สายตาของฉินเฟิงจ้องไปที่สัตว์ที่ถูกที่สุดสัตว์น้ำ สัตว์ที่มีอยู่ทั้งหมดเกือบจะเป็สัตว์น้ำบนโลกตัวที่ถูกที่สุดคือสัตว์ที่ไม่ได้วิวัฒนาการอย่างเช่น เต่า ซึ่งจ่ายแต้มสำราญ 100 แต้มเหมือนกับเ้าหมูน้อย
ถ้าฉินเฟิงซื้อสัตว์น้ำ2ชนิดอย่างเต่ากับปู เขาอาจจะใช้ระบบหลอมเพื่อหลอมมันเข้าด้วยกันผลลัพธ์ในการหลอมนั้นเป็แบบสุ่มดังนั้นทักษะและสถานะของผลที่ได้ก็จะแตกต่างกันในแต่ละครั้ง
หลังจากดูระบบหลอมทั้งหมดฉินเฟิงก็ตะลึง มันสุดยอดอย่างมาก เขารอไม่ไหวที่จะผสมสัตว์ 2 ตัวเข้าด้วยกันและดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“ฉินเฟิง หัวหน้าหลี่ได้ใส่นายในทีมของฉัน ดังนั้นในอนาคตแกจะเป็ลูกน้องของฉัน” ทันใดนั้น เสียงเ็าก็ดังออกมาทำลายอารมณ์ตื่นเต้นของฉินเฟิง
เมื่อเขาปิดระบบเขาก็เห็นสายตาปลาตายของหวังเชากำลังจ้องมาที่เขาอยู่
“โอ้ นายเป็หัวหน้าทีมสองสินะ” ฉินเฟิงพูดแบบไม่ใส่ใจ
มันยากที่หวังเชาจะปกปิดความตื่นเต้นในสายตาของเขาเขาไม่เคยคิดว่าฉินเฟิงจะถูกส่งมาที่ทีมของเขา ต่อไปถ้าเขาอยากจะกดขี่มันมันก็คงง่ายเหมือนปอกกล้วย
จริงๆแล้วหลีอวี่เฉินส่งฉินเฟิงมาที่ทีมสองด้วยจุดประสงค์บางอย่างเพราะฉินเฟิงทำให้เธอโกรธในตอนเช้า และเมื่อเห็นว่ามีเื่ขัดแย้งกันระหว่างเขากับหวังเชาเธอจึงตัดสินใจทำให้ชีวิตของเขาอยู่ยากขึ้น
“ฮ่าๆๆ ฉินเฟิง แกทำตัวดีๆ ในทีมของฉันจะดีกว่าฉันขอบอกไว้ก่อนว่าทีมของเราไม่เก็บขยะไว้หรอกนะ”หวังเชาวางมาดหัวหน้าและมองฉินเฟิงอย่างจองหองและกล่าว “นี่เป็วันแรกของแกและดูเหมือนแกจะไม่มีอะไรทำสักเท่าไรโชคดีที่ฉันมีงานให้แก ฉันหวังว่าแกจะไม่ทำให้งานนี้เสียหายหรอกนะ”
หวังเชามามอบงานนี้ให้ฉินเฟิงโดยเฉพาะหลังจากที่คิดทั้งเช้าอย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่งานของบริษัทแต่เป็บางอย่างที่เกี่ยวข้องกับประโยชน์ส่วนตัวของหวังเชา
เพื่อที่จะเพิ่มศักยภาพของตัวเองหวังเชาได้ตีสนิทกับประธานสวีของห้างสรรพสินค้าและโฆษณาอาคารที่อยู่อาศัยที่หวงเจียกรุ๊ปสร้างให้กับเขาในตอนนั้นประธานสวี่ตกลงที่จะซื้อและวางเงินมัดจำไว้ ทว่าหลังจากที่หวังเชาได้จัดการเอกสารทั้งหมดเสร็จ ประธานสวี่ดันกลับคำและปฏิเสธที่จะจ่ายส่วนที่เหลือ
หวังเชาไปที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อบอกให้ประธานสวี่จ่ายหลายครั้งแล้วแต่สุดท้าย ประธานสวี่ก็โกรธและพาพวกนักเลงมากระทืบเขาเมื่อไรก็ตามที่เขาไปทวงเงิน เขาก็จะโดนกระทืบทุกครั้งสุดท้ายแล้วหวังเชาก็ต้องควักกระเป๋าตัวเองจ่ายส่วนที่เหลือไป 500,000หยวน
เขาไม่กล้าที่จะทวงเงินอีกต่อไปแต่เมื่อเห็นฉินเฟิงมา เขาตัดสินใจจะให้งานนี้โดยไม่สนว่าฉินเฟิงจะเต็มใจหรือไม่ดังนั้นเขาจึงพูดต่อ “ฉินเฟิง ไปหาประธานสวีที่ห้างสรรพสินค้าว่อเจียเขาเป็หนี้บริษัทเรา 500,000 หยวนและวันนี้ก็ครบกำหนดวันที่ต้องชำระแล้ว นายต้องไปเอาเงินมาจากเขา เข้าใจไหม?”
ก่อนหน้านั้นฉินเฟิงตั้งใจว่าจะไม่สนใจหวังเชา แต่นั่งอยู่ในบริษัทมันก็โคตรน่าเบื่อเขามองไปที่สวี่รั่วโหรวที่กำลังทำงานด้วยความตั้งใจ และสายตาก็สว่างขึ้น “หวังเชาฉันไปให้ได้ แต่ฉันอยากพาสวี่รั่วโหรวไปด้วย ถ้านายไม่เห็นด้วยงั้นก็เลิกมากวนฉันซะ”
เมื่อเห็นฉินเฟิงพูดกับเขาอย่างนี้แม้ว่ามันจะอยู่ตำแหน่งที่ต่ำที่สุดในบริษัท หวังเชาก็โกรธมากจนหน้าแดง
อย่างไรก็ตามเขารู้ว่าตราบใดที่ฉินเฟิงไปทวงเงินประธานสวี มันต้องโดนกระทืบจนฟกช้ำดำเขียวด้วยเหตุนี้ หวังเชาจึงข่มความโกรธของตัวเองไว้ ยิ่งไปกว่านั้นเขารู้สึกดีใจเมื่อได้ยินว่าฉินเฟิงจะพาสวี่รั่วโหรวไปด้วย
เขาบอกได้ว่าฉินเฟิงอยากจะหลับนอนกับสวี่รั่วโหรวและรู้ว่าเมื่อเธอเห็นมันโดนอัด มันคงจะไม่มีหน้ามาเจ๊าะแจ๊ะกับเธออีกต่อไป
“ก็ได้ แกเป็พนักงานใหม่และมีหลายอย่างที่แกไม่รู้ ดังนั้นสวี่รั่วโหรวไปกับแกได้”หวังเชาจ้องฉินเฟิงอย่างเ็าแล้วยิ้มให้กับสวี่รั่วโหรวอย่างอบอุ่นพลางพูดว่า“รั่วโหรว วางมือจากงานที่ทำก่อนและไปกับฉินเฟิง เข้าใจนะ?”
“ค่ะ” ในฐานะสมาชิกทีมสอง เธอไม่กล้าขัดคำสั่งหัวหน้าทีม
“หวังเชา ถ้าเราต้องไปทวงเงินก็จำเป็ต้องใช้ใบแจ้งหนี้ด้วยขอใบแจ้งหนี้หน่อย ฉันจะออกไปเดินเล่นกับสวี่รั่วโหรวแล้ว”ฉินเฟิงดีใจที่สามารถไปกับสวี่รั่วโหรวตามลำพังได้
เด็กสาวที่เขินอายและบอบบางแบบนี้เขาควรจะพาไปโรงแรมก่อนดีหรือเปล่านะ?
“มะ...ไม่มีใบแจ้งหนี้ กับหวงเจียกรุ๊ปที่ใหญ่โตของเรา ไม่มีใครกล้าไม่จ่ายหรอกรีบไปซะ” หวังเชาจะมีใบแจ้งหนี้ได้อย่างไร? เขากลัวว่าฉินเฟิงจะถามต่อซึ่งอาจจะทำให้เขาถูกเปิดเผย เขาจึงรีบไล่มันไป
ฉินเฟิงไม่ใส่ใจแม้ว่าจะไม่มีใบแจ้งหนี้เนื่องจากเขามีแผนจะสนุกกับสวี่รั่วโหรว ส่วนสำหรับเก็บหนี้นั่นมันเพียงแค่ผลพลอยได้ระหว่างทาง
“น้องรั่วโหรว ไปเดทกันเถอะ” ฉินเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
สวี่รั่วโหรวรู้สึกเหมือนเป็ลูกแกะที่กำลังถูกส่งเข้าปากหมาป่าอย่างไรก็ตาม ในเมื่อหวังเชาบอกให้เธอไป เธอจึงไม่กล้าปฏิเสธเธอทำได้แค่ก้มหัวและตามหลังฉินเฟิงอย่างเชื่อฟัง “ฉินเฟิงระ...เรากำลังจะไปทวงหนี้ ไม่ใช่เดท ยะ...อย่าพูดไร้สาระ”
ทั้งคู่เดินออกจากตึกหวงเจียกรุ๊ปและไปที่จอดรถVIPฉินเฟิงนำจักรยาน 28 นิ้ว ออกมาซึ่งทำให้ดูเป็จุดเด่นในหมู่รถหรูทั้งหลาย
“ฉะ...ฉินเฟิง เราปะ...ไปรถเมล์ได้ไหม?” สวี่รั่วโหรวค่อนข้างอายเธอไม่ค่อยเต็มใจที่จะนั่งใกล้ฉินเฟิงบนจักรยาน
“ทำไมล่ะ? เธอคิดว่าขี่จักรยานคันนี้มันน่าอายเหรอ?”
“ปะ...เปล่า ไม่ใช่อย่างนั้น...ก็ได้” สวี่รั่วโหรวรีบโบกมือไม่รู้จะอธิบายอย่างไร
ฉินเฟิงรู้สิ่งที่เธอคิดแต่ที่พูดเพราะมีจุดประสงค์ เขาอุ้มเธอขึ้นบนจักรยานด้วยแขนข้างเดียวทำให้ใบหน้าของเธอแดงก่ำขณะที่นั่งอย่างเขินอาย ไม่กล้าที่จะขยับ
ในระหว่างขี่สวี่รั่วโหรวก็ประสบกับความเร็วของจักรยานฉินเฟิงอีกครั้งเธอค่อนข้างมีความสุขที่รู้สึกถึงสายลมเย็นๆ พัดแก้มของเธอ มันค่อนข้างสดชื่นดี
“อ๊ะ ฉินเฟิง คะ...คุณช่วยเอามือออกไปได้หรือเปล่า?” สีหน้าของสวี่รั่วโหรวเปลี่ยนทันทีเพราะมือใหญ่ของฉินเฟิงวางอยู่บนขาของเธอและกำลังคลำไปรอบๆ อย่างซุกซน
“ทำไมฉันต้องเอาออกล่ะ?” ฉินเฟิงหัวเราะ
“เพราะว่า...เพราะว่าฉันไม่ชอบมัน”สวี่รั่วโหรวหมดหวังจนเกือบจะร้องไห้อีกครั้ง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้