บทที่ 56 ไฟแท้จื่อจี๋
ทุกคนในห้องโถงมองมาที่ลู่อวี่ด้วยสายตาร้อนผ่าว ตระกูลหลินที่อยู่บนพื้นสูง กำลังถกเถียงกันอย่างดุเดือด
เจียงหยวนจวิ้นนายน้อยรองของตระกูลเจียงเห็นว่า ลู่อวี่เต็มใจที่จะจ่ายราคาที่สูงเช่นนี้ให้กับเด็กผู้หญิงตัวเล็กนางหนึ่ง เห็นได้ชัดว่านางมีความสำคัญต่อเขาไม่น้อย หากสามารถทำลายเื่นี้ได้ ก็สามารถล้างแค้นเหตุการณ์ที่หอจุ้ยเซียนในวันนั้นได้ ตราบใดที่ทำให้ลู่อวี่ไม่มีความสุขได้ เขาก็จะรู้สึกมีความสุขไปทั้งตัว
ว่าแล้วเขาจึงะโขึ้นและะโเสียงดัง “ลู่อวี่ เ้าอย่าพยายามทำให้ผู้คนสับสน ไม่ว่าเ้าจะยกเอาของมาเย้ายวนใจเพียงใด มันก็พิสูจน์ได้ว่า แม่นางน้อยที่อยู่ข้างๆ เ้ามีค่ามากกว่ายาที่เ้าหยิบยกออกมาให้! ตอนนี้ยังคิดจะซ่อนมันไว้ และปฏิเสธที่จะเปิดเผยว่านางมีไฟแท้อะไร?”
ลู่อวี่ มองไปที่เจียงหยวนจวิ้น ที่ะโออกมา ดวงตาเขาหรี่ลง จากนั้นก็หันไปพูดกับจีชิงรั่วว่า “ชิงรั่ว หากพี่ชายตามหาตัวพ่อแม่ของเ้ามาให้ ไม่สิ หากพี่ชายตามหาทุกคนในหมู่บ้านของเ้าพบ และทำให้พวกเขามีชีวิตที่ดีมีกินมีใช้ เ้าจะยอมติดตามพี่ชายและคารวะพี่ชายเป็อาจารย์หรือไม่?”
จีชิงรั่วกะพริบดวงตาคู่สวย แล้วมองไปที่ลู่อวี่ นางรู้สึกสับสนเล็กน้อย เหตุใดคนพวกนี้ถึง้าให้นางฝากตัวเป็ศิษย์ด้วยเล่า แต่พี่ชายท่านนี้บอกว่า เขาสามารถตามหาตัวทุกคนในหมู่บ้าน และให้พวกเขามีชีวิตกินอยู่ที่ดีได้ มันทำให้นางที่มีจิตใจดี พลอยดีใจไปด้วย แต่ก็ไม่ได้ตอบตกลงรับคำลู่อวี่ทันที เพียงแต่เอ่ยปากถามอย่างลังเลว่า “หากเป็เช่นนั้น ข้าขอพบพ่อแม่ อ้อ ยังมีน้องชายกับน้องสาวของข้า ได้หรือไม่?”
“เพียงเ้ายินยอม ก็ย่อมได้ ได้ตลอดเวลาเท่าที่้า! พี่ชายรับเ้ามาเป็ลูกศิษย์ ไม่เหมือนใครบางคน ที่คอยจัดแจงแม้แต่เื่ส่วนตัวของเ้า ตระกูลลู่ของเรามีเหตุผลมากพอ!”
เมื่อได้ยินว่า สามารถพบเจอกับพ่อแม่ได้ตลอดเวลา จีชิงรั่วก็พยักหน้าซ้ำๆ อย่างดีใจ ท่าทางเช่นนั้นทำราวกับกลัวว่าลู่อวี่จะเปลี่ยนใจ!
“หลานชายลู่ เ้าทำเช่นนี้ดูจะเกินไปหน่อยหรือไม่ ไม่ว่าอย่างไร ชิงรั่วก็เป็สตรีที่ตระกูลเจียงของเราหาตัวพบ และได้ช่วยชีวิตนางไว้ เหตุใดตอนนี้ตระกูลลู่ ถึง้าเข้ามายุ่งอีกครั้งเล่า? ไม่ว่ายาอายุวัฒนะจะล้ำค่าเพียงใด ก็ไม่มีค่าเท่ากับบุคคลอัจฉริยะ!”
เมื่อลู่อวี่เห็นเด็กหญิงตัวน้อยที่เกลี้ยกล่อมยอมเห็นด้วย ก็ถือว่าได้วางก้อนหินก้อนใหญ่ ที่แขวนอยู่ในใจมาตลอดลงได้ และรู้ว่าตัวเองตกเป็เป้าของการวิพากษ์วิจารณ์ ของคนหมู่มากในเวลานี้แล้ว หากจัดการได้ไม่ดี มันไม่เพียงส่งผลกระทบต่อตระกูลลู่เท่านั้น แม้แต่ตัวเขาเอง ก็จะต้องได้รับความอับอายเช่นเดียวกัน
แต่ลู่อวี่ ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเื่นี้ หากไม่สามารถสรุปข้อตกลงได้ เช่นนั้นก็หมายความว่า ผลประโยชน์ที่จ่ายไปนั้นยังไม่มากพอ ดังนั้นจึงยิ้มและพูดกับหลินฉงซิ่นว่า “ยาอายุวัฒนะทุกชนิด อย่างละห้าเม็ด!”
ทุกคนในห้องโถงถึงกับหน้าถอดสี นายน้อยของตระกูลลู่ผู้นี้วิกลจริตไปแล้วหรือ ยาอายุวัฒนะทุกชนิดอย่างละห้าเม็ด นั่นมัน ยี่สิบห้าเม็ดเชียว ยิ่งไปกว่านั้น ยาอายุวัฒนะยี่สิบห้าเม็ดนี้ ล้วนเป็ยาอายุวัฒนะขั้นห้าที่หายากมากๆ จีชิงรั่วผู้นี้ คุ้มกับราคานี้จริงหรือ?
หลินฉงซิ่น พลันเปลี่ยนสีหน้าท่าทีเช่นกัน แล้วตะคอกออกมาอย่างเ็า “ข้าไม่สนใจยาอายุวัฒนะของเ้า ส่งตัวชิงรั่วกลับมาให้ตระกูลหลินของเราเป็พอ!”
“เกรงว่าท่านลุงหลิน อาจจะได้รับผลกระทบจากคำพูดของคนพูดเมื่อครู่เท่านั้น ท่านลุงลองคิดให้ถี่ถ้วน เป็เื่จริงแท้ที่ข้าบอกว่าไฟของนางไม่เหมาะนำมาหลอมอาวุธ หากนำตัวชิงรั่วกลับไปแล้วพบว่าเสียเปรียบ หลานชายคงไม่ยอมพูดคุยด้วยอย่างง่ายดายแล้ว”
“เ้ากำลังขู่ข้าอยู่หรือ? ฮ่าฮ่า บุตรชายแสนดีที่ลู่เหว่ยจุนสั่งสอนมา สิ่งที่ข้าไม่กลัวที่สุด คือการถูกข่มขู่!”
ในเวลานี้ ผู้เฒ่าใหญ่ของตระกูลหลินได้ส่งสารมาถึงหลินฉงซิ่นว่า “ท่านประมุข ท่านดึงดันทำตามอำเภอใจตนเอง โดยไม่ฟังความคิดเห็นของผู้อื่นเช่นนี้ ถือว่าไม่เป็การรับผิดชอบต่อตระกูล หากชิงรั่วมีไฟแท้จื่อเสวียนจริงๆ ก็เท่านั้น แต่หากไม่ใช่ ท่านจะมาบีบบังคับให้ชิงรั่วอยู่ต่อ เช่นนี้มันหมายความว่าอย่างไร? เงื่อนไขที่นายน้อยตระกูลลู่เสนอมาให้นั้น นับว่าสูงพอตัว มันเทียบกับรายได้ของตระกูลหลิน มากถึงห้าสิบปีเลยทีเดียว!”
ตอนนี้หลินฉงซิ่นอารมณ์เสียมาก และเวลานี้ พิธีฝากตัวเป็ศิษย์ คงไม่สามารถจัดขึ้นต่อได้แล้วอย่างแน่นอน แต่หากให้เขามอบตัวจีชิงรั่วไปเช่นนี้ ก็รู้สึกไม่เต็มใจอย่างยิ่ง สิ่งที่บุตรชายคนรองของตระกูลเจียงพูดมานั้น ก็ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล ยิ่งไปกว่านั้น จีชิงรั่วผู้นี้ก็มีคุณสมบัติและพร์มากจริงๆ แม้ว่าจะไม่ใช่ไฟแท้จื่อเสวียนก็ตาม แต่หากฝึกฝนคัมภีร์ไฟ์จื่อหยางของตระกูลหลิน ก็มีความเป็ไปได้ที่จะ่ชิงพลังยุทธ์ขั้นเกิดเทพเ้ามาได้เช่นกัน
“ท่านผู้เฒ่าใหญ่ เื่นี้เราค่อยไปจะหารือกันในภายหลัง ลู่อวี่เป็กังวลเื่ของชิงรั่วเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าต้องรู้ว่านางมีไฟชนิดใด คาดว่าคงพอมีประสิทธิภาพสูงอยู่ไม่น้อย บุคคลอัจฉริยะเช่นนี้ จะให้เขาหลอกจนได้ตัวไปอยู่ในมือง่ายๆ ได้อย่างไร? ข้าตัดสินใจแล้ว ก็ให้ยึดถือเอาตามนี้!”
ลู่อวี่ยิ้มอย่างเ็าและพูดช้าๆ ขึ้นมาว่า “ว่ากันตามจริง ท่านลุงหลินกลัวว่าลู่อวี่จะเอาเปรียบตระกูลหลินใช่หรือไม่ หากเช่นนั้น ข้าจะบอกพวกท่านว่า พร์ที่มีมาโดยกำเนิดของชิงรั่วคือเปลวไฟชนิดใด!”
ห้องโถงที่ยุ่งวุ่นวายอยู่ เงียบเสียงลงเกือบจะในทันที พร้อมทั้งสายตาของทุกคนที่จับจ้องไปทางลู่อวี่
ลู่อวี่หันไปมองจีชิงรั่วที่ยังคงนั่งอยู่ที่นั่นด้วยความหวาดกลัว จากนั้นถึงหันกลับมาและพูดว่า “เปลวไฟประหลาดระหว่าง์และโลกมีมากมายนับไม่ถ้วน หากจะให้สรุปคงเป็ไปได้ยาก เื่นี้มีน้อยคนนักที่จะรู้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ยืนยันได้คือ ไฟพื้นฐานทั้งสี่ ไฟพื้นฐานทั้งสี่นี้ ได้แก่ ไฟแห่งความโกลาหล ไฟหมู่ดาว ไฟเก้าโลกใต้พิภพ และไฟในใจ! เปลวไฟทั้งหมดทั้งที่รู้จักและไม่รู้จักนั้น ถือกำเนิดมาจากเปลวไฟทั้งสี่นี้ บางทีเปลวไฟทั้งสี่นี้ อาจไม่ได้แข็งแกร่งที่สุด แต่บริสุทธิ์ที่สุด และคงความเป็ต้นกำเนิดไว้อย่างถึงที่สุด”
“หากเป็เช่นนั้น ไม่ทราบว่าแม่นางจีชิงรั่วมีไฟชนิดใดในร่างกาย? แล้วมีในระดับขั้นใด?” มีคนเอ่ยปากถามในสิ่งที่ทุกคนตรงนั้นคิดอยู่ในใจ
“สิ่งที่ชิงรั่วอยู่นั้นเรียกว่า ‘ไฟแท้จื่อจี๋’ มันมีเพียงคำเดียวที่ต่างจาก ไฟแท้จื่อเสวียน แต่ประสิทธิภาพของมันแตกต่างกันราวไฟกับดิน ไฟนี้เป็การผสมผสานระหว่างไฟแห่งความโกลาหลและไฟหมู่ดาว แม้แต่ในสมัยโบราณ ก็เป็ไฟที่พบเจอได้ยากในหมื่นปี ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ไฟนี้เหมาะที่สุดในการปรุงยาอายุวัฒนะ และนำมาใช้หลอมอาวุธได้ แต่ผลที่ได้ไม่ค่อยดีนักและเสียแรงเปล่าๆ นี่จึงเป็เหตุผลที่ข้ายินดีจ่ายในราคาสูงเช่นนี้ เพราะอย่างไรเสีย ชิงรั่วอยู่ที่ตระกูลหลินไป ก็ถือเป็การสิ้นเปลืองพร์ของนางโดยเปล่าเท่านั้น”
ไฟแท้จื่อจี๋?
ทุกคนในห้องโถง ไม่มีผู้ใดรู้ด้วยซ้ำว่ามีไฟชนิดนี้อยู่ แม้แต่หลินฉงซิ่นก็ดูประหลาดใจ
แต่ในเวลานี้ จู่ๆ เขาก็สังเกตเห็นว่า มีแสงกระบี่สีเขียวพุ่งเข้ามาในห้องโถง จากนั้นก็หายวับไปทันที นี่คือกระบี่ส่งสาร ใครมันช่างกล้านัก? รอจนกระทั่งทุกคนเห็น ผู้ที่ส่งกระบี่ส่งสารมาชัดเจน ทันใดนั้นก็มีสีหน้าท่าทีเข้าใจขึ้นมาทันที และไม่สงสัยกับคำพูดของลู่อวี่อีกต่อไป ดูเหมือนบุคคลนี้จะเป็ เซินหยวนชิงจากเขาหนิงชุยเฟิง
เดิมที เซินหยวนชิงเพียงผ่านทางมาเฉยๆ แม้ว่าจะเป็ศัตรูกับ ลู่อวี่เช่นเดียวกัน แต่เขารู้ว่ามีนักพรตขั้นเกิดเทพเ้าอยู่ข้างกายเ้าหนุ่มนี่ ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็ต้องเรียกร้องความสนใจจากเขาในยามนี้
แต่เวลานี้ เื่ของไฟแท้จื่อจี๋ มันทำให้เขานั่งไม่ติด คนอื่นไม่รู้จักไฟแท้จื่อจี๋ แต่ตัวเขานั้นรู้จัก นี่คือไฟแท้อันดับหนึ่งในเส้นทางการปรุงโอสถ ในห้องสมุดบนเขาหนิงชุยเฟิง มีบันทึกเกี่ยวกับไฟนี้ซ่อนอยู่จริง บุคคลอัจฉริยะเช่นนี้ จะให้ตระกูลลู่ได้ตัวไปได้อย่างไร ดังนั้น เมื่อร้อนใจเช่นนี้ จึงไม่ทันสนใจซ่อนตัวอยู่อีกต่อไป รีบส่งกระบี่ส่งสารไปยังสำนักทันที โดยหวังว่าจะจับเด็กหญิงผู้นี้ ที่มีพร์ไฟแท้จื่อจี๋มาไว้ในมือก่อนลู่อวี่
นี่จึงทำให้หลินฉงซิ่นเชื่อในที่สุด แต่ยังอารมณ์ไม่ดีขึ้น ทั้งยังยิ่งหงุดหงิดมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะท่านผู้เฒ่าที่บังคับใช้กฎหมายพวกนั้นของตระกูลที่อยู่ด้านล่าง พวกเขากำลังจ้องมองประมุขตระกูลหลิน และรอดูอยู่ว่าเขาจะจัดการเื่นี้อย่างไร หากทำได้ไม่ดีขึ้นมา กลัวว่าสถานะประมุขตระกูลหลินของเขา คงได้สั่นคลอนเป็แน่
ตอนนี้ มีเสียงหนึ่งดังมาข้างหูลู่อวี่ “นายน้อย ข้าหลินตงผิงผู้เฒ่าใหญ่ตระกูลหลิน ในเมื่อครั้งนี้นายน้อยลู่ ตั้งใจที่จะรับจีชิงรั่วเป็ลูกศิษย์ และตระกูลหลินของข้า ก็ไม่ได้้าลูกศิษย์ ที่มีความสามารถด้านการปรุงโอสถ แต่ชิงรั่วก็เป็คนที่ตระกูลหลินเราพบตัว และพยายามอย่างหนักที่จะได้ตัวมา คิดว่าเงื่อนไขที่นายน้อยลู่เสนอมาให้นั้นยังไม่เพียงพอ!”
ลู่อวี่ถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ หลังจากได้ยินคำพูดของหลินตงผิง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกโกรธ กลับดีใจเสียมากกว่า นี่ไม่เพียงเพราะยาที่เขาหยิบยกออกมาให้ไม่ดีพอหรือไม่เพียงพอ แต่คำว่า “เพียงพอ” ในประโยคนั้น เห็นได้ชัดว่า้าให้เขาช่วยรักษาหน้าตาของตระกูลหลิน เื่นี้เป็ประโยชน์ต่อเขา ดังนั้นเขาจึงตอบตกลงด้วยความยินดี ตราบใดที่จีชิงรั่วรับเป็ศิษย์ของเขา เื่อื่นมันก็เป็เพียงเื่เล็กน้อย
แต่เขาก็ไม่ได้ตอบตกลงทันที เพราะในห้องโถงนี้ ยังมีคนที่มีพลังยุทธ์สูงกว่าเขาอีกมาก ผู้เฒ่าใหญ่ของตระกูลหลินพูดผ่านพลังจิต ผู้อื่นจึงไม่สามารถตรวจจับได้ แต่ตัวเขาเองไม่แน่ใจ ดังนั้นจึงเลือกขอความช่วยเหลือจากตู้เสวียนเฉิงผ่านเคล็ดวิชาลับ แล้วถึงพูดว่า “ผู้เฒ่าใหญ่พูดเช่นนี้ พูดตามตรงลู่อวี่รู้สึกละอายใจ ตระกูลหลินและตระกูลลู่ของเราถือว่ามีมิตรไมตรีที่ดีต่อกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ข้าน้อยรู้แล้วว่าต้องทำอย่างไร!”
“หากเป็เช่นนั้น ก็ดี!” หลินตงผิงไม่ได้พูดอะไรมากอีก แต่แอบถอนหายใจ ข่าวลือไม่น่าเชื่อจริงๆ นายน้อยจากตระกูลลู่ผู้นี้อย่าว่าแต่ไหวพริบและความรู้ เพียงระดับความสามารถในการสังเกต ก็ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปจะมีได้ โลกภายนอกมีข่าวลือว่า เขาเป็จอมเสเพลอันดับหนึ่งในเทียนตู อ่า ทันใดนั้นเขาก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดีไปชั่วขณะหนึ่ง
“ไม่ทราบว่า ท่านลุงหลินคิดเห็นประการใด มีเงื่อนไขใดก็เสนอมาได้ ข้าเพียงอยากให้ชิงรั่วมีทางออกที่ดีและมีอนาคตที่สดใสก็เท่านั้น!”
หลินฉงซิ่นเงียบไปสักพัก ถึงพูดต่อว่า “ในเมื่อชิงรั่ว เป็อัจฉริยะด้านการปรุงโอสถ หากเป็เช่นนั้น ข้าก็ไม่ควรเข้าไปขัดขวางโดยไร้เหตุผล แต่ตระกูลหลินก็เปรียบเหมือนครอบครัวทางบ้านมารดาของชิงรั่ว หากคิดจะแต่งงานกับลูกสาว ก็ต้องดูว่าอีกฝ่ายจะให้ความสุขแก่ลูกสาวได้หรือไม่ เช่นนั้น หลานชายลู่ช่วยบอกทีว่า เงื่อนไขที่ตระกูลลู่สามารถมอบให้ ชิงรั่วได้มีอะไรบ้าง ขอเพียงทุกคนยอมรับได้เป็พอ! “
นี่หลินฉงซิ่นคิดว่า ในเมื่อตัวเองไม่ได้ ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมีชีวิตที่ดีหรือ ลู่อวี่มองปราดเดียวก็ดูออก แต่เื่นี้ไม่นับเป็อะไรได้ เขา้ารับชิงรั่วเป็ลูกศิษย์ ก็เพราะบริสุทธิ์ใจ คิดเพียงว่าอยากหาใครสักคน เพื่อมาสืบทอดการปรุงโอสถของตัวเองจริงๆ เท่านั้น แม้ว่าจะเพิ่งพบกับจีชิงรั่วได้ไม่ถึงหนึ่งก้านธูปดี แต่อย่างน้อยก็ดูออกว่า นางเป็เด็กผู้หญิงที่มีบุคลิกอ่อนโยนและมีจิตใจดี มีเพียงสิ่งนี้ก็พอแล้ว ส่วนเื่อื่น ตัวเขาเองสามารถช่วยแก้ไขส่วนที่เหลือได้
“สำหรับชิงรั่ว มันไม่มีอะไรสำคัญไปกว่า ความรักของผู้ให้กำเนิดแล้ว เช่นนั้นแล้วอันดับแรก ข้าจะไม่จับครอบครัวของนางแยกจากกัน ตระกูลลู่ของเรามีสถานที่มากมายที่จะจัดเตรียมให้พวกเขาได้ และจะมอบทักษะฝึกฝน รวมถึงยาอายุวัฒนะให้พ่อแม่ของนาง”
“สอง ชาวบ้านในหมู่บ้านชิงรั่วได้ระดมเงินกัน เพื่อรักษาอาการป่วยของชิงรั่ว และให้นางได้เข้าเมืองมารักษาตัว ถือเป็การกระทำที่น่าซาบซึ้งใจ ดังนั้นตระกูลลู่ของเรา คงไม่สามารถอยู่เฉยได้ เช่นนั้นทุกคนในหมู่บ้าน ตระกูลลู่ของเราก็จะยอมรับไว้ และจะจัดพื้นที่พักพิงให้สักที่ พร้อมทั้งถ่ายทอดเคล็ดวิชาฝึกตน และจัดหาทรัพยากรบางอย่างให้”
“สาม การรับชิงรั่วมาเป็ลูกศิษย์คือการกระทำของข้าลู่อวี่แต่เพียงผู้เดียว ไม่นับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอะไรมากกับตระกูลลู่ เช่นนั้น จะไม่ส่งต่อ 'ยอดวิชาเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์แผดเผานภา' ของตระกูลลู่ให้นาง แต่ข้าจะส่งต่อเคล็ดวิชาลับดังเช่นวิถีที่อาจารย์พึงกระทำ ส่งต่อให้กับนาง แต่เป็อะไรนั้นไม่อาจเปิดเผยได้ นี่คือแหล่งทรัพยากรที่ชิงรั่วจะได้รับ ฮ่าฮ่า เว้นแต่อาจารย์เช่นข้าจะตายไปแล้ว มิเช่นนั้นในเทียนตูนี้ คงไม่มีผู้ใดเหมาะสมจะเป็อาจารย์ของนางมากไปกว่าข้าแล้ว!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้