยู่ใน่ระยะอ่อนแอจะบอบบางมาก ต้องใช้พลังปราณรบหลอมละลายแก่นผลึกมารอสูรให้เป็ของเหลวเสียก่อนค่อยให้มันกิน วิธีในการทำให้แก่นผลึกมารอสูรหลอมละลายมีเพียงตระกูลเย่เท่านั้นที่มี ข้าเพิ่งเรียนมาจากห้องเรียนสัตว์อสูรเมื่อตอนบ่าย มาข้าจะทำให้เ้าดู”
เย่ชิงหานพูดจบหยิบแก่นผลึกมารอสูรอันหนึ่งขึ้นมาวางไว้บนกลางฝ่ามือแล้วยื่นไปยังข้างปากเ้าอสูรน้อย จากนั้นจึงใช้วิธีพิเศษเฉพาะเริ่มทำการหลอมละลาย
เปรี๊ยะๆ
เมื่อเริ่มเดินพลังปราณรบ แก่นผลึกมารอสูรที่อยู่กลางฝ่ามือถูกพลังปราณรบโอบล้อมไว้ ผ่านไปสักพักบังเกิดเสียงเปรี๊ยะๆ ขึ้น จากนั้นควันสีขาวจางๆ เริ่มไหลเอ่อล้นออกมา
“ทำไมมันยังไม่ตื่น? ผู้าุโเทียนสิงบอกว่าถ้าสัตว์อสูรได้กลิ่นแก่นผลึกมารอสูรที่หลอมละลายจะตื่นขึ้นมาเองนี่นา?”
เย่ชิงหานจ้องมองไปที่เ้าอสูรน้อยด้วยความงุนงงสงสัย ตามที่ผู้าุโเทียนสิงบอก สัตว์อสูรเมื่ออยู่ใน่ระยะอ่อนแอปกติก็จะนอนหลับลึกและไม่กินอาหารทั่วๆ ไป มีเพียงแก่นผลึกมารอสูรที่หลอมละลายกลายเป็ของเหลวเท่านั้นมันถึงจะดูดกินได้ โดยเฉพาะตอนที่หลอมละลายจะเกิดกลิ่นที่พิเศษที่ดึงดูดสัตว์อสูรให้ตื่นจากการหลับใหลขึ้นมาดูดกิน
เห็นเ้าอสูรน้อยไม่แม้แต่จะกะพริบเปลือกตา ยังคงหลับสนิทอยู่เช่นนั้น เขาจึงเพิ่มพลังปราณรบเข้าไปอีก ผิวนอกของแก่นผลึกมารอสูรเริ่มหลอมละลายทีละน้อย เสียงเปรี๊ยะๆ เริ่มดังแรงขึ้นภายในห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นที่แปลกพิเศษชนิดหนึ่ง
“ตื่นแล้วท่านพี่! เ้าอสูรตัวน้อยตื่นแล้ว!” เย่ชิงอวี่ที่นั่งสังเกตการณ์อยู่ข้างๆ เห็นเ้าอสูรน้อยเปิดเปลือกตาโผล่ให้เห็นดวงตาไข่มุกสีดำขลับ สายตาของมันเปล่งประกายแวววาวจับจ้องไปที่แก่นผลึกมารอสูรที่กลางฝ่ามือของเย่ชิงหาน
ทันใดนั้น...ฟิ้ว!
เ้าอสูรน้อยผุดลุกขึ้นในทันที ยืดคออ้าปากงับกลืนเอาแก่นผลึกมารอสูรทั้งหมดลงไปในคราเดียว แถมยังเลียมือของเย่ชิงหานจนสะอาดทำท่าทางเหมือนกินอย่างประหยัดอดออมเสียอย่างนั้น ในขณะที่เลียยังใช้สายตาสีดำวาวนั้นมองมายังใบหน้าของเย่ชิงหานพร้อมกับกระดิกหางสั้นๆ ของมันไปมาแสดงอาการออดอ้อนเอาใจ
“นี่มัน...”
เย่ชิงหานกับน้องสาวมองหน้ากันไปมา เ้าอสูรน้อยตัวนี้ไม่ธรรมดาอย่างที่คิดไว้จริงๆ สามารถกลืนกินแก่นผลึกมารอสูรลงไปตรงๆ แถมยังดูท่าว่ายังอยากจะกินอีก
“เ้ายังอยากจะกินอีกหรือ?” เย่ชิงอวี่ชูแก่นผลึกขึ้นโบกไปมาแล้ววางไว้บนมือ นางยิ้มออกมาอย่างน่ารักสดใส
ฟิ้ว...
เย่ชิงอวี่เพิ่งจะพูดจบ ตำแหน่งตรงที่เ้าอสูรน้อยอยู่แต่เดิมหลงเหลือแค่เศษเงาร่างสายหนึ่ง พริบตาเดียวมันพุ่งผ่านฝ่ามือของนาง จากนั้นนางรู้สึกเบาที่มือแก่นผลึกมารอสูรที่วางอยู่ก็ได้หายไปแล้ว มองดูอีกฝั่งด้านหนึ่งของโต๊ะ เ้าอสูรน้อยใช้อุ้งมือทั้งสองประคองแก่นผลึกมารอสูรสีดำอย่างทะนุถนอมราวกับได้ของรัก จากนั้นจึงเริ่มกัดกินอย่างเอร็ดอร่อยขึ้น
กร๊อบ! กร๊อบ!
เ้าอสูรน้อยกัดกินอย่างหอมหวานราวกับว่าสิ่งที่มันกัดกินอยู่ไม่ใช่แก่นผลึกมารอสูรที่แข็งแกร่งแต่เป็น่องไก่ที่อ่อนนุ่ม มันกัดกินอยู่สองสามคำแก่นผลึกมารอสูรเม็ดนั้นก็ถูกมันกลืนลงไปภายในท้องเรียบร้อยแล้ว แต่ว่ามันยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น ยังคงจับเอาแก่นผลึกมารอสูรที่วางอยู่บนโต๊ะกัดกินต่อ พริบตาเดียวแก่นผลึกมารอสูรเม็ดที่สามก็ถูกมันกัดกินจนหมด
เอ่ออ...ระดับความเร็วที่น่ากลัว! ฟันที่แข็งแกร่ง!
เย่ชิงหานอุทานออกมาเบาๆ ในใจ ตามมาด้วยความดีใจอย่างบ้าคลั่ง ดูท่าเ้าอสูรตัวน้อยนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ แม้แต่ตอนที่อยู่ใน่ระยะอ่อนแอยังมีระดับความเร็วที่น่ากลัวขนาดนี้
แต่ที่น่ากลัวที่สุดคือฟันของมัน แก่นผลึกมารอสูรคืออะไร? มันคือส่วนที่ยอดเยี่ยมที่สุดของมารอสูร เป็แก่นที่แข็งที่สุดของร่างกาย แต่ฟันของเ้าอสูรน้อยตัวนี้กลับกัดและเคี้ยวมันได้ราวกับเคี้ยวก้อนเต้าหู้...ถ้าหากกัดไปที่ร่างกายคนจะเป็อย่างไร? เย่ชิงหานแค่คิดในใจก็รู้สึกหนาวสะท้านขึ้นมาทันที
สัตว์อสูรตัวนี้พลังฝีมือที่แท้จริงน่ากลัวเป็อย่างมาก ถ้าหากมันสามารถข้ามผ่าน่ระยะอ่อนแอไปได้ อาศัยเพียงแค่ระดับความเร็วที่น่ากลัวและฟันที่แหลมคมของมัน พลังโจมตีคงเทียบได้กับผู้มีพลังฝีมือในระดับขอบเขตยอดยุทธ์เป็แน่
ต้องรีบหาวิธีเอาแก่นผลึกมารอสูรมาให้ได้มากยิ่งกว่านี้ ให้เ้าอสูรน้อยเติบโตเร็วขึ้น! เย่ชิงหานตัดสินใจอย่างแน่วแน่ เขาอดใจรอไม่ไหวที่จะเห็นเ้าอสูรน้อยตัวนี้หลังจากเติบโตขึ้นจะน่ากลัวสักเพียงใด
“ท่านพี่! เ้าอสูรน้อยตัวมันดำขนาดนี้เราเรียกมันว่า...เสี่ยวเฮย ดีไหม?” เย่ชิงอวี่หัวเราะคิกๆ พูดออกมา
“เสี่ยวเฮย ก็ไม่เลวนะ ต่อไปเรียกมันว่าเสี่ยวเฮยก็แล้วกัน!”
เย่ชิงหานพยักหน้าตอบรับเห็นด้วยกับชื่อนี้ ในขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันเ้าอสูรตัวน้อยก็กินแก่นผลึกมารอสูรทั้งห้าเม็ดหมดจนไม่เหลือ กินเสร็จยังทำท่าทางใช้อุ้งมือทั้งสองเช็ดปากไปมาด้วยอาการพออกพอใจ จากนั้นจึงใช้ขาหลังทั้งสองดันตัวขึ้นเอาอุ้งมือหน้าลูบท้องราวกับคนกินอิ่มใหม่ๆ แล้วเริ่มเดินด้วยสองขาไปมาภายในห้อง
“ฮ่าๆ...ท่านพี่ เสี่ยวเฮยฉลาดจริงๆ เดินเลียนแบบคนได้ด้วย น่ารักมากๆ เลย!” เย่ชิงอวี่ถูกยั่วให้หัวเราะสายตามองเสี่ยวเฮยด้วยความรักใคร่เอ็นดู
“มา เสี่ยวเฮย เดินมาหาข้า” เย่ชิงหานก็ถูกยั่วให้หัวเราะเช่นเดียวกัน จึงยิ้มและพูดกับเสี่ยวเฮย
ฟิ้ว...
เสี่ยวเฮยราวกับฟังภาษาคนรู้เื่ สองขาของมันย่อลงแล้วเปลี่ยนเป็เงาเลือนรางสายหนึ่งพุ่งตกลงไปยังอ้อมอกของเย่ชิงหาน
“เก็บ!”
ภายในหัวของเย่ชิงหานรู้สึกได้ถึงการเชื่อมต่อของิญญา จากนั้นเริ่มใช้วิธีเรียกสัตว์อสูรกลับคืนเข้าไปในร่างตามที่ผู้าุโเย่เทียนสิงเคยสอน เสี่ยวเฮยรับรู้ได้ถึงความคิดของผู้เป็เ้าของ มันจามออกมาทีหนึ่งก่อนจะกลายเป็เงาสีขาวสายหนึ่งเลือนหายไปตรงบริเวณตำแหน่งหน้าอกของเย่ชิงหาน หลังจากที่เรียกสัตว์อสูรกลับเข้าไป เย่ชิงหานรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าบริเวณภายในอกเหนือหัวใจขึ้นไปมีช่องมิติเพิ่มขึ้นมา ส่วนเสี่ยวเฮยที่ตัวหดเล็กลงเป็สิบเท่านอนหลับอย่างมีความสุขอยู่ภายใน
ฮะ! สำเร็จแล้ว? ไม่ใช่ว่าตามที่ผู้าุโเทียนสิงบอก ครั้งแรกที่เรียกสัตว์อสูรกลับคืนค่อนข้างยากหรอกหรือ? จำเป็ต้องฝึกฝนหลายครั้ง...ทำไมตนเองทดลองแค่เพียงครั้งเดียวก็สำเร็จแล้วเล่า?
ความจริงแล้วเย่เทียนสิงไม่ได้อธิบายอย่างชัดเจนว่า สัตว์อสูรกับมารอสูรคุณสมบัติทางร่างกายนั้นเหมือนกัน ยิ่งระดับสูงแค่ไหนปัญญาก็ยิ่งมีมากแค่นั้น รวมทั้งสัตว์อสูรที่ทำพันธสัญญาแห่งิญญากับเ้าของไว้อีก สัตว์อสูรคุณภาพยิ่งสูงปัญญายิ่งมีมากจึงสามารถเข้าใจความนึกคิดของผู้เป็เ้าของได้ทันที ดังนั้นการเรียกกลับคืนจึงสำเร็จได้โดยง่าย
“ท่านพี่ ท่านเอาเสี่ยวเฮยไปซ่อนไว้ที่ไหนแล้ว? เอาออกมาให้ข้าเล่นกับมันก่อนสิ” เย่ชิงอวี่เห็นเสี่ยวเฮยหายวับไปต่อหน้าต่อตา นางขมวดคิ้วถามขึ้นด้วยความสงสัย
“พอแค่นี้ก่อน เสี่ยวเฮยข้าเรียกกลับเข้าไปในมิติสัตว์อสูรแล้ว ส่วนข้าก็จะรีบพยายามฝึกฝนเพื่อให้เสี่ยวเฮยข้ามผ่าน่ระยะอ่อนแอโดยเร็ว ส่วนเ้าก็รีบไปพักผ่อนก่อนเถอะ”
เย่ชิงหานลูบหัวน้องสาวอย่างเอ็นดูบอกให้นางรีบกลับไปพักผ่อน เย่ชิงอวี่พยักหน้าตอบรับเดินออกมาอย่างว่าง่าย รอจนน้องสาวออกไปเย่ชิงหานจึงนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงแล้วเริ่มการฝึกฝนพลังยุทธ์ในทันที
เขาต้องมุมานะฝึกฝนเพื่อให้เสี่ยวเฮยรีบข้ามผ่าน่ระยะอ่อนแอให้เร็วที่สุด สัตย์สาบานที่ให้ไว้ต่อหน้าหลุมศพของมารดาเป็เหมือนกระบี่ที่แหลมคมปักอยู่ในหัวของเขาตลอดเวลา จึงจำเป็ที่จะต้องทำให้พลังฝีมือของตนเองแข็งแกร่งขึ้นให้เร็วที่สุด
เย่ชิงหานเริ่มโคจร "เคล็ดวิชาเย่หวง" ค่อยๆ ดูดซับพลังฟ้าดิน พลังฟ้าดินที่ดูดซับเข้ามาผ่านการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกลายเป็พลังปราณรบกระแสแล้วกระแสเล่า หนึ่งในสามส่วนของกระแสพลังปราณรบเ่าั้ได้ไหลเข้าไปในมิติสัตว์อสูรที่อยู่ตำแหน่ง้าของหัวใจของเขา
พลังปราณรบที่ไหลเข้าไปภายในมิติสัตว์อสูรต่างไหลเข้าไปภายในร่างของเสี่ยวเฮยโดยอัตโนมัติ
“อืม! เหมือนกับที่ผู้าุโพูดไว้ไม่ผิด ต่อไปทุกๆ วันคงต้องเพิ่มเวลาในการฝึกฝนพลังปราณรบขึ้นอีกสามชั่วโมงแล้ว”
เย่ชิงหานดวงตาเป็ประกาย มุมปากปรากฏรอยยิ้มแห่งความยินดี จากนั้นจึงทำการฝึกฝนต่อ