ตัวอักษรเอียง ภาษาอังกฤษ
ตัวอักษรปกติ ภาษาไทย
สามชั่วโมงผ่านไป
“เป็ยังไงบ้างลูก ดีขึ้นบ้างหรือยัง” พิพัฒน์ถามด้วยความเป็ห่วง
“หูอื้อ ตาลายอยู่นิดหน่อยครับ ส่วนขากับแขนก็ดามเฝือกอ่อนคนละข้าง” นภัทรตอบด้วยความระมัดระวัง
“ใช้เวลาอีกครึ่งเดือนน่าจะหาย หลังจากนี้อยากไปเที่ยวตามแพลนเดิมที่เลขาของลูกจัดไว้อยู่ไหม”
“ถ้าเป็ไปได้ก็อยากทำแบบนั้นครับ”
“ลูกเพิ่งฟื้นมาไม่เท่าไหร่ คุยกับหมอเสร็จแล้วยังต้องมาคุยกับพ่ออีก พักผ่อนก่อนแล้วกัน”
“ครับ”
พิพัฒน์อยากให้ลูกของเขาพักผ่อนอย่างเต็มที่ แล้วค่อยมารับรู้เื่ราวอื่นทีหลังแล้วกัน ตอนนี้มีเื่ต้องบอกเพื่อนสนิทให้วางใจก่อน ไม่งั้นคงกลายเป็บ้าตามสืบเื่ราวแน่
“ไม่ได้นะครับ! ท่านจะทำแบบนี้ไม่ได้”
“ไม่ได้นะครับ! ท่านเป็ผู้นำของตระกูล!”
“ไม่ได้นะคะ!”
เสียงห้ามของเหล่าคนดูแลทั้งหลายเริ่มดังเมื่ออยู่ในบริเวณห้องพักพิเศษในโรงพยาบาล ไม่ต้องพูดอะไรก็รับรู้สีหน้านั้นได้ดี มันคือสีหน้าของคนเป็พ่อสติหลุด
ที่พร้อมทำทุกอย่างเพื่อลูกอย่างไม่ลังเล ก่อนจะเกิดเื่อะไรขึ้นบอกไปตามตรง หลังจากบอกให้ภรรยาของตนเองไปตามสืบดีกว่า
“ทุกคนออกไปก่อน ฉันจะคุยกับมากาเร็ตเอง”
“ครับ ท่านผู้นำตระกูลภูทนินทร์ / ค่ะ ท่านผู้นำตระกูลภูทนินทร์”
กริ๊ก!
“เื่ทั้งหมดเป็อุบัติเหตุเท่านั้น ไม่ใช่การลอบสังหารเหมือนอย่างที่ผ่านมา หลังจากประกาศข่าวการหมั้นหมายออกไป ทุกอย่างมันสงบมาตลอด
นายระแวงมากเกินไปเท่านั้น เชื่อถือข่าวนี้ได้เพราะฉันได้มาจากวงใน เอกสารทุกอย่างอยู่ในซองนี้ ฉันสั่งคนตามสืบั้แ่เกิดเื่ มันมีทุกอย่างให้อ่านทั้งหมด”
“อืม เข้าใจแล้ว”
บรรยากาศเงียบสงบลงทันทีหลังจากอธิบายเสร็จสิ้น เขาเลือกสอบถามคนของตนเองว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกชายของเพื่อน ได้ความอีกคนกลายเป็เ้าชายนิทราไปแล้ว
การรักษาทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีหลังจากลูกของเขาประมาณครึ่งชั่วโมง แต่กลับไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นขึ้นมาเลยสักนิด จนกระทั่งตอนนี้ผ่านมาร่วมสิบสองชั่วโมงแล้ว
ทีมแพทย์ลงความเห็นว่าให้รอจนกว่ายาตัวใหม่ที่กำลังทำการวิจัยภายในห้าปีข้างหน้าสำเร็จ จะมาใช้กับลูกชายของเพื่อนทันที มันเป็ยาตัวใหม่กระตุ้นประสาทัั
รวมถึงมียารักษาที่สามารถให้คงอยู่แบบนี้ได้จนกว่ายาตัวใหม่จะมาถึงในอนาคตอีกด้วย ทำให้ผู้นำตระกูลตัดสินใจเซ็นลงไปเพื่อรอยาตัวนั้น ที่คาดว่าจะประสบความสำเร็จมากกว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์
17 พฤษภาคม พ.ศ. 3600
จักรวรรดิบริติช
สหราชอาณาจักร
ลอนดอน
ทายาทลำดับที่ห้าของตระกูลอลัน กลายเป็เ้าชายนิทราจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ นามว่า อลัน เลอร์ มอร์ซิน
ผู้นำคนปัจจุบัน นามว่า อลัน เลอร์ มากาเร็ต ตัดสินใจเก็บร่างของลูกชายไว้รอยาตัวใหม่ที่จะผลิตในอนาคตมาลองใช้ดู คาดหวังในกาลข้างหน้าจะได้ผลมากกว่ากาลเวลานี้
ทายาทลำดับที่สองของตระกูลภูทนินทร์ ความทรงจำเสื่อมบางส่วน ไม่สามารถจดจำ่เวลาที่เคยใช้กับทายาทลำดับที่ห้าของตระกูลอลันได้ นอกนั้นความทรงจำทั้งหมดอยู่ครบสมบูรณ์
ภาวะช็อกจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ทำให้จดจำบุคคลนั้นไม่ได้เพียงคนเดียว มีอาการข้างเคียงปวดหัวข้างเดียว คาดการณ์ว่าหายสนิทในอีกห้าปีข้างหน้า
ผู้นำตระกูลคนปัจจุบัน นามว่า พิพัฒน์ ภูทนินทร์ ตัดสินใจลาพักร้อนกะทันหันสามเดือน เพื่อท่องเที่ยวกับลูกชายตามความ้าอยากพักของลูกชาย
“ในระหว่างที่ลูกของฉันยังนอนไม่ได้สติแบบนี้ การหมั้นหมายตามเอกสารจะไม่มีทางถูกยกเลิก ยังไงความปลอดภัยของทั้งคู่สำคัญเสมอ” มากาเร็ตตัดสินใจพูดหลังอ่านเอกสารจนจบ
“แน่นอน จนกว่าทั้งคู่จะอายุครบยี่สิบปี บริบูรณ์ การหมั้นหมายจะไม่ถูกยกเลิกเด็ดขาด ไม่ว่าหมาที่ไหนก็ขวางไม่ได้ทั้งนั้น การคุ้มครองของพวกเรายังคงอยู่ต่อไป” พิพัฒน์ยืนยันหนักแน่น
“ลูกของนายจำลูกของฉันไม่ได้เลยสินะ แล้วทีนี้จะทำยังไงกันต่อไปดี ฉันรู้สึกเหมือนจะพังทลายให้ได้”
“นายไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น สิ่งที่ควรทำคือทั้งนายและเมียนายพากันมาดูแลลูกสลับกันไป รวมถึงพี่น้องในบ้านด้วย ส่วนครอบครัวฉันก็จะดูแลลูกของฉัน”
“แล้วเื่ความทรงจำล่ะ มันไม่โหดร้ายเกินไปเหรอ ทั้งคู่ได้รับผลกระทบหนักมากเลยนะ”
“ถึงลูกของฉันจะเก่งมากแค่ไหน แต่จิตใจไม่ได้โตทันอายุขนาดนั้นหรอกนะ หากรู้ว่าลูกชายนายเป็หนักขนาดนี้เพราะตนเองคงจะช็อกจนพูดไม่ได้แน่ๆ”
“จนกว่าลูกของฉันจะฟื้นและร่างกายแข็งแรงดี และจนกว่าลูกชายของนายจะอายุครบยี่สิบปี พวกเราไม่ทำให้สองคนนี้ได้เจอกันไปเลยดีกว่า”
“นายคิดถูกแล้ว เื่บางอย่าง รอให้พวกเด็กๆ โตมากพอจะรับเื่หนักๆ ได้ดีกว่า”
18 พฤษภาคม พ.ศ. 3600
จักรวรรดิบริติช
สหราชอาณาจักร
ลอนดอน
“เป็ยังไงบ้าง เจ็บตรงไหนอีกไหม พี่ไม่น่าปล่อยให้น้องมาเที่ยวคนเดียวเลย คงจะกลัวมากสินะ” นนท์ภัทรถามเสียงสะอึกสะอื้นด้วยความเป็ห่วง
หลังจากทราบข่าวอาการป่วยของน้องชายก็รีบจองเที่ยวบินที่จะมายังที่นี่ให้เร็วที่สุด ไฟลท์ไหนก็ได้ขอแค่ให้มาถึงให้ไวที่สุด ความเป็ห่วงนั้นฉายอยู่ในแววตาชัดเจน
“ขากับแขนตามสภาพเลยครับ หูเริ่มไม่อื้อ ตาไม่ลาย”
“หลังจากหายแล้ว พี่ก็จะอยู่เที่ยวด้วยนะ เป็ห่วงจนปล่อยให้อยู่คนเดียวไม่ได้หรอก”
“คิดเหมือนแม่เลย แม่เองก็ลางานไว้แล้วสามเดือน พวกเราน่าจะได้อยู่ด้วยกันสักพักเลยล่ะ”
เป็การรวมตัวกันในรอบหนึ่งเดือน พิพัฒน์ตัดสินใจอัพรูปครอบครัวทุกคนลงในสื่อ โซเซียลส่วนตัวของตนเองอีกครั้ง เพื่อตอกย้ำให้พวกที่ตั้งใจทำให้ลูกของเขาตาย
ทราบว่าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนทั้งสองคนยังคงมีชีวิตอยู่ จะไม่มีใครมาทำร้ายได้จนกว่าจะบรรลุนิติภาวะ เป็การตอกย้ำกลุ่มขั้วอำนาจตรงข้ามให้ลุกเป็ไฟมากถึงมากที่สุด
“ขอบคุณครับ ดีใจมากจนน้ำตาซึมเลย ไม่น่าเชื่อว่าจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันเร็วขนาดนี้ หลังจากผมหายดีแล้ว พากันเที่ยวจนถึงไทยเลยนะ”
“อืม” ทุกคนขานรับ
ข่าวลือการหยุดพักงานของทุกคนในครอบครัวนั้นกลายเป็การลงข่าวซุบซิบในแวดวงธุรกิจแทน ว่าเกิดอะไรขึ้นถึงกับต้องทำแบบนี้ นอกจากเื่อุบัติเหตุในครั้งนั้น ไม่มีใครทราบว่าผู้สืบทอดคนเล็กมีอาการแพนิคทางจิตใจร่วมด้วย
“เื่การหมั้นหมายปิดบังเอาไว้ให้หมด อย่าให้ใครล่วงรู้เด็ดขาด จนกว่าสภาพจิตใจของลูกชายฉันจะสมบูรณ์”
คำสั่งของผู้นำตระกูลถือเป็คำสั่งอันสูงสุด ทุกคนจึงปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และให้ปล่อยข่าวลือว่าาเ็สาหัส จำเป็ต้องพักฟื้นอย่างน้อยหกเดือนแทน
กิจวัตรประจำวันของนนท์ภัทรและนภัทรไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมเท่าไหร่ เพียงแต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปเที่ยวอีกหลังจากเกิดเื่ และให้ซื้อของเล่นเข้าบ้านแทน
ด้วยความที่ไม่เคยซื้อของเล่นนอกสื่อการเรียนรู้สำหรับเด็กมาก่อน พวกเขาทั้งคู่เลือกกดของเล่นที่เหมาะสำหรับ่อายุตนเองทั้งหมดทีเดียวกว่าร้อยรายการ รวมบิลชำระในชื่อของตนเองด้วยวงเงินเดบิต
“พี่ว่าพวกเราซื้อมาเยอะเกินไปหรือเปล่า เหมือนของเล่นจะทะลักห้องนั่งเล่นยังไงไม่รู้” นนท์ภัทรพูดพลางมองซ้ายขวา
ใครจะไปคิดว่าสายเืเดียวกันจะมีความคิดบ้าระห่ำตรงนี้เหมือนกัน พากันกดซื้อมาเยอะมากแถมยังเลือกช่องทางการขนส่งแบบเร็วที่สุดอีกต่างหาก
เหล่าคนรับใช้จะใจำนวนของทั้งหมดนั้น ไม่แปลกใจเท่าไหร่เลย
