เย่ชิงหานมองดูแหวนทองเหลืองด้วยใจที่ตื่นเต้น แต่หลังจากหนึ่งนาทีผ่านไปใจของเขาก็สลดลงมาอีกครั้ง
ไม่ได้ผล!
แหวนทองเหลืองไม่ปล่อยกระแสพลังสีขาวที่คุ้นเคยออกมา แผลของน้องสาวยังคงมีเืไหลออกมาอยู่เช่นเดิม
สักพักเขาคล้ายกับนึกอะไรขึ้นมาได้ รีบนำแหวนกลับมาสวมใส่ให้ตนเองแล้วหยิบกริชเล่มสีดำออกมากรีดไปที่ข้อมือข้างซ้ายของตนเอง
ฟืด
ข้อมือถูกกรีดเป็แผลลึกเืสดๆ ไหลทะลักออกมา ในที่สุดแหวนก็สว่างขึ้นกระแสพลังสีขาวไหลมายังข้อมือของเขาอย่างรวดเร็ว เย่ชิงหานรีบเปิดปากของน้องสาวออกถือโอกาสที่ปากแผลยังไม่หายสนิทดีบีบเืออกมาให้ไหลเข้าไปในปากของเย่ชิงอวี่
เพียงแต่พลังการฟื้นฟูจากแหวนยอดเยี่ยมจนเกินไป พริบตาเดียวปากแผลที่ข้อมือก็สมานเข้าด้วยกัน เย่ชิงหานคิ้วขมวดขึ้นมาทันที ไม่ใช่ว่าเพราะความเ็ปที่ได้รับจากการาแ ความเ็ปยิ่งกว่านี้เขาก็ทนผ่านมันมาได้เป็เดือนๆ แค่นี้ไม่นับประสาอะไร แต่ที่คิ้วขมวดเพราะว่าปากแผลสมานตัวกันเร็วจนเกินไปอาจเป็อุปสรรคในการช่วยชีวิตของน้องสาวได้ ด้วยเหตุนี้เขาหยิบกริชขึ้นมาอีกครั้งแล้วกรีดลงไปยังที่เดิมแต่ลึกกว่าเดิม ปากแผลเกือบจะมองเห็นได้ถึงกระดูกสีขาวที่อยู่ภายใน
กรีด หยดเื แผลสมานตัว กรีดต่อ!
เย่ชิงหานกระทำอยู่เช่นนี้ซ้ำไปซ้ำมาไม่หยุด ใบหน้าปราศจากความรู้สึกใดๆ มีเพียงความเงียบงันและเสียงของหยดเืสีแดงสดที่ดังติ๊กๆ
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ไม่รู้ว่ากรีดไปกี่ครั้ง และไม่รู้ว่าเืไหลออกมามากน้อยเพียงใด รู้แค่เพียงตอนนี้เย่ชิงหานใบหน้าเริ่มซีดเผือดมากขึ้น ดวงตาจับจ้องไปที่ตาของเย่ชิงอวี่ เห็นแสงในตาของนางเริ่มสว่างมากขึ้น ใบหน้าของเขาพลอยยิ้มออกมาด้วยความปีติยินดี
อย่างช้าๆ...
หลังจากที่ปล่อยให้เืไหลเข้าไปภายในปากของเย่ชิงอวี่มากขึ้น ใบหน้าของเย่ชิงอวี่ค่อยๆ เริ่มมีสีเืขึ้นมา แผลบริเวณหน้าผากเริ่มค่อยๆ สมานตัวเข้าหากัน เริ่มปรากฏมีลมหายใจที่เบาบางขึ้น หน้าอกเริ่มค่อยๆ ขยับขึ้นลงอย่างช้าๆ ตามจังหวะการหายใจ
เขาเอามือลูบไล้ใบหน้าของน้องสาวอย่างแ่เบา น้ำตาเริ่มไหลออกมาอย่างเงียบๆ หากตนเองรีบกลับมาให้เร็วกว่านี้ เร็วกว่านี้หนึ่งวัน ไม่...ขอแค่เร็วกว่านี้สักสิบห้านาที น้องสาวก็คงไม่ต้องมาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ มองดูใบหน้าของน้องสาวที่นอนหลับอยู่อย่างสงบเขาก็ใจชื้นขึ้นมาหน่อย เอามือเช็ดคราบเืที่มุมปากให้นางแล้วจึงดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้
จากนั้น!
เขาค่อยๆ ยืนขึ้น สายตาพลันเปลี่ยนเป็ดุดันแหลมคมขึ้นมา กลิ่นอายสังหารรุนแรงแผ่ปกคลุมไปทั่วทั้งห้อง
.................................
เย่ชิงเสไม่ได้หลบหนีไปยังคงรออยู่ที่เดิม เขาไม่ได้หวาดกลัวที่เย่ชิงหานสังหารเย่เป้าอย่างโเี้ และไม่ได้เกรงกลัวต่อคำขู่ที่ว่าจะพังเมืองของบิดาตนเอง แต่เป็เพราะเขารู้สึกว่าภารกิจครั้งนี้ยังทำไม่สำเร็จ และเย่ชิงหานก็โผล่มาอย่างไม่คาดคิดอีก สถานการณ์เกรงว่าจะยิ่งยุ่งยากมากขึ้นทุกที ดังนั้นตนเองต้องรออยู่ตรงนี้เพื่อสกัดเย่ชิงหานไว้ เพื่อให้เย่ชิงขวงมีเวลามาจัดการกับเื่ราวที่เกิดขึ้นนี้
ลูกสมุนอีกคนได้นำข่าวไปรายงานเป็ที่เรียบร้อยแล้ว ศพของเย่เป้ายังคงนอนนิ่งอยู่ที่เดิม เย่ชิงเสตื่นตระหนกต่อพลังฝีมือของเย่ชิงหานที่พัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เ้าขยะคนนี้เมื่อไม่กี่เดือนก่อนมีพลังฝีมือแค่ระดับแรกของขอบเขตขั้นสูงมิใช่รึ? ทำไมเพียงแค่หนึ่งหมัดหนึ่งเท้าก็สามารถสังหารเย่เป้าที่อยู่ในระดับแรกของขอบเขตยอดยุทธ์ได้! แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่ได้กังวลอะไรมากนัก เขาที่มีพลังฝีมือระดับแรกของขอบเขตเยี่ยมยุทธ์ หากรวมร่างกับสัตว์อสูรพลังจะเลื่อนขึ้นสู่ระดับขั้นที่สองของขอบเขตเยี่ยมยุทธ์ เขาคิดว่าอาศัยพลังฝีมือเพียงเท่านี้ก็น่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้านี้ได้แล้ว
เพียงแต่ไม่กี่วินาทีต่อมาทั่วทั่งร่างของเขากลับถูกความรู้สึกเย็นะเืสายหนึ่งปกคลุม กลิ่นอายสังหารที่รุนแรง! เย่ชิงเสมองดูเด็กหนุ่มร่างกายซูบผอมที่ยืนอยู่ประตูห้องด้วยความตกตะลึง ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมร่างกายที่ดูเล็กซูบผอมนั้นกลับสามารถแผ่กลิ่นอายสังหารออกมาได้ดุดันรุนแรงถึงเพียงนี้
“ทำไม?”
เย่ชิงหานยืนอยู่หน้าประตูถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่เ็าอย่างที่สุด
“ทำไม? ก็ไม่ทำไม...ความจริงข้าก็เพิ่งจะมาถึง กลับพบว่าน้องชิงอวี่คิดไม่ตกก็เลย...”
เย่ชิงเสนึกอะไรได้ก็พูดออกมาจากนั้นก็ปิดปากไม่พูดสิ่งใดต่อ เพราะเขาสังเกตเห็นหน้าตาและกลิ่นอายสังหารที่แผ่ออกมาจากเย่ชิงหานยิ่งดุดันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เขาตอบคำถาม
“ทำไม?”
แม้ว่าสิ่งที่เย่ชิงหานถามมาจะเป็คำเดิมประโยคเดิม แต่ราวกับว่าน้ำเสียงที่พูดออกมามันแฝงไปด้วยพลังมารอย่างไรอย่างนั้น ทุกๆ คำทุกๆ ตัวอักษระเืเข้าไปถึงภายในใจของเขา ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัว ใจหวิว และกระทั่งมีอาการสั่นเทิ้ม
เย่ชิงเสสูดลมหายใจเข้าลึกไปหลายครั้งแล้วบอกกับตนเองว่า จะสั่นทำไม? มันก็แค่ไอ้ขยะคนหนึ่ง ตนเองพลังฝีมือระดับแรกของขอบเขตเยี่ยมยุทธ์จะไปหวาดกลัวทำไม? ดังนั้นเขาจึงพูดขึ้น “เย่ชิงหาน ข้าเข้าใจความรู้สึกของเ้าในตอนนี้ และหวังว่าเ้าจะใช้สติและเหตุผล ข้าเชื่อว่าทางตระกูลจะต้องให้คำตอบที่สมเหตุสมผลต่อเื่ที่เกิดขึ้นแก่เ้าอย่างแน่นอน”
“รวมร่าง!”
เย่ชิงหานไม่พูดไร้สาระใดๆ อีกต่อไปเรียกสัตว์อสูรออกมารวมร่างในทันที พลังที่เพิ่มพูนขึ้นไหลเวียนไปทั่วร่างทำให้เขาดูแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า เขาค่อยๆ เดินตรงมายังเบื้องหน้าอย่างเชื่องช้า จากนั้นจึงเอ่ยปากพูดขึ้นอีกครั้ง “ข้าจะขอถามเ้าเป็ครั้งสุดท้าย ทำไม?”
“รวมร่าง!”
เย่ชิงเสก็ไม่ตอบกลับสิ่งใดๆ เรียกสัตว์อสูรออกมารวมร่างเช่นเดียวกัน เขาคิดว่าเย่ชิงหานคงสมองมีปัญหาอย่างแน่นอน ในเมื่อไม่สามารถใช้คำพูดทำให้เข้าใจในเหตุผลบางอย่างได้ ถ้าอย่างนั้นคงต้องใช้กำลังแทนการบอกกล่าวให้เ้าเด็กที่ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำคนนี้ได้เข้าใจสัจธรรมของโลกเสียหน่อยว่า กำปั้นของใครใหญ่กว่าคนนั้นแหละคือเหตุผล
เพียงแต่...วินาทีต่อมาเขามองเห็นดวงตาที่เ็าของเย่ชิงหานเปล่งประกายแสงสว่างที่โชติ่ขึ้นมาสองสาย เป็แสงที่ทั้งลานตาและแสบตาคล้ายแสงของพระอาทิตย์ที่ร้อนแรงในตอนเที่ยงวัน แสงนั้นทำให้เย่ชิงเสที่มองรู้สึกวิงเวียนศีรษะและตาพร่ามัว หัวสมองมึนงงสับสนทิศทาง
เย่ชิงหานไม่อ้อมค้อมลีลา ครั้งแรกที่โจมตีก็ใช้ - เนตรสยบิญญา ออกไปในทันที ตอนนี้เขายืนยันได้เลยว่าความสามารถพิเศษนี้สุดยอดเป็อย่างมาก สุดยอดขนาดที่ว่าสามารถไม่สนใจการป้องกันของผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตเยี่ยมยุทธ์ สามารถทะลุผ่านเข้าไปโจมตีิญญาได้โดยตรง ทำให้พวกเขาวิงเวียนศีรษะตาพร่ามัวไปหนึ่งวินาที เวลาหนึ่งวินาทีแม้จะสั้นมากเพียงกะพริบตาก็ผ่านไปแล้ว แต่เมื่ออยู่ในโลกของผู้ฝึกยุทธ์ในระดับนี้ เพียงวินาทีเดียวก็สามารถทำให้คนๆ หนึ่งตายได้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ตัวอย่างเช่นเสว่อีทีู่เาหมาป่าเพลิง และตัวอย่างเช่นเย่ชิงเสในตอนนี้
เย่ชิงหานพุ่งทะยานออกไป มือขวาอ้าออกเปลี่ยนฝ่ามือเป็กรงเล็บที่เหนี่ยวแน่นคว้าจับเข้าไปยังบริเวณลำคอของเย่ชิงเสแล้วชูลอยสูงขึ้นกลางอากาศ มือข้างซ้ายตบไปยังจุดชีพจรต่างๆ บนร่างของเขาอย่างรุนแรงหลายที ทำลายจุดการไหลเวียนของพลังปราณรบจนหมดสิ้น จากนั้นมองไปยังเย่ชิงเสที่อยู่ในอาการตื่นตระหนกด้วยสายตาที่เย็นะเืพร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เ็า
“วันนี้อย่างไรเ้าก็ต้องตายอย่างแน่นอน แตกต่างกันที่ตายไปอย่างสบายๆ หรือจะตายไปอย่างเ็ปทุกข์ทรมาน และถ้าหากเ้าไม่อยากให้บิดามารดาที่อยู่เมืองเล็กและน้องชายที่เพิ่งกลายเป็ศิษย์สายในมาเกี่ยวข้องด้วยละก็ จงเล่าเื่ราวทั้งหมดออกมาให้ข้าฟัง”
เย่ชิงเสมองดูเย่ชิงหานที่ใช้มือข้างเดียวชูตนเองลอยสูงขึ้นกลางอากาศอย่างหวาดกลัว เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น! ใช่แล้ว ตนเองมองเห็นแสงสว่างจ้าสองสายจากนั้นก็เริ่มวิงเวียนศีรษะ...วิงเวียนศีรษะ! ยิ่งคิดยิ่งทำให้เขาตื่นตระหนกมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม นี่มันวิชาอาคมอะไรกัน? ทำไมถึงสามารถทำให้ผู้มีพลังฝีมือในระดับขอบเขตเยี่ยมยุทธ์ตกอยู่ในอาการวิงเวียนศีรษะและดวงตาพร่ามัวได้
“อ๊าาา!”
ในขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น เย่ชิงเสพลันเบิกตากว้างขึ้นอย่างหวาดกลัว เพราะว่าเย่ชิงหานทนรอไม่ไหวแล้ว เขาล้วงมือเข้าไปภายในอกล้วงเอากริชสีดำออกมาจากนั้นตวัดเฉือนผ่านไปยังบริเวณข้อต่อหัวเข่าทั้งสองข้างของเย่ชิงเส เสียงที่ดังราวกับเส้นเอ็นของวัวที่ขาดดัง ปึงๆ ดังขึ้น จากนั้นเย่ชิงเสรู้สึกเ็ปขึ้นที่หัวเข่าและท่อนขา่ล่างทั้งสองข้างก็สูญเสียความรู้สึกไป
“ในเมื่อเ้ายังลังเลอยู่ ถ้าอย่างนั้นคงต้องให้เ้าได้ลิ้มลองรสชาติของการตายอย่างเ็ปทรมานดู เผื่อบางทีเ้าอาจจะตัดสินใจทำสิ่งที่ถูกต้องออกมาได้”
ได้ยินคำพูดที่เ็าของเย่ชิงหาน เขารู้ดีว่าถ้าหากเขาไม่พูดความจริงออกมาเย่ชิงหานจะต้องค่อยๆ ทรมานเขาไปจนกว่าจะตายอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งญาติพี่น้องก็จะถูกฆ่าตายทั้งหมด รวมถึงบิดามารดาที่อยู่ในเมืองเล็กที่อยู่ห่างใกลออกไป เพราะเขารู้สึกว่าเย่ชิงหานในตอนนี้น่ากลัวยิ่งกว่าปีศาจร้ายเสียอีก ทั้งความเด็ดเดี่ยว ดุร้าย เหี้ยมเกรียมทั้งพลังฝีมือที่เพิ่มพูนอย่างน่ากลัว มาถึงขั้นนี้แล้วเขาไม่ร่วมมือด้วยคงไม่ได้
“ข้า...จะ...พูด...ปล่อย ปล่อยมือ!”
รู้สึกได้ถึงมือใหญ่ที่จับอยู่ยิ่งนานแรงที่ส่งมายิ่งเพิ่มขึ้นทุกที การหายใจก็เป็ไปอย่างยากลำบาก มือเท้าของเขากวัดแกว่งไปมาในอากาศไม่หยุด สุดท้ายจึงอ้าปากพูดออกมาสามสี่คำอย่างยากลำบาก
ปัง!
เย่ชิงหานเหวี่ยงแขนโยนเย่ชิงเสลงไปบนพื้นอย่างหนักหน่วงราวกับของเล่นที่ผุพัง ฝุ่นผงลอยฟุ้งขึ้นมา จากนั้นเขาเดินตรงเข้าไปแล้วนั่งยองๆ อยู่ข้างๆ มือถือกริชพูดออกมาอย่างเ็า
“ข้าให้เวลาเ้าหนึ่งนาที อย่าคิดฝันว่าจะมีคนมาช่วยเ้า ต่อให้เป็ผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตาาจักรพรรดิ ก่อนจะมาถึงข้าก็ชิงลงมือฆ่าเ้าได้ก่อนอยู่ดี”
เย่ชิงเสหัวเราะเยาะใส่ตนเอง ส่งลูกสมุนกลับไปรายงานข่าวเป็เวลานานแล้ว หากเย่ชิงขวงกับเย่หรง้าที่จะช่วยเหลือตนเองจริงคงมาตั้งนานแล้ว ความจริงเช้าวันนี้เย่ชิงขวงบอกตนเองให้นำลูกสมุนมากันเพียงสามคนความหมายก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า หากภารกิจทำได้สำเร็จลุล่วงด้วยดีมีรางวัลให้อย่างงาม หากมีปัญหารับผิดชอบเองไม่เกี่ยวอะไรกับเขา...ในเมื่อเย่ชิงขวงไม่มีน้ำใจกับตนเองถึงเพียงนี้ เพื่อญาติพี่น้องแล้วก็คงต้องขอไม่มีคุณธรรมเช่นกัน เมื่อเย่ชิงเสคิดทบทวนทุกอย่างจนกระจ่างขึ้นในใจ จึงเอ่ยปากพูดขึ้น
“เป็เสว่อู่เหินกับเย่ชิงขวง เมื่อสองเดือนก่อน...”
ฟังเื่ราวที่เย่ชิงเสเล่าออกมาอย่างรวดเร็ว สีหน้าของเย่ชิงหานยิ่งฟังยิ่งเ็าขึ้น อารมณ์โกรธแค้นเดือดดาลภายในใจลุกโชติ่ราวกับจะทะลุขึ้นถึงแผ่นฟ้า
ตระกูลนี้...คงอยู่ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว สิบกว่าปีที่อดกลั้นและโดนรังแก คำด่าทออย่างดูถูกเหยียดหยามจากเย่ชิงเสียน คืนฝนตกอันเหน็บหนาวหน้าหอผู้าุโ ความอัปยศบนถนนหนิวหลัน สายตาแฝงแววสังหารที่วาบผ่านของเย่เจี้ยนหน้าหอสัตว์อสูร เืสีแดงสดที่ฉาบทาอยู่บนกำแพงสีขาว...ทั้งหมดทั้งมวล ราวกับภาพเหตุการณ์ฉากต่อฉากลอยเด่นขึ้นมา ทำให้อารมณ์ที่ข่มไว้มาตลอดทะลุถึงขีดสุดจนไม่สามารถที่จะอดกลั้นและนิ่งเงียบอีกต่อไปไหว