ทว่าในตอนที่นึกถึงหลงหลิง ในใจเขาก็รู้สึกร้อนรุ่ม สตรีวัยเยาว์ดั่งเซียนในความฝันปรากฏในความคิดของเขา
หากคนทั้งโลกเลือกทอดทิ้งข้า เช่นนั้นขอเพียงให้ข้ามีหลงหลิงผู้เดียวเป็พอ เพราะหลงเหยียนพบแล้วว่าตนนั้นแอบรักหลงหลิง เกรงว่าหัวใจของเขาคงไม่เหลือที่ให้ผู้ใดอีกแล้ว
เดินมาถึงตรงหน้ารถม้า หลงเหยียนรับรู้ได้ถึงรังสีจากด้านในที่เปลี่ยนเป็ความอ่อนโยน เขาจึงถามด้วยเสียงเรียบเฉย “หากท่านอยากบอกข้าว่าคนตระกูลเซียวและสำนักบงกชมารร่วมมือกัน ท่านไม่จำเป็ต้องบอกอีก เพราะข้ารู้เื่นี้แล้ว”
เว่ยเวยที่อยู่ภายในรถม้าร่างสั่นเล็กน้อย เพราะนางััได้ถึงความไม่พอใจในน้ำเสียงของหลงเหยียนอย่างเห็นได้ชัด
เป็มารดาทว่ากลับไม่ยอมรับ มีหรือที่หลงเหยียนจะไม่โมโห แต่ถึงกระนั้น เว่ยเวยกลับพูดอย่างอ่อนโยน “หลงเหยียน สิ่งที่เ้าแสดงออกในเทือกเขาหยุนหลัวข้าล้วนเห็นทั้งหมด พร์ของเ้าดียิ่ง ทว่าต่อจากนี้ เกรงว่าตระกูลหลงคงไม่ราบรื่นเท่าไรนัก เพราะต่อให้เ้าจะรู้บางส่วนก็ไม่ได้รู้ทั้งหมด ความจริงแล้ว สำนักบงกชมารที่เ้ารู้จักนั้นเป็สำนักเล็กที่แยกตัวมาจากสำนักมารในเมืองหยุนจง”
“ตอนนี้ศิษย์สำนักมารสองคนมาถึงเมืองัแล้ว พวกเขาซ่อนตัวในเทือกเขาหยุนหลัว กำลังเฝ้าต้นหอมหมื่นลี้อยู่ เ้ารู้หรือไม่ว่าหญ้าวิเศษต้นนี้มีค่ามากเพียงใด?”
หลงเหยียนพยักหน้า “ข้ารู้ หากผู้ที่มีพลังระดับชีพัขั้นที่เก้าหลอมมันจะสามารถเลื่อนพลังขึ้นไปถึงระดับชีพ์”
เว่ยเวยนึกไม่ถึงว่าหลงเหยียนจะรู้มากเพียงนี้ หากไม่ใช่เพราะราชสีห์หิรัณย์บอก มีหรือที่หลงเหยียนจะรู้เื่พวกนี้ แม้เื่นี้ทำให้สตรีผู้นี้ประหลาดใจนัก ทว่าก็ไม่มากพอให้ใ
“เหยียนเอ๋อ ชีพ์ที่ว่านั้นคือระดับการฝึกยุทธ์ขั้นสูงสุดของลัทธิเต๋า จากนั้นก็เริ่มประสานจิต เช่นนั้นจีงเรียกว่าชีพ์”
“ชีพ์หรือ?” หลงเหยียนรู้สึกประหลาดใจมาก นั่นเป็ระดับพลังที่เมื่อก่อนตนไม่กล้าแม้แต่จะคิด
เว่ยเวยพยักหน้าเล็กน้อย มองหลงเหยียนที่ดูกำลังตั้งใจฟังมาก ก่อนนางจะพูดต่อ “ชีพ์ที่ว่า ความจริงแล้วมีชื่อว่าระดับพลังชีพเซียน เป็การประสานร่างกายแยกเส้นพลังออกเป็สามส่วนเรียกว่าชีพมนุษย์ ชีพธรณี และชีพ์ ทุกระดับชีพแยกออกเป็สามขั้น ได้แก่ ขั้นต้น ขั้นต่ำ และขั้นสูง”
“หรือเ้าจะทำความเข้าใจอีกอย่างก็ได้ การแบ่งแยกระดับของมันคล้ายเก้าขั้นของชีพันั่นละ”
หลงเหยียนที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกมึนหัวทันที ทว่าดูเหมือนสิ่งที่พูดถึงยังห่างจากความเป็อยู่ของตนในตอนนี้นัก สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจมากคือการที่นางรู้ว่าเทือกเขาหยุนหลัวมีต้นเซียนหอมหมื่นลี้ด้วย ตามหลักแล้ว หากนาง้าชิงมันมา เกรงว่าคงไม่มีใครต้านยอดฝีมือระดับชีพ์ได้
ดูเหมือนเว่ยเวยรู้ว่าหลงเหยียนกำลังกังวล นางจึงพูดขึ้น “เ้าไม่จำเป็ต้องห่วงเื่นี้ ข้าไม่สนใจเซียนหอมหมื่นลี้หรอก มันไม่ได้ช่วยข้าเท่าไร ทว่าเ้าต้องระวังตัวจากศิษย์สำนักมารด้วย พวกเขาเป็ถึงคนระดับกลางในสำนักมาร”
“ครั้งนี้เป็ไปได้สูงที่คนตระกูลเซียวจะอาศัยพวกเขาต่อต้านตระกูลหลงของพวกเ้า...”
หลงเหยียนเบิกตาโต “ว่าอย่างไรนะ? เพิ่มสำนักบงกชมารก็ยังพอว่า ยังมีคนจากสำนักมารมาเพิ่มอีกหรือ?”
หลงเหยียนพอคาดเดาสถานการณ์ได้บ้างแล้ว เว่ยเวยจึงพูดต่อ “การแข่งขันในครั้งนี้เ้าคือผู้ที่ได้ลูกแก้วปีศาจมากที่สุด เช่นนั้นเมื่อผ่านการประเมินจากข้าแล้ว เ้ามีพร์ไม่เลว ถึงเวลานั้น ข้าจะประกาศผลต่อหน้าตระกูลเซียวและตระกูลหลง ให้เ้าเป็ผู้มีสิทธิ์เข้าไปในตระกูลอู่ตี้”
“จริงหรือ?” เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลงเหยียนก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที ยิ่งไปกว่านั้น เขาวาดฝันแล้วว่าจะเข้าไปในตระกูลอู่ตี้อย่างไร
เว่ยเวยพูดจบก็เตรียมตัวจากไป ทว่าหลงเหยียนมองนาง แล้วะโเสียงดัง “ท่านแม่”
เว่ยเวยร่างสั่น ทว่าไม่นานก็หันหน้าหนี ไม่ได้อธิบายแต่อย่างไร องครักษ์ทั้งสี่คนขวางหลงเหยียนไว้ด้านหลังแล้วรถม้าก็หายไปในไม่ช้า
หลงเหยียนรู้สึกสับสนจนพูดไม่ถูก เมื่อครู่ ไม่รู้เหตุใดเขาถึงควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ะโเรียกนางว่าแม่
ทุกครั้งที่เข้าใกล้นางกลับมีความรู้สึกแน่นแฟ้นอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกเช่นนั้นต้องเกิดจากความใกล้ชิดที่คุ้นเคยเท่านั้น
ความเฉยชาที่นางแสดงออกมาทำให้หลงเหยียนชินไปแล้ว จากนั้นหลงเหยียนก็กลับมาบอกเื่ของสำนักมารให้กับผู้าุโตระกูลหลง
หลงเหยียนไม่รู้รายละเอียดของคนจากสำนักมารเลยแม้แต่น้อย เขารู้แค่ว่าคนพวกนั้นต้องมีพลังไม่ต่ำกว่าชีพัขั้นที่เก้าแน่ วันนี้พวกเขาหนีหายนะมาได้ครั้งหนึ่ง เพียงแต่วันหลังเกรงว่าตระกูลหลงต้องพบบททดสอบครั้งใหญ่หลวงอีกครั้งแล้ว
ตอนนี้มีเื่มากมายกองอยู่ตรงหน้าหลงเหยียน...
เื่แรก ต้นเซียนหอมหมื่นลี้จะโตเต็มที่ในอีกสามวัน เื่นี้ทำให้เขาปวดหัวนัก ตอนนี้ตนมีพลังขั้นที่เจ็ดเท่านั้น จะชิงมันมาจากคนพวกนั้นได้อย่างไร
เื่ที่สอง ตัวแทนจากตระกูลอู่ตี้จะประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับคัดเลือกเข้าไปในตระกูลอู่ตี้แห่งเมืองหยุนจง ตอนนี้ทั้งสองตระกูลแตกหัก อยู่ในขั้นไม่ร่วมแผ่นดิน แล้วตนจะวางใจจากไปได้อย่างไร
เื่ที่สาม ตอนนั้นทั้งสองตระกูลให้คำมั่นกันแล้วว่าหากฝ่ายใดได้รับชัยชนะ เช่นนั้นอีกฝ่ายต้องมอบวิชาต่อสู้ระดับมายาขั้นกลางให้ฝ่ายตรงข้ามดูแลหนึ่งเดือน
นี่คือเื่ที่หลงเหยียนต้องจัดการในเวลานี้ ทุกเื่ล้วนเป็สิ่งที่เขาต้องทำ หลงเหยียนพลันรู้สึกกดดันเหลือเกิน หรืออาจเป็เพราะความไม่ชัดเจนจากมารดา
หลงเหยียนไม่เข้าใจ เหตุใดนางต้องซ่อนความรู้สึก เหตุใดจึงไม่ยอมรับ...
ด้านหน้าคือเส้นทางสู่เมืองหยุนจง เขาต้องสืบให้ชัดว่าเกิดเื่อะไรขึ้นในอดีต ยังมีอีกเื่ที่สำคัญมากคือการตามหาร่องรอยของหลงหลิง นางเคยบอกว่าจะรอตนที่เมืองหยุนจง
...
เวลาผ่านไปเร็วยิ่งนัก เวลานี้ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็สีดำ ผู้าุโแห่งตระกูลกลับถึงตระกูลแล้ว พิษในร่างกายก็เริ่มหายไปมากขึ้น หลงกงฉู่รู้ความจริงว่าหลงป้าเทียนไม่สนความเป็ความตายคนในตระกูล ทั้งที่เป็คนที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลหลง
การกระทำเช่นนั้นน่าสมเพชจริงๆ ผู้าุโแห่งตระกูลทำลายพลังปราณเขาทั้งหมด จับเข้าคุก ถูกควบคุมประพฤติตลอดไป
ทุกคนในตระกูลหลงรู้วิธีจัดการของหลงกงฉู่ดี สำหรับท่านปู่ผู้นี้คงมีแค่หลงเหยียนเท่านั้นที่กล้าเงยหน้าคุยกับเขา
“ท่านปู่ ท่านจะขังเขาไว้ในคุกไปชั่วชีวิตจริงหรือขอรับ?”
ผู้าุโพยักหน้า มองไปทางหลงเหยียนคล้ายมีเลศนัย “เหยียนเอ๋อ ความจริงข้าท่องยุทธภพมาทั้งชีวิต สิ่งเดียวที่ใช้ก็คือความเด็ดเดี่ยว ข้าเป็ที่รู้จักเพราะความโเี้ที่มี ทว่าตัวข้าแบ่งแยกผิดชอบชั่วดีเสมอ ยกตัวอย่างง่ายๆ เมื่อไรที่คนผู้หนึ่งทำผิด กับทำความชั่ว มันเป็คนละเื่กันเลย เ้าเข้าใจความหมายของข้าหรือไม่ หาใช่ข้าโหดร้าย ทว่าในตระกูลใหญ่โต หากไม่ยึดตามกฎระเบียบ หากเมินเฉยต่อผู้นำเผ่า แล้วเหตุใดข้าต้องเก็บเขาไว้อีก”
“สิ่งที่หลงป้าเทียนทำ รุนแรงยิ่งกว่าการทำเื่ไม่ดีเสียอีก เ้าเข้าใจหรือไม่ เื่ในวันนี้ อาศัยเ้าเพียงผู้เดียวในการช่วยทั้งตระกูลหลง เหยียนเอ๋อ ข้าขอบใจเ้าแทนคนทั้งตระกูล”
หลงเหยียนรู้สึกดีใจเหลือเกินที่เขาได้ยินคำชมเชยจากปากของผู้าุโ ในที่สุดเขาก็กลายเป็ความภาคภูมิใจให้กับตระกูลแล้วจริงๆ
“ท่านปู่ ตระกูลหลงของพวกเราไม่มีทางอยู่อย่างอัปยศ ท่านไม่เห็นกิริยาของพี่ใหญ่อวี่ซี ห่าวเทียน เซ่าโหยว หยุนฉีและอวี่หยางหรือ”
“ฮ่าๆๆๆ ...” เมื่อได้ยินหลงเหยียนพูดเช่นนี้ ผู้าุโแห่งตระกูลก็หัวใจพองโต นี่เป็ครั้งแรกในรอบสี่สิบปีที่เขารู้สึกตื้นตัน สายตาจ้องไปยังเด็กอายุน้อยของตระกูลหลง
เมื่อเขานึกถึงภาพเด็กหนุ่มในตระกูลข่มขู่ตระกูลเซียวบนถนนซวนอู่ ขวางอยู่ตรงหน้าตระกูลหลงอู่ โดยต้องเผชิญหน้ากับยอดฝีมือจำนวนมากในตระกูลเซียว น้ำตาแห่งความตื้นตันก็ไหลลงมาอย่างช้าๆ ...
--------------------