“ก็ได้ๆ ห้าร้อยก็ห้าร้อย เด็กสมัยนี้นี่ต่อรองเก่งจริงนะ” คนสัมภาษณ์บ่นพึมพำ แต่ก็ยอมตกลง เพราะราคานี้ถูกกว่าจ้างพนักงานประจำอยู่ดี ห้าร้อยสองคนก็พัน ยังไงก็คุ้มกว่า
ทันทีที่ก้องไกลกับต้นกล้าเดินออกมาจากห้อง ซ่อนกลิ่นก็รีบเดินเข้ามาประชิดตัวกระซิบเสียงเบา
“สัมภาษณ์เสร็จแล้วเหรอ? เป็ไงล่ะ ได้ไหม? ถ้าไม่ได้ พวกนายคงต้องรอฝึกงานกันอีกทีปีหน้าเลยนะ”
“เบาๆ หน่อย ชู่ว…” ต้นกล้ารีบยกนิ้วชี้แตะริมฝีปาก ทำปากจู๋ พร้อมส่งสายตาเตือนให้เงียบไว้ อย่าเพิ่งโวยวาย เดี๋ยวอีกฝ่ายรู้
“กลับกันดีๆ นะครับ พรุ่งนี้เจอกัน” พี่ผมหยิกเดินตามออกมาจากห้องพร้อมเอ่ยทิ้งท้ายอย่างเป็กันเอง
“ขอบคุณครับ สวัสดีครับ” ต้นกล้า และก้องไกลยกมือไหว้อย่างสุภาพ ก่อนจะหันไปไหว้พี่สาวแอดมินกับพี่แว่นไอทีอีกสองคนตามมารยาท
เมื่อเสร็จสิ้นทุกอย่าง ทั้งสองก็เปิดประตูกระจก แล้วเดินออกมาจากออฟฟิศด้วยหัวใจเบา... แต่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“ดีใจจังเลย! พวกนายสองคนได้ที่ฝึกงานแล้วอ่ะ” ซ่อนกลิ่นบอกอย่างตื่นเต้น หลังจากพากันเดินออกมาจากตัวตึก และห่างจากบริษัทที่เพิ่งสัมภาษณ์เสร็จไปพอสมควร
“ฉันนี่นะ ใจเต้นตุ๊บๆ ตอนที่พี่ไมเคิลบอกว่า จะไม่รับฉัน รับแค่แกคนเดียว ดีที่แกช่วยพูดแทนไว้ ไม่งั้นฉันแย่แน่ ขอบใจมากนะเว้ย ติดน้ำใจแกไว้อีกหนึ่งรอบแล้ว” ต้นกล้าหันไปขอบคุณก้องไกลจากใจ
ก้องไกลแค่พยักหน้ารับเบาๆ ไม่ได้พูดอะไร แต่ก็ชัดเจนว่าเขาเข้าใจ
“แล้วที่ใจเต้นไม่เป็จังหวะรอบสอง ก็ตอนที่แกบอกพี่ไมเคิลว่า ‘ไม่ให้ห้าร้อยก็ไม่ทำ’ นั่นแหละ! แกกล้าพูดไปได้ยังไง ฮะ!? แล้วพี่ไมเคิลก็ยังยอมอีกนะ โอ๊ย อย่างเท่!”
“จริงเหรอ!?” ซ่อนกลิ่นทำตาโตเป็ประกาย “สุดยอดอ่ะ! งั้นเราไปฉลองกันนะ!”
“เออ ดีเลย เื่ดีๆ แบบนี้ต้องฉลอง!”
“เย่…!” สองคนส่งเสียงสดใสเข้ากันดี ขณะที่ก้องไกลกลับไม่ได้สนใจอะไรทั้งนั้น
สายตาเขากลับจ้องไปที่ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งกำลังยืนแจกใบปลิวอยู่ตรงหน้าทางออกตึก... เหมือนเขารู้จักเธอ
“แกพากลิ่นไปก่อนเลย ฉันมีธุระ”
“อย่าเรียกว่ากลิ่นสิ มันฟังไม่เพราะเลยอ่ะ” ซ่อนกลิ่นบ่นเสียงออดอ้อนน้อยๆ คล้ายงอนเล็กๆ
ถ้าเป็คนรักกัน เสียงออดอ้อนแบบนี้มันคงจะดูน่ารัก แต่นาทีนี้สำหรับก้องไกล... เธอกำลังน่ารำคาญ
“ไอ้ต้น พา ซ่อน ไปก่อน” เขาเน้นเสียงตรงคำว่า ‘ซ่อน’ ตามคำขอของเธอ แต่สายตายังไม่ละจากผู้หญิงคนนั้นเลย
“พูดเต็มๆ ว่า ‘ซ่อนกลิ่น’ สิ ไม่เอาชื่อพยางค์เดียว ฟังแล้วแปลกๆ… เราไปเป็เพื่อนก้องดีกว่า ให้ต้นไปจองร้านก่อนนะ …นะ”
แต่คำอ้อนนั้นกลับไม่มีผลอะไรเลย ก้องไกลหันไปะโเสียงเข้ม
“ไอ้ต้น!”
ต้นกล้ารู้ทันทีว่าต้องทำหน้าที่อะไร
“โอเคๆ เพื่อนซ่อน เพื่อนกลิ่น รวมกันเป็เพื่อนซ่อนกลิ่น ไปเถอะจ้า เดี๋ยวจะโดนแหกอกเอาน๊า”
เขาพูดพลางหัวเราะ ก่อนจะกึ่งดึงกึ่งลากเพื่อนสาวให้เดินตาม ซ่อนกลิ่นร้องโวยวาย แต่แรงเธอก็ต้านไม่ไหวอยู่ดี
อีกอย่าง... เ้าเพื่อนบ้านี่ก็ขู่ว่า ถ้าไม่ยอมเดินไปดีๆ จะอุ้มเธอเดินไปทั้งอย่างนั้น
สุดท้ายเธอเลยต้องยอมเดินตามไปอย่างไม่ค่อยพอใจนัก แต่ในใจก็ยังคิดว่า... เดี๋ยวก้องไกลก็คงตามมาอยู่ดีแหละ
“สนใจออกแบบตกแต่งภายในหรือออกแบบบ้านไหมคะ? บริษัทของเรายินดีให้บริการค่ะ” มะลิส่งยิ้มหวาน มือก็ยื่นโบรชัวร์ให้กับผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาอย่างขยันขันแข็ง เธอกำลังตั้งใจทำงานของเธออย่างดี ไม่คิดอะไรเลย... จนกระทั่ง
...เธอเห็นหน้าเขา คนที่เธอแอบเรียกในใจว่า “ตัวซวยประจำชีวิต” อย่างไม่ลังเล
เขาเดินตรงมารับโบรชัวร์จากมือเธอ พลางส่งยิ้มแบบยียวนกลับมา
“บริษัทอะไรครับเนี่ย? ป้าเป็เด็กแจกโบรชัวร์ด้วยเหรอ?” เขายักคิ้วกวนๆ ก่อนจะพูดต่อ “รอผมทำงานอีกสักสองสามปี เก็บเงินซื้อบ้านได้เมื่อไหร่ เดี๋ยวจะมาใช้บริการนะ”
มะลิกลืนน้ำลายลงคอแรง เธอไม่อยากะเิอารมณ์ออกมาให้เสียภาพลักษณ์ ในที่สาธารณะขนาดนี้
ยิ่งคนเยอะ ยิ่งต้องรักษาหน้าไว้ให้ดี เธอไม่อยากให้ใครมองบริษัทของเธอแย่ไปด้วย จึงทำได้แค่ฝืนยิ้มกว้าง แล้วกัดฟันตอบกลับอย่างใจเย็นที่สุด
“ขอบคุณนะคะ …น้อง”
อีกฝ่ายชะโงกหน้าไปดูใบปลิวที่กองอยู่ข้างตัวเธอ แล้วแกล้งพูดขึ้นอย่างจงใจ
“โอ้โห... เหลือเยอะอยู่นะเนี่ย”
มะลิเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังโดนหาเื่เข้าให้แล้ว แต่เธอยังใจเย็นพอจะหาทางเชิงไล่แบบนุ่มนวล
“ประตูอยู่ด้านหน้า เชิญออกไปได้แล้วนะคะ พี่จะได้แจกใบปลิวให้คนอื่นต่อ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล พร้อมฝืนยิ้มให้อีกครั้ง แม้ในใจจะอยากเอาแฟ้มตีหัวอีกฝ่ายเต็มที...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้