กลุ่มของเย่เวิ่นเทียนกลับมาถึงเยี่ยนจิงก่อนเย่เฟิงเพราะการเดินทางโดยเครื่องบินเร็วกว่าการขับรถมาก
ด้านซูซิ่นชางถูกตัดสินจำคุกเป็เวลาสองปี ส่วนทรัพย์สินและบ้านพักที่วิลล่าชิงเฟิงถูกธนาคารยึด และขายทอดตลาดอสังหาริมทรัพย์ ก่อนจะถูกเย่เวิ่นเทียนรับซื้อเอาไว้
ชายชราคิดว่าคนของเย่เฟิงนับวันยิ่งมีเพิ่มขึ้น ทั้งหญิงและชาย จึงต้องจัดที่พักให้เหมาะสม เขาให้หนานฟางย้ายมาพักที่บ้านเดิมของซูซิ่นชาง ด้านเย่เฟิงและเหล่าสาวงามของเขาพักอยู่ที่เดิม...
“นับั้แ่คัมภีร์เคล็ดอสูรร่ำไห้สูญหายไป สำนักอิ่นเซียนก็เริ่มถดถอยลง” ภายในบ้านพัก เย่เวิ่นเทียนกำลังเล่าประวัติของสำนักอิ่นเซียนและความสุดยอดของเคล็ดอสูรร่ำไห้ให้หนานฟางฟัง “หลังจากถูกแย่งชิงตำแหน่งเ้าสำนัก อดีตเ้าสำนักก็นำคัมภีร์เคล็ดอสูรร่ำไห้หลบหนีออกไป เขาถูกคนของสำนักไล่ล่าสังหาร ผู้ไล่ล่านั้นทั้งเก่งกาจและมากความสามารถ ทำให้เขาาเ็สาหัส จึงรีบนำคัมภีร์ไปซ่อนก่อนจะเสียชีวิต”
ดังนั้นการที่คัมภีร์เคล็ดอสูรร่ำไห้ปรากฏขึ้นมาในยุทธจักรอีกครั้ง ย่อมทำให้คนของสำนักอิ่นเซียนตื่นตะลึง และจะนำพาปัญหายุ่งยากตามมาไม่หยุดแน่
ตามที่เย่เวิ่นเทียนคาดการณ์ อีกไม่นานต้องมีคนของสำนักอิ่นเซียนมาเยือนพวกเขาถึงหน้าประตูบ้านแน่!
“ต่อไปนี้นายต้องจำไว้ว่า เคล็ดอสูรร่ำไห้เป็ทางเลือกสุดท้ายถึงใช้มันออกมา และเมื่อไรที่ใช้มัน ศัตรูของนายต้องตายสถานเดียว!” เย่เวิ่นเทียนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “จากวันนี้ไป ฉันจะเป็คนสอนวรยุทธ์ให้นายเอง”
“ขอบคุณครับคุณปู่” หนานฟางยิ้มรับ
หลังจากได้ล้างแค้นศัตรูทั้งสองเรียบร้อยแล้ว ในที่สุดเขาก็ค้นพบเป้าหมายชีวิตใหม่อีกครั้ง นั่นคือการก้าวเข้าสู่ยุทธจักร!
เย่เวิ่นเทียนให้คำชี้แนะเขาอีกสองสามประโยค ก่อนหายไปเตรียมตัวรับมือปัญหาที่จะมาถึง ตามที่ลือกันในยุทธจักร ทั้งสำนักอิ่นเซียนและผู้าุโหลี่เสวียนจากตำหนักไท่จี๋ล้วนแต่จะนำเื่วุ่นวายมาให้พวกเขาในไม่ช้า
ด้านสำนักอิ่นเซียนนั้นยังพอรับมือได้ แต่กับผู้าุโหลี่เสวียนเกรงว่าจะตึงมือไม่น้อย...
…………
ยามพลบค่ำ รถ BMW สีเงินเข้ามาจอดหน้าบ้าน เย่เฟิงลงจากรถก่อนบิดี้เีด้วยความเมื่อยล้า ถือเป็การทรมานสังขารไม่น้อยเลยทีเดียว! นั่งตรงกลางของเบาะหลังมาทั้งวัน ก้นของเขาแทบจะด้านชาไปหมด ยังมีน้ำหนักของหลงหว่านเอ๋อร์และซูเมิ่งหานที่นั่งอยู่ด้านข้างกดทับมาบนตัวเขาอีก ยิ่งสร้างความทรมานให้ร่างกายเขาไม่น้อย
หลังจากลงจากรถ เย่เฟิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ถึงบ้านแล้วเหรอ”
ซูเมิ่งหานลืมตาด้วยความสะลึมสะลือ พร้อมหาวออกมาด้วยความง่วงงุน ใบหน้างัวเงีย
“ถึงแล้ว” เย่เฟิงกล่าวพร้อมพยักหน้า หลังจากมองเตาปาที่ยังนั่งอยู่บนรถ ในที่สุดเขาก็เตือนอีกฝ่าย “เตาปา ศัตรูของนายคือคนของวิหารดาบ์ ซือถูฉางเตา”
เมื่อเตาปาได้ยินเช่นนั้นก็แสดงสีหน้าเคร่งขรึม “ลูกพี่เย่วางใจเถอะครับ ความแค้นของผม ผมจะตั้งใจฝึกวรยุทธ์เพื่อล้างแค้นมันด้วยตัวเอง!”
“อืม” เย่เฟิงยิ้ม “แต่ไม่ต้องร้อนใจไปล่ะ การฝึกวรยุทธ์ควรจะค่อยเป็ค่อยไปจึงจะดีที่สุด”
“เข้าใจแล้วครับพี่เย่” เตาปาพยักหน้าตอบรับ
ปัจจุบันเตาปาใช้อาคารสำนักงานซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวิลล่าชิงเฟิงเป็ที่พักอาศัย รวมถึงลูกน้องอีกแปดคนด้วย เมื่อได้รับผลหมื่นซานจาจากเย่เฟิง เตาปาก็ขับรถกลับมายังอาคารสำนักงาน ก่อนที่เขาและลูกน้องอีกแปดคนจะดูดซับพลังจนสามารถเลื่อนระดับวรยุทธ์ได้ถึงครึ่งปี
สิ่งเหล่านี้ช่วยให้พวกเขาเข้าใจการฝึกวรยุทธ์ได้มากเลยทีเดียว
“ดูเหมือนว่าต่อไป น้าคงต้องเป็คนดูแลพวกเราสินะ”
ด้านชูชูที่ลงรถมาก็เดินไปยืนข้างเย่เฟิง เมื่อเธอเห็นความสนิทสนมระหว่างเย่เฟิงและทั้งสองสาว ก็ลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก เธอไม่รู้ว่าเกิดเื่อะไรขึ้นกับหลงโม่หราน แต่ตราบใดที่หลงหว่านเอ๋อร์ยังอยู่เคียงข้างเย่เฟิง เธอก็ไม่คิดจะกลับตระกูลหลงอีก ดูเหมือนตอนนี้การเลือกอยู่ข้างเย่เฟิงก็ไม่ใช่เื่แย่
“คิก น้าชูชูทำอาหารอร่อยที่สุดเลย”
หลงหว่านเอ๋อร์ยิ้มสดใสมีชีวิตชีวาทั้งยังดูเย้ายวน ทำให้ยามหน้าหมู่บ้านแทบน้ำลายไหลเมื่อได้เห็น
กลับมารอบนี้ เย่เฟิงถึงกับมีสาวสวยข้างกายทั้งซ้ายขวา! ภาพที่ยามหนุ่มอยากเห็นทั้งสองสาวเผชิญหน้ากันในที่สุดก็เกิดขึ้นจริง น่าเสียดายที่มันไม่เป็ไปตามที่คิด ทั้งคู่ควรทะเลาะตบตีกันแย่งเย่เฟิงไม่ใช่หรือ?
สองสาวกลับรักใคร่กลมเกลียวกันอย่างไม่น่าเชื่อ!
นี่เย่เฟิงมีสาวสวยเซ็กซี่เข้ามาเพิ่มอีกคนแล้วเหรอ!
การเข้าออกวิลล่าทำให้เย่เฟิงคุ้นเคยกับยามหนุ่ม เมื่อเห็นสายตาของอีกฝ่าย เขาก็ยิ้มทักทาย ก่อนพาหญิงสาวทั้งสามคนเดินเข้าบ้านพัก
“เขายิ้มทักทายฉันเหรอ?”
ยามหนุ่มคาดไม่ถึงว่าเขาจะได้รับรอยยิ้มจากเย่เฟิง ได้ยินมาว่าตอนนี้ชายคนนี้เป็บุคคลที่ค่อนข้างมีอิทธิพล เหมือนว่าจะเป็คุณชายจากตระกูลที่ทรงอิทธิพล! บุคคลที่มีสถานะสูงส่งเช่นนั้นกลับยิ้มทักทายคนต่ำต้อยแบบเขาเนี่ยนะ?
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกดีกับเฟิงขึ้นมาไม่น้อย
เมื่อทั้งหมดเข้าบ้านพักก็พบว่าชั้นหนังสือที่บรรจุคัมภีร์ทั้งหมดถูกย้ายไปข้างบ้านแล้ว ซึ่งเป็บ้านพักที่เย่เวิ่นเทียนและหนานฟางใช้พักอาศัย ทำให้ชูชูรู้สึกวางใจ
หากมีเย่เวิ่นเทียนอยู่ ย่อมปลอดภัยไร้อันตรายกล้ำกรายแน่นอน...
หญิงสาวเริ่มทำความสะอาดห้องว่างอย่างระมัดระวัง เธอต้องเปลี่ยนห้องว่างเหล่านี้ให้กลายเป็ห้องนอน ในเมื่อย้ายเข้ามาอยู่แล้ว เย่เฟิง หลงหว่านเอ๋อร์ และซูเมิ่งหานจะสามารถนอนห้องเดียวกันได้อย่างไร ดังนั้นเธอต้องเตรียมห้องนอนอย่างน้อยสามห้อง โดยเริ่มจากเตรียมอาหารเย็นก่อน จากนั้นขึ้นไปทำความสะอาดชั้นบน
หลังจากกินมื้อเย็นเสร็จ ซูเมิ่งหานและหลงหว่านเอ๋อร์ก็สลับกันอาบน้ำ ก่อนเข้าห้องนอนของซูเมิ่งหานไปด้วยกัน จากนี้ต้องอยู่ใต้ชายคาเดียวกับเย่เฟิงแล้ว ดังนั้นสองสาวต้องมีข้อแลกเปลี่ยนและกฎเกณฑ์เพื่ออยู่ร่วมกัน!
ด้านเย่เฟิงที่กำลังอาบน้ำ เขาใช้จิตหยั่งรู้เฝ้าดูสถานการณ์ของสองสาวไปด้วย แต่ก็พบว่าภายในห้องนอนถูกพลังของหลงหว่านเอ๋อร์ปิดกั้นเอาไว้ ทำให้ไม่อาจทราบสถานการณ์ในห้องว่าเป็เช่นไร
หลงหว่านเอ๋อร์เห็นว่าระดับพลังเยอะกว่าเขาก็ชักจะเอาใหญ่แล้ว ต้องจับมาตีก้นเสียให้เข็ด!
เย่เฟิงสวมชุดนอน ก่อนเดินไปเคาะประตูห้องนอน
“คืนนี้พวกฉันจะนอนด้วยกัน นายไปห้องอื่นเลยไป!”
หลงหว่านเอ๋อร์ะโกลั้วหัวเราะ
เมื่อเย่เฟิงได้ยินดังนั้นก็หงุดหงิด พวกเธอจะนอนด้วยกันแล้วไล่เขาไปที่อื่นงั้นเหรอ? ได้ไงกัน! หากไม่ได้นอนบนเตียงอุ่นๆ เขาจะนอนหลับได้อย่างไร?
เวลานั้นชูชูเพิ่งจัดห้องนอนอีกห้องเสร็จแล้วเดินออกมา จึงเห็นว่าเย่เฟิงยืนรออยู่หน้าประตู เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะเยาะเย้ยของหลงหว่านเอ๋อร์ ก็อดขบขันไม่ได้ เด็กคนนี้ชักจะเกินไปแล้ว
“หว่านเอ๋อร์ อย่าเอาแต่เล่นสิ ให้เย่เฟิงเข้าไปได้แล้ว” ชูชูเดินไปข้างเย่เฟิง ก่อนเคาะประตูห้องเตือน “ทำแบบนี้ ถ้าเย่เฟิงออกไปเถลไถลที่อื่นจะทำยังไง? ถ้าเขาทนไม่ไหวแอบไปหาผู้หญิงอื่นระวังจะน้ำตาเช็ดหัวเข่านะจ๊ะ”
เมื่อเย่เฟิงได้ยินเช่นนั้นก็นึกชื่มชม อีกฝ่ายกล่าวได้ถูกใจอย่างยิ่ง น้าชูชูนี่ช่างเข้าอกเข้าใจเขาเสียจริง
ขณะเย่เฟิงคิดเช่นนั้น ฉับพลันเขาก็รับรู้ถึงกลิ่นเหงื่อที่แสนเย้ายวนของหญิงสาว เธอเพิ่งทำความสะอาดห้องเสร็จจึงมีเหงื่อท่วมตัว เมื่อหันมาก็ยิ่งทำให้เห็นหน้าอกอวบอิ่มที่มีผ้าเนื้อบางแนบติดเรือนร่างได้อย่างชัดเจน
‘ต่อให้ทนไม่ไหวก็ไม่เห็นจำเป็ต้องออกไปหาผู้หญิงอื่น...’
ฉับพลันเย่เฟิงก็ระลึกได้ว่าความคิดของตนไม่ถูกต้อง พร้อมแอบกราดด่าตัวเองในใจ กล้าคิดอกุศลเช่นนี้ได้อย่างไร? หากมั่วแบบนี้เขาคงไม่ต่างจากสัตว์เดรัจฉาน!
ชายหนุ่มรีบร้อนเบนสายตาไปทางอื่น
หลังจากได้ยินคำพูดของชูชู เห็นได้ชัดว่าสองสาวในห้องนอนรู้สึกกังวล จึงรีบวิ่งมาเปิดประตู แต่เวลานั้น จิตหยั่งรู้ของเย่เฟิงพบร่างของชายชราที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลจากบ้านพัก เห็นเพียงแวบเดียวก็รู้ว่าเป็คนในยุทธจักร!
เย่เฟิงตื่นตัวในทันที