เล่มที่ 8 บทที่ 221 อย่าเสียใจก็แล้วกัน
อกแกร่งของหวังหลงขยับขึ้นลงอย่างรุนแรง ก่อนจะเอ่ยตอบเกาชิวด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยไอสังหาร
“เลวทรามยิ่งนัก ถึงกับยอมเป็ทาสของอสุรกายร้าย สักวันเ้าจะต้องถูกกินเป็แน่...”
“หึหึๆ...”
เกาชิวได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะเ็า โดยไม่สนใจคำด่าของคนตรงหน้าสักนิด ก่อนจะสะบั้นกระบี่ดำในมืออีกครั้งหลายครั้งติดกัน จากนั้นลำแสงกระบี่สีดำมากมายก็พุ่งใส่กระแสเสวียนหวงเข้าทันที
ลำแสงกระบี่สีดำสว่างเจิดจ้าขึ้น...
กระแสเสวียนหวงที่ราวกับม่านน้ำตก ก็มีสภาพคล้ายกับเรือลำน้อยท่ามกลางกระแสน้ำเชี่ยว บัดนี้ได้ถูกลำแสงกระบี่มากมายที่ะเิออกพุ่งชนจนบิดเบี้ยว และทุกครั้งที่ลำแสงกระบี่ะเิออก กระแสเสวียนหวงก็จะสั่นไหวอย่างรุนแรง แสงยันต์ที่ลอยอยู่เหนือหัวเว่ยฟงและหวังหลงก็สั่นคลอนราวกับจะมอดดับได้ทุกเมื่อ
ทว่าต่อให้ลำแสงกระบี่ของเกาชิวจะร้ายกาจเพียงใด ก็ไม่อาจทำให้กระแสเสวียนหวงที่เหมือนใกล้จะแตกสลายนี้พังทลายลง...
เกาชิวเห็นดังนั้นก็ใเล็กน้อย ภายใต้การป้องกันของกระแสเสวียนหวง ทำให้อักขระที่ถ่ายเทระหว่างเว่ยฟงและเ้าหนูทองลดน้อยลงและรวดเร็วยิ่งขึ้น ส่วนหวังหลงก็ยังคงซ่อมแซมเรื่อยๆจนเริ่มมีเงายันต์ปรากฏออกมาเลือนราง บัดนี้มีอักขระจำนวนมากกำลังเรืองแสงราวกับหิ่งห้อยลอยเข้ามาไม่หยุด เกรงว่าอีกไม่นานก็จะฟื้นตัวกลับมาเหมือนเดิม...
หากคนทั้งคู่ฟื้นตัวจนร่างกายสมบูรณ์เมื่อใด เกรงว่าคงยากที่จะต้านทานได้เลยทีเดียว...
“ไม่ได้เื่ ไสหัวไป!”
อสุรกายร้ายเห็นดังนั้นก็ตะคอกเกรี้ยวกราดทันที ควันดำมากมายพ่นออกมาทางรูจมูกของมัน แววตาที่มองเกาชิวก็เต็มไปด้วยความดูแคลน ก่อนจะเดินข้ามเกาชิวไปทางเว่ยฟงและหวังหลง
แม้มันจะยังเดินมาไม่ถึง แต่หมอกควันดำที่รายล้อมรอบตัวอสุรกายร้ายก็รวมตัวกันเป็กรงเล็บยาวหลายจ้าง เพียงครู่เดียวมันก็ฟาดลงมาที่กระแสเสวียนหวงจนเกิดเสียงดังกัมปนาท...
ชั่วขณะที่เกิดเสียงดังสนั่น ก็เห็นเป็กรงเล็บขนาดใหญ่ฟาดเข้าที่กระแสเสวียนหวงอย่างรุนแรง กระทั่งเกิดลำแสงสีเหลืองและดำที่กำลังคานอำนาจกันอยู่ พริบตาถัดมากระแสเสวียนหวงที่คล้ายหมอกชั้นบางก็เกิดปั่นป่วน ไม่อาจเอาต้านทานกรงเล็บขนาดใหญ่ได้
เ้าอสุรกายคว้าทุกอย่างในรัศมีสิบจ้างขึ้นมา ส่วนหมอกควันดำที่อยู่รายล้อมกรงเล็บก็พุ่งชนกระแสเสวียนหวงไม่หยุด จากนั้นลำแสงมากมายก็เริ่มะเิออก ทว่ามันไม่อาจต้านทางการบีบเข้ามาของกรงเล็บอสุรกายได้ ทันใดนั้นกระแสเสวียนหวงก็ถูกบีบจนรูปร่างบิดเบี้ยว รัศมีของกระแสเสวียนหวงก็เริ่มหดแคบลงเรื่อยๆ...
ไม่นานกระแสเสวียนหวงก็เริ่มแตกร้าว ก่อนที่ลำแสงจำนวนมากจะะเิออกและสลายไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็มีสายฟ้าผ่าฟาดลงมาอย่างรุนแรง ลำแสงและไออสูรมากมายพากันปะทุออกมา กระทั่งเกิดเป็พลังทำลายล้างรุนแรง และกวาดทำลายทุกอย่างในรัศมีร้อยจ้างจนเกิดเป็หลุมขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนพื้น...
และบริเวณก้นหลุมนั้น ก็ไม่มีกระแสเสวียนหวงหลงเหลืออีกต่อไป...
หวังหลงคำรามเสียงต่ำออกมาก่อนจะกระอักเืตาม ใบหน้าของเขาก็ซีดขาวจนดูน่ากลัว...
เนื่องจากอสุรกายร้ายได้บีบกระแสเสวียนหวงซึ่งคุ้มกันคนทั้งคู่จนแตกสลายไปแล้ว...
เมื่อกระแสเสวียนหวงแตกสลายลง คนได้รับผลกระทบเต็มๆก็คือหวังหลงนั่นเอง นอกจากจะเจ็บหนักกว่าเดิมแล้ว แม้แต่ยันต์คู่กายที่เริ่มรวมตัวขึ้นก็แทบแตกสลายอีกครั้ง รวมถึงยันต์เสวียนหวงฟ้าดินที่ลอยอยู่เหนือหัว ก็อับแสงลงราวกับพร้อมจะสลายหายไปได้ทุกเมื่อ...
ขณะที่หวังหลงและเว่ยฟงยังไม่ทันตั้งตัว กรงเล็บของเ้าอสุรกายร้ายก็พุ่งเข้ามาอีกครั้ง หากครั้งนี้ฟาดลงมาเต็มๆละก็ เกรงว่าทั้งคู่จะไม่อาจหนีรอดจากความตายได้เป็แน่
หวังหลงเห็นดังนั้นก็ร้อนใจ รีบพ่นเืใส่ยันต์เสวียนหวงฟ้าดินที่ลอยอยู่เหนือหัวทันที จากนั้นก็มีเสียงะเิดังก้องขึ้น พริบตาต่อมานั้นเอง ยันต์เสวียนหวงฟ้าดินก็ลุกไหม้ ทำให้เหล่าอักขระมากมายะเิออก ก่อนจะทับซ้อนเรียงรายจนกลายเป็ม่านหมอกสีทองปกคลุมเว่ยฟงและหวังหลงเอาไว้ กรงเล็บของเ้าอสุรกายร้ายจึงฟาดลงมาที่ม่านหมอกนี้แทน หลังจากถูกกรงเล็บของอสุรกายร้ายฟาดลงมา ลำแสงที่ปกคลุมคนทั้งคู่ก็หม่นแสงลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
หวังหลงถึงกับทำลายยันต์เสวียนหวงฟ้าดิน เพื่อปล่อยให้อักขระยันต์มากมายลุกไหม้ขึ้นจนเกิดเป็พลังอันแข็งแกร่ง พลังที่การป้องกันในตอนนี้จึงแข็งแกร่งกว่าเดิมนับสิบเท่า...
“ก็แค่ลูกไม้ตื้นๆ!”
ทว่าเ้าอสุรกายร้ายก็ทำเพียงหัวเราะเ็าออกมาเท่านั้น ไม่นานควันดำที่รายล้อมอยู่รอบตัวก็กลายสภาพเป็คัมภีร์สีดำ เมื่อม้วนคัมภีร์กางออกมา ลำแสงสีเหลืองก็ถูกดูดกลืนหายเข้าไป...
ทันในนั้นลำแสงสีดำที่อยู่เหนือคัมภีร์ก็สั่นไหวขึ้น บัดนี้ลำแสงสีเหลืองที่อยู่ภายในคัมภีร์ได้ถูกกรงเล็บที่อยู่ในส่วนลึกฉีกกระชากอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นลำแสงสีเหลืองก็ค่อยๆจางลง และสุดท้ายก็จางหายไปท่ามกลางกรงเล็บสีดำนับไม่ถ้วน เหลือเพียงหมอกควันที่ปกคลุมบนคัมภีร์เท่านั้น
“จบสิ้นแล้วล่ะ...”
เกาชิวเห็นภาพตรงหน้าก็รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมา เหงื่อเย็นไหลโซมไม่รู้จักหยุด แถมยังรู้สึกขมปร่าไปทั่วลิ้น ไม่ง่ายเลยกว่าจะกล่อมเ้าอสุรกายร้ายยอมให้ใช้ิญญาสามคนนั้นแทน แต่บัดนี้เ้าอสุรกายกลับต้องลงมือเสียเอง ด้วยความโเี้ของมันเช่นนี้ เกรงว่าหลังจากกินสองคนนั้นแล้ว มันจะต้องกินเขาไปรายต่อไปแน่นอน...
‘ไม่ได้ ข้าต้องสร้างผลงาน!’
คิดได้ดังนั้นเกาชิวก็มีความคิดหนึ่งพาดผ่านเข้ามา ‘ใช่แล้ว ยังมีหลินเฟยอีกคน...’
รอยยิ้มเ้าเล่ห์ก็ปรากฏขึ้นโดยพลัน เกาชิวกุมกระบี่และเดินไปหาหลินเฟยทันที
“ตอนนั้นข้าพูดแล้ว เ้าจะตามมาก็ได้ แต่หากเกิดอะไรขึ้นมา จะโทษคนอื่นไม่ได้...”
“หื้อ?” หลินเฟยเหลือบมองคัมภีร์สีดำที่ลอยอยู่กลางอากาศ จากนั้นก็ลูบจมูกปรอยๆ ก่อนจะหันกลับมามองเกาชิวอีกครั้ง
“คิดจะลงมือกับข้างั้นหรือ?”
“แล้วใครใช้ให้เ้าดวงซวยเช่นนี้เล่า...” เมื่อพูดจบ เกาชิวก็หันปลายกระบี่ลง บัดนี้ใบหน้าของเขาดูสยดสยองราวกับซากศพก็ว่าได้
“ข้าไม่อยากตาย เช่นนั้นเ้าจงตายแทนแล้วกัน…”
“หึหึ ใครจะตายกันแน่ก็ยังไม่รู้เลย แต่ขอเตือนไว้ก่อนนะ เ้าจะลงมือก็ได้ แต่อย่าได้เสียใจภายหลังแล้วกัน…”
“คนตายเท่านั้นแหละ ที่จะเสียใจ!” เกาชิวตวาดออกมาพร้อมกับแววตาที่เปี่ยมไปด้วยไอสังหาร ใบหน้าก็พลันบิดเบี้ยวอัปลักษณ์ ตอนนี้เกาชิวไม่มีเวลามาคิดว่าจะเสียใจหรือไม่ เพราะตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุด ก็คือเอาใจเ้าอสุรกายให้ได้เสียก่อน ไม่เช่นนั้นคงมีแค่ตายกับตายเท่านั้น…
เมื่อสิ้นเสียงเกาชิว ก็มีควันดำรายล้อมกระบี่ดำ หลังจากที่เกาชิวโคจรเคล็ดวิชากระบี่ ทันใดนั้นก็มีไอโเี้เข้มข้นแพร่กระจายออกมา เมื่อลำแสงกระบี่ผสานเข้ากับไอโเี้ จึงกลายเป็ัสีดำตัวยาวนับสิบจ้างซึ่งกำลังกางกรงเล็บและพุ่งตรงมาทางหลินเฟยอย่างดุร้าย
“จะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร…” หลินเฟยยังคงยืนอยู่ที่เดิม ไม่ขยับตัวแม้แต่น้อย ทว่าสายตาที่มองมากลับเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน…
สีหน้าของเกาชิวเริ่มบิดเบี้ยวแฝงชั่วร้ายมากขึ้น บัดนี้เหมือนเห็นเป็ภาพของหลินเฟยที่ถูกัร้ายค่อยๆฉีกกระชากออกมาเลือนราง แถมยังได้ยินเสียงร้องโหยหวนดังอยู่แว่วๆ…
ทว่าพริบตาถัดมา ัที่พุ่งตัวออกไปอย่างดุร้าย ก็วกกลับมาทันทีและสลายตัวกลายเป็ลำแสงกระบี่สีดำอีกครั้ง เพียงครู่เดียวก็เคลื่อนตัวมาถึงยังเบื้องหน้าเกาชิว ลำแสงกระบี่เฉียดผ่านไปก่อนจะสลายกลายเป็กระบี่สีดำและปักลงสู่พื้น…
“เ้า…”
เกาชิวเพิ่งเอ่ยออกมาได้คำเดียว ประกายในดวงตาก็จางหายไป สีหน้าแข็งค้าง แววตาเต็มไปด้วยความสงสัยมากมาย จากนั้นก็ปรากฏรอยเืเป็แนวขวางบริเวณลำคอ ศีรษะเอียงลงเล็กน้อย ก่อนจะกลิ้งตกลงมา…
ทันใดนั้นเอง ก็มีลำแสงออกมาจากคัมภีร์ที่ลอยอยู่กลางอากาศ จากนั้นก็สาดส่องมาที่ร่างของเกาชิว ิญญาของเขาถูกสูบออกมาก่อนจะถูกดูดเข้าไปในคัมภีร์…
ิญญาของเกาชิวที่ลอยอยู่กลางอากาศจ้องมองไปยังหลินเฟยก่อนจะกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง แต่ไม่ว่าจะะโอย่างไรก็ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาแม้แต่น้อย จนตายไปแล้ว แต่ก็ไม่ยังเข้าใจว่าทำไมตนเองถึงตาย…
หลินเฟยเห็นดังนั้นก็ได้แต่ส่ายหน้าด้วยความระอา และหันไปเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“ก่อนหน้านี้ข้าเคยบอกเ้าแล้ว ว่าข้าเปิดร้านหลอมอาวุธเล็กๆที่เมืองวั่งไห่ เ้าก็รู้จักไม่ใช่หรือ ร้านหลอมอาวุธฟานซื่อน่ะ…”
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------