คังเหว่ยคือคนที่มีหน่วยงานเป็หลักแหล่งฉันใด บ้านเส้าก็ไม่มีทางปล่อยให้บุตรชายคนเดียวใช้ชีวิตตามใจเช่นกัน
เส้ากวงหรงไปๆ มาๆ ตอนเย็นเท่านั้น เพราะกลางวันเขาต้องทำงาน
อัตราการเข้างานของเขามากกว่าคังเหว่ยเป็โข การทำงานก็ตั้งใจกว่าคังเหว่ย ส่วนหอพักคนโสดนี่ เส้ากวงหรงก็ใช้ความสามารถของตนจนได้รับการจัดสรรมาเหมือนกัน ห้องชุดหนึ่งห้องนอนขนาดเล็ก มีทั้งห้องน้ำและห้องครัว ห้องเดี่ยวใหญ่หนึ่งห้องเช่นนี้ ทว่าไม่มีห้องรับแขกและห้องรับประทานอาหารแยกเป็สัดส่วน แน่นอนว่าเส้ากวงหรงแทบไม่ทำอาหารในบ้าน ถ้าไม่รับประทานในโรงอาหารก็กลับบ้าน หรือนัดรับประทานข้างนอกกับมิตรสหาย
กงหยางหยิบเครื่องมือ หลังจากนั้นไม่นานก็วัดขนาดของห้องออกมา
“ห้องครัว 5 ตารางเมตร ห้องน้ำ 6 ตารางเมตร ห้องนอน 21 ตารางเมตร ระเบียงด้านนอก 4 ตารางเมตร”
นอกจากไม่มีห้องรับแขกกับห้องรับประทานอาหารแล้ว อันที่จริงขนาดของห้องครัว ห้องน้ำ ไปจนถึงห้องนอน ล้วนพอเหมาะกับเงื่อนไขของการอยู่อาศัย
คนโสดไม่้าห้องรับแขก กลับมาเอนกายลงบนเตียงก็เสร็จสิ้นแล้ว หากแต่งงานแล้วคู่สามีภรรยาจะทำแบบนี้ได้หรือ? เซี่ยเสี่ยวหลานจึงอยากจัดแบ่งสัดส่วนให้บ้านใหม่อีกครั้งสักหน่อย ถ้าเส้ากวงหรงไม่้าทำอาหารมากมายนัก แบ่งห้องครัวเป็กึ่งเปิดโล่งได้หรือไม่ ขยับขยายพื้นที่ เพื่อทำให้บ้านมีห้องรับประทานอาหารเพิ่ม?
นี่จะต้องใช้เครื่องดูดควันคุณภาพสูงทีเดียว
ในประเทศปี 84 มีเครื่องดูดควันแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย หากไม่มีสินค้าที่ผลิตในประเทศ ก็มีสินค้านำเข้า แต่ประสิทธิภาพของเครื่องดูดควันเป็เช่นไร เซี่ยเสี่ยวหลานยังต้องไปลองตรวจสอบ งบตกแต่งบ้านของเส้ากวงหรงไม่มากเท่าบ้านคังเหว่ย โชคดีที่พื้นที่บ้านไม่ใหญ่... แน่นอน ไม่ว่าบ้านขนาดใหญ่หรือเล็ก ครัวและสุขาล้วนเป็จุดที่จ่ายเงินมากไม่ต่างกัน
“เธอชอบการตกแต่งแนวไหน มาเลือกสักอันสิ?”
เส้ากวงหรงไม่พลิกอ่านนิตยสารด้วยซ้ำ เขาไม่สนรูปแบบแนวทางอะไรทั้งสิ้น ขอแค่สามารถใช้ 1 หมื่นหยวนตกแต่งจนสวยงามได้เป็พอ เซี่ยเสี่ยวหลานรู้ว่างบประมาณของเขาไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยขนาดนั้น และเลือกแบบแพงเหมือนบ้านคังเหว่ยไม่ได้อยู่แล้ว บ้านขนาดเล็กค่อนข้างทดสอบทักษะอยู่มากทีเดียว ต่อให้เป็บริษัทตกแต่งภายในซึ่งอุดมไปด้วยประสบการณ์ของอนาคตก็เรียกได้ว่าคือความท้าทาย บ้านหนึ่งห้องนอนของเส้ากวงหรงหลังนี้คือบ้านขนาดเล็กแบบมาตรฐาน รวมระเบียงเข้าไปด้วย มีพื้นที่ใช้สอยจริงเพียง 36 ตารางเมตร
งบ 1 หมื่นหยวนถือว่ามากไหม?
ในปี 84 ถือว่ามาก เงินเดือนทั่วไปของพนักงานในเมืองก็ไม่สูง ราคาสินค้าสูงขึ้นเป็เื่หลังจากปี 85 เมื่อราคาสินค้าเพิ่มขึ้นถึงจะเพิ่มค่าแรง เงินจำนวน 1 หมื่นหยวนก่อนปี 85 จึงถือว่าเยอะมากแน่นอน แต่สำหรับการตกแต่งภายใน โยน 1 หมื่นหยวนเข้าไปก็ไม่เกิดความเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่นัก การตกแต่งทั่วไปไม่พ้นทาสีปูกระเบื้อง ซื้อตู้เสื้อผ้าสำเร็จรูปสักหลังในราคาหนึ่งร้อยกว่าหยวน ตู้เสื้อผ้ายังเท่านี้ เตียงจะแพงได้สักแค่ไหนเชียว?
ทว่าการตกแต่งที่เซี่ยเสี่ยวหลาน้าเบนไปทางทันสมัย
ส่วนใหญ่ก็คือการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทต่างๆ
หนึ่งหมื่นหยวน ถ้าจะทำให้เส้ากวงหรงพึงพอใจ อีกทั้งทำให้หลิวหย่งได้กำไร เช่นนั้นก็ต้องดูว่าแปลนที่เธอออกแบบดีพอหรือไม่—เซี่ยเสี่ยวหลานผู้มีความสามารถงูๆ ปลาๆ โดนสถานการณ์บังคับจนแทบกลายเป็นักออกแบบตกแต่งบ้านมืออาชีพแล้ว เธอไม่ทำก็ไม่ได้ คนอื่นเทียบกับเธอแล้วมือสมัครเล่นกว่าเสียอีก
ใกล้ประเทศที่สุด ณ เวลานี้ อาจเป็ฮ่องกงถึงจะมีคนทำอาชีพนี้
แล้วหลิวหย่งจะจ้างนักออกแบบจากฮ่องกงไหวหรือ?
ทำได้เพียงให้เซี่ยเสี่ยวหลานรับหน้าที่ก่อนเท่านั้น รอจนหลิวหย่งฝึกฝนผู้รับ่ต่อทั้งสองคนจบ เธอก็สามารถวางมือได้แล้ว... บางครั้งเซี่ยเสี่ยวหลานถึงกับคิด ตัวเธอสอบมหาวิทยาลัยและเลือกเรียนคณะสถาปัตยกรรมเสียเลยดีหรือไม่?
มอบหมายให้เส้ากวงหรงไปสอบถามจนแน่ใจว่าตอนนี้ซื้อเครื่องดูดควันได้หรือไม่ เธอถึงจะเริ่มออกแบบแปลน
ช่างพอดิบพอดี เครื่องดูดควันที่พัฒนาในประเทศและเหมาะสมกับความเคยชินด้านการทำอาหารของคนจีนเพิ่งผลิตที่เซี่ยงไฮ้ในปีนี้ ล็อตแรกมีแค่ 600 กว่าเครื่อง 600 กว่าเครื่องย่อมไม่พอให้แย่งซื้อสอย เซี่ยเสี่ยวหลานถอดใจจากการซื้อสินค้าที่ผลิตในประเทศทันที ยังคาดหวังว่าเครื่องดูดควันรุ่นแรกมันจะกะทัดรัดประณีตสวยงามได้หรือ? ในงบตกแต่งของบ้านเส้ากวงหรง จำเป็ต้องขยักมาซื้อเครื่องดูดควันนำเข้าส่วนหนึ่ง
เซี่ยเสี่ยวหลานพากงหยางมาปรึกษาเื่แปลนด้วยกันอีกครั้ง
กงหยางถอนหายใจปนความตะลึง “เธอไม่เคยเรียนศิลปะจริงหรือ? ถ้าเธอเรียนรู้อีกหน่อย เธอไม่ต้องใช้ฉันด้วยซ้ำ”
เซี่ยเสี่ยวหลานมีเวลาว่างเรียนศิลปะที่ไหน
ทำงานล่วงเวลาและอดหลับอดนอนหนึ่งวัน ได้ภาพจำลองผลสองชุดมาให้เส้ากวงหรงชม
เส้ากวงหรงอึ้งไป
ที่เขาบอกว่าตกแต่งบ้าน เป็เพราะตนเองรู้สึกผิด ้าสนับสนุนธุรกิจของเซี่ยเสี่ยวหลาน นึกไม่ถึงว่าพอแบบออกมา เส้ากวงหรงก็ใจเต้นมากจริงๆ
“ห้องครัวสร้างช่องว่างไว้แบบนี้ นี่คือโต๊ะหรือ?”
“เป็เคาน์เตอร์บาร์ อย่างไรเสียเธอก็ไม่ค่อยทำอาหาร เคาน์เตอร์นี่สามารถตอบสนองการกินข้าวในเวลาปกติได้ แถมยังมีที่สำหรับดื่มเหล้าพูดคุยเวลาเพื่อนฝูงมา ใต้โต๊ะมีที่ว่างเก็บของ เธอใช้เก็บเหล้าได้”
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่คิดจะปิดระเบียง เธอเพียงตกแต่งใหม่เสียหน่อย และวางเครื่องซักผ้าไว้ที่ระเบียง
พอทุบเปิดห้องครัว พื้นที่ว่างของห้องก็ใหญ่ขึ้นจริงๆ เซี่ยเสี่ยวหลานวาดห้องรับแขกเล็กในห้องใหญ่ดั้งเดิม 21 ตารางเมตร เส้ากวงหรงไม่เข้าใจสิ่งเหล่านี้ เขารู้แค่เห็นแล้วสวยดี ได้อาศัยในบ้านแบบนี้ จ่ายหนึ่งหมื่นหยวนก็คุ้มค่า
“1 หมื่นทำได้ไหม?”
“เท่าที่จะทำได้น่ะ”
เส้ากวงหรงมีเงินไม่มากเท่าคังเหว่ย เซี่ยเสี่ยวหลานจึงต้องพยายามประหยัดเงินแทนลูกค้าอย่างสุดความสามารถ
บ้านของคังเหว่ยและเส้ากวงหรงล้วนมีระบบทำความอบอุ่นส่วนกลาง จุดนี้ไม่จำเป็ต้องให้เซี่ยเสี่ยวหลานดูแล ทว่าเต้ารับภายในบ้านต้องสำรองไว้ให้เพียงพอ การตกแต่งบ้านของหลายๆ คนจะใช้งานเป็สิบปี สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทเครื่องปรับอากาศ บ้านคังเหว่ยและเส้ากวงหรงจะเป็ผู้นำสมัยกลุ่มแรกที่ได้ััแน่นอน จะเจาะกำแพงฝังสายไฟติดตั้งสวิตช์อีกทีเมื่อถึงเวลาไม่ได้หรือเปล่า?
สำรองไว้ั้แ่แรกเป็ดีที่สุด เลี่ยงความลำบากในภายหลัง
หลังจากถามราคาของเครื่องดูดควันจนแน่ใจ ราคาเสนอที่หลิวหย่งให้รวมตกแต่งคือ 9800 หยวน
เซี่ยเสี่ยวหลานคิดว่าราคาจริงน่าจะเกินกว่านี้ แต่คงไม่เกินสองพัน และไม่ใช่เื่ยากสำหรับเส้ากวงหรง การที่เขาจะจ่ายเงินตกแต่งหอพักคนโสดของตนเป็หมื่นโดยไม่มีเหตุผล บ้านเส้าย่อมไม่ให้เงินแน่ ถ้าบ้านตกแต่งเกือบเสร็จแล้วยังขาดอีกสองพัน ครอบครัวเขาจะชำระเงินส่วนนี้ให้ไม่ไหวเชียวหรือ?
เซี่ยเสี่ยวหลานถามว่าเอาให้คนรักของเขาดูสักหน่อยหรือไม่ อย่างไรเสียก็เป็เรือนหอ
หนุ่มโสดเส้ากวงหรงหัวเราะเหอะๆ “เขาฟังฉันทั้งนั้น เขาชอบที่ฉันเลือกหมดนั่นแหละ”
อย่างไรก็ตาม เขาเห็นภาพจำลองผลของการตกแต่งแล้วพึงพอใจมาก รอแต่งบ้านเสร็จเขาจะย้ายออกมาอาศัยตัวคนเดียว แฟนสาวที่ยังไม่เห็นแม้แต่เงาจึงไม่จำเป็ต้องให้ความคิดเห็นอะไร หากไม่โปรดการตกแต่งบ้านของเขา เขาก็แค่เปลี่ยนแฟน ต้องมีสักคนที่มีรสนิยมเหมือนเขาน่ะ!
คำสั่งตกแต่งของเส้ากวงหรงมาต่อจากบ้านคังเหว่ย เซี่ยเสี่ยวหลานนึกไม่ถึงว่าอยู่ปักกิ่งเพิ่มอีกสองวัน ก็มีงานเพิ่มขึ้นอีกหนึ่ง
แน่นอนว่าหลิวหย่งมีพลังเต็มเปี่ยม
กงหยางจับต้นชนปลายไม่ถูกเหมือนกัน
คนงานทั้งสองที่หลิวหย่งพามาได้ยินว่ายังมีงานต่อ พวกเขาดีใจเหลือเกิน กลับซางตูก็มิใช่จะมีงานทุกวัน หลิวหย่ง้าเ้าหน้าที่คุมงานมาแก้ไขระบบน้ำไฟในของบ้านคังเหว่ย ด้านไฟฟ้าไม่สามารถปล่อยให้เขานำคนงานทั้งสองดำเนินการมั่วซั่วได้ ต้องมีช่างไฟมืออาชีพมามาดูแลในส่วนนี้
คังเหว่ยจะหาช่างไฟมืออาชีพไม่ได้เชียวหรือ อย่างไรเสียก็ทำงานในกระทรวงไปรษณีย์และโทรคมนาคม หน่วยงานนี้ดูแลบริการไปรษณีย์และโทรคมนาคม เขาเองก็เป็ถึงคนของกระทรวง หาช่างไฟสักคนไม่ได้ลำบากยากเย็นเลยสักนิด
----------------------------------------
โจวเฉิงบอกให้เซี่ยเสี่ยวหลานรอที่บ้านพัก ถ้าเขาลางานได้ก็จะมาหาเธอ
ทั้งหน่วยงานเพิ่งรับประทานเนื้อแพะของเซี่ยเสี่ยวหลาน การลางานครั้งนี้จะไม่อนุญาตได้หรือ?
โจวเฉิงก็ขอลาเพียงครึ่งวัน ก่อนดับไฟตอนกลางคืนต้องกลับหน่วยงานไปรายงานตัว
เซี่ยเสี่ยวหลานทบทวนบทเรียนในห้องพัก ได้ยินว่ามีคนเคาะประตู เธอจึงเดาว่าคงเป็โจวเฉิง พอดึงประตูเปิดออก ร่างสูงทอดเงาดำมา เป็โจวเฉิงมิใช่หรือไร?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้