หลังเปิดเทอมใหม่ การฝึกซ้อมควิดดิชของบ้านกริฟฟินดอร์ก็เข้มข้นขึ้นมาก ซึ่งทำให้แฮร์รี่รู้สึกเหนื่อยไม่น้อย
ที่ยิ่งแย่ไปกว่านั้นคือ สเนปอาสาเป็กรรมการในการแข่งขันควิดดิชครั้งหน้า ด้วยนิสัยแบบนั้น แฮร์รี่มั่นใจว่าอีกฝ่ายต้องลำเอียงเข้าข้างทีมคู่แข่งของกริฟฟินดอร์แน่นอน
เฮอร์ไมโอนี่กับรอนถึงกับอยากเกลี้ยกล่อมให้แฮร์รี่ถอนตัวจากการแข่งขันครั้งนี้
แม้พวกเขาจะรู้จากเดม่อนแล้วว่าคราวก่อนคนที่ทำร้ายแฮร์รี่คือศาสตราจารย์ควีเรลล์ ไม่ใช่สเนป แต่ความเสี่ยงก็ยังคงอยู่
ใครจะไปรู้ว่าศาสตราจารย์ควีเรลล์ ผู้ดูเรียบร้อยแบบนั้น จะมีเหตุผลอะไรถึงได้จ้องเล่นงานแฮร์รี่? แล้วเหตุใดศาสตราจารย์คนอื่นถึงไม่พูดอะไรเลย?
ถ้าไม้กวาดของแฮร์รี่โดนสาปอีกล่ะ? จะต้องอาศัยพวกเขาไปหยุดมันเองอีกครั้งหรือ?
สเนปเป็คนต่ำทรามขนาดนั้น เขาคงจะดีใจมากถ้าแฮร์รี่ได้รับาเ็ระหว่างแข่ง แล้วไม่สามารถลงสนามได้อีก ทีมนั้นที่เขาหนุนอยู่ สลิธีริน ก็จะลดคู่แข่งไปหนึ่งทีม
“พวกเราต้องหาข้อมูลของนิโคลัส เฟลมเมลให้ได้! ฉันมีลางสังหรณ์ว่าสำคัญมาก!”
“เฮ้ พวกเราทำไมไม่ไปคุยกับเดม่อนล่ะ? ไม่ใช่แค่นิโคลัส เฟลมเมล เื่ควิดดิชด้วย เท่าที่ฉันรู้ เขาเหมือนไม่คิดจะมาดูการแข่งขันเลย”
“ถ้าเขาไม่มา แล้วเกิดอะไรขึ้นอีก ใครจะช่วยพวกเรา?”
เฮอร์ไมโอนี่ปรายตามองรอน อยากจะบอกว่า “เราก็จัดการเองได้” แต่ก็ไม่ได้พูดออกมา ั้แ่เปิดเทอมมา เธอก็แทบไม่ได้เจอเดม่อนเลย ไม่ต้องพูดถึงการพูดคุยกันแบบจริงจัง
เดม่อนดูรีบเร่งตลอดเวลา และั้แ่ที่เขาเริ่มกินบะหมี่เนื้อ ก็ยิ่งรีบขึ้นไปอีก เวลากินของเขาไม่เคยเกินสิบ นาที และระหว่างนั้นยังอ่าน Transfiguration Today ไปด้วย ท่าทางมุ่งมั่นจนเฮอร์ไมโอนี่ไม่กล้าเข้าไปขัด
เธอรู้สึกว่าตัวเองกับเดม่อนเริ่มห่างเหินกันมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนคนที่เริ่มเดินกันคนละเส้นทาง
แม้ว่าเดม่อนจะให้เธอเป็ของขวัญวันคริสต์มาสเป็หนังสือของล็อกฮาร์ตฉบับลายเซ็นครบชุด ซึ่งทำให้เธอพอใจมาก แต่เธอก็ยังรู้สึกว่า บางอย่างยังขาดหายไป
“พวกนายเคยสงสัยไหม” แฮร์รี่เม้มปาก “ว่าเดม่อนไปฝึกเวทมนตร์ที่ไหนกันแน่?”
“โอ้ นายพูดออกมาจนได้ ฉันนึกว่ามีแต่ฉันที่สงสัยซะอีก”
“เราต้องคุยเื่นี้ตอนนี้เลยเหรอ? สิ่งสำคัญคือนิโคลัส เฟลมเมล รอให้เราหาข้อมูลเขาได้ก่อน แล้วค่อยหาเดม่อนก็ไม่สาย”
“พวกนายรู้ไหมว่าเดม่อนอยู่ไหน?”
ทั้งสามหันกลับไปทันที เห็นเนวิลล์กำลังเดินเข้ามา สีหน้าซึมเศร้า
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
“เนวิลล์ นายดูแย่มากเลย”
“มัลฟอย… เขาเดินป้วนเปี้ยนอยู่หน้าห้องสมุด บอกว่าถ้าเจอฉันอีกครั้ง เขาจะใช้คำสาปขาแข็งใส่ฉัน”
“เพราะงั้นนายเลยอยากให้เดม่อนไปจัดการให้?”
“เนวิลล์ นายต้องลุกขึ้นสู้กับเขา เขาเอาแต่รังแกคนอื่น เราไม่มีเหตุผลต้องยอมเขา!”
“ไม่ต้องบอกฉันหรอกว่าฉันขี้ขลาด ไม่คู่ควรอยู่บ้านกริฟฟินดอร์ มัลฟอยพูดประโยคนั้นกับฉันไปแล้ว”
เนวิลล์พูดจบก็เดินจากไปอย่างเศร้าสร้อย
“นี่แหละโอกาส! เราใช้เื่เนวิลล์เป็ข้ออ้างไปขอความช่วยเหลือจากเดม่อน แล้วค่อยแอบใส่เื่ของพวกเราเข้าไปด้วย เป็ไง?” แฮร์รี่เสนอ
เฮอร์ไมโอนี่กับรอนไม่พูดอะไร
ก่อนหน้านี้ ทั้งสามมองว่าเดม่อนเหมือนอินทรีหิมะบนหน้าผา สูงส่งและสง่างาม เป็ความรู้สึกที่อธิบายยาก ทั้งที่เดม่อนบอกว่าเป็เพื่อนกัน แต่พวกเขากลับรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งบางอย่างกั้นกลางอยู่ตลอดเวลา ความห่างเหินที่พูดไม่ออก
แม้แต่เฮอร์ไมโอนี่เองก็ไม่กล้าเข้าไปคุยกับเดม่อนตามสบาย จริงๆ แล้ว ทุกครั้งที่เธอจะพูดอะไรกับเขา เธอซ้อมในหัวมาก่อนแล้วทุกคำ
และเพราะแบบนี้เอง ถึงแม้ฉายา "เ้าชายแห่งการดวล" ของเดม่อนจะโด่งดังขนาดไหนในหมู่นักเรียนปีหนึ่ง แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เขาแบบสุ่มสี่สุ่มห้า
ได้ยินมาว่าพวกแม่มดน้อยบางคนยังตั้งชมรม “สนับสนุนเ้าชายแห่งการดวล” ขึ้นมา จุดประสงค์คือกันไม่ให้ใครเข้าไปใกล้เดม่อนโดยไม่เหมาะสม
พวกเธอเหมือนจะมองว่าเดม่อนกลายเป็สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่แตะต้องไม่ได้ไปแล้ว
“ไม่ต้องห่วง ฉันเข้าใจเดม่อนดี ฉันมีลางสังหรณ์ว่าเขาจะให้คำตอบกับพวกเราแน่นอน”
หลังเหตุการณ์กระจกเอลิซิด ความรู้สึกของแฮร์รี่ที่มีต่อเดม่อนยิ่งแข็งแกร่ง เขารู้สึกว่าเข้าใจและเข้าใกล้อีกฝ่ายมากขึ้น
เขามั่นใจว่าเดม่อนจะไม่ปฏิเสธเขา
วันถัดมา ทั้งสามพร้อมกับเนวิลล์ไปหาเดม่อนที่กำลังนั่งกินอาหารเช้า
“โอ้ มากันสี่คนเชียว? มีอะไรกันเหรอเนี่ย ดูคึกคักเชียว”
เดม่อนกำลังอ่าน Transfiguration Today อย่างสนใจ บนหน้ากระดาษมีงานวิจัยใหม่เกี่ยวกับกฎแปลงสภาพของกัมพ์ ที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างเวทมนตร์กับวัตถุ และมีข้อสันนิษฐานว่าหากมีพลังเวทมนตร์มากพอ อาจจะสามารถเปลี่ยนแปลง แก่นแท้ ของวัตถุที่ถูกแปลงได้
ถ้าสำเร็จ มันจะเป็การลบล้างกฎของกัมพ์เลยทีเดียว
แต่ผู้เขียนเองก็ยังทำไม่ได้ มีแค่ทฤษฎีเท่านั้น พลังเวทของเขายังไม่พอจะพิสูจน์คำพูด
แต่เดม่อนทำได้ คืนนี้ตอนฝึกแปลงร่าง เขาจะลองดู
“เดม่อน…”
เนวิลล์พูดเสียงสั่น ขณะเล่าถึงเื่ที่มัลฟอยขู่จะใช้คาถาใส่เขา
สามตัวน้อย (แฮร์รี่ เฮอร์ไมโอนี่ รอน) ที่ยืนอยู่ข้างๆ ต่างคิดว่าเดม่อนคงจะพูดปลอบใจให้เนวิลล์กล้าเผชิญหน้า
แต่แล้ว ปฏิกิริยาของเดม่อนกลับรุนแรงกว่าที่คิดมาก
“โอ้ ฉันเตือนเขาอย่างจริงจังไปแล้ว เขายังกล้าข่มขู่นายอีกเหรอ?”
เดม่อนลุกขึ้นทันที ทำให้ทั้งสี่ใไม่น้อย นักเรียนคนอื่นๆ ที่แอบจับตาดูเขาอยู่ก็หันมามองทันที ซึ่งทำให้หัวใจของเนวิลล์เต้นเร็วขึ้น เขาไม่ชินกับการเป็จุดสนใจ
เมื่อเห็นว่ามัลฟอยก็อยู่ในห้องอาหาร เดม่อนถามขึ้นว่า:
“เนวิลล์ นายอยากให้ฉันทำอะไร?”
“ฉะ...ฉันอยากให้เขาหยุดคิดจะใช้ฉันฝึกคาถา”
“โอ้ เื่นั้นง่ายนิดเดียว แต่เนวิลล์ นายจะว่าอะไรไหมถ้าเราทำให้มันรุนแรงหน่อย?”
“มะ...หมายความว่ายังไง?”
“ให้เขาจำไปจนตายไงล่ะ”
เดม่อนดึงเนวิลล์ให้ลุกขึ้นแล้วกระซิบข้างหูเขาเบาๆ:
“ฉันจะพานายไปอัดมันให้เละ นายไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น แค่กำหมัดให้แน่น ส่วนที่เหลือปล่อยให้ฉันจัดการ เข้าใจไหม?”
“เดะ...เดม่อน?”
เนวิลล์ยังไม่เข้าใจนัก
แต่พอเขาสบตาเดม่อน ดวงตาคู่นั้นที่เต็มไปด้วยเปลวไฟและคมดาบ เขาก็ยอมรับคำพูดนั้นทันที
ไม่ใช่ความเข้าใจ ไม่ใช่ความตั้งใจ... แต่เป็การ “ยอมรับ” อย่างแท้จริง
“ได้เลย ฉันจะทำ… เดม่อน ฉันจะทำ!”
“ดีมาก เนวิลล์ ตามฉันมา อย่าคิดอะไรทั้งนั้น กำหมัดไว้ให้แน่น!”
เนวิลล์กำหมัดแน่น มองมัลฟอยเหมือนศัตรูฆ่าพ่อตายแม่แค้น แล้วเดินตามเดม่อนตรงไปยังโต๊ะของสลิธีริน
“เดี๋ยวก่อน พวกนายจะทำอะไร!”
หน้าของเฮอร์ไมโอนี่ซีดขาวในทันที ราวกับลางร้ายกำลังจะเกิดขึ้น
หัวใจของทั้งสามเต้น “ตึกตัก” รัวแรง จนเหมือนจะทะลุอกออกมา!
พวกเขามองดูเด็กหนุ่มรูปงามสูงสง่าก้าวเดินนำหน้าเด็กหนุ่มหน้าแดงคนหนึ่งไปข้างหน้า...
“เฮ้! มัลฟอย! ฉันเคยบอกแกไว้ยังไงกัน!”
ในห้องโถง เสียงะโกึกก้องของเด็กหนุ่มก็ดังขึ้น…
(จบบท)
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้