ณ ประตูอันชิ่ง
ในสวนยวี่ฮวาเมื่อครู่นี้ ฮ่องเต้หยวนเต๋อทรงยกเลิกงานเลี้ยงส่งเดินทาง แเื่ทุกคนจึงแยกย้ายทยอยออกจากวังหลวง
ทว่ายามที่ผู้คนออกมานอกประตูอันชิ่ง เพื่อ้าจะจากไป บุรุษในชุดจิ้งจวงสีดำทะมัดทะแมงขี่ม้ามาทางนี้ ป้ายประจำตัวของคุณชายตระกูลฉู่ข้างเอวอันนั้นตกสู่สายตาของผู้คนรอบข้าง โดยเฉพาะหน้ากากสีเงินอันเป็เอกลักษณ์นั่น จึงมีคนจำตัวตนของเขาได้ทันที
ท่านแม่ทัพหลวงฉู่ชิง!
ทว่า...ทว่าเพลิงไหม้ั์เมื่อหลายวันก่อน เห็นได้ชัดว่าฉู่ชิงเสียชีวิตในค่ายเสินเช่อไปแล้ว เหตุใด...
จิตใจของผู้คนรู้สึกสงสัย กระทั่งแม้แต่คนที่ออกไปนานแล้ว ยามที่ได้ยินข่าวนี้ยังรีบวกกลับมาทันที
ในยามนี้ ด้านนอกลานจัตุรัสที่ประตูอันชิ่ง มีรถม้าหลายคันจอดอยู่ ในจุดที่ใกล้ประตูอันชิ่งที่สุด บนหลังม้าพันธุ์งาม บุรุษร่างสูงโปร่งกำบังเหียนอย่างไม่ขยับเขยื้อนประหนึ่งหินผา หน้ากากสีเงินภายใต้แสงสุริยันโดดเด่นสะดุดตา
“ท่านแม่ทัพหลวง...นั่นใช่ท่านแม่ทัพหลวงจริงหรือ?”
บนรถม้าของจวนเหนียน ม่านถูกเปิดออกเล็กน้อย ผิงเอ๋อร์จ้องมองบุรุษบนหลังม้า เห็นเพียงแผ่นหลังของคนผู้นั้น ทว่าแม้จะเป็เช่นนี้ นางก็ยังจำได้ว่าคนผู้นั้นคือฉู่ชิง โดยอาศัยจากความทรงจำยามที่ท่านหญิงออกเรือนในวันนั้น
“เห็นได้ชัดว่าท่านแม่ทัพหลวงเสียชีวิตในกองเพลิงั์นั่นแล้ว ทว่าเหตุใด...”
ผิงเอ๋อร์พึมพำ เมื่อคิดอะไรขึ้นได้ ดวงตาพลันสว่างไสว “ท่านหญิงเ้าคะ หากท่านแม่ทัพหลวงยังไม่เสียชีวิตไปจริงๆ เช่นนั้นมิใช่ว่าคุณหนูรองยังมีชีวิตอยู่เช่นกันหรอกหรือเ้าคะ?”
ผิงเอ๋อร์หันไปมองสตรีข้างกาย เห็นเพียงนางเปิดผ้าคลุมออก จ้องมองไปนอกรถม้าด้วยดวงตาเป็ประกาย ดวงหน้าอันน่าหวาดกลัวซึ่งเต็มไปด้วยรอยแผลเป็ดูตื่นเต้นเล็กน้อย
ตื่นเต้น?
นานเท่าใดแล้วที่นางไม่เคยเห็นสีหน้าเยี่ยงนี้จากท่านหญิง?
ั้แ่ที่ไฟไหม้ครานั้นทำลายรูปโฉมของท่านหญิง ท่านหญิงก็มีเพียงอารมณ์เกลียดชังและเ็ป แม้ยามที่แก้แค้นเหนียนเฉิง นางรู้สึกได้ว่าท่านหญิงมิได้มีความสุขจริงๆ ทว่าในยามนี้... ผิงเอ๋อร์มองตามสายตาของจ้าวอิ้งเสวี่ย สายตามองเห็นบุรุษชุดดำบนหลังม้าผู้นั้นอีกครั้ง...
“ดี ดีเหลือเกิน เขายังไม่ตาย เขาไม่สมควรตาย...เขาเป็คนที่ไม่สมควรตาย...” จ้าวอิ้งเสวี่ยกำผ้าเช็ดหน้าแน่น เอ่ยพึมพำกับตัวเอง บุรุษเช่นนั้นต่อให้เป็องค์เทพก็ยังต้องปกป้องเขา จะปล่อยให้เขาตายเร็วได้อย่างไร!?
ผิงเอ๋อร์ผู้ซึ่งกำลังรับฟังเสียงบ่นพึมพำของจ้าวอิ้งเสวี่ย ในใจพลันตื่นตะลึงเล็กน้อย
เพราะท่านแม่ทัพหลวงยังมีชีวิตอยู่ ท่านหญิงจึงดีใจเช่นนี้หรือ?
ก็ย่อมถูกต้องแล้ว ท่านแม่ทัพหลวงมีพระคุณช่วยชีวิตท่านหญิง ทว่า...
ผิงเอ๋อร์จ้องมองนายหญิงน้อยของตนเอง มิรู้เพราะเหตุใด สีหน้าของท่านหญิงนั้นแฝงอะไรบางอย่างที่นางไม่ค่อยเข้าใจ
บนรถม้าอีกคันหนึ่ง บรรยากาศกลับตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง
รถม้าย้อนกลับมา ยามที่กลุ่มคนบนรถม้าเห็นบุรุษที่ยืนนิ่งอยู่ด้านนอกประตูอันชิ่งอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด ใบหน้าของทุกคนพลันตึงเครียดอย่างบอกไม่ถูก
“ยังไม่ตาย มิคาดคิดเลยว่าจะยังไม่ตาย...”
บนรถม้า หนานกงฉี่พูดพึมพำ ั์ตาเ้าเล่ห์ดั่งจิ้งจอก มีพิษเหมือนงูหรี่ลงเล็กน้อย ไม่ใช่แค่ยังไม่ตาย ทว่าข่าวที่เขาเพิ่งได้ยินมาคือ เหล่าทหารค่ายเสินเช่อในยามนี้ก็รออยู่นอกเมืองชุ่นเทียนด้วยเช่นกัน นี่มันหมายความว่าอย่างไร?
ทั้งค่ายเสินเช่อไม่เป็อะไรเลยงั้นหรือ?
ทว่าโรคระบาดนั่น...เหตุการณ์เพลิงไหม้ั์เมื่อหลายคืนก่อน แท้จริงแล้วมันเกิดเื่อันใดกันแน่?
ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น สีหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงเองก็ไม่น่ามองอย่างสุดขีด
“ดูเหมือนว่า เหตุการณ์เพลิงไหม้ั์ครานั้นจะเป็การปิดบังพวกเราทั้งหมด” ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง พลาดแล้ว ทุกอย่างผิดพลาดหมดแล้ว การที่ตระกูลหนานกง้า่ชิงตำแหน่งแม่ทัพหลวงนี้ ดูท่าแล้วยามนี้จะเป็เหตุการณ์ที่ผิดพลาดครั้งใหญ่จริงๆ
พวกเขาเองคิดว่า ถ้าหากทำตามแผนการวันนี้ ใช้อีหลานเป็เครื่องต่อรอง จะต้องกดดันฮ่องเต้หยวนเต๋อให้ยอมมอบตำแหน่งแม่ทัพหลวงให้ตระกูลหนานกงได้แน่ ทว่าอย่างไรนางก็ไม่คาดคิดเลยว่า ผลลัพธ์จะเป็เยี่ยงนี้
ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงหันไปมองเหนียนอีหลาน สายตาเฉียบคมทำให้เหนียนอีหลานรู้สึกใ ร่างกายสั่นสะท้านขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
“ท่าน...ท่านยาย...”
เหนียนอีหลานเอ่ยเรียกอย่างสั่นเครือ ั้แ่ที่ขึ้นมาบนรถม้า เหนียนอีหลานไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงหายใจแรง คนสองคนที่อยู่ข้างๆ ทำให้นางนึกถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ตลอดเวลา สายตาของท่านยายในยามนี้ราวกับคมมีดก็ไม่ปาน นางยังคงรู้สึกว่า ท่านยายอยากจะให้นางตายจนแทบอดใจไม่ไหว
ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงยกมือลูบแก้มของนาง ััแก้มอันเย็นเยียบ ทำให้เหนียนอีหลานตัวแข็งทื่อ
"เ้าหวาดกลัวอันใด" ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงเอ่ยปากอย่างเ็า
ถ้อยคำประโยคเดียว ทำให้เหนียนอีหลานหวาดกลัวจนสีหน้าซีดเผือด ในที่สุดนางก็อดกลั้นไม่ไหว เหนียนอีหลานคุกเข่าลงตรงหน้าฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงทันที “ท่านยาย อีหลานผิดไปแล้ว อีหลานสมควรตาย อีหลาน...”
“เ้าผิดไปแล้ว เ้าสมควรตาย?” ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงคำรามในลำคอแ่เบา “เช่นนั้นเ้าก็ลองว่ามา เ้าผิดอย่างไร แล้วเ้าสมควรตายอย่างไร?!”
“หลาน...” เหนียนอีหลานตื่นใเล็กน้อย ผิดอย่างไรหรือ สมควรตายอย่างไรหรือ สำหรับท่านยาย สำหรับตระกูลหนานกง ข้าผิดจนไม่ควรมีชีวิตอยู่ ทำให้แผนการของตระกูลหนานกงต้องล้มเหลวมิใช่หรือ?
ทว่าถึงแม้จะทำลายแผนการของตระกูลหนานกง นางก็ยังไม่อยากตาย และในยามนี้ ท่านยาย และพวกเขาจะปฏิบัติกับนางอย่างไร?
ในใจของเหนียนอีหลานเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและหวาดกลัว ความเงียบงันปกคลุมทั่วทั้งรถม้า หนานกงฉี่เหลือบมองเหนียนอีหลาน ขมวดคิ้วมุ่น บรรยากาศแปลกประหลาด ท่ามกลางความกดดันเยี่ยงนี้ ร่างกายของเหนียนอีหลานสั่นสะท้านอย่างรุนแรงยิ่งขึ้น เหมือนเมื่อคืนที่จื่อหลิงเข้ามาอุดปากอุดจมูกของนาง อาการหายใจไม่ออกโอบล้อมตัวนางอีกครั้ง
“เมื่อคืนนี้ แท้จริงมันเกิดเื่อันใดขึ้นกันแน่?”
ชั่วขณะที่บรรยากาศเหมือนจะะเิออก ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงจึงเอ่ยปากออกมาในที่สุด
ถ้อยคำที่เอ่ยถามก็ยิ่งทำให้จิตใจของเหนียนอีหลานคับแน่นทุกตารางนิ้ว
เมื่อคืนนี้...แท้จริงมันเกิดเื่อันใดขึ้นหรือ?
เหนียนอีหลานเข้าใจแจ่มแจ้งเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ พวกนางเข้าใจกันดีโดยมิต้องเอ่ย ทว่าท่านยายอยากรู้ว่า เมื่อคืนนี้ เหตุใดข้าถึงยังไม่ตาย!
ครั้นนึกถึงบุรุษชุดขาวผู้นั้น เหนียนอีหลานรู้สึกลังเล
หลังจากประสบกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น นางไม่กล้าจะเชื่อใจว่าตระกูลหนานกงจะเป็ที่พึ่งพิงของนางได้ ยามนี้ท่านอ๋องมู่ทรงสิ้นพระชนม์ไปแล้ว สิ่งที่นางจะคว้าไว้ได้ บางทีอาจมีเพียงแค่จ้าวเยี่ยนเท่านั้น
แม่ทัพหลวง...
อีหลานมิได้ขลาดเขลา เมื่อครู่ในสวนยวี่ฮวา โดยเฉพาะประโยคที่กล่าวว่า ‘ประเมินฉางไทเฮาต่ำไป’ ของท่านยาย ยิ่งทำให้นางมั่นใจว่า บุคคลที่จะได้รับเลือกให้รับ่ต่อตำแหน่งแม่ทัพหลวง มิใช่ใครอื่นนอกจากจ้าวเยี่ยน เพราะเช่นนั้น...
“หึ เ้ายังอยากปกปิดให้พวกเขาอีกงั้นหรือ?”
ระหว่างที่เหนียนอีหลานครุ่นคิด เสียงของฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงดังขึ้นอีกครั้ง “ยามนี้ฉู่ชิงก็ยืนอยู่หน้าประตูอันชิ่ง เขายังปลอดภัยหายห่วง เ้าคิดว่าตำแหน่งแม่ทัพหลวง จ้าวเยี่ยนจะแย่งไปได้หรือไร?”
เหนียนอีหลานใ เงยหน้าสบตาฮูหยินผู้เฒ่าหนานกง
ท่านยาย นางรู้ว่าเป็ท่านอ๋องหลี...
และคำพูดของท่านยายเตือนสตินางในทันที
ใช่ ฉู่ชิงยังมีชีวิตอยู่ ตำแหน่งแม่ทัพหลวงก็ไม่จำเป็ต้องให้คนอื่นมารับ่ต่อแล้ว!
และหลีอ๋องจ้าวเยี่ยน...
เกรงว่าเขาคงยังเป็ได้แค่ท่านอ๋องผู้ไร้อำนาจใดๆ จะช่วยเหลือนางได้สักเท่าใด?
ครุ่นคิดคำนวณมากมาย ทันใดนั้นในใจของเหนียนอีหลานก็มีการคำนวณ นางจ้องมองฮูหยินผู้เฒ่าหนานกง สายตาสั่นเครือ “ท่านยาย ใช่ เป็ท่านอ๋องหลีที่ช่วยอีหลานเ้าค่ะ เขาบอกว่าสามารถทำให้อีหลานออกมาจากสวนร้อยสัตว์ได้ ดังนั้น...ดังนั้น...”
“ดังนั้นเ้าก็ฟังเขาพูด ร่วมกันหลอกลวงข้า หลอกลวงคนตระกูลหนานกง!” ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงตวาดลั่นอย่างฉุนเฉียว สายตาที่มองเหนียนอีหลานดุร้ายขึ้นเรื่อยๆ