“ไม่เป็ไร” ชูเผยรอยยิ้มที่ผิดหวังเล็กน้อยแต่สายตาของเขายังคงแน่วแน่ “ครั้งหน้าฉันจะพยายามให้มากกว่านี้”
บริทนีย์ที่อยู่ไม่ไกลออกไปถือไวน์อยู่ในมือพลางถอนหายใจ “สังคมโลกนี่ก็นะ คนที่พยายามมักสู้คนที่มีเส้นสายไม่ได้จริงๆ ”
รอบนี้เธออยู่อันดับที่สี่ อันดับแต่เดิมที่หนึ่งมักจะเป็เอ็ดเวิร์ด อันดับสองคือชู อันดับสามคือบริทนีย์ แต่หร่านซวี่จือกลับทำลายมาตรฐานนี้
อลิซาเบธได้ยินจึงรู้สึกโมโหจนทนไม่ไหว ส่วนหร่านซวี่จือนั้นกลับไม่ได้โมโหแต่อย่างใด เขานั่งบนเก้าอี้แล้วก็กินแตงโมอยู่อีกฟาก
“เอาสักหน่อยไหม? ” หร่านซวี่จือเอ่ยถามอลิซาเบธ “ซื้อตอนขากลับมาน่ะ อากาศร้อนเป็บ้าเลย”
ดังนั้นทั้งสองคนจึงนั่งลงกินแตงโม
หนึ่งทุ่มในตอนกลางคืน หน้าจอเงินในห้องรับแขกบ้านพักดับมืดอยู่ไม่เปลี่ยน ทุกคนที่ล้อมวงรอกันอยู่นานครึ่งค่อนวัน สักพักถึงมีเ้าหน้าที่ของรายการวิ่งมาแจ้งข่าวว่าจอฉายภาพนั้นไม่ได้ใช้งานมานานทำให้ไฟไม่เข้า ซึ่งตอนนี้กำลังซ่อมแซมอยู่
“ไฟไม่เข้าอะไรกัน” มีนายแบบคนหนึ่งเอ่ยเสียงไม่ดังมากแต่ก็สามารถทำให้คนทั้งหมดได้ยินแล้วเอ่ย “ฉันว่าคงไม่กล้าเผยแพร่ภาพนิ่งครั้งนี้ล่ะสิไม่ว่า”
นายแบบอีกหนึ่งคนขมวดคิ้วพร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า “อย่าพูดอย่างนั้นสิ ตอนนี้ยังไม่เห็นภาพนิ่ง จะตัดสินเร็วเกินไปไม่ได้”
หร่านซวี่จือมองเขาแวบหนึ่งก็พบว่านายแบบคนนั้นก็คือแดนนี่ คนที่ตนเองช่วยยื่นผ้าเช็ดตัวให้วันนั้น
ในเมื่อจอฉายภาพพัง ทุกคนก็ได้แต่กลับห้อง หร่านซวี่จือที่จัดการทำความสะอาดน้ำแตงโมที่หยดลงพื้นจึงยังไม่ได้กลับห้อง
“นี่” ด้านหลังมีเสียงฮอคดังขึ้น “คนอื่นว่านายแบบนั้น นายไม่โกรธเลยหรือไง? ”
หร่านซวี่จือหันหลังมองด้วยความตกตะลึง หลังจากที่นิ่งไปชั่วขณะ เขาก็เผยรอยยิ้มออกมา “การพัฒนาอย่างก้าวะโย่อมดึงดูดความสนใจจากคนอื่นเป็เื่ปกติ ไม่เห็นต้องใส่ใจเลย”
“จะดื่มอะไรสักหน่อยไหม? ” หร่านซวี่จือถาม “เมื่อครู่เห็นตรงนี้มีไวน์ปรุงอาหาร ฉันช่วยผสมให้นายได้นะ”
“นายผสมเหล้าเป็ด้วยหรือ? ” ท่าทีของฮอคนั้นยากจะเชื่อ “หรือว่านายเคยทำงานในร้านเหล้าตอนกลางคืน? ”
“อย่าคิดมากสิ” หร่านซวี่จือเอ่ยอย่างเหนื่อยหน่ายใจ “ก็แค่เป็บาร์เทนเดอร์ทั่วไปเอง”
บนตู้เก็บของในห้องครัวมีบรั่นดีกับไวน์ผลไม้มากมายหลายชนิด หร่านซวี่จือเทเหล้าลงไปในแก้ว พอเติมได้เศษหนึ่งส่วนสี่ก็หย่อนมาคา [1] ลงไป ขณะเดียวกันก็หมุนข้อมือวนไปมาแล้วรินไวน์หลากสีสันลงไป
สามนาทีให้หลัง ก็มีแก้วค็อกเทลสีฟ้าเข้มยื่นมาวางตรงหน้าฮอค
ฮอคลังเลอยู่เล็กน้อยก่อนจะจับแก้วขึ้นมาพร้อมกับชิม
“เป็อย่างไร พอใช้ได้ไหม? ” หร่านซวี่จือยิ้ม
ฮอคตาเป็ประกาย สองวินาทีหลังจากนั้นก็สะกดอารมณ์ไว้ เขากระแอมหลายครั้งก่อนพูดว่า “ก็ใช้ได้”
ฮอคไปที่ห้องฟิตเนสต่อ หร่านซวี่จือก็เลยกลับห้องนอนก่อนคนเดียว
ทุกคนอยู่ในห้องนอนหมดยกเว้นฮอค เอ็ดเวิร์ดยังคงนอนเสียบหูฟังอ่านนิตยสารเหมือนเช่นเคย ส่วนคนอื่นๆ ต่างก็นอนกลิ้งอยู่บนเตียงและกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน หลังจากที่หร่านซวี่จือเข้าไป ทั้งห้องนอนล้วนเงียบสงัด
ท่ามกลางสายตาของทุกคน หร่านซวี่จือเดินเข้าไปหยิบเสื้อผ้าของตนเองในตู้ แล้วไปอาบน้ำ
หลังจากทำตัวเปียกแล้ว หร่านซวี่จือก็ก้มลงหยิบขวดสบู่เหลวของตนเอง
สบู่เหลวกับแชมพูของทุกคนนั้นถูกวางไว้ด้วยกัน แต่หร่านซวี่จือหาอยู่นานกลับไม่เห็นของตนเอง
หร่านซวี่จือขมวดคิ้ว ขวดของเขานั้นเป็สินค้าผลิตในประเทศและในห้องพักนี้ไม่มีใครที่มาจากประเทศเดียวกับเขา ดังนั้นก็ไม่น่าจะมีใครหยิบผิด สรุปแล้วก็คือมีคนจงใจทำอย่างนั้นสินะ
หร่านซวี่จือก็เลยะโออกไปด้านนอก “เฮ้ ขอยืมสบู่เหลวของพวกนายสักคนได้ไหม? ”
ด้านนอกเสียงดังมากแต่กลับไม่มีใครตอบหร่านซวี่จือ ไม่รู้ว่าไม่ได้ยินจริงๆ หรือแกล้งทำหูหนวกกันแน่
หร่านซวี่จือ: “สองสามสาม พวกนายมีสบู่เหลวขายหรือเปล่า? ”
ระบบ: “ขออภัยครับ คุณรัน คลังเก็บของในฐานข้อมูลเรา สบู่เหลวกำลังขาดสต๊อกเหมือนกันครับ”
หร่านซวี่จือ: “…”
หร่านซวี่จือ: “นายกำลังล้อฉันเล่นหรือเปล่า? ยังมีคนมาเปิดโรงงานผลิตสบู่เหลวในโลกเป้าหมายแบบนี้ด้วยหรือ? ”
ระบบ: “คุณอย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยครับ มีเยอะเลยทีเดียว”
หร่านซวี่จือ: “…”
หร่านซวี่จือส่ายหน้าอย่างระอาและคิดว่าจะไม่ใช้สบู่เหลวแล้ว เพียงแค่ชำระตัวเสร็จก็ถือว่าใช้ได้
หลังจากปิดฝักบัว หร่านซวี่จือก็หยิบผ้าขนหนูของตนเอง เมื่อเช็ดครึ่งท่อนบนแล้วก็พันผ้าขนหนูไว้ตรงเอว เขาเดินไปตรงหน้าประตูและกำลังจะหยิบเสื้อผ้า ใครจะรู้ว่าจู่ๆ ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออก
จังหวะนั้นประตูกระแทกไปโดน่เอวของหร่านซวี่จืออย่างจัง ทำให้หร่านซวี่จือยืนไม่มั่นคง เมื่อเห็นทีกำลังจะล้ม ชั่วจังหวะที่พอดิบพอดีนั้น มือของเขาก็คว้าคอเสื้อของคนที่เปิดประตูไว้และฉุดร่างของเ้าตัวทำให้ซวยล้มกองลงกับพื้นไปพร้อมกัน
ผู้มาเยือนนั้นร่างสูงใหญ่ เมื่อล้มทับลงบนตัวของหร่านซวี่จือก็แทบทำเอาเขาจุกไปทั้งตัว
หร่านซวี่จือเจ็บจนรู้สึกเวียนหัวตาลาย เมื่อเขาได้สติ หลังจากกวาดตามองใบหน้าของเขาก็มองเห็นขนตายาวเป็แพเหมือนพัดของคนคนนี้
นิ้วมือปัดผมสีบลอนด์ทองที่อ่อนนุ่ม หร่านซวี่จือถึงสังเกตเห็นว่าคนบนร่างตนเองนั้นคือเอ็ดเวิร์ด
เอ็ดเวิร์ดหลับตาปี๋ ตรงหว่างคิ้วนั้นขมวดแน่นจนแทบจะบีบยุงให้ตายในนั้นได้ เขาชะงักไปหลายวินาที จากนั้นก็ลุกขึ้นอย่างเชื่องช้า หร่านซวี่จือเจ็บหลังไปหมด และรู้สึกเหมือนเพิ่งจะถูกช้างตัวใหญ่มาเหยียบ
เอ็ดเวิร์ดลุกขึ้นยืน สายตาของหร่านซวี่จือก็มองไกลออกไป
แวบแรกที่เห็นก็คือฮอคที่ยืนอยู่ด้านหลังประตู กำลังมองดูพวกเขาด้วยสีหน้าเก้อเขิน
เอ็ดเวิร์ดนวดศอกที่ถูกกระแทกจนช้ำด้วยสีหน้ามืดมน เขาชำเลืองมองหร่านซวี่จือแวบหนึ่งแล้วหันหลังเดินออกจากห้องน้ำไป
หร่านซวี่จือ: “??? เ้าบ้านี่มาทำอะไรกันแน่? ”
ระบบ: “หากกระผมเดาไม่ผิด คุณเอ็ดเวิร์ดคงจะเอาสบู่เหลวมาให้คุณรันน่ะครับ”
หร่านซวี่จือ: “บ้าไปแล้ว ไหนล่ะสบู่เหลว? ”
ระบบ: “ขวดสีฟ้าบนเก้าอี้หน้าประตูครับ”
หร่านซวี่จือ: “…ก็ได้”
หร่านซวี่จือ: “เช่นนั้นทำไมเขาไม่พูดออกมาสักคำเล่า? ต้องทำตัวลับๆ ล่อๆ เข้ามาเหมือนเป็โจรถ้ำมองเสียให้ได้”
ระบบ: “กระผมก็ไม่เข้าใจ บางทีคุณเอ็ดเวิร์ดคงมีนิสัยซึนเดะเระมาั้แ่เกิดล่ะมั้งครับ”
ฮอคนั่งลง หน้าตาบิดเบี้ยวราวกับเพิ่งรู้มาว่าอลิซาเบธคือผู้ชายอย่างไรอย่างนั้น “พวกนายสองคนทำอะไรกันน่ะ? ”
หร่านซวี่จือแยกเขี้ยวแล้วลุกขึ้นจากพื้นที่ลื่นแล้วตอบฮอคว่า “ไม่ทันระวังก็เลยล้มลงพื้นน่ะ”
ฮอคถามหร่านซวี่จือต่อว่า “นี่นายกำลังอาบน้ำหรือ? แล้วเ้าบ้าเอ็ดเวิร์ดนั่นเข้ามาทำอะไร? ”
หร่านซวี่จือตอบเขา “สบู่เหลวของฉันหายไป เขาเลยเอามาให้”
ฮอคส่งเสียงเยาะเย้ย “นายฝันไปหรือเปล่า? ”
หร่านซวี่จือ “…” ก็ใช่น่ะสิ ฟังแล้วก็เหมือนฝันกลางวันจริงๆ นั่นแหละ แต่ที่สำคัญกว่านั้นมันคือเื่จริงยังไงเล่า!
ฮอคมาช่วยพยุงหร่านซวี่จือลุกขึ้น หร่านซวี่จือจึงรีบจัดการทุกอย่างให้เสร็จแล้วออกจากห้องน้ำ ที่นี่ช่างไม่ราบรื่นเสียจริง
โชคยังดีที่ตนเองนั้นอยู่เตียงด้านล่าง ตอนขึ้นเตียงจึงไม่ได้เรียกว่าลำบากมากนัก
หร่านซวี่จือตรวจดูรอบหนึ่งก็พบว่าศอกกับหัวเข่าของตนเองเป็รอยช้ำไปทั่ว
“เฮ้ ฮอค” หร่านซวี่จือตบเสากั้นเตียง้า “นายมียาทาแก้ปวดไหม? ”
“ทำไม? ” ฮอคยื่นศีรษะออกมา “นายจะใช้ทำอะไร? ”
หร่านซวี่จือชี้ไปที่หัวเข่าที่เขียวช้ำของตนเอง
ฮอคเกาศีรษะแล้วควานหาบนเตียงตนเองอยู่หลายนาที จากนั้นก็กล่าวกับหร่านซวี่จือว่า “เหมือนว่าฉันเพิ่งจะใช้หมดไปเมื่อวาน ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้นายก็ไปซื้อที่ร้านยาไหมล่ะ? ”
“ก็ได้” หร่านซวี่จือพยักหน้า
การสนทนาระหว่างทั้งสองคนจบลง เอ็ดเวิร์ดที่อยู่เตียงตรงข้ามพลิกนิตยสารบนมือไปหลายหน้าแล้วเสียบหูฟังไว้เหมือนเดิม
คำอธิบายเพิ่มเติม
[1] มาคา เป็พืชที่พบได้ในเปรูตอนกลาง มีฤทธิ์ช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนแต่ไม่ได้เพิ่มปริมาณฮอร์โมน ประโยชน์ของ Maca root ช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลียเรื้อรังและเพิ่มพลังงาน
อ้างอิงจาก https://www.vitaboost.me/article/page_content/113