จี้หนิงมองไปยังเวลานับถอยหลัง พบว่ายังมีเวลาอีก 19 ชั่วโมง แต่ผู้เล่นหมายเลข 5 กลับรีบตอบคำถามอย่างรวดเร็ว
จากที่สิงเยี่ยบอกมา ผู้เล่นหมายเลข 5 น่าจะตอบไปว่าบอดี้การ์ดถนัดซ้ายแน่นอน ตอนนี้ดูเหมือนคำตอบของหมายเลข 5 ผิดเต็มๆ ฆาตกรไม่ใช่คนที่ปรากฏตัวให้เห็นอย่างโจ่งแจ้ง
“จริงด้วย!” จี้หนิงนึกถึงสิ่งที่สิงเยี่ยเคยบอกกับเธอ “คำใบ้คือ การมองความจริงผ่านหมอกหรือจริงๆ แล้วมันหมายความว่าคำตอบผิวเผินเป็แค่ ‘หมอก’ แปลว่าฆาตกรตัวจริงอาจคนอื่นอย่างนั้นเหรอ?
“คุณพูดถูก” สิงเยี่ยเห็นด้วยกับคำพูดของจี้หนิง “ผู้เล่นหมายเลข 5 ไม่ได้รับคำใบ้มา และก็ไม่ได้รับบทบาทให้จับคู่กับใครด้วย เขาไม่มีทางรู้ถึงคำใบ้ที่ยากจะเข้าใจแต่สำคัญมากแบบนี้ บทบาทของเขาในฐานะบอดี้การ์ดอาจทำให้เขาได้รับข้อมูลสำคัญมากมาย แต่ข้อมูลนั้นกลับชี้ไปยังคำตอบที่ผิด นั่นเป็เหตุผลที่เขาตอบอย่างมั่นใจก่อนใครโดยหวังว่าจะได้รับรางวัลคะแนนสูงสุด”
หลังจากฟังคำอธิบายของสิงเยี่ยแล้ว ดวงตาของจี้หนิงก็หรี่ลง เธอก้มหน้าเล็กน้อย และไม่สามารถยอมรับการสูญเสียของผู้เล่นด้วยกันนี้ได้
เธอรออย่างเงียบๆ เป็เวลานาน แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงผิดปกติใดๆ แล้วถามสิงเยี่ยด้วยเสียงเบาๆ “คนที่ตอบผิดจะถูกลบยังไงเหรอ?”
เสียงของเธอดูสั่นเครือ สิงเยี่ยััได้ถึงความรู้สึก ‘ปวดใจ’ ที่ปรากฏขึ้นในใจของเธออยู่สักพักใหญ่ เขาบอกกับจี้หนิงไปว่า “ผมก็ไม่รู้ละเอียดมากหรอก ผมเห็นแค่สีหน้าของคนที่ถูกลบไปแค่อย่างเดียว แต่ไม่ได้ยินเสียง อะไรเลย แล้วคนคนนั้นก็หายไป จี้หนิง สัญญากับผมนะว่าจะไม่มองมันเด็ดขาด”
หัวใจของจี้หนิงหยุดเต้นไปชั่วขณะ เธอบีบมือเขาแน่นและตอบ “ได้”
สิงเยี่ยไม่รู้จะพูดอะไรเพื่อปลอบใจหญิงสาว เขาจึงทำได้แค่กุมมือของจี้หนิงจากในมุมที่คนอื่นมองไม่เห็น โดยมีเสื้อกันลมคอยบังเอาไว้
“ถึงผู้เล่นหมายเลข 5 จะตอบผิด แต่รอยแผลจากมีดปักบนร่างของผู้เสียชีวิตต้องเป็ฝีมือของบอดี้การ์ดถนัดซ้ายที่ชื่ออู๋ฮ่าวแน่ๆ” จี้หนิงเปลี่ยนความเศร้าและความโกรธให้กลายเป็ความเข้มแข็งแล้วปลุกใจตัวเองอย่างรวดเร็ว
สิงเยี่ยรู้สึกประหลาดใจที่เธอสามารถปรับเปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วขนาดนี้ ก่อนตอบกลับไป “ใช่ เบาะแสบางอย่างอาจจะไม่จำเป็ต้องเป็คำตอบเสมอไป แต่เบาะแสก็ยังจำเป็อยู่แน่นอน ไม่อย่างนั้นมันจะยากเกินไป”
จี้หนิงใจเย็นลงและวิเคราะห์อย่างตั้งใจ “ผู้ตายยังมีาแฉกรรจ์อยู่ที่ด้านหลังศีรษะอีกจุดหนึ่งนี่นา ถ้าฆาตกรไม่ใช่อู๋ฮ่าว แสดงว่านายน้อยฮุยอาจเสียชีวิตก่อนถูกมีดแทง และคนที่ทำแบบนั้นจะต้องเป็ ‘ฆาตกร’ แน่เลย สิงเยี่ย คุณได้ตรวจดูาแที่ด้านหลังศีรษะอย่างละเอียดไหม? พอจะรู้บ้างไหมว่าอะไรเป็สาเหตุของแผลนั้น?”
สิงเยี่ยพยักหน้า “ก็พอเห็นอยู่นะ รู้สึกเหมือนจะถูกแทงด้วยวัตถุบางอย่างที่แหลมคมอย่างกะทันหัน ทำให้เนื้อเยื่อสมองได้รับาเ็ รวมถึงกะโหลกด้านหลังศีรษะด้วย ถ้าไม่ใช้แรงมากๆ ในระดับหนึ่ง คงสร้างาแสาหัสแบบนี้ไม่ได้หรอก”
ปริศนาใหม่ปรากฏขึ้นมาอีกหนึ่งอย่าง จี้หนิงถอนหายใจออกมาเบาๆ
สิงเยี่ยใช้นิ้วโป้งลูบหลังมือของเธอ “จากประสบการณ์ของผม อาการาเ็นี้น่าจะเป็การาเ็โดยไม่ตั้งใจมากกว่า นอกจากาแฉกรรจ์นี้และาแถูกแทงแล้ว ก็ไม่มีร่องรอยการต่อสู้อื่นบนตัวผู้ตายลย ประการแรก ต่อให้เป็ผู้ชายก็ยากที่จะถูกโจมตีจากด้านหลัง จนเกิดเป็แผลแบบนั้นด้วยการฟาดแค่ครั้งเดียว ประการที่สอง ถ้าคิดจะฆ่าคนจริงๆ มีจุดอื่นที่ดีกว่าด้านหลังศีรษะตั้งเยอะ ไม่ว่าจะลำคอ หัวใจ หรือขมับ แสดงว่าการออกอาวุธให้เกิด ‘รอยแผลฉกรรจ์ที่หลังศีรษะ’ แบบนี้น่าจะเกิดจากสิ่งแวดล้อมภายนอกมากกว่า”
“เกิดจากสิ่งแวดล้อมภายนอก?” จี้หนิงขมวดคิ้วเล็กน้อย “หมายความว่ามีดไม่ใช่อาวุธในการฆาตกรรมอย่างนั้นเหรอ?”
เมื่อรู้ว่าอาการาเ็ร้ายแรงไม่ได้เกิดจากฝีมืุ์โดยตรง จี้หนิงก็มีลางสังหรณ์แรงกล้าขึ้นมาว่า หยางอี๋อาจเป็คำตอบสุดท้าย
แต่ถ้าไร้ซึ่งหลักฐานสนับสนุนความคิดนี้แล้ว จี้หนิงไม่สามารถเชื่อในสัญชาตญาณของตัวเองได้ เธอกับสิงเยี่ยยัง้าหลักฐานเพิ่มเติมมาสนับสนุนคำตอบนี้เพื่อให้แน่ใจว่าทั้งคู่จะสามารถรอดจากด่านนี้ไปได้
“ใช่ ผมคิดว่าจะไปลองหาดู เผื่อมีจุดไหนบนเรือที่อาจทำให้เกิดอาการาเ็แบบนี้ได้ จากนั้นเราค่อยค้นหาเบาะแสต่อไป” สิงเยี่ยตัดสินใจอย่างเฉียบขาด แทนที่จะมานั่งคาดเดา เขาขอเลือกการออกหาหลักฐานดีกว่าอยู่เฉยๆ
จี้หนิงพยักหน้า “งั้นฉันไปด้วยคน ร่วมด้วยช่วยกันต้องหาเร็วขึ้นแน่นอน เดี๋ยวฉันจะลองไปหาที่ชั้นใต้ท้องเรือดู ส่วนสิงเยี่ยก็ลองหาที่ชั้นหนึ่งกับชั้นสอง แบบนี้น่าจะเข้าท่ากว่า”
“ได้เลย แต่คุณต้องระวังตัวด้วยนะ” สิงเยี่ยมองจี้หนิงอย่างลึกซึ้ง
ในโลกของเกมที่จ้องกินเนื้อคนแบบนี้ ทุกครั้งที่คลาดสายตากันก็อาจเป็ครั้งสุดท้ายได้เสมอ
มีการระดมส่งข้อความบนเว็บถ่ายทอดสด
“มีกลุ่มที่เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว!”
“ผมเป็แฟนตัวยงของจี้หนิงหมายเลข 6 เธอนี่แหละเหมาะสมที่สุดที่จะอยู่รอดไปจากด่านนี้”
“คำตอบคืออะไรกันแน่นะ? หลังจากดูผ่านมุมมองของผู้เล่นหลายๆ คนแล้ว ผมรู้สึกว่าข้อสงสัยของทุกคนต่างมีเหตุผลทั้งนั้น”
“โชคยังดีที่พวกเรารอดชีวิตมาได้ จนตอนนี้ถึงได้มานั่งดูอะไรสนุกๆ แต่เอาเข้าจริงก็ยังลืมความน่ากลัวตอนถูกพาตัวไปโลกจำลองในตอนแรกไม่ได้ซะที”
“ฉันคิดว่าจี้หนิงกับสิงเยี่ยน่าจะสามารถหาคำตอบที่ถูกต้องได้”
“ผมเห็นด้วย”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้