ทั้งสามคนจากเผ่าอนธการกระเด็นถอยหลังไปหลายจั้งกว่าจะตั้งหลักได้อีกครั้ง
อัญมณีสีดำตรงหน้าอกทอประกายสว่างไสวยิ่งกว่าก่อนหน้านี้มาก นี่คือส่วนสำคัญของเกราะแห่งเผ่าอนธการ ตราบใดที่ยังมีอัญมณีสีดำก้อนนี้อยู่ พวกเขาจะสามารถลอยอยู่กลางอากาศได้ตลอดไป ไม่ต้องกังวลว่าไอพลังต่อสู้จะหมดลง
หลังจากไข่อัคนีฟองนั้นะเิออก เสาเพลิงที่พุ่งสูงเสียดฟ้าไม่ได้จางหายไป มันยังคงแผ่ไอพลังร้อนแรงออกมาอย่างต่อเนื่อง แผดเผาไปทั่วทั้งบริเวณ
ทั้งสามคนมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยใบหน้าซีดเผือด เชือกวิเศษโดนทำลายไปแล้ว ซึ่งไม่ใช่เื่ดีต่อพวกเขาเลย
ทว่าภารกิจที่มหาปุโรหิตมอบหมายมามีความสำคัญต่อพวกเขายิ่งกว่าชีวิตเสียอีก แม้เชือกวิเศษจะขาดสะบั้นไปแล้ว พวกเขายังต้องทำภารกิจให้สำเร็จ
พวกเขายืนอยู่ในตำแหน่งของตนเอง มองเสาเพลิงต้นนั้นอย่างเงียบสงบ เสาเพลิงมีแนวโน้มที่จะอ่อนกำลังลงเรื่อยๆ
เสาเพลิงที่พุ่งสูงเสียดฟ้าเริ่มหดขนาดลง การหดเล็กลงนี้ไม่ได้กลับเข้าไปในูเาไฟ ทว่ามันค่อยๆ ลดขนาดลงราวกับโดนบางสิ่งบางอย่างกลืนกินเข้าไป
ในท้ายที่สุด เสาเพลิงเหนือปากปล่องูเาไฟต้นนั้นกลายเป็เพียงเส้นใย และโดนสัตว์ตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งที่ลอยอยู่กลางอากาศกลืนลงท้องไป
“จี๊ด จี๊ด!”
หลังจากกลืนกินเปลวเพลิงเหล่านี้เข้าไปแล้ว สัตว์น้อยตัวนั้นก็ส่งเสียงร้องออกมาอย่างมีความสุข
สัตว์น้อยตัวนั้นมีขนาดประมาณหนึ่งฉื่อ[1] ลำตัวเป็สีแดงเพลิง บางส่วนของร่างกายมีเกล็ดสีแดงเพลิงปกคลุม หางขนาดใหญ่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับมันได้ไม่น้อย โดยเฉพาะที่หัวของมันมีเขาแหลมขนาดเท่านิ้วมือ เปลวเพลิงที่แผ่กระจายออกมาทั่วร่างมีอานุภาพรุนแรงไร้สิ่งใดเทียบได้
ทว่ามันมีหน้าตาคล้ายกับกระรอกตัวหนึ่ง มีดวงตากลมโต ขนตายาวสีแดง ดูน่ารักมาก
“กริ๊ก กริ๊ก...”
สัตว์น้อยตัวนั้นส่งเสียงให้กับพี่ใหญ่จากเผ่าอนธการ ยิ่งทำให้มันดูเหมือนเด็กน้อยน่ารัก
“เร็วเข้า มันยังเป็ตัวอ่อนอยู่ จับมันไว้”
พี่ใหญ่ผู้นั้นะโบอกอีกสองคน แล้วเขาก็ฟันกระบี่ใส่ร่างสัตว์น้อยตัวนั้นทันที
เมื่อเห็นพี่ใหญ่ผู้นั้นกระโจนเข้ามา สัตว์น้อยตัวนั้นพลันะโเข้าหา ไม่มีความคิดเป็ศัตรูเลยแม้แต่น้อย ทว่าขณะที่กระบี่เล่มนั้นกำลังจะฟันโดนร่างของมัน กระบี่กลับกระเด็นออกไปอย่างรุนแรง ดวงตากลมโตวาวโรจน์ไปด้วยแสงเพลิง จ้องมองอีกฝ่ายอย่างอาฆาต
“ร่างของมันแข็งแกร่งมาก!”
พี่ใหญ่ผู้นั้นมองกระบี่ของตนเองด้วยความรู้สึกใ เขาโจมตีออกไปด้วยพลังทั้งหมด กลับทำให้อีกฝ่ายเกล็ดหลุดไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ในขณะเดียวกัน อีกสองคนถือกระบี่กระโจนเข้าโจมตีจากทั้งซ้ายและขวา
สัตว์น้อยตัวนั้นอ้าปากเล็กๆ ของมัน เปลวเพลิงพลันพวยพุ่งออกมาทำให้สองคนนั้นล่าถอยไป พี่ใหญ่ผู้นั้นไล่ตามมา กวัดแกว่งกระบี่โจมตีออกไปอีกครั้ง
พวกเขาสามคนกำลังต่อสู้อยู่กับสัตว์น้อยตัวนั้น แม้พลังของสัตว์น้อยตัวนั้นจะแข็งแกร่งมาก แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีของสามคนนั้นพร้อมๆ กัน ก็ยังตกเป็ฝ่ายเสียเปรียบอยู่ดี โดยเฉพาะตอนที่กระบี่ฟันเข้าใส่ร่างของมันไม่หยุด ทำให้ร่างของมันเริ่มบอบช้ำ
หลังจากสู้กันไปสามสิบกว่ากระบวนท่า พวกเขาสามคนสามารถควบคุมสัตว์น้อยตัวนั้นจนไร้เรี่ยวแรงตอบโต้ได้ในที่สุด
“ลงมือตอนนี้เลยไหม”
เสิ่นล่างถาม
“ยังไม่ถึงเวลา” เสียงของเสิ่นเสวียนดังขึ้นในมิติว่างเปล่า
สัตว์ตัวน้อยโดนสามคนนั้นรังแกจนต้องหลบหลีกไปทุกทิศทาง ในตอนแรกเริ่มสัตว์น้อยไม่ได้คิดเป็ศัตรูกับพวกเขาเลย หากอีกฝ่ายเปลี่ยนวิธี ตอนนี้คงสำเร็จไปแล้ว
ตูม!
พี่ใหญ่ผู้นั้นฟันกระบี่ออกไปอีกครั้ง ทำให้สัตว์น้อยกระเด็นตกลงไปในปากปล่องูเาไฟ
“ลำพังแค่เ้ายังคิดสู้กับเผ่าอนธการของข้าอีก เผ่าอนธการของข้าจับสัตว์ร้ายมาตั้งมากมายแล้ว”
พี่ใหญ่ผู้นั้นเหาะอยู่กลางอากาศพลางกล่าวอย่างเย่อหยิ่ง
“พี่ใหญ่ สัตว์ร้ายตัวนี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ไม่แน่ว่าครั้งนี้มหาปุโรหิตอาจมอบให้กับพี่ใหญ่ก็ได้”
“บังอาจนัก กล้าคาดเดามหาปุโรหิตอย่างนั้นหรือ!” พี่ใหญ่ะโออกไปด้วยสีหน้าน่ากลัว
“ใช่แล้ว! ขออภัยด้วย ข้าผิดไปแล้ว” คนผู้นั้นก้มหัวยอมรับผิดในทันที ความพยายามทำให้พี่ใหญ่พอใจกลับพังไม่เป็ท่า
“พี่ใหญ่ ดูนั่น มันกำลังทำอะไรอยู่!”
อีกคนหนึ่งหันมองไปยังปากปล่องูเาไฟเบื้องล่างด้วยสีหน้าตื่นกลัว
พวกเขาพบว่า หลังจากที่สัตว์น้อยตัวนั้นตกลงไปในปากปล่องูเาไฟ มันก็กลืนกินเปลวเพลิงภายในูเาไฟเข้าไปคำโต หลังจากนั้นไม่นาน ลาวาในปากปล่องูเาไฟพลันแปรเปลี่ยนไปตามการเคลื่อนไหวของมัน
ทันใดนั้นลาวาก็พุ่งเข้าโจมตีทั้งสามคน พวกเขาหลบหลีกอย่างรวดเร็วจึงไม่ได้รับาเ็ใดๆ
ลาวาไม่ได้ปะทุออกมาอีก ทว่าแปรเปลี่ยนเป็เสาเพลิงต้นหนึ่ง ส่งให้ร่างของสัตว์น้อยตัวนั้นพุ่งทะยานสูงขึ้นไปกว่าหกจั้ง อยู่ในระดับเดียวกับสามคนนั้น
สัตว์น้อยตัวนั้นกลืนกินลาวาเข้าไปจนเต็มท้อง มันพ่นลมหายใจใส่สามคนนั้น ทำให้ปากปล่องูเาไฟถูกปิดผนึกด้วยลาวา ทั้งสามคนจึงโดนขังอยู่ด้านใน
สัตว์น้อยตัวนั้นโกรธมาก มันพ่นเปลวเพลิงออกมาไม่หยุด ทำให้ในมิติปิดผนึกแห่งนี้ร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงระดับที่น่ากลัว
นี่มันกำลังเผาสามคนนั้นให้ตายทั้งเป็!
ทั้งสามคนสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ แต่หลังจากโจมตีออกไปหลายครั้งก็ยังไม่อาจทำลายผนึกของที่นี่ได้
“พี่ใหญ่ ทำอย่างไรดี”
“สังเวยโลหิต!”
พี่ใหญ่กล่าวออกมาเพียงแค่นั้น
“ขอรับ!”
อีกสองคนกล่าวออกมาพร้อมๆ กัน
จากนั้นพวกเขาทั้งสามคนได้กรีดลงไปที่ฝ่ามือของตนเอง ปล่อยให้เืหยดลงบนอัญมณีสีดำตรงหน้าอก
การสังเวยโลหิตคือเคล็ดวิชาลึกลับที่เป็เอกลักษณ์ของเผ่าอนธการ กล่าวตามตรงคือการเซ่นสังเวยโดยใช้อายุขัยของตนเองแลกกับพลังใน่เวลาสั้นๆ การสังเวยโลหิตนี้จะทำให้พลังของผู้แสดงเคล็ดวิชาพุ่งสูงจนถึงขีดจำกัด แต่ผลลัพธ์ที่ได้อาจเป็การทำลายชีวิตของตนเอง ทว่าเผ่าอนธการของพวกเขาสามารถเรียกิญญาคืนชีวิตได้ หากครั้งนี้พวกเขาทำสำเร็จ การฟื้นคืนชีพก็ไม่ใช่เื่ยาก
เมื่อเืสดๆ หยดลงไปบนอัญมณี ไอพลังของทั้งสามก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วจนถึงขั้นบรรพบุรุษระดับสูงสุดในพริบตาเดียว หากไม่ใช่เพราะขีดจำกัดบางอย่าง พลังของพวกเขาจะถึงขั้นราชันได้ไม่ยาก
ขณะที่พลังแข็งแกร่งขึ้น อัญมณีสีดำพลันแสดงม่านพลังสีเืเข้าปกคลุมร่างของสัตว์น้อยตัวนั้น
อัญมณีสีดำของสามคนนั้นแสดงม่านพลังสีเืออกไปพร้อมกันเพื่อควบคุมอีกฝ่ายไว้ ทว่าสัตว์น้อยตัวนั้นกลับโคจรพลังทั่วทั้งูเาไฟออกมาต้านทานไว้ ทำให้ทั้งสามคนติดอยู่ตรงนั้น
กาลเวลาผ่านไป การต่อสู้ภายในูเาไฟยังคงดุเดือด ตัดสินแพ้ชนะไม่ได้เลย
“ผู้เฒ่าล่าง ถึงเวลาของพวกเราแล้ว”
เสียงของเสิ่นเสวียนพลันดังขึ้นจากกลางอากาศ
“จะเข้าไปได้อย่างไร”
เสิ่นล่างรู้ดีว่าตนไม่มีพลังจะฝ่าเข้าไป แม้เข้าไปได้ก็ไม่มั่นใจว่าจะชนะ
พลังของสามคนนั้นเปลี่ยนไปมาก เขามองเห็นได้อย่างชัดเจน
“นี่คือยากายาเย็นเยือกน้ำแข็งอัคคี หลังจากกินเข้าไปแล้วจะสามารถอยู่ในนั้นได้หนึ่งชั่วยาม”
ระหว่างที่กล่าว ยาเม็ดหนึ่งได้พุ่งออกมาจากมิติว่างเปล่าแล้วตกลงในมือของเสิ่นล่าง เมื่อเห็นยาเม็ดนี้เสิ่นล่างก็จำได้ทันทีว่ามันคือยาที่เสิ่นเสวียนปรุงขึ้น
“ข้าจะนำเข้าไปก่อน สบโอกาสแล้วข้าจะคลายผนึกให้ เมื่อถึงตอนนั้นก็ช่วยข้าด้วย”
เสิ่นเสวียนกล่าวกับเสิ่นล่างจบ ทั่วทั้งมิติเงียบลงในทันที
“เฮ้ เ้าอยู่ที่ไหน จะเข้าไปอย่างไร”
เสิ่นล่างถามออกไป ทว่าไม่มีเสียงใดตอบกลับมาเลย
ภายในปากปล่องูเาไฟ สามคนจากเผ่าอนธการสีหน้าซีดเผือด พวกเขาฝืนเซ่นสังเวยอายุขัยตนเองออกไปแล้ว แม้จะเพิ่มพลังขึ้นมาได้แต่ก็ได้รับความเสียหายไปถึงต้นกำเนิด ทว่าอีกฝ่ายกลับเอาูเาไฟทั้งลูกออกมาสู้ ต่อให้มีเหมืองอยู่ในบ้านก็มิอาจต้านทานได้!
“ยืนหยัดต่อไปอีกหน่อย สัตว์ร้ายนั่นใกล้จะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน”
ระหว่างที่กำลังยืนหยัดต่อสู้ พี่ใหญ่ผู้นั้นก็กล่าวกับอีกสองคนไปด้วย
“พี่ใหญ่ ต้องตัดสัมพันธ์ระหว่างมันกับูเาไฟออกไปก่อน มิเช่นนั้นพวกเราคงต้านทานไม่ไหวแล้วจริงๆ!” หนึ่งในนั้นกัดฟันกล่าว แม้เซ่นสังเวยอายุขัยตนเองไปแล้วครึ่งหนึ่ง ก็ยังมิอาจเอาชนะอีกฝ่ายได้เลย
“ได้ พวกเ้ายื้อไว้ก่อน ข้าจัดการเอง”
พี่ใหญ่ปรายตามองสัตว์น้อยตัวนั้นพลางกล่าวอย่างโเี้
เขากับมันอยู่ห่างกันประมาณสองจั้ง คิดจะข้ามผ่านอาณาเขตสองจั้งนี้เข้าไป อย่างน้อยเขาต้องเสียอายุขัยไปอีกสิบปี
อัญมณีสีดำตรงหน้าอกส่องประกายเจิดจ้ามากขึ้น พลังที่เขาโคจรได้ก็มากขึ้นตามไปด้วย ระยะห่างสองจั้งค่อยๆ ใกล้เข้ามา แต่ละย่างก้าวทำให้เขาหมดพลังไปมหาศาล
ขณะที่อยู่ห่างไปอีกเพียงสามฉื่อ พลังที่เขาได้จากการสังเวยอายุขัยของตนเองก็แทบจะหมดลงไปแล้ว
ทว่าทันใดนั้น เสียงของเสิ่นเสวียนกลับดังขึ้น
“อยากตัดสัมพันธ์อย่างนั้นหรือ เ้าไม่มีโอกาสแล้ว”
...................................................
[1] ฉื่อ เป็หน่วยวัดระยะของจีน ยาวประมาณ 33.3 เิเ