หลิ่วเจียงรับศิลาบันทึกภาพที่หลิ่วเทียนฉีส่งให้แล้วกระตุ้นต่อหน้าทุกคน ภาพเหตุการณ์ทั้งหมดของหลิ่วเทียนลู่ที่แย่งเบี้ยหวัดของหลิ่วเทียนฉีถูกฉายชัด
“เทียนลู่!” หลิ่วเจียงดูศิลาบันทึกภาพจบก็โกรธจัด มองไปทางหลิ่วเทียนลู่อย่างโกรธเกรี้ยว
“ท่านลุงใหญ่ ไม่เกี่ยวกับข้านะขอรับ เพราะน้องเจ็ดนั่นแหละ เขาหลอกเอาศิลาทิพย์ของพี่สามกับพี่สี่ไป ข้า ข้าก็แค่อยากช่วยพี่สาวทั้งสองเอาศิลาทิพย์กลับคืนมาเท่านั้น!” พูดพลาง หลิ่วเทียนลู่ก็รีบร้อนก้าวเท้าเข้าไปคุกเข่าตรงหน้าหลิ่วเจียง
“ศิลาทิพย์นั่นหลิ่วซานกับหลิ่วซือมอบให้เทียนฉี เื่นี้ซานเอ๋อร์เคยบอกข้าแล้ว เ้าถึงกับอ้างเื่นี้มาแย่งเบี้ยหวัดของน้องชาย ชั่วร้ายอย่างที่สุดจริงๆ ยังไม่คืนเบี้ยหวัดให้เขาอีก!”
“ขอรับ!” หลิ่วเทียนลู่ขานรับแล้วนำศิลาทิพย์ถุงหนึ่งออกมาวางไว้บนพื้นอย่างอิดออด
หลิ่วซานก้าวเข้าไปหยิบศิลาทิพย์ถุงนั้นขึ้นมา คืนให้หลิ่วเทียนฉี “น้องเจ็ดรับ!”
“ขอบคุณท่านลุงใหญ่ ขอบคุณพี่สาม!” หลิ่วเทียนฉีเอ่ยขอบคุณด้วยสีหน้าซาบซึ้ง
“เทียนฉีไม่ต้องกลัวนะ เื่นี้ลุงใหญ่ต้องลงโทษพี่หกของเ้าอย่างแน่นอน” หลิ่วเจียงเอ่ยปลอบเสียงเบา
“เทียนลู่ เ้าเป็พี่ชายกลับรังแกน้อง แย่งศิลาทิพย์น้อง น่าชังจริงๆ ข้าขอลงโทษเ้าโดยการกักบริเวณสำนึกผิดเป็เวลาสามเดือน ในสามเดือนนี้ ข้าไม่อนุญาตให้เ้าออกจากเรือน ไม่เช่นนั้นโทษจะเพิ่มเป็เท่าตัว!”
“ขอรับ หลานรับคำสั่ง!” หลิ่วเทียนลู่ขานรับ ตวัดสายตาดุร้ายมองเ้าขยะน้อยน่าชังอย่างเคียดแค้น
เมื่อััได้ถึงสายตาประหนึ่งจะกินเืกินเนื้อ หลิ่วเทียนฉีก็หดกายหลบไปข้างตัวหลิ่วซานอย่างขี้ขลาด
“น้องเจ็ด ไม่ต้องกลัวนะ!” หลิ่วซานเห็นน้องชายกลัวจนตัวสั่นระริก จับแขนเสื้อตนไม่ปล่อยอยู่ตลอดก็รีบปลอบโยน
“ซานเอ๋อร์ น้องเจ็ดของเ้าขี้กลัว เ้าคุ้มครองเขากลับเรือนเถอะ”
“เ้าค่ะ ท่านพ่อ!” นางเอกขานรับแล้วพาหลิ่วเทียนฉีออกไป
“หลิ่วซือ หลิ่วอู่ พวกเ้าสองคนพาเทียนลู่กลับไป คุมเข้ม ให้เขาได้คิดทบทวน!”
“เ้าค่ะท่านลุงใหญ่!” หลิ่วซือกับหลิ่วอู่ขานรับ พาหลิ่วเทียนลู่เดินจากไปเช่นกัน
เมื่อในห้องเหลือเพียงหลิ่วไห่กับตนอยู่กันสองคน หลิ่วเจียงก็ถอนหายใจเบาๆ ทีหนึ่ง
“พี่ใหญ่!” หลิ่วไห่ส่งเสียงเรียกเบาๆ
“เฮ้อ ข้าบอกเ้ากี่รอบแล้ว ต่อให้เทียนฉีเป็เ้าขยะ แต่เขาก็เป็บุตรของน้องสาม ทำไมเ้าไม่คุมลูกสองคนนั้นเสียบ้าง? หากเื่นี้น้องสามรู้เข้าต้องโวยวาย รู้ไปถึงท่านพ่อเป็แน่ ถึงคราวนั้นเ้ากับข้าคงต้องลำบากแน่!” พูดถึงตรงนี้ หลิ่วเจียงก็ถอนหายใจยาวทีหนึ่ง
เ้าสามหลิ่วเหอเป็ผู้ใช้ยันต์ขั้นสี่ ระดับขั้นยันต์สูงกว่าพวกเขาสองพี่น้องหนึ่งขั้น ได้รับความรักจากบิดายิ่ง รักใคร่บุตรชายไร้ประโยชน์เป็ที่สุด หากเื่นี้เ้าสามรู้เข้า ต้องไม่มีทางเลิกราด้วยดีแน่
“พี่ใหญ่พูดถูก ข้าจะสั่งสอนเทียนลู่ให้ดี ท่านคิดว่าเื่นี้...” พูดพลาง หลิ่วไห่ก็ชำเลืองมองศิลาบันทึกภาพในมือพี่ใหญ่
“เอาไปทำลายเถอะ” หลิ่วเจียงส่งศิลาบันทึกภาพให้เ้าสอง
“ถ้าอย่างนั้น เทียนฉีคงไม่บอกเ้าสามใช่ไหม?” แม้ได้ศิลาบันทึกภาพมาแล้ว แต่หลิ่วไห่ยังคงไม่วางใจ
“วางใจเถอะ เทียนฉีเขานิสัยขี้ขลาดทั้งยังขี้กลัว ไม่มีทางบอกเ้าสามหรอก” เื่นี้จำต้องปิดไว้ ไม่เช่นนั้นหากล่วงรู้ไปถึงบิดา คงตำหนิตนว่าไม่มีปัญญาปกครองตระกูลได้
เดิมที ไม่ว่าด้านไหนๆ น้องสามก็แข็งแกร่งกว่า หากบิดามองว่ากระทั่งเื่ระหว่างเด็กๆ เขายังจัดการไม่ได้ ตำแหน่งเ้าตระกูลคงเป็ได้ยาก หลิ่วเจียงย่อมไม่อยากให้บิดาส่งตำแหน่งให้น้องสามหรอก!
“ขอรับ ถ้าเช่นนั้น ข้าขอขอบคุณพี่ใหญ่มาก!” หลิ่วไห่ก้มศีรษะ รีบเอ่ยขอบคุณ
……...
ณ เรือนของหลิ่วเทียนฉี
หลิ่วถงกลับเข้ามาในห้อง มองนายน้อยของตนแล้วยกนิ้วโป้งให้รัวๆ
“นายน้อยเจ็ด ครั้งนี้ท่านฉลาดจริงๆ ทำให้นายน้อยหกพ่ายแพ้ได้แล้วสินะขอรับ?”
หลิ่วเทียนฉีเห็นผู้เฒ่านับถือตนจนแทบหมอบกราบกับพื้นก็พลันหัวเราะพลางส่ายศีรษะ “แค่ลูกไม้กระจอกๆ เท่านั้น”
“ไม่ๆๆ นายน้อยเติบโตแล้ว รู้ว่าจะปกป้องตนเองอย่างไร ไม่ถูกคนรังแกโง่ๆ อีก ข้าน้อยปลื้มใจนักเชียว!”
“ฮ่าๆๆ แค่ชนะเขาครั้งเดียวเท่านั้น ไม่เห็นจะมีอะไรเลย” หลิ่วเทียนฉีพูดพลางเอาศิลาบันทึกภาพอีกก้อนหนึ่งออกมา
“ลุงถง ศิลาบันทึกภาพก้อนนี้ท่านถือไว้ หลังจากนี้หากหลิ่วเทียนลู่รังแกข้าอีก ท่านก็ช่วยข้าส่งศิลาบันทึกภาพก้อนนี้ให้ท่านพ่อ ท่านพ่อของข้าต้องทวงความเป็ธรรมให้ข้าแน่!”
ได้ยินคำพูดนี้ หลิ่วถงก็กะพริบตาปริบๆ “นายน้อยเจ็ด ไยไม่รอนายท่านสามออกมาแล้วมอบให้ด้วยตนเองล่ะขอรับ?”
“ฮ่าๆๆ ลูกไม้เดิมไม่อาจใช้ได้สองหน ครั้งต่อไปก่อนที่หลิ่วเทียนลู่จะทำร้ายข้า คงจะมาค้นตัวข้าดูก่อนว่าพกศิลาบันทึกภาพไว้หรือไม่”
ได้ยินประโยคนี้เข้า หลิ่วถงก็อดกัดฟันไม่ได้ “ถ้าอย่างนั้น ถ้าอย่างนั้นสามเดือนให้หลัง นายน้อยเจ็ดคิดจะทำอย่างไรขอรับ?”
“ไม่รู้สิ ตอนนี้หวังเพียงท่านพ่อจะออกมาเร็วขึ้นสักนิด!” ที่จริงหลิ่วเทียนฉีคิดทางหนีทีไล่ไว้เรียบร้อย แล้วก็ซื้อโอสถโลหิตพิษมาพร้อมด้วย เพียงแต่เื่นี้เขาไม่อาจบอกผู้เฒ่าได้
“ใช่ขอรับ!” ผู้เฒ่าฟังจบก็พยักหน้ารับ