ดวงตาดั่งเมล็ดซิ่งดำขลับของหลินฟู่อินจ้องบุรุษร่างใหญ่ผิวดำนั่น ริมฝีปากพลางยกขึ้นเป็เชิงประชด
นางแค่นจมูกอย่างไร้ความกลัวเกรง “ไอ้บ้า พวกเ้าน่ะสิที่ทำลายชื่อเสียงของบุตรคนที่สามของท่านรองเ้าเมืองตอนกลางวันแสกๆ! ไอ้พวกสุนัขชั้นต่ำ ไม่อายบ้างหรือที่มาป้ายสีใส่หญิงชาวบ้านแล้วขู่จะส่งเข้าคุกน่ะ! ”
คำพูดเชือดเฉือนของหลินฟู่อินไม่เพียงทำให้เหล่าบุรุษร่างกำยำเ่าั้ต้องสะอึกไป แม้แต่บุรุษหนุ่มในชุดเขียวก็ด้วย
เขาเอียงคอมองเด็กสาวตรงหน้าอย่างงงงวย เด็กนี่ว่าอะไรนะ?
แต่เขาเป็บุตรคนที่สามของรองเ้าเมืองจริงๆ นะ!
เขายื่นมือออกไปแหวกทางระหว่างชายร่างกำยำทั้งสองที่ล้อมหลินฟู่อินอยู่ เดินเข้าไปหาหลินฟู่อินด้วยสีหน้าเหรอหรา ก่อนจะจ้องนาง
อ้อ เด็กสาวผู้นี้ดูท่าจะไม่รู้จักเขาจริงๆ เขาจึงก้าวเข้าหานาง แล้วพินิจมองใบหน้านางอย่างถี่ถ้วน ก่อนจะกล่าวอย่างอวดเบ่ง “ฮึ ก็ข้านี่ละคือบุตรคนที่สามของรองเ้าเมืองตัวจริง!”
เขาคิดไปว่าเท่านี้หลินฟู่อินก็คงจะหวาดกลัวจนคุกเข่าขอความเมตตาจากเขาแล้ว แต่เขาก็ต้องผิดหวังอีกครั้ง
ใครจะไปคิดว่าหลินฟู่อินจะเตะคางเขาอย่างรวดเร็ว จนบุรุษร่างกำยำที่รายล้อมพากันงุนงงไปว่านางตั้งท่าตอนไหน
“โอ๊ย กรามข้า…”
“นางเด็กบ้า เ้ารนหาที่แล้ว!” เหล่าบุรุษร่างกำยำที่มิอาจปกป้องเ้านายได้พลันเดือดดาลขึ้นมา แล้วรุกเข้าหาหลินฟู่อินด้วยสายตาโกรธเคือง
“หึ ผู้ชายตัวโตตั้งหลายคน กลับมารุมทำร้ายผู้หญิงร่างเล็กเพียงคนเดียวเช่นข้า ไม่กลัวถูกหัวเราะเยาะหรืออย่างไร?” เมื่อหลินฟู่อินเห็นว่าพวกเขากำลังจะลงมือ คิ้วนางก็ขมวดเป็ปม “ในสายตาของสามัญชนเช่นพวกข้า ท่านรองเ้าเมืองนั้นเป็คนดี รวมไปถึงคนในตระกูลไม่ว่าจะเป็หลานชายหรือหลานสาว ทุกคนต่างก็เป็ผู้ที่รักษาตนให้อยู่ในกฎระเบียบและข้อกฎหมาย แต่เ้ากลับอ้างว่าตัวเองเป็บุตรคนที่สามของรองเ้าเมือง นี่ไม่เพียงสร้างชื่อเสียให้ท่านรองเ้าเมือง แต่ยังทำลายภาพลักษณ์ดีๆ ที่เขาเคยสั่งสมมาด้วย เช่นนี้แล้วก็รอให้ท่านรองเ้าเมืองโยนเ้าเข้าคุกได้เลย!”
แต่จริงๆ แล้วหลินฟู่อินเชื่อว่าบุรุษตรงหน้าคงเป็ลูกรองเ้าเมืองจริงๆ นางเพียงกล่าวเช่นนี้เพื่อให้เหล่าชายฉกรรจ์ลังเลที่จะจู่โจมนางเท่านั้น
หากรองเ้าเมืองรู้เื่ความบ้าบอที่บุตรคนที่สามผู้นี้ทำในวันนี้แล้ว ต่อให้ไม่ได้เข้าคุก ก็คงโดนหนักไม่น้อยแน่
บุตรลำดับที่สามของรองเ้าเมืองผู้นี้เองก็เคยทำเื่โง่เขลามามากมายนับั้แ่เมื่อก่อน แต่ไม่มีใครกล้าส่งเสียงต่อต้าน เพราะเขาเป็บุตรลำดับที่สามของรองเ้าเมือง จึงได้แต่กัดฟันยอมรับกันไป แต่เด็กสาวผู้นี้กลับไม่ทำเช่นนั้น นางไม่กลัวเื่ที่เขาเป็บุตรคนที่สามของรองเ้าเมืองเลยหรือ
หลินฟู่อินเลือกที่จะไม่ยอมรับว่าเขาเป็บุตรรองเ้าเมือง ดังนั้นแล้วถือว่านางไม่รู้ เพราะฉะนั้นเขาจึงมีแต่ต้องทนรับหมัดนางเท่านั้น
เพราะนางเป็ฝ่ายที่กำลังปกป้องชื่อเสียงของตระกูลรองเ้าเมืองอยู่อย่างไรเล่า!
มาถึงตอนนี้ ชาวต้าเว่ยขามุงที่ออกันอยู่ก็เริ่มกล้าส่งเสียงขึ้นมา เริ่มจากเสียงของใครคนหนึ่ง “แม่นางผู้นี้กล่าวถูกแล้ว บุตรคนที่สามของบ้านรองเ้าเมืองต้องเป็บุรุษผู้หล่อเหลาแน่ และแน่นอนว่าคงเพียบพร้อมไปด้วยมารยาทและยางอาย กล้าดีอย่างไรถึงมาอ้างว่าตนเป็บุตรของท่านรองเ้าเมืองเช่นนี้ หัดรู้จักยางอายเสียบ้าง!”
“แต่งตัวราวกับสุนัขข้างถนน ทั้งยังอ้างว่าแม่นางที่ยังไม่แต่งงานผู้นี้เป็คู่หมั้นของตนอีก นิสัยบัดซบนัก คนชั่วเช่นนี้ควรได้รับการสั่งสอน!”
“แม่นางเองก็กล่าวออกมาชัดเจนว่าบิดามารดาของนางไม่เคยจับคู่นางกับใครแล้วแท้ๆ แต่กลับยังดึงดันอ้างต่อ ช่างไร้ยางอายนัก!”
“...”
บุรุษในชุดเขียวถูกถากถางไม่หยุดจนกัดฟันแน่น โมโหจนสติแทบหลุด แล้วะโออกมา “ไอ้พวกชั้นต่ำ ข้าเป็ลูกคนที่สามของรองเ้าเมืองนะโว้-”
ไม่ทันกล่าวจบ ลูกน้องร่างกำยำของเขาก็รีบเข้ามาปิดปาก แล้วร้องขอด้วยเสียงต่ำ “นายน้อยสาม วันนี้กลับก่อนดีกว่าขอรับ เพราะหากเื่ในวันนี้ไปถึงหูท่านเ้าบ้านเข้า ท่านคงได้ถูกทุบตีอีกแน่”
ได้ยินเช่นนี้บุรุษในชุดเขียวก็สั่นกลัวขึ้นมาเล็กน้อย แต่ยังทำใจแข็งแล้วกล่าวขึ้นมา “เ้ากลัวอะไรกัน อย่างไรนั่นก็เป็พ่อข้า ข้าไม่โดนฆ่าหรอก!”
หลินฟู่อินที่อยู่ใกล้ที่สุดได้ยินที่เขากล่าว แล้วจึงเข้าใจว่าหมอนี่มันเป็คนไร้สมองของแท้ นางจึงยิ้มออกมาอย่างเ็า
คนโง่เขลาเช่นนี้พยายามมาหลอกลวงนางอย่างนั้นหรือ ดูท่าว่านางคงจะถูกประเมินไว้ต่ำมากสินะ
“เ้าคนชั้นต่ำ กล้าดีอย่างไรถึงมาป้ายสีสตรีต่อหน้าข้าเช่นนี้ อยากถูกกระทืบมากสินะ!” ในขณะที่สถานการณ์กำลังเริ่มนิ่ง ก็มีเสียงอันเดือดดาลของบุรุษผู้หนึ่งดังขึ้น
หลินฟู่อินคุ้นเคยกับเสียงนี้ นางหันไปมอง และพบว่าผู้ที่ส่งเสียงขึ้นมาก็คือเหล่าลิ่วนั่นเอง!
นางเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าเหล่าลิ่วมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร แต่นางก็ได้เห็นบุรุษผู้นั้น บุรุษผู้สวมอาภรณ์สีขาวปักลวดลายละเอียด บุรุษผู้กำลังเดินเข้ามาหานางโดยมีตวนมู่เฉิงติดตามมาด้วย
เขาเหน็บกระบี่ที่เตะตาไว้ข้างเอว รูปโฉมหล่อเหลาดึงดูดสายตา แม้ร่างจะสวมอาภรณ์สีขาวแต่สีหน้ากลับเย็นะเืราวกับเทพาที่จุติลงมาจากฟ้าโดยไม่ให้ใครทันได้ตั้งตัว
ตวนมู่เฉิงที่ติดตามเขาอยู่เคียงข้างเองก็ดูไม่ธรรมดา บรรยากาศรอบกายเย็นะเืจนเหมือนทุกสิ่งจะหยุดนิ่ง
ไม่มีใครกล้าส่งเสียง ทำได้เพียงมองพวกเขาเงียบๆ เท่านั้น
มีเพียงหลินฟู่อินที่เอียงคอ สายตาทอประกายความประหลาดใจ
เขามาด้วยหรือ…
ได้พบกันอีกแล้ว…
เหตุใดบุรุษจากเป่ยหรงผู้นี้จึงกลับมาเยือนต้าเว่ยรวดเร็วถึงเพียงนี้กัน
ชาวต้าเว่ยขามุงเองเมื่อเห็นหวงฝู่จินผู้โดดเด่นต่างก็พากันสูดหายใจเข้าลึก ส่วนตัวหวงฝู่จินนั้นเพียงเดินผ่านไปเฉยๆ โดยไม่เห็นใครอยู่ในสายตา
แน่นอนว่าแม้แต่หลินฟู่อินเองก็ไม่อยู่ในสายตาของเขา
ราวกับว่าเขาไม่รู้จักนางเลย
“เหล่าลิ่ว จัดการคุณชายเจียงซานหลางตรงนั้นให้ข้าทีสิ” กล่าวจบหวงฝู่จินก็เดินผ่านหลินฟู่อินไปโดยไม่สนใจมองนาง ทิ้งไว้เพียงประโยคสั้นๆ แค่นั้นแล้วเดินจากไป
หลินฟู่อินขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วก็เห็นว่าตวนมู่เฉิงเองก็เดินผ่านนางไปเงียบๆ เช่นกัน
“รับคำสั่งคุณชาย!” เหล่าลิ่วหัวเราะตอบรับ จากนั้นจึงมองหลินฟู่อินราวกับ้าสื่อบางอย่าง “แม่นาง ในอนาคตหากพบคนไร้ยางอายเช่นนี้อีกก็หนีไปเสีย ครั้งนี้เ้ายังโชคดีที่มันทำให้คุณชายของข้ารำคาญขึ้นมา ดังนั้นเ้ารีบกลับไปเสียจะดีกว่า”
นี่เล่นปาหี่อะไรกันอยู่?
หลินฟู่อินขมวดคิ้วเล็กๆ หรือพวกเขาจะมาตามล่าเ้าเจียงซานหลางนี่จริงๆ?
แต่เื่นี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับนางแล้ว ในเมื่อพวกเขาไม่อยากทักทายนางก็ตามน้ำทำเป็ไม่รู้จักไปจะดีกว่า
จากนั้นนางจึงทำทีราวกับกำลังหวาดวิตก เก็บของขึ้นมาแล้วหนีไปโดยไม่สนสิ่งที่เหลาลิ่วจะกล่าวต่อ
เหล่าบุรุษร่างใหญ่เห็นเหล่าคนที่ปรากฏตัวออกมาเช่นนี้ก็คิดว่าน่าจะเป็คนมีอำนาจ จึงเริ่มวิตกขึ้นมา และตัวเจียงซานหลางแม้จะโง่แต่เขาก็ไม่ได้ตาบอด เขารู้ดีว่าคนพวกนี้ไม่ใช่คนธรรมดา ทั้งฟังจากที่เหลาลิ่วบอกก็รู้แล้วว่าเขาเผลอไปกระตุกหนวดเสือเข้าแล้ว จึงรีบะโ “ขะ ขะ ข้าไม่รู้จักพวกเ้านะ ข้าว่าพวกเ้ามาหาผิดคนแล้ว…”
เหล่าลิ่วซัดหมัดเข้าตรงสันจมูกของเจียงซานหลางอย่างรวดเร็วจนเขาสลบไปโดยไม่ทันแม้แต่จะส่งเสียง เืไหลทะลักจากรูจมูกทั้งสองข้าง สร้างความหวาดกลัวให้ผู้คนโดยรอบจนต้องพากันวิ่งหนี
บุรุษร่างใหญ่ทั้งสองเองก็หวาดกลัวขึ้นมา เหล่าลิ่วจึงหัวเราะอย่างชอบใจ อุ้มเจียงซานหลางขึ้นไหล่ ก่อนจะทะยานจากไป
ฝีมือของเหลาลิ่วสร้างความประหลาดใจให้ผู้คนรอบๆ คนเหล่านี้เป็ใครกันแน่นะ?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้