“เ้าเสียดายอะไร?” ิอวี่ถามขึ้นมาด้วยความสนใจ
ชายหนุ่มคนนั้นมองมาที่ิอวี่ด้วยความประหลาดใจ เขาพูดว่า “อย่าบอกนะว่าการประลองเมื่ออาทิตย์ก่อนเ้าไม่รู้เื่น่ะ?”
“ข้ารู้” ิอวี่พูดขึ้นมาอย่างจนใจ เขาไม่เพียงรู้ แต่ยังมีประสบการณ์ตรงด้วย
“เ้าจะไปรู้อะไร”
ชายหนุ่มคนนั้นส่ายหัวแล้วพูดว่า “ดูเ้าสิ เห็นคนพวกนั้นแล้วไม่ตื่นเต้นดีใจเลยสักนิด ดูก็รู้ว่าคงไม่รู้ที่มาของพวกเขาแน่ ข้าจะบอกอะไรเ้าให้นะ องค์ชายสิบเจ็ดน่ะ เอาชนะเทพธิดาอย่างเยี่ยซีที่มีชื่อเสียงมากลงได้ ใครจะไปคิดว่าองค์ชายสิบเจ็ดจะมาเป็ม้ามืดแบบนั้นกัน ร้ายกาจจริงๆ ”
“ที่ข้าเสียดายเพราะตระกูลข้าไม่ได้รับเชิญให้ไปร่วมงาน ทำให้ไม่อาจได้เห็นภาพที่องค์ชายสิบเจ็ดเอาชนะเยี่ยซี แต่ว่า ได้ยินมาว่าองค์ชายสิบเจ็ดเป็คนเรียบง่าย เพลงกระบี่ของเขาก็ยอดเยี่ยม ทั้งรวดเร็วและว่องไว สมแล้วที่เป็ผู้กล้ารุ่นใหม่”
“ในการแข่งขันคราวนี้ ได้ยินมาว่าเขายังได้สุดยอดทักษะการต่อสู้อย่าง ‘ฝ่ามือปลิดิญญาชุ่ยอวี้’ ด้วย เขาจะต้องมีกำลังการต่อสู้ที่เพิ่มมากขึ้นแน่นอน ข้าว่าด้วยพร์ของเขาแล้ว อีกไม่กี่ปีจะต้องไล่ตามองค์ชายเก้าิเสวียนทันแน่นอน!”
“ ... ก็อาจจะนะ” ิอวี่คิดไม่ถึงเลยว่าชายหนุ่มคนนี้จะประเมินเขาเอาไว้สูงขนาดนี้
“เฮ้อ เ้าไม่รู้อะไร ข้าชื่นชอบเขามากเลยนะ หากว่ามีโอกาสข้าก็อยากจะเจอหน้าเขาสักครั้งหนึ่ง”
“ ... ”
ชายหนุ่มคนนี้เห็นิอวี่เหมือนไม่ได้ใส่ใจในสิ่งที่เขาพูดเลย ก็คิดว่าิอวี่คงเป็คนที่ไม่ได้มีคนที่เป็ดั่งต้นแบบแน่ แต่ว่าเขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมา หันไปยิ้มให้กับิอวี่แล้วพูดว่า “พูดมาตั้งนาน ข้ายังไม่ได้แนะนำตัวเลย ข้าชื่อเล่อเทียน แล้วเ้าล่ะ?”
เล่อเทียน? ชื่อสมกับตัวเลย ดูมีความสุขตลอดเวลา
ถึงแม้จะรู้จักกันแค่ระยะเวลาสั้นๆ ิอวี่ก็รู้ทันทีว่าเล่อเทียนนั้นน่าจะเป็คนที่มีนิสัยมุทะลุ มีอะไรจะเห็นได้จากสีหน้าท่าทางหมดอย่างที่ปิดใครไม่ได้เลย หากบอกกับเล่อเทียนว่าเขาเป็ใครนี่คิดว่าคงแตกตื่นแล้วป่าวประกาศไปจนทั่วแน่
ถึงเวลานั้น อาจจะทำให้ิเสวียนรู้ตัว และเขาอาจจะถูกิเสวียนลอบสังหารในดินแดนอสูรว่านโซ่วก็เป็ได้!
ดังนั้นหลังจากที่ิอวี่คิดทบทวนแล้วก็ตอบกลับไปว่า “อ๋อ ข้าชื่ออวี่ิ ดีใจนะที่ได้รู้จักเ้า”
“อืออือ” เล่อเทียนยิ้มอย่างมีความสุข เขาไม่ได้เอะใจเลยว่าชื่อมันดูแปลกๆ ไหม ...
แต่ในเวลานี้เอง ก็เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นมา ดาบเสี้ยวพระจันทร์ชิงหลงในมือของเสวียปู้หุ่ยฟันตัดจนน้ำตกขาดครึ่ง!
วิธีการแบบนี้ทำให้คนที่รอบนอกน้ำตกต่างตกตะลึง สมแล้วที่เป็ขุนพลสร้างแผ่นดิน แม้แต่ความสามารถยังแข็งแกร่งมากถึงขนาดนี้!
พวกของิเสวียนเองก็เคลื่อนไหวทันที พวกเขาเดินเข้าไปในร่องแคบของน้ำตก
จากนั้นน้ำตกก็ไหลลงมาอีกครั้ง ส่วนเงาของพวกิเสวียนก็หายไปจากตรงนั้นแล้ว
“น้องอวี่ิ เราคงทำอย่างพวกองค์ชายเก้าไม่ได้หรอกนะ ดูท่าคงมีแค่วิธีเดียวเท่านั้น”
เล่อเทียนเห็นิอวี่ยืนอยู่กับที่ ดูยังไม่ได้มีท่าทีจะเข้าไปในน้ำตกเทียนเซียวแต่อย่างใด ในใจก็แอบคิดว่าิอวี่คงกำลังเครียดเื่การเข้าไปในน้ำตกเทียนเซียว ก็เลยพูดแบบนี้ออกมา
“ไม่จำเป็หรอก ข้าลองดูเองได้” ิอวี่ปฏิเสธแบบมีมารยาท
แต่เล่อเทียนกลับส่ายหน้าอย่างจริงจังว่า “เฮ้อ เดิมทีข้าก็คิดแบบนี้แหละ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าน้ำตกเทียนเซียวนั่นจะมีน้ำหนักเยอะมากจนยากที่จะฝ่าเข้าไปได้เลย หากคิดจะเข้าไปในดินแดนอสูรว่านโซ่ว ฝูงอสูรนั้นมันน่ากลัวและยากที่จะรับมือได้เลยนะ”
ิอวี่ขมวดคิ้วหนักมาก คิดไม่ถึงเลยว่าในดินแดนอสูรว่านโซ่วยังมีฝูงอสูรด้วย นี่เป็ครั้งแรกที่เขามายังดินแดนแห่งนี้ เขาไม่คุ้นเคยก็เลยมีความกังวลขึ้นมา
เล่อเทียนอธิบายว่า “ถ้าคิดอยากจะผ่านมันไปได้อย่างปลอดภัย อาจจะต้องใช้ยาจูหยวนตันจำนวนหนึ่งเลย”
“หมายความว่าอย่างไร?”
“คืออย่างนี้นะ กลุ่มคนทางนั้นกำลังจะสร้างค่ายกลอักขระป้องกันขึ้นมา แล้วถ่ายลมปราณเข้าไปในค่ายกลป้องกันนั้นอย่างต่อเนื่อง ค่ายกลนั้นสามารถอยู่ได้ประมาณหนึ่งก้านธูป เราก็สามารถใช้ระยะเวลาหนึ่งก้านธูปทะลวงฝูงอสูรนี้เข้าไป”
เล่อเทียนพูดอย่างจนใจ “แต่ว่าค่าตอบแทนของกลุ่มคนพวกนั้นหลังจากเปิดใช้งานลายเส้นอักขระ คิดค่าคุ้มกันเป็ยาจูหยวนตันสามสิบเม็ด มีแค่วิธีการนี้เท่านั้นพวกเขาถึงยอมพาเราฝ่าฝูงอสูรเข้าไป”
ิอวี่ลองคิดทบทวนดูแล้วก็พยักหน้า “เอาล่ะ ก็ตามนั้นแล้วกัน”
ิอวี่คิดทบทวนดูแล้ว ต่อให้เขาจะมั่นใจในความสามารถของตัวเองมากแค่ไหน แต่ว่าเขาก็ไม่มีทางฝ่าเข้าไปแบบหน้ามืดตามัว หากตามคนอื่นเข้าไปได้ปลอดภัยกว่าเขาก็ยินดี
จากนั้นเขาก็พาเล่อเทียนเดินไปทางกลุ่มคนพวกนั้น
บริเวณนั้นมีผู้กล้ารวมตัวกันอยู่ประมาณยี่สิบกว่าคน ซึ่งกลุ่มที่อยู่ตรงกลางนั้นเป็ผู้กล้าประมาณสิบคนยืนอยู่ พวกเขามีอาณาจักรพลังขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่แปดระดับประสานเป็หนึ่ง แต่ละคนมีพลังเทียบเท่าราชสีห์สองพันตัวถือว่าแข็งแกร่งอย่างมาก
ดูเหมือนว่าจะมีกลุ่มเจ็ดคนกลุ่มหนึ่ง ส่วนอีกสิบกว่าคนที่อยู่รอบนอกพอได้ยินว่ามีการจ่ายค่าตอบแทนเป็ยาจูหยวนตันสามสิบเม็ดเพื่อร่างอักขระป้องกันก็เลยมารวมตัวกันอยู่ตรงนี้
หลังจากที่เล่อเทียนเดินมาถึงก็มีผู้กล้าหนุ่มขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่แปดคนหนึ่งเดินออกมา เขาไว้ผมยาวและมีหนวดแพะ
ดวงตาของเขาดูขุ่นเคืองมาก ทั้งยังมีความอาฆาตและจิตสังหารปะปนอยู่นั้นในด้วย!
คนๆ นี้มีชื่อว่าหลัวชง ส่วนพี่น้องอีกเก้าคนล้วนแต่แต่งชุดสีดำที่ดูเหมือนจะเป็กลุ่มเดียวกับเขาซึ่งไม่รู้ว่าเป็กลุ่มไหน แต่ดูจากพลังฝีมือแล้วพวกเขาไม่ธรรมดาแน่นอน!
หลังจากเห็นหลัวชง ิอวี่ก็รู้สึกว่าตัวของชายหนุ่มคนนี้แผ่กระจายความดุร้ายและแรงอาฆาตรุนแรงมาก ส่วนผู้กล้าอีกเก้าคนก็มีลมปราณเช่นเดียวกัน แต่ว่าคนที่ดูอันตรายก็มักจะมีจิตสังหารรุนแรงอยู่แล้ว ิอวี่จึงไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร
“เ้าอีกแล้วหรือ? ยาจูหยวนตันสามสิบเม็ด ห้ามขาดเลยแม้แต่เม็ดเดียว” หลัวชงเห็นเล่อเทียนก่อนคนแรกแล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าว
เล่อเทียนเกาหัว “สามสิบเม็ดก็สามสิบเม็ด น้องชายท่านนี้ก็เตรียมยามาแล้วสามสิบเม็ด จะเข้าร่วมขบวนด้วยกันเลย”
หลัวชงมองไปที่ิอวี่ แล้วพูดว่า “เ้าพลังฝีมือเท่าไร?”
ิอวี่ตอบไปตามความจริง “ขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่หกระดับสูงสุด”
หลัวชงยิ้มแห้งแล้วพูดว่า “พลังฝีมือของเ้าต่ำขนาดนี้ ต่อให้เราใช้ลายเส้นอักขระแต่การคุ้มกันเ้าก็ต้องออกแรงมากกว่าปกติ เ้าต้องจ่ายเป็ยาเม็ดจูหยวนตันห้าสิบเม็ด”
เล่อเทียนรู้สึกเขินเล็กน้อยเพราะเขาเป็คนแนะนำิอวี่มา หากิอวี่ถูกโขกสับไปอีกยี่สิบเม็ดคงมองหน้ากันไม่ติด เขาจึงพูดว่า “ทำแบบนี้ไม่ดีเท่าไรมั้ง คนอื่นก็ราคานี้กันหมดนะ”
“เ้ากำลังต่อราคาข้าอยู่หรือ?”
หลัวชงกระพริบตา เขาเอามือชี้ไปที่หน้าของิอวี่ แล้วตะคอกใส่เล่อเทียนด้วย “เขาไม่เอาไหนขนาดนี้ ข้าต้องลงทุนลงแรงเพื่อคุ้มครองเขา ถึงเวลาหากเกิดเื่ขึ้นในดินแดนอสูรว่านโซ่วเ้ารับผิดชอบไหวหรือ?”
เล่อเทียนยิ้มแห้งให้กับหลัวชง “เอ่อ ... ข้าไม่ได้หมายความอย่างนั้น”
“น่าขำ เ้าไม่ได้หมายความแบบนี้ หากเ้ายังต่อรองอีก ค่าตอบแทนเ้าข้าก็จะไม่รับ น้อยคนก็สบายข้ามากขึ้น รีบไสหัวไปเลย” หลัวชงพูดอย่างไม่พอใจ
เล่อเทียนรู้สึกเขินมาก เขาหันไปมองหน้าิอวี่ที่ไม่พูดไม่จาอะไรเลยแล้วพูดอย่างเขินๆ ว่า “น้องชาย ขอโทษจริงๆ นะ ข้าเป็คนแนะนำเ้ามา แต่ผลลัพธ์กลับกลายเป็แบบนี้ไปได้ เอาอย่างนี้นะ ยาจูหยวนตันห้าสิบเม็ดนี้ ข้าช่วยเ้าออกสิบเม็ด แบบนี้เราก็ออกคนละสี่สิบเม็ด ดีไหม?”
ที่จริงิอวี่คิดจะหันหลังแล้วเดินไปเลย แต่พอได้ยินเล่อเทียนพูดแบบนี้เขาก็หยุด
ถึงแม้เล่อเทียนจะดูบุ่มบ่ามแต่เขาก็เป็คนนิสัยดีคนหนึ่ง เขารู้จักนึกถึงคนอื่นด้วย
พอคิดได้แบบนี้ ิอวี่ก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจ เขาจึงตกลงรับปาก
หลังจากรับยาจูหยวนตันไปแล้วแปดสิบเม็ด หลัวชงก็สั่งให้ิอวี่กับเล่อเทียนยืนให้ดี จากนั้นก็หันเดินกลับไปในกลุ่มของเขา
ิอวี่กับเล่อเทียนรออยู่ประมาณครึ่งชั่วยาม จากกลุ่มเล็กๆ ยี่สิบกว่าคนก็กลายมาเป็กลุ่มใหญ่สี่สิบกว่าคน
พอเห็นว่าจำนวนคนเยอะประมาณหนึ่งแล้ว หลัวชงก็ะโว่า “ทุกท่าน ได้คนมาพอประมาณแล้ว ค่ายกลของเรารองรับคนได้ประมาณนี้นี่แหละ อีกเดี๋ยวเราจะฝ่าเข้าไปด้านในกัน ต้องพยายามฝ่าทะลวงกระแสแห่งอสูรเข้าไปด้านในให้ได้ภายในครึ่งก้านธูป พวกเ้าต้องตามความเร็วของพวกเราให้ทัน และอยู่ในขอบเขตค่ายกลเจียวซาเตาของเรา เข้าใจไหม?”
“เข้าใจแล้ว!”
“เอาล่ะ มายืนล้อมกันไว้นะ เราจะเตรียมตัวฝ่าทะลวงน้ำตกเทียนเซียว เข้าสู่ดินแดนอสูรว่านโซ่วกัน!”
พูดจบ แหวนอักขระบนมือของหลัวชงก็ปรากฏแสงสีแดงลอยพุ่งขึ้นมา จากนั้นก็กลายเป็ดาบสีเืเล่มหนึ่งและหมุนรอบตัวทุกคน กลายเป็วงแหวนดาบทรงกลมที่โอบอุ้มตัวของทุกคนเอาไว้
ดาบหมุนแรงและเร็วมากทำให้เกิดลมที่รุนแรง เมื่ออยู่ด้านในไม่รู้สึกอะไรเท่าไร แต่หากอยู่ด้านนอกก็จะััได้ถึงลมพายุที่ค่อนข้างรุนแรงจนตัดต้นไม้ใบหญ้าหักโค่นได้เลย
หลังจากนั้นหลัวชงก็ควบคุมค่ายกลดาบพาทั้งสี่สิบกว่าคน ฝ่าเข้าไปในน้ำตกเทียนเซียว
“ตู้ม!”
เมื่อน้ำตกปะทะเข้ากับค่ายกลดาบก็ถูกดาบของค่ายกลฟันจนขาด เมื่อผ่าน่สั้นๆ ไป ค่ายกลดาบก็พุ่งทะลวงน้ำตกไปด้านหน้า
ิอวี่เห็นว่าด้านหน้านั้นมีปากถ้ำขนาดใหญ่ แล้วที่ปากถ้ำก็ยังมีแผงกั้นสีแดงใส ผู้กล้าหลายคนพุ่งตัวไปยังแผงกั้นนั้น คนที่อยู่ในค่ายกลเองก็พุ่งตามเข้าไปด้วยเช่นกัน
ทุกคนรู้สึกเหมือนว่าโลกกำลังหมุน รอบตัวมืดดำไปหมด เส้นแสงต่างๆ ดูบิดเบี้ยวไปหมด ิอวี่รู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลที่ถาโถมมาที่ตัวราวกับจะบีบรัดตัวเขาให้แตก
เหมือนจะผ่านไปนาน แต่จริงๆ แล้วเพิ่งจะผ่านไปแค่ครู่เดียว ิอวี่ก็รู้สึกตัวเบาหวิว เขาพบว่าด้านหน้าของเขานั้นเป็เส้นทางสู่เขาแดงสีเืขนาดใหญ่ที่อยู่เบื้องหน้า!
โลกสีแดงสดแห่งนี้ไม่มีกลางวันไม่มีกลางคืน มีเพียงท้องฟ้าสีแดงเืสดทั้งผืนเท่านั้น
ใต้ท้องฟ้าแห่งนี้มองไปไม่มีที่สิ้นสุด บนทางขึ้นเขาแต่ละเส้นก็มีกองกระดูกสีขาวกองเป็ูเานับไม่ถ้วน!
พวกของิอวี่ที่อยู่บนหน้าผาสูงกำลังตกลงไปสู่เบื้องล่าง
บนหน้าผาที่กว้างใหญ่ทอดยาวออกไปไกลจนไร้ขอบเขตมีเสือดาวสีเือยู่เป็พันตัวจนดูนับไม่ถ้วน พวกมันกำลังพุ่งเข้ามาอย่างกระหายเื!
เสือดาวสีเืพวกนี้มีหลังเป็สีดำ ดวงตาเป็สีแดง มีเขี้ยวที่แหลมคม และมีความดุร้ายอย่างมาก แต่ละตัวเป็อสูรสัตว์ร้ายระดับห้า
เมื่อเห็นเหล่าผู้กล้าตกลงมาบริเวณนี้พวกมันก็พุ่งเข้าใส่ทันที ผู้กล้าล้วนแต่มีวิธีการรับมืออยู่แล้ว แต่ว่าผู้ที่อ่อนแอกว่านั้นกลับร้องด้วยเสียงโหยหวนเพราะถูกกัดฉีกเนื้อจนขาดหมด!
อย่าดูถูกเสือดาวสีเืพวกนี้เป็อันขาด ถึงแม้พวกมันจะเป็แค่อสูรสัตว์ร้ายระดับห้า แต่ก็มีความเร็วสูงมาก อีกทั้งยังโจมตีเข้ามากันเป็ฝูงใหญ่จึงแทบจะทำให้ตายอย่างไร้ที่ฝังได้เลย
“ตู้ม!”
หลัวชงควบคุมค่ายกลดาบให้ชนเข้ากับหน้าผา ดาบนั่นก็หมุนไม่หยุดเพื่อคุ้มกันความปลอดภัยของคนสี่สิบคนอย่างรวดเร็ว
เสือดาวสีเือ้าปากคำรามและพุ่งกัดเข้ามาอย่างรวดเร็ว แต่ก็ถูกดาบฟันจนต้องล่าถอยไป
แต่เสือดาวเืก็ยังบ้าคลั่งอย่างมาก มันไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เหมือนว่ามันไม่กลัวตายเลย มันพุ่งเข้าโจมตีอีกครั้งราวกับแมลงเม่าที่บินเข้ากองไฟ จึงทำให้ทุกคนรู้สึกว่าค่ายกลของดาบที่คุ้มกันอยู่รอบตัวนั้นเริ่มจะเอาไม่อยู่
ิอวี่ััได้ถึงความรุนแรง ตอนนี้เขาได้ทำการเคลื่อนย้ายน้ำในบ่อศักดิ์สิทธิ์ของเขาไปที่จุดเซินถิง จากนั้นก็เปิดััแห่งิญญาขึ้น เขารับรู้ได้ถึงจิตสังหารที่เสือดาวสีเืส่งมาได้
อารมณ์ในเชิงลบนั้นผุดขึ้นมาในหัวของิอวี่อย่างต่อเนื่อง ทำให้เขาต้องพยายามควบคุมพลังจิตในการต่อต้านมัน
ิอวี่รู้สึกว่าบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ของเขาเหมือนจะอ่อนแรงไป ...
เป็อยู่อย่างนั้นประมาณสามนาที แต่ทุกคนกลับรู้สึกว่าเหมือนเกินกว่าครึ่งชั่วยาม เพราะเสือดาวสีเืที่อยู่ด้านนอกนั้นดุร้ายมาก หากใช้ความสามารถส่วนตัวก็ยากที่จะต้านเอาไว้ได้!
แต่ในเวลานี้เอง หลัวชงที่อยู่ด้านหน้าสุดก็ส่งสัญญาณให้พี่น้องของเขาอีกเก้าคนที่เหลือ จากนั้นพวกเขาก็พุ่งเข้าไปล้อมตัวของหลัวชง
จากนั้น หลัวชงก็ควบคุมค่ายกลดาบให้กระจายตัวออกเป็ดาบเล่มเล็ก แล้วล้อมตัวพวกของตัวเองเอาไว้แล้วพุ่งไปด้านหน้า โดยที่ทิ้งอีกสามสิบกว่าคนที่เหลือเอาไว้ด้านหลัง
“นี่มันอะไรกัน!”