นางเดิมตาม ศิษย์พี่เข้าไปในชายขอบป่าสวนเ้าของส่วนผู้เสียหายก็เดินกลับบ้านไปแล้ว
“ ข้าว่าหมูป่ามันต้องมาเป็ฝูงใหญ่แถมต้องตัวใหญ่ด้วยดูจากรอยเท้ามันพวกเ้าก็ระวังตัวไว้ด้วย หากสู้ได้ก็สู้ไม่ได้ก็ถอยอย่าเอาชีวิตไปเสี่ยง” เกาเจี๋ยพี่ใหญ่พูดขึ้น
ทั้งหมดร่วมกัน หารอยเท้าหมูป่า ว่ามันเดินออกไปทางไหน อยู่นานยังไม่เจอที่อยู่ของหมู่ป่า
“ พวกเราหาที่พักอยู่แถวนี้ก่อน เผื่อมันจะย้อนกลับมาที่สวน เพราะมีบางส่วนที่ ยังทำลายไม่หมด”
“อู๊ดๆ!”
“ พวกเราฟังให้ดีข้าได้ยินเหมือนเสียงหมูป่า”โจเหว่ยบอกทุกคน เมื่อตนได้ยินเสียงหมู
“ มันมาโน้นแล้วกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ไม่ได้มาตัวเดียวมาเป็ฝูงใหญ่เลย”เสียงจางซุนดังขึ้น
หมูวิ่งเข้ามาใกล้ศิษย์พี่ทั้งห้าคนวิ่งแบบไม่คิดต่อสู้เพราะหมูป่ามาฝูงใหญ่และตัวใหญ่ขนาดนี้พวกตนสู้ไม่ไหวแน่แต่ไม่มีใครเหลียวแลถิงถิงน้องเล็กในกลุ่มเลย
มีหมูใหญ่หกตัววิ่งตามถิงถิง ที่ตัวเล็กและออกตัววิ่งช้ากว่าเพื่อน
“ ศิษย์พี่พวกท่านจะทิ้งข้าไว้แบบนี้ไม่ได้นะขาข้าก็สั้นตัวเล็กวิ่งหนี ข้าเหนื่อยวิ่งหนีไม่ทันแล้ว”
ถิงถิงเด็กหญิงวัย 5ขวบกำลังวิ่งหนี หมูป่า6ตัว และมีขนาดใหญ่มากสีขนสีดำ ศิษย์พี่ที่อยู่สำนัก เทียนซานมาด้วยกัน 5คนได้วิ่งนำหน้าหนีนางไปไกลแล้ว
ถิงถิงวิ่งไปที่ต้นไม้ใหญ่ และปีนขึ้นไปหลบอยู่บนนั้น ใต้ต้นก็มีหมูป่าทั้ง6ตัวเฝ้าอยู่ เด็กน้อยรอ ศิษย์พี่หรือใครก็ได้มา ช่วย
“ ทำไมศิษย์พี่ทั้งห้าถึงวิ่งไวขนาดนี้ไม่เห็นตัวพวกเขาแล้ว เ้าหมู่บ้านี้ก็วิ่งไวเสียจริง มันะโข้ามร่องน้ำตั้งกว้าง ได้ยังไงกันน่ะ แล้วนี่ใครจะมาไล่พวกมันไปล่ะ”
“ อาวุธ มีแค่ดาบเล่มเล็กดาบเล่มใหญ่อาจารย์ก็ไม่ให้ใช้บอกว่าหนักกลัวข้าจะยกขึ้นไม่ขึ้น แล้วถ้าเกิดไม่มีใครมาช่วยล่ะข้าไม่ต้องติดอยู่แบบนี้ทั้งคืนรึ ยังอยู่ใกล้ชายป่าเกิดมีสัตว์ตัวอื่นที่ มันปีนต้นไม้ได้ล่ะ”
“ เฮ้ย!เ้าพวกหมูป่า ข้าไปทำอะไรให้พวกเ้าถึงไม่ยอมกลับ ไม่ต้องมาเฝ้าข้าจะว่าไปเนื้อพวกเ้าเอาไปปิ้งย่างก็อร่อยนะ ข้าให้เวลาหนึ่งก้านธูปถ้ายังไม่ไปข้าจะสังหารพวกเ้าทั้งหมดเองข้าไม่ได้ขู่น่ะ”
ถิงถิงใช้ดาบเล็กตัดกิ่งไม้ ตรงปลายทำให้มีความแหลมคม ในถุงย่ามที่สะพายมามี คันธนูที่นางฝึกยิงอยู่ แต่ยังไม่แม่น ลูกของธนูก็คืนไม้ อาจารย์กลัวว่าจะยิงพลาดไปโดนลูกศิษย์คนอื่น
ระหว่างนั่งรอศิษย์พี่กลับมาช่วยนางก็ตัดกิ่งไม้มานั่งเหลาได้ เป็ลูกธนู 18ลูก ตาก็คอยมองหาศิษย์พี่ และใต้ต้นไม้ที่มีหมู6ตัวมีทั้งยืนและนอน อยู่ใต้ต้นไม้
“ พวกเ้าจะไม่ไปจริงๆใช่ไหม ถ้าได้พวกเ้าสักตัวกลับไปที่ สำนักศิษย์พี่และ อาจารย์มีเนื้อหมูป่าอย่างพวกเ้ากินอย่างแน่นอน แต่ถ้ากินทั้งหมดสำนักต้องสองตัวขึ้นไป”
ถิงถิงน้าวคันธนูออกแรง เล็งไปที่เหนือลูกตาของหมูที่นอนอยู่ และปล่อยลูกธนูออกไป
“วูบบบ!! ฉึก!”
เสียงกรีดร้องแหลมสูงดังขึ้นจากหมูโชคร้าย มันร้องด้วยความเ็ปและทรมาน ดิ้นทุรนทุรายและแน่นิ่งไป
“ จะโทษข้าไม่ได้นะ ข้าเตือนพวกเ้าแล้วถ้ายังไม่ไปอีกข้าจะยิงตัวต่อไป”
หมูที่อยู่ใต้ต้นแทนที่จะใแล้ววิ่งหนีไปพวกมันกลับทำตรงกันข้ามพากันตะกุยต้นไม้ที่นางอยู่ ทำให้ระยะห่างจากนางและหมูอยู่ใกล้กันยิ่งขึ้น
“วูบบบ!! ฉึก!”
เสียงกรีดร้องแหลมของตัวที่สองดังขึ้นลั่นสวนของชาวบ้าน ด้วยระยะใกล้และออกแรงเยอะจึงทำให้มันไม่ทรมานมากก่อนจะแน่นิ่งไป
ทีนี้ตัวที่เหลือทั้งหมดพากันรีบวิ่งหนีออกไปอย่างไม่คิดชีวิต ถิงถิง ถึงกับแปลกใจตัวเองทำไมถึงมีแรงน้าวสายยิงธนูยิงหมูป่าหนังเหนียวตายได้ขนาดนี้นางเอาแรงมาจากไหนกัน ทั้งที่เป็เด็กแค่ห้าขวบเท่านั้น
“ ศิษย์น้องเ้าเป็ยังไงบ้างพวกข้าได้ยินเสียงหมู กรีดร้องด้วยความเ็ปมันตายแล้วรึ” เสียงศิษย์พี่ที่วิ่งกลับมาดูหลังจากเห็นว่านางไม่ได้ตามไป และเมื่อมาถึงก็เห็นหมูหกตัวกำลังล้อมต้นไม้อยู่พวกเขาถึงแอบดูอยู่ห่างๆ
“ นี้ นี้! ศิษย์น้องเล็กเ้าถึงกับยิงหมูป่าหนังเหนียวตายสองตัวเลยรึ โดยธนูไม้ที่ทำขึ้นมาเอง ไม่น่าเชื่อเลย”
“ ศิษย์พี่มาพอดี ช่วยกันแบกหมูกับสำนักกันเถอะ เราอยู่ที่นี่นานไม่ได้เดี๋ยว สัตว์อื่นได้กลิ่นเื จะพากันมาที่นี่ ”
“ ศิษย์น้องเล็กพูดถูก สองคนต่อหนึ่งตัวแล้วที่เหลือหนึ่งคนให้แบ่ง ศิษย์น้องเล็กไปแล้วรีบออกไปจากตรงนี้กัน”
หมูสองตัวถูกคานสอดไว้ตรงกลาง มัดด้วยเชือกและรีบห้ามออกจากไร่ของชาวบ้าน ซึ่งเป็เวลาเย็นมากแล้วพวกเขาต้องเร่งเดินทางให้กลับถึงสำนัก ถิงถิงขี่หลังศิษย์พี่จางซุนไป
ทั้งห้าคนใช้วิชาที่เรียนมาจากสำนักทำให้เดินทางและวิ่งได้ไวขึ้นถึงยังไงก็มีพลังปราณอยู่ระดับหนึ่งกันแล้วซึ่งถือว่าสูงสุดแล้วสำหรับที่นี่
ใช้เวลา หนึ่งชั่วยามก็มาถึงสำนักเทียนซานแต่ก็เริ่มจะมองไม่เห็นทางแล้ว อาจารย์หม่าโจว ออกมายืนรอที่ หน้าสำนัก เพราะเป็ห่วงพวกเขา ถึงกับใเมื่อเห็นหมูป่าตัวใหญ่สองตัวที่ลูกศิษย์ห้ามมา
“ นี่พวกเ้าถึงกับได้หมูป่ามาสองตัวใหญ่เลยรึไม่น่าล่ะถึงกลับมาถึงมืดค่ำป่านนี้ ”
“ใครอยู่แถวนี้เรียกพ่อครัวทั้งสามมาจัดการกับหมูสองตัวนี้หน่อย” ลูกศิษย์ที่มายืนดูรีบวิ่งไปที่ห้องครัวเพื่อแจ้งพ่อบ้านให้มารับหมูไปจัดการ
“ พวกเ้าเห็นไหมศิษย์น้องเล็กไปเป็ภาระจริงๆพวกเขาต้องเหนื่อยแบกหมูแล้วยังต้องแบ่งน้องเล็กมาอีกดีนะที่พวกเราไม่ได้เป็คนดูแลไม่งั้นคง ต้องทิ้งนางไว้กลางทาง ”
ถึงอย่างไรวันนั้นพวกเขาทั้งสำนัก เทียนซานก็ได้กินอาหารที่ทำมาจากหมูกลุ่มของถิงถิงหามา
“ ข้าเห็นกับตาเขาตอนที่ลูกธนูวิ่งเข้าจุดตายของหมูป่าตัวที่นอนอยู่ ”หวังข่าย พูดเสริม
“ดี ดีแล้วที่ นางเก่งและเอาตัวรอดได้ อาจารย์ให้ช่วยดูแลศิษย์เล็กไม่ใช่ให้วิ่งหนีแบบนี้ ถ้าเกิดลูกศิษย์เล็กปีนต้นไม้ไม่ทันจะทำอย่างไร”
“อาจารย์นาทีนั้นไม่มีใครมองกับหลังมาดูแล้วต้องเดินหน้าวิ่งอย่างเดียวแค่วิ่งสองเท้ายังไม่ข้ายังอยากได้สี่เท้าด้วยซ้ำ ให้หันกลับไปมองเป็ไปไม่ได้เลย”โจวเหว่ย ที่เป็คนวิ่งนำคนแรกกล่าวขึ้น
ไปพักผ่อนเถอะต้องเตรียมตัว อีก15วันต้องเข้า ไปที่ป่ากลางใจเมืองทั้งสี่แล้ว ไปหาใบไม้ทองคำงานนี้ ลูกศิษย์ หลายสำนัก ก็เข้าไปหาด้วย แต่รอบนี้ออกกฎห้ามแย่งชิงกันเองให้ใช้ความสามารถในการหาเท่านั้น ใครฝ่าฝืนจะถูกยึดทรัพย์ทั้งหมด ที่สำนักนั้นหาได้ทั้งหมด
“ อาจารย์ให้กลุ่มของข้าไปเหรอครับต้องหิ้วกระเตงศิษย์น้องเล็กไปด้วยใช่ไหมขอรับ”หวงเจียงถามขึ้น
“ พวกเ้าก็มีเวลาสิบห้าวันในการ เตรียมตัวเดี๋ยวอาจารย์จะสอนน้องเล็กในการวิ่งหนีและเอาตัวรอดเอง” อาจารย์กัวเพ่ย บอกลูกศิษย์แล้วก็เดินออกจากห้องไป
“ถิงถิงต้องเ้าวิ่งให้ไวกว่านี้ เ้าต้องคิด มีเสือร้ายมันกำลังไล่ล่าเ้าอยู่ต้องวิ่งให้ไวเพื่อจะได้มีชีวิตรอด”
“ ข้าสังหารมันก่อนไม่ได้หรือเ้าคะจะได้ไม่ต้องวิ่งให้เหนื่อย แบบนี้”
“ แต่มันตัวใหญ่มากเ้าสู้มันไม่ได้ล่ะ ลูกศิษย์เล็ก”
“แล้วทำไมมันต้องมาวิ่งไร้ข้าคนเดียวด้วยคนอื่นมีตั้งเยอะแยะทำไมถึงไม่ไปล่ะ”
“ ตอนนั้นเ้าอยู่ผู้เดียว อยู่กลางป่าไม่มีใครช่วยเ้าได้”
“ แล้วศิษย์พี่หายไปไหนหมดเ้าคะ ถึงปล่อยข้าวไว้ผู้เดียว”
“ ศิษย์พี่เ้าวิ่งนำหน้าไปก่อนตั้งนานแล้ว เหมือนกับตอนนี้หมูป่าวันก่อน”
“ งั้นอาจารย์ต้องสอนข้าเพิ่มการ ปีนเขาและการลอยทรงตัวในอากาศเ้าค่ะ”
ตั้งวันนั้น ศิษย์น้องเล็ก ได้รับการสอนอย่างหนักจนไม่มีเวลาพัก ตกเย็นมาเด็กน้อยแทบสลบไสลทุกวัน ห้องเรียนหนังสือแทบไม่ได้เข้าไป
“ พวกเราดูศิษย์น้องเล็กสิ อาจารย์สอนอยู่ตั้งนานก็ยังไม่เป็ สอนจนไม่มีเวลามาเรียนหนังสือนางช่างปัญญานิ่มเสียจริง” เสียงลูกศิษย์กลุ่มหนึ่งนั่งคุยกัน
“ นั่นน่ะสิ ตัวก็เล็กแถมยังเป็ผู้หญิงอีก ถ้าข้าเป็อาจารย์ใหญ่นะ ถ้าจะไม่ยอมรับนางเป็ ลูกศิษย์เด็ดขาด”
“ ศิษย์พี่กลุ่มที่อยู่กับ ศิษน้องเล็กยังไม่เดือดร้อนเ้าจะมาเดือดร้อนอะไรกับพวกเขาด้วย”
“พวกเ้ายังไม่รู้ว่าอีก ไม่กี่วันศิษย์น้องเล็กได้ไปปีนเขาหา ใบไม้ทองคำแล้วไม่รู้ว่าไปรอบนี้จะได้กลับมาไหมที่นั่นอันตรายจะตาย”
“ ใช่รอบก่อนข้าก็ได้ไป วิ่งหนีเสือดำแทบไม่ทันป่านี้มีเสือเยอะจริงๆ แถมไปตั้งนานทั้งกลุ่มได้ใบไม้ทองคำมาแค่สี่ใบเองเป็ใบเล็กอีกต่างหาก”
“ มันก็ไม่แน่หรอกอาจจะได้น้อยกว่าที่คิดเพราะว่ามีตัวภาระไปด้วย”
“ พวกเ้าจะนั่งนินทาผู้อื่นไปทำไมถึงยังไม่กลับเข้าห้องไปเรียน ถ้าผลการสอบออกมาไม่ดีแล้วก็ เ้าจะโดนทำงานหนักไม่มานั่งสบายแบบนี้หรอกนะ”เสียงอาจารย์หม่าโจ ดังขึ้นพวกเขาทั้งหกคนรีบสลายตัวทันที
15วันที่ผ่านมาถิงถิง ฝึกอย่างหนัก ถ้าเป็เด็กน้อยคนอื่นคงร้องไห้กลับบ้านไปแล้ว นางปีนเขาได้คล่องแล้ว ด้วยตัวเล็กและน้ำหนักเบาจึงปีนได้ไวกว่าศิษย์พี่บางคนเสียอีก
“ เ้าเตรียมตัวพร้อมหรือยัง ศิษย์พี่เ้ารออยู่ หน้าสำนักจะได้ออกเดินทางกันเลย ใช่เวลา2วันหน้าจะถึง”
ถิงถิงเดินมา ขึ้นรถม้าร่วมกับศิษย์พี่ปกติ พวกเขาจะขี่ม้าแต่มีศิษย์น้องเล็กไปด้วยอาจารย์เลยให้รถมาคันใหญ่ไป เพื่อที่ศิษย์น้องเล็กจะได้นอนได้สะดวก แล้ว ให้ศิษย์พี่คอยเปลี่ยนกันบังคับรถม้า
รถม้าวิ่งออกจากสำนักเทียนซาน ท่ามกลางการนินทาของศิษย์พี่ในสำนัก ศิษย์น้องเล็กตัวภาระ
“ ศิษย์พี่เ้าค่ะ พวกท่านมีแต่ชื่อเรียก ยากๆข้าเรียกท่านคำเดียวได้ไหมไม่ต้องเรียกนามสกุล ข้าเป็เด็กความจำไม่ค่อยดีเ้าค่ะ”
“ แล้วแต่เ้าเหอะ ศิษย์น้องเล็ก”
“ ขอบคุณเ้าค่ะศิษย์พี่เจี๋ย ศิษย์พี่ข่าย ศิษย์พี่เจียง ศิษย์พี่เหว่ย ศิษย์พี่ซุน”
“ ศิษย์พี่เ้าค่ะท่านเคยไปมาหรือยัง ูเาที่เราจะไปเก็บใบไม้ทองคำ”
“ ยัง ศิษย์น้องเล็ก ปกติพวกข้าจะเรียน เน้นพวกการปกครองหนังสือ ดาบและกระบี่ขี่ม้าต่อสู้ ไม่ได้ออกมานอกสำนักปีนี้เป็ปีแรกที่ต้องออกจากสำนัก”เกาเจี๋ยพูดให้ศิษย์น้องเล็กฟัง
“ จริง ศิษย์น้องเล็กถึงพวกข้าจะมีฝีมือแต่ประสบการณ์นั้นน้อยมากเพราะเรียนอยู่แต่ในสำนักเท่านั้น ปีนี้เลยมีภารกิจให้ทำเต็มไปหมด”หวังข่ายพูดขึ้นบ้าง